ช่วงหยุดฮอลิเดย์ยาวๆ ทั้งทีมันก็ต้องไปหาสถานที่เที่ยวพักผ่อนหย่อนใจแบบเดินทางไกลใช่มะ? แต่สำหรับเกมเมอร์ท่านใดที่ไม่ได้มีแผนจะไปไหน ได้แต่นั่งโจ้เกมอยู่กับบ้านก็ไม่ต้องกังวลไป ลองให้เกมวิวสวย 10 อันดับนี้พาคุณออกไปทัวร์รอบโลกดูสิ รับรองว่าถึงแม้ตัวจะนั่งกำจอยอยู่บนโซฟาแต่ใจคุณจะได้ล่องลอยไปเที่ยวที่สวยๆ ตั้งแต่ป่าดงดิบเขตร้อน ยอดภูเขาหิมะหิมาลัย ยันดาวเอเลี่ยนวิวสวยๆ ที่อยู่นอกโลกเลยทีเดียว ว่าแล้วก็เริ่มทัวร์กันเลยดีกว่าพรรคพวก
อันดับ 10: Rise of the Tomb Raider
ปีนภูเขาหิมะในไซบีเรีย
นอกจากเกมเพลย์และเนื้อเรื่องที่พัฒนาขึ้นจาก Tomb Raider รีบูทภาคแรกอย่างเห็นได้ชัด ก็มีภาพกราฟิกและฉากหลังในเกมนี่แหละที่ภาค Rise กินขาด เนื่องจากเกมเปลี่ยนจากเกาะร้างซอมซ่อกลางทะเล มาเป็นแนวเขาในไซบีเรียที่เต็มไปด้วยยอดภูเขาน้ำแข็ง ป่าหิมะขาวโพลน และซากโบราณสถานอายุหลายพันปีในถ้ำอันใหญ่โต ซึ่งทั้งหมดนี้เปิดให้ผู้เล่นออกปีนป่ายสำรวจและชื่นชมความงามได้แบบใกล้ชิดตามใจอยาก
ที่สำคัญคืองานฉากสวยๆ เหล่านี้ยังได้รับอานิสงส์จากเกมเพลย์มันส์ๆ และคัทซีนเด็ดๆ ที่ทำให้ผู้เล่นรู้สึกลุ้นระทึกทุกครั้งที่ต้องไต่ภูเขาน้ำแข็งท่ามกลางพายุหิมะหรือปีนหนีถ้ำถล่มออกมาได้แบบเส้นยาแดงผ่าแปด และอีกสารพัดโมเมนท์แอ็คชั่นอันน่าจดจำที่จะมอบประสบการณ์ทริปผจญภัยสุดหวาดเสียวเหมือบกับการนั่งรถไฟเหาะสุดมันส์จนแทบนั่งไม่ติดเก้าอี้
อันดับ 9: Ace Combat 7: Skies Unknown
ทะยานเวหาทะลวงเมฆา
เกมนี้อาจจะมาแปลกหน่อย แต่การได้ขับเครื่องเจ็ตทะยานขึ้นไปอยู่ท่ามกลางท้องฟ้าสีครามที่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตามันให้ความรู้สึกผ่อนคลายอย่างบรรยายไม่ถูก (แม้จะโดนเครื่องข้าศึกไล่ยิงปืนกลและจรวดใส่ตลอดเวลาก็ตาม) ซึ่งถ้าใครไม่ได้ลองบินเองคงไม่รู้
Ace Combat 7 ใช้กราฟิกเอนจิ้น Unreal Engine 4 สร้างสรรค์ท้องฟ้าออกมาได้สวยงามชนิดที่ว่าบินทิ้งเกมอื่นแบบไม่เห็นฝุ่น ท้องฟ้าของแต่ละฉากจะมีโทนสีฟ้าที่แตกต่างกันไป มีสภาพภูมิอากาศอันหลากหลาย และที่สำคัญคือมีหมู่เมฆน้อยใหญ่รูปทรงดูเนียนเป็นธรรมชาติให้คุณพุ่งทะยานฝ่าเข้าไปได้ดั่งใจ บางฉากคุณอาจได้บินชมฟ้าใสที่มีเมฆขาวกระจานอยู่ประปราย บางฉากคุณอาจได้บินฝ่าพายุสายฟ้าลัดเลาะไปตามซอกเขา แต่ในทุกฉากคุณจะต้องทึ่งกับท้องนภาเวิ้งว้างอันไกลโพ้น ให้ความรู้สึกเหมือนกับคุณกำลังดูวิวผ่านหน้าต่างเครื่องบินระหว่างการเดินทางไปทริปต่างประเทศ ต่างกันตรงที่ทริปบินครั้งนี้ไม่มีช่วงน่าเบื่อเพราะคุณต้องบินควงสว่างหลบจรวดมิสไซล์ไปด้วย
อันดับ 8: Assassin’s Creed: Odyssey
ล่องเรือเดินป่าในแดนกรีกโบราณ
เกมเมอร์ที่ชอบท่องเที่ยวตามสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และชอบเที่ยวเกาะคงจะถูกใจ Assassin’s Creed ภาคนี้นักแล เพราะมันจะพาคุณย้อนเวลาไป 400 ปีก่อนคริสตกาล พาคุณไปทัศนศึกษาบ้านเมืองของชาวอาธีเนียนและสปาร์ตันในยุครุ่งโรจน์ และพาคุณไปล่องเรือเที่ยวหมู่เกาะต่างๆ เพื่อวิ่งหนีหมูป่า หนีทหารข้าศึก หรือหนีสัตว์ปีศาจในตำนานอย่างเมดูซ่าที่คุณดันเดินไปจ๊ะเอ๋โดยบังเอิญ
ความชิลของ Odyssey คือเกมทิ้งให้คุณทำอะไรก็ได้ เมื่อไหร่ก็ได้ ที่ไหนก็ได้ในโลกกรีกอันเปิดกว้างของมัน ดังนั้นหากคุณแค่อยากขี่ม้าหรือพายเรือชิลๆ ชมวิวแบบไม่สนเนื้อเรื่องก็ทำได้ และวิวในเกมนี้นอกจากจะสวยงามน่ามองยังเต็มไปด้วยภูมิประเทศอันหลากหลาย มีทั้งทะเลสีฟ้าสดกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา กรุงเอเธนส์ยิ่งใหญ่อลังการที่มีผู้คนพลุกพล่าน และรูปปั้นเทพกรีกขนาดยักษ์ที่ยืนตระหง่านอยู่เหนือเนินเขา องค์ประกอบต่างๆ เหล่านี้จะทำให้คุณรู้สึกว่าตัวเองได้หลุดไปเที่ยวในโลกอีกใบ โลกในอดีตที่เต็มไปด้วยกิจกรรมสนุกๆ และวิวสวยๆ ที่ดูกี่ทีก็ไม่ไม่เบื่อ
อันดับ 7: Star Wars: Jedi Fallen Order
ท่องโลกต่างดาวงามๆ ในจักรวาลอันไกลโพ้น
หากทิวทัศน์สวยๆ บนโลกใบนี้มันดูจำเจเกินไป งั้นคงต้องถึงเวลาบินออกไปชมวิวในดาวนอกโลกกันบ้าง ซึ่งจะมีจักรวาลไหนที่เต็มไปด้วยดวงดาวอันโดดเด่นมีบุคลิกเฉพาะตัวสู้จักรวาลอันไกลโพ้นของ Star Wars ได้บ้างล่ะ? และในตอนนี้คงไม่มีเกมไหนที่เหมาะไปกว่า Jedi Fallen Order ที่เพิ่งออกมาสดๆ ร้อนๆ อีกแล้ว เพราะนอกจากระบบการต่อสู้ที่เด็ดดวงก็มีงานฉากของเกมนี้นี่แหละที่โดดเด่นไม่แพ้กัน
Jedi Fallen Order จะพาผู้เล่นไปผจญภัยในหมู่ดาวเคราะห์สวยๆ ถึง 7 ดวง ซึ่งแต่ละดวงมีสภาพภูมิประเทศที่ต่างกันอย่างเห็นได้ชัด มีทั้งดาวที่มีแต่สายฝนและเศษซากยานอวกาศอย่าง Bracca ดาวบ้านเกิดชิวอี้ที่อุดมไปด้วยแมกไม้เขียวขจีอย่าง Kashyyyk และดาวหินสีน้ำตาลกับต้นไม้รูปร่างสยดสยองอย่าง Dathomir แต่สิ่งที่ดาวแต่ละดวงมีไม่ต่างกันคือความสวยงามน่ามองของวิวทิวทัศน์ ที่จะทำให้คุณรู้สึกว่ากำลังวิ่งเล่นควงกระบี่แสง อยู่ในภาพยนตร์ Star Wars แล้วแบบนี้แฟนๆ จะพลาดได้ไง?
อันดับ 6: The Witcher 3: Wild Hunt – Blood & Wine
ขี่ม้าทำเควสต์ในสวนดอกไม้อิตาลี
โลกของซีรี่ส์ The Witcher ใน Netflix และ The Witcher 3 ภาคหลักนั้นเต็มไปด้วยฉากของบ้านเมืองที่ถูกไฟสงครามแผดเผา คลุกเคล้ากับกลิ่นอายแห่งความสิ้นหวัง แต่ใน Blood & Wine นั้นทุกสิ่งทุกอย่างต่างออกไปโดยสิ้นเชิง เพราะในดินแดนนามว่า Toussaint นั้นแสงแดดยังคงมีสีเหลืองนวลสบายตา ดอกไม้ใบหญ้ายังคงเขียวชอุ่ม และปราสาทของราชวงศ์ก็ยังคงดูสวยงามราวกับหลุดออกมาจากเทพนิยายดิสนีย์
คุณจะได้สมบทเป็น Geralt ออกสืบคดีหลวงในแดนอัศวินที่เหมือนลอกมาจากที่ราบในประเทศอิตาลีทั้งดุ้น สองข้างทางเต็มไปด้วยดอกทิวลิปสีม่วงอ่อน และไร้องุ่นที่ปลูกเรียงเป็นทิวแถวอย่างมีระเบียบ แม้แต่ท้องฟ้าในดินแดนแห่งนี้ก็ยังเป็นสีฟ้าปนเขียวมรกต ทำให้ทุกองค์ประกอบภาพใน Blood & Wine เหมือนหลุดออกมาจากภาพวาดสีน้ำ เป็นทิวทัศน์อิตาลีที่สวยเหนือจริงซึ่งจะทำให้คุณขี่ม้าชมฉากเป็น 10 ชั่วโมงได้ไม่มีเบื่อ
อันดับ 5: Horizon Zero Dawn
ท่องแดนซาฟารีในโลกหลังหายนะอันสวยงาม
ปกติเวลาเราได้ยินว่าเกมไหนใช้ฉากหลังเป็นโลกหลังหายนะ เรามักจะนึกถึงทะเลทรายเวิ้งว้างและซากปรักหักพังแบบเกม Fallout ใช่มะ แต่เกม Horizon กลับมาแปลก ด้วยการนำเสนอโลกหลังหายนะในสไตล์ที่ไม่ซ้ำใคร จริงอยู่ที่ในฉากยังเต็มไปด้วยเศษซากของอารยธรรมมนุษย์แต่มันก็ถูกแซมไปด้วยเถาวัลย์และต้นไม้ใบหญ้าสีเขียว ทะเลทรายก็ยังมีให้เห็นแต่แทนที่จะมีแค่ทรายสีเหลืองซีด มันกลับเต็มไปด้วยก้อนหินและเม็ดทรายหลายเฉดสีดูสบายตา ส่วนสัตว์ป่าที่อยู่ในโลกแห่งนี้ก็ถูกแทนที่ด้วยสัตว์จักรกลสุดล้ำ ทำให้การท่องไปในโลกแห่งนี้ให้ความรู้สึกเหมือนการได้ผจญภัยในแดนซาฟารีสีสดงดงามมากกว่าแดนหายนะเป็นไหนๆ
เกมจะให้คุณคว้าหอกกับธนูออกท่องโลกที่ทั้งสวยงามทั้งอันตราย ราวกับทริปท่องป่าล่าสัตว์ที่แฝงไปด้วยความตื่นเต้น ภายในป่าอันเขียวขจีอาจมีกระทิงเหล็กที่พร้อมกระโจนใส่หน้าคุณ ทำให้ทริปชมวิวครั้งนี้ของคุณไม่เคยจืดชืด และหากวิวป่า ทะเลทราย แม่น้ำ ภูเขายังไม่ดีพอสำหรับคุณ เกมยังมีภาคเสริม Frozen Wild ที่จะพาไปทัวร์แดนพายุหิมะด้วยนะ
อันดับ 4: Uncharted: The lost legacy
ล่องไพรลุยโบราณสถานในป่าอินเดีย
บางครั้งเกมเมอร์อย่างเราก็ไม่ได้ต้องการเกมเปิดกว้างใหญ่โตมโหฬารเอาไว้เดินหลง แต่แค่อยากสัมผัสอารมณ์การผจญภัยสั้นๆ สนุกๆ แบบดูหนังอินเดียน่า โจนส์ ซึ่งจะมีเกมไหนเหมาะไปกว่าซีรี่ส์ Uncharted กันล่ะ โดยเฉพาะภาคล่าสุดอย่าง The Lost Legacy ที่อวดโฉมพลังกราฟิกที่สวยงามอลังการกว่าทุกภาค และยังพาเราไปท่องป่าดงดิบในประเทศอินเดียที่น้อยเกมนักจะใช้เป็นฉากพื้นหลัง
เกมเมอร์จะได้ผจญภัยไปกับ Chloe และ Nadine ออกตามล่าสมบัติ “งาของพระพิฆเนศ” แห่งจักรวรรดิ Hoysala โบราณแข่งกับกองกำลังกบฏ ได้ไต่เถาวัลย์ริมขอบผา และปีนป่ายหนีตายจากซากโบราณสถานที่กำลังถล่ม (อีกแล้ว) ทุกฉากทุกตอนของการผจญภัยจะมีแต่ภูมิทัศน์งามๆ ให้คุณเชยชม มีทั้งป่าเขาลำเนาไพรและธารน้ำ รูปปั้นพระพิฆเนศขนาดยักษ์ 2 องค์ตั้งตระหง่านขนาบน้ำตก แม้แต่เขตชุมชนแออัดในอินเดียของเกมนี้ยังดูดีเลยคิดดู แถมเกมยังมีโมเม้นท์ตื่นเต้นอลังการแบบในหนังแอ็คชั่นทุนหนามาให้ครบ (เช่น ซิ่งรถจี๊บเข้าไปปักกับโบกี้รถไฟ หรือสไลด์ตัวผ่านหลังคาสังกะสีในแดนสลัม) นอกจากจะให้ความรู้สึกเหมือนได้เที่ยวแล้วยังทำให้คุณรู้สึกเป็นพระเอก เอ้ย นางเอกหนังเรื่องล่าขุมทรัพย์สุดขอบฟ้าด้วยนะ!
อันดับ 3: God of War
เหวี่ยงขวานในแดนหิมะแห่งนอร์เวย์
ใครจะไปรู้ว่าซีรี่ส์เกมแอ็คชั่นฟันแหลกอย่าง God of War จะกลายเป็นเกมวิวดี ฉากสวย เล่นแล้วเพลิดเพลินใจ ไม่ได้มีแต่เลือดกับนมให้ดูกันได้หนอ ต้องขอบคุณที่เกมพาผู้เล่นย้ายถิ่นฐานจากแดนกรีกโบราณในเทพนิยาย มาเป็นดินแดนแห่งตำนานไวกิ้งและเทพนอร์สในนอร์เวย์ ประเทศที่เต็มไปด้วยที่ราบขาวโพลน ท้องทะเลสีฟ้า และภูเขาหิมะขนาดมหึมาตั้งตระหง่านให้เห็นอยู่ลิบๆ
ทุกครั้งที่จบการต่อสู้อันดุเดือด คุณจะได้พักใจด้วยทิวทัศน์งามๆ ของแดนไวกิ้งที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะสีขาว ซึ่งGod of War ภาคนี้ยังออกแบบฉากหิมะได้ดีและเต็มไปด้วยรายละเอียดจนทำให้ตอนเล่นยังรู้สึกหนาวไปด้วยเลย ป่าสนที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะ ลำธารน้ำใสที่มีก้อนน้ำแข็งลอยอยู่ประปราย ถ้ำหินที่มีแท่งน้ำแข็งย้อยเกาะอยู่ตามผนังและเพดาน ต่างได้รับการออกแบบมาตามสภาพภูมิประเทศจริงของประเทศแถบสแกนดิเนเวีย และหากคุณกลัวจะเบื่อหิมะ เกมยังมีทริปโบนัสด้วยการพาผู้เล่นไปแดนต่างมิติที่มีทั้งภูเขาไฟคุกรุ่น แดนเอลฟ์ต่างโลก และนรกสุดหนาวเหน็บอีกด้วย
อันดับ 2: Red Dead Redemption 2
ควบม้ากินลมในอเมริกาแดนใต้
แดนคาวบอยเป็นสถานที่คลาสสิกในใจชายหลายๆ คน การได้ขี่ม้าไปตามทุ่งหญ้าท่ามกลางแสงอาทิตย์อัสดง ได้เดินเข้าไปสั่งวิสกี้ในบาร์เหล้า และได้ดวลปืนกับเหล่าสิงห์ปืนไว จะหากิจกรรมอะไรที่แมนกว่านี้ก็คงยากแล้ว ซึ่ง RDR2 จะให้คุณได้ทำทุกอย่างทั้งหมดที่กล่าวมาท่ามกลางฉากที่ราบทางตอนใต้ของอเมริกาอันสวยงาม และโลกเปิดกว้างมีชีวิตชีวาที่เต็มไปด้วยผู้คน ต่างคนต่างก็มีกิจวัตรประจำวันของตัวเอง
นอกจากงานฉากที่งามงด (โดยเฉพาะก้อนเมฆบนฟ้ากับแสงอาทิตย์อัสดงนี่อื้อหืออออ) ความละเอียดของเกมเพลย์ที่ให้คุณใส่ใจกับทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นการดูแลปืนผาหน้าไม้ ใส่ใจม้าเพื่อนแก้ว และคอยหาข้าวหาปลาให้ตัวเองกิน ทำให้คุณอินกับโลกคาวบอยเสมือนแห่งนี้มากขึ้น นอกจากนี้เกมยังเต็มไปด้วยกิจกรรมสนุกๆ อย่างตกปลา ล่าสัตว์ ล่าค่าหัว ให้เล่นฆ่าเวลาอีกตรึม ทำให้ RDR2 เป็นดั่งสวนสนุกธีมคาวบอยที่จะทำให้คุณขี่ม้าเพลินจนลืมออกมาทำกิจกรรมในชีวิตจริงเลยเชียว
อันดับ 1: Forza Horizon 4
ซิ่งรถกินลมในสวนหลังบ้านประเทศอังกฤษ
ปกติเกมขับรถมักจะขึ้นชื่อเรื่องทิวทัศน์งามๆ ให้ผู้เล่นดูเพลินๆ อยู่แล้ว แต่วิวใน Forza ภาค 4 นี่เรียกได้ว่ายกระดับความวิวสวยไปแบบที่ทิ้งทั้งเกมขับรถรวมทั้งเกมแนวอื่นแบบไม่เห็นฝุ่น คุณจะได้ขับรถสปอร์ตสวยๆ ซิ่งชิลๆ ไปตามท้องถนนบนเกาะในสหราชอาณาจักรอันสวยงาม เกาะซึ่งเต็มไปด้วยที่ราบ ชายหาด และยอดเขา เกาะที่มีวิวความงามให้ยลต่างกันถึง 4 แบบ ตามฤดูร้อน ฤดูหนาว ฤดูใบไม้ผลิ และฤดูใบไม้ร่วง แต่ละฤดูจะทำให้เกาะแห่งนี้ดูแปลกตาไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
ในฤดูร้อนท้องฟ้าจะมีสีฟ้าสดใสราวกับภาพวาด ในฤดูหนาวทั้งเกาะจะขาวโพลนไปด้วยหิมะ ในฤดูใบไม้ผลิต้นไม้ใบหญ้าจะเต็มไปด้วยสีเขียวอ่อนๆ และในฤดูใบไม้ร่วงคุณจะได้เห็นใบไม้เปลี่ยนสีจนทั้งป่าเต็มไปด้วยโทนสีน้ำตาล ที่สำคัญสไตล์การเล่นของเกมที่ไม่เป็นเส้นตรงและแทบไม่ได้บังคับให้ผู้เล่นต้องแข่งรถด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งยิ่งทำให้เกมเมอร์ซิ่งได้อย่างสบายใจ ชมวิวได้เต็มที่ ถ้าใครยังไม่มีแผนไปไหนไกลแนะนำให้าลองเล่นเถอะ ได้อารมณ์ไม่ต่างจากการออกไปขับรถเที่ยวเลยครับ