และก็มาถึงช่วงปลายปีกับวงการเกมที่ตลอดทั้งปีที่ผ่านมาก็มีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นในวงการเกมทั่วโลก ทั้งข่าวการเปิดตัวเกมใหม่ที่น่าสนใจไปจนถึงข่าวร้ายและข่าวดราม่าในวงการเกมต่าง ๆ ที่สร้างสีสันให้เราติดตามมาตลอดปี 2019 และไหน ๆ ก็ขึ้นมาสู่ปีใหม่ 2020 กันแล้วเราควรพูดถึงอะไรใหม่ ๆ หรือการเริ่มต้นสิ่งใหม่ ๆ กัน วันนี้เลยจะขอพูดถึงครั้งแรกหรือการเริ่มต้นสิ่งต่าง ๆ ในวงการเกมกันว่าครั้งแรกของวงการเกมในเรื่องต่าง ๆ นั้นจะมีอะไรน่าสนใจบ้าง เพื่อเป็นกำลังใจให้คนที่กำลังคิดจะเริ่มทำอะไรจะได้เริ่มนับ 1 สู่จุดเริ่มต้นอะไรใหม่ ๆ อะไรเหมือนในวงการเกมในบทความนี้

วิดีโอเกมแรกของโลก

Tennis for Two

คุณเคยสงสัยกันบ้างไหมว่าวิดีโอเกมเครื่องแรกหรือเกม ๆ แรกของโลกถูกสร้างขึ้นมาตอนไหน ? และมันคือเกมอะไร ? นั่นคือสิ่งที่ชาวเกมเมอร์หลายคนคงไม่ทราบและคงคิดไม่ถึงว่าวิดีโอเกมเครื่องแรกกับเกมแรกของโลกนั้นเกิดขึ้นจากเครื่องคอมพิวเตอร์อนาล็อกรุ่น 30 ในช่วงปี 1958 หรือราว ๆ 61 ปีที่แล้ว โดยคอมพิวเตอร์รุ่น 30 นี้เป็นเครื่องจำลองการต้านทานของลมในสถาบันวิจัย Donner โดยมีนักฟิสิกส์ชาวอเมริกันชื่อ William Higinbotham เป็นคนออกแบบเกมให้มันแสดงผลบนสโคป(หน้าจอแสดงค่าวัดแรงลม) และเล่นกับตัวควบคุมอะลูมิเนียมที่ใช้หมุนปรับค่าหน้าจอมาดัดแปลงเป็นจอยเกมและตั้งชื่อให้เกมนี้ว่า Tennis for Two ตัวเกมจะเป็นการกดตามปุ่มบนตัวควบคุมเพื่อกระแทกจุดลูกบอลสีเขียวให้กระเด้งไปอีกฝั่งไปมาใครกดไม่ทันหรือไม่ตรงจังหวะลูกบอลจะหายไปจากจอ เกมเปิดตัวครั้งแรกสู่สายตาชาวโลกเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 1958 ในนิทรรศการสาธารณะประจำปีของ Brookhaven National Laboratory ซึ่งมันได้รับความสนใจจากผู้คนมาก ๆ ก่อนที่ตัวเกมจะถูกรื้อทิ้งในเวลาต่อมาแต่นั่นก็คือจุดเริ่มต้นของการพัฒนาเกมและเครื่องเกมในเวลาต่อมา

Tennis for Two

เครื่องเกมคอนโซลที่เล่นบนโทรทัศน์เครื่องแรกของโลก

The Brown Box

ถ้า Tennis for Two เป็นเกมแรก ๆ ของโลกที่ถูกสร้างขึ้นมาในวงการเกมเครื่อง The Brown Box ก็คงจะเป็นเครื่องเกมคอนโซลเครื่องแรกของโลกที่สามารถเล่นบนโทรทัศน์ได้ในปี 1967 หรือราว ๆ 9 ปีหลังจากเกม Tennis for Two ถูกสร้างขึ้นมาโดยคุณ Ralph Baer ที่คิดค้นเครื่องเกมตัวนี้ขึ้นมาก่อนจะขายสิทธิ์ในการพัฒนาให้กับบริษัท Magnavox ในปี 1972 และเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น Odyssey เพื่อผลิตขายออกสู่ท้องตลาดพร้อมเกมอีกกว่า 28 เกม และหนึ่งในเกมของเครื่อง Odyssey นั้นก็เป็นแรงบันดาลใจ(ข้อมูลว่าแบบนั้น) ให้ทาง Atari สร้างเกม Pong ขึ้นมาบนเกมตู้ซึ่งไม่ว่าจะดูมุมไหนมันก็คือเกมเดียวกันจนมีการฟ้องร้องเกิดขึ้นเพราะเกม Pong ของ Atari ได้รับความนิยมกว่าเครื่อง Odyssey ในตอนนั้นจนสุดท้ายทาง Magnavox เจ้าของเครื่อง Odyssey ก็เป็นฝ่ายชนะคดี

Odyssey

ค่ายเกมแรกในโลกที่พัฒนาเกมให้เครื่องเกม

Activision

ในช่วงแรกที่เครื่องเกมคอนโซลอย่าง Odyssey และ Atari ได้สร้างเครื่องเกมขึ้นมาเกมทั้งหมดนั้นจะมาจากผู้ผลิตเครื่องเกมเองยังไม่มีค่ายเกมอื่นที่ผลิตเกมให้เครื่องในยุคนั้น จนในเดือนตุลาคมปี 1979 ค่ายเกมแรกที่ผลิตเกมให้เครื่องคอนโซลก็ถือกำเนิดขึ้นมานั่นคือค่าย Activision Publishing Inc หรือที่เรารู้จักในชื่อ Activision ที่เกิดมาจากทีมพัฒนาเกมของ Atari 5 คนที่ไม่พอใจในการบริหารของบริษัทกับการสร้างเกมจึงพากันลาออกและมาก่อตั้งเป็นบริษัท Activision ขึ้นมาเพื่อมาผลิตเกมลงบนเครื่อง Atari 2600 เอง นั่นจึงทำให้ค่าย Activision จึงเป็นผู้พัฒนาวิดีโอเกมคอนโซลอิสระรายแรกของโลกและในปัจจุบันค่าย Activision ได้ควบรวมกิจการกับ Blizzard Entertainment จนเป็น Activision Blizzard และเกมแรกที่ทาง Activision ผลิตขึ้นมาเป็นเกมแรกในตอนนั้นก็คือเกม Pitfall บนเครื่อง Atari 2600 ในปี 1982 และเป็นเกมที่ขายดีที่สุดเกมหนึ่งบนเครื่อง Atari 2600 ด้วยกับยอดขายกว่า 4 ล้านตลับเลยทีเดียว

Pitfall

สงครามเครื่องเกมคอนโซลครั้งแรก

สงครามเครื่องเกมคอนโซลครั้งแรก

มาถึงตรงนี้หลายคนคงจะคิดว่าสงครามเกมคอนโซลครั้งแรกนั้นต้องมาจากเครื่องเกม Odyssey กับ Atari 2600 อย่างแน่นอนซึ่งความจริงแล้วช่วงเวลาที่เครื่อง Atari 2600 วางขายเครื่อง Odyssey ก็หายไปจากตลาดแล้วและสงครามเครื่องเกมคอนโซลครั้งแรกเกิดขึ้นในช่วงปี 1983 ที่เครื่องเกม SG-1000 ของค่าย Sega วางจำหน่ายเพื่อแข่งกับเครื่อง Famicom ของ Nintendo ที่วางจำหน่ายในวันเดียวปีเดียวกันอย่างจงใจ ซึ่งแน่นอนว่าเครื่อง Famicom นั้นได้รับความนิยมมากกว่าและในปี 1985 Nintendo ก็วางจำหน่ายเครื่อง NES หรือ Nintendo Entertainment System ในอเมริกาเหนือ ทาง Sega ก็ไม่รอช้าปล่อยเครื่อง Sega Master ออกมาแข่งในปี 1986 ก่อนจะสู้ทาง Nintendo ไม่ได้เหมือนเดิม และในปี 1989 ทาง Sega ก็ยังไม่ยอมแพ้ออกเครื่องรุ่น 16Bit ออกมา(ก่อนหน้านี้คือเกมมีแค่ 8Bit) กับเครื่อง Sega Genesis เพื่อขายในอเมริกาเหนือและแน่นอนว่าตัวเกมก็ยังสู้เกม NES ของ Nintendo ไม่ได้อยู่ดี จนในปี 1991 ทาง Nintendo ก็ปล่อยเครื่อง Super NES ออกมาในตลาดอเมริกาเหนือนี่จึงนับเป็นการตอบโต้ของ Nintendo ที่ถือว่าครั้งนี้คือการเปิดสงครามเครื่องเกมคอนโซลอย่างเป็นทางการนั่นเอง เพราะก่อนหน้านี้เครื่องเกมของ Nintendo กับ Sega วางขายพร้อมกันและมีแค่ Sega ค่ายเดียวที่ผลิตเครื่องใหม่มาสู้ฝ่ายเดียวจนทาง Nintendo ปล่อยเครื่องเกมตัวใหม่ออกมานั่นจึงถือว่าเป็นการเริ่มต้นสงครามนั่นเอง

สงครามเครื่องเกมคอนโซลครั้งแรก

ตัวละครหญิงที่สามารถควบคุมได้ครั้งแรกในวิดีโอเกม

ตัวละครหญิงที่สามารถควบคุมได้ครั้งแรกในวิดีโอเกม

เมื่อพูดถึงตัวละครเพศหญิงหรือตัวละครมนุษย์ผู้หญิงในวิดีโอเกมนั้นมีมานานมาก ๆ แล้วแต่ในช่วงแรกที่เครื่องเกมถูกสร้างและวางจำหน่ายมานั้นไม่มีตัวละครผู้หญิงหรือมนุษย์เพศหญิงที่เราสามารถควบคุมได้เลย จนมาถึงปี 1982 ที่มีตัวละครเพศหญิงที่เราสามารถควบคุมได้ครั้งแรกเกิดขึ้นมานั่นคือเกม Ms. Pac-Man ซึ่งชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเธอคือผู้หญิง(แม้จะลงท้ายว่า Man ก็เถอะ) โดยเกม Ms. Pac-Man นั้นจะเป็นเกมในซีรีส์เดียวกับเกม Pak-Man ส่วนตัวละครที่เป็นมนุษย์ผู้หญิงคนแรกในวีดีโอเกมที่เราสามารถควบคุมได้คนแรกคือ Toby Kissy Masuyo จากเกม Baraduke ในปี 1985 ส่วนตัวละครผู้หญิงที่อยู่ในเกมต่อสู้ครั้งแรกคือ Onna Sanshirou ในเกม Typhoon Gal ในปีเดียวกันแต่เกม Baraduke วางจำหน่ายก่อนไม่อย่างนั้น Onna Sanshirou คงจะได้ควบสองตำแหน่งไปอย่างแน่นอน

Baraduke, Baraduke, Typhoon Gal

เครื่องเกมพกพาเครื่องแรกของโลก

Microvision

เมื่อพูดถึงเกมพกพาเกมแรกของโลกหลายคนคงจะคิดถึงเกม Game & Watch ของ Nintendo อย่างแน่นอนแต่ไม่ใช่เพราะ Game & Watch นั้นวางจำหน่ายในช่วงปี 1980 แต่เครื่องเกมพกพาเครื่องแรกของโลกนั้นวางจำหน่ายในปี 1979 กับเครื่อง Microvision เครื่องเกมที่สามารถเปลี่ยนตลับเกมได้และไม่ได้มีแค่เกมเดียวแบบที่ Game & Watch เป็น โดยเกม Microvision นั้นจะมีหน้าจอจะเป็นขาวดำกับเกมที่มีรูปแบบธรรมดาคล้าย ๆ กับ Game & Watch ที่ออกมาทีหลังและการเปลี่ยนตลับเกมนั้นคือการเปลี่ยนกรอบทั้งชุดเพื่อใส่เกมใหม่ลงไป ตัวเกมถูกปล่อยออกมาก็ได้รับเสียงตอบรับในแง่บวกจากชาวเกมเมอร์ในยุคนั้นเป็นอย่างมากถึงความแปลกใหม่ที่ยังไม่เคยมีใครทำได้ แต่สุดท้ายเครื่องนี้ก็ตายอย่างรวดเร็วในปี 1981 เพราะปัญหาซึ่งมาจากตัวเกมที่มีรองรับน้อยและหาซื้อยากขณะที่ Game & Watch ของ Nintendo ก็เริ่มมาทำตลาดนั้นหาซื้อง่ายมีหลายเกมให้เลือก(ตัว Game & Watch จะเปลี่ยนเกมไม่ได้แต่เน้นขายราคาถูกและมีหลายเกมให้เลือกซื้อ) แถมกินถ่านน้อยกว่าพกพาง่ายเล่นสนุกกว่าเครื่อง Microvision จึงกลายเป็นตำนานมาจนถึงตอนนี้

Microvision

เกมออนไลน์เกมแรกของโลก

Snipes

เคยสงสัยกันบ้างรึเปล่าว่าเกมออนไลน์เกมแรกของโลกนั้นคือเกมอะไร ? เกิดขึ้นในปีไหน ? นั่นคือคำถามที่เมื่อพูดออกมาหลายคนคงอยากจะรู้คำตอบ โดยเกมออนไลน์เกมแรกนั้นมีชื่อว่า Snipes ถูกสร้างขึ้นมาครั้งแรกในปี 1982 แต่ถูกเอามาสร้างแบบจริงในปี 1983 โดยครั้งแรกนั้นตัวเกม Snipes นั้นถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทำการทดสอบระบบของคอมพิวเตอร์ที่ชื่อว่า SuperSet Software และที่เกมนี้ถือเป็นเกมออนไลน์เกมแรกของโลกก็เพราะตัวเกมสามารถเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องในบริษัท IBM ให้เล่นเกมนี้พร้อมกันได้(ไม่ต้องเป็นอันทำงานพอดี) ตัวเกมนั้นก็เล่นง่าย ๆ เริ่มจากผู้เล่นหนึ่งคนจะเล่นเป็นผู้ล่าที่เป็นตัวสีขาวกับเลข 00 ที่ต้องไล่ยิงผู้เล่นคนอื่นในฉากซึ่งแน่นอนว่าฝ่ายตรงข้ามก็สามารถยิงตอบโต้ได้แต่จะยิงได้ช้ากว่าผู้ล่าและด้วยระบบการเล่นที่เชื่อมต่อพร้อมกันหลายคนเกม Snipes จึงถือเป็นต้นแบบเกมออนไลน์ในปัจจุบันนั่นเอง

Snipes

เกมแนว 18+ เกมแรกของโลก

Custer's Revenge

มาต่อกันที่เรื่องไม่เป็นเรื่องกับเกมแนว 18+ ครั้งแรกของวงการเกมกันบ้าง ซึ่งเกมที่ว่านี้เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 1982 บนเครื่อง  Atari 2600 กับเกมที่มีชื่อแปลก ๆ ว่า Custer’s Revenge หรือแปลว่าตรงตัวว่า การแก้แค้นของคัสเตอร์ ซึ่งหลายคนคงสงสัยว่าเกมนี้มัน 18+ ได้อย่างไรเพราะอย่างที่เราคงทราบกันดีว่าเกมในยุค Atari 2600 นั้นทำกราฟิกออกมาให้รู้ว่าเป็นตัวคนยังดูยากเลยแล้วจะทำเกมเป็นแนว 18+ ได้หรอ ? ซึ่งเอาจริง ๆ มันทำได้แถมยังดูลามกเกิน 18+ ไปทาง 20+ ได้เลยทีเดียวในยุคนี้ ตัวเกม Custer’s Revenge จะกล่าวถึง George Armstrong Custer บุคคลที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์อเมริกาในปี 1864 ที่เขาถูกส่งมาเพื่อทำสงครามกับเหล่าอินเดียแดงและถูกฆ่าตายในสงครามนั้น ซึ่งตัวเกมนั้นจะให้เรารับบทเป็นนายพล Custer ที่แก้ผ้าและเดินไปมีอะไรกับหญิงสาวอินเดียแดงที่แก้ผ้าและถูกมัดอยู่ที่เสา แต่ระหว่างที่เดินไปหาสาวอินเดียแดงนั้นจะมีห่ากระสุนลงมาเราต้องหลบให้พ้นเพื่อเดินไปหาสาวอินเดียแดง เมื่อเกมนี้ถูกปล่อยออกมาก็ได้รับเสียงตอบรับในทางลบมากมายทั้งการหยิบยกบุคคลที่มีตัวตนจริงมาล้อเลียนได้อย่างน่าเกลียดทั้งตัวนายพล Custer และชนเผ่าอินเดียแดง และจนถึงตอนนี้ก็ยังมีคนพูดถึงทางลบไม่ว่าจะเป็น PC Magazine บอกว่าเกมนี้เป็นหนึ่งในเกมที่เลวร้ายที่สุดที่เคยมีมารวมถึงใน UGO.com ที่เกมนี้ติดอันดับที่ 10 วิดีโอเกมเหยียดผิวที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ในปี 2010 และอีกมากมายที่ด่าเกมนี้ และถ้าคุณเห็นรูปแล้วบอกว่ามันไม่ 18+ เลยเพราะเราเซนเซอร์และไม่สนับสนุนเกมแบบนี้ไม่ว่าจะมุมเอาบุคคลจริงมาล้อเลียนหรือเอาชาติพันธุ์ของคนอื่นมาล้อเล่นแค่รู้ว่ามันมีก็พอ

Custer's Revenge

เกมที่ใช้ Motion Capture เกมแรก

Rise of the Robots

เมื่อพูดถึงระบบ Motion Capture เชื่อว่าชาวเกมเมอร์คงจะรู้จักหรือคุ้นหูไม่ก็ผ่านตากับคำนี้กันเป็นอย่างดีว่ามันคือระบบการจำลองการเครื่องไหวหรือการแสดงสีหน้าของตัวละครในเกมที่เอามาจากคนจริง ๆ ยกตัวอย่างเกมดัง ๆ ในยุคนี้ที่ใช้ Motion Capture ที่เรารู้จักก็มี The Last of Us, Death Standing, Detroit Become Human และอีกหลายเกมที่คุณคิดถึงในยุคนี้ ซึ่งถ้าใครคิดไม่ออกว่า Motion Capture คืออะไรให้นึกถึงนักแสดงที่สวมชุดที่มีจุด ๆ ตามตัวหรือบนใบหน้าเพื่อให้คอมพิวเตอร์จับการเคลื่อนไหวท่าทางของนักแสดงคนนั้น ๆ เพื่อให้การเคลื่อนไหวในเกมมีความสมจริง และเกมแรกที่เริ่มใช้ระบบ Motion Capture นั่นก็คือเกม Rise of the Robots ที่วางจำหน่ายบนเครื่อง PC DOS ในปี 1994 ก่อนจะถูกเอามาลงบนคอนโซลหลายเครื่องอย่าง Super NES, Mega Drive และ 3DO โดยตัวเกม Rise of the Robots นั้นจะเป็นเกมต่อสู้ที่ตัวละครจะใช้ระบบ Motion Capture ในการสร้างการเคลื่อนไหวการแสดงท่าของตัวละครในเกมนี้จึงสมจริงเป็นอย่างมาก แต่ตัวเกมกลับดูจืดจางในการเล่นและควบคุมจึงทำให้ไม่ค่อยมีคนรู้จักเกมนี้

Rise of the Robots

วิดีโอเกมที่ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์เกมแรก

Super Mario Bros The Movie

ปิดท้ายด้วยเรื่องของวิดีโอเกมที่ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์เกมแรกของโลกซึ่งจะเป็นเกมไหนไปไม่ได้นอกจากเกม Super Mario Bros The Movie ที่ฉายในปี 1993 ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ควบไปถึง 2 ตำแหน่งในครั้งแรกของวงการเกมที่นอกจากจะเป็นวิดีโอเกมเรื่องแรกที่ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์แล้วยังได้ตำแหน่งภาพยนตร์ที่สร้างจากวิดีโอเกมที่เลวร้ายที่สุดตลอดกาลอีกด้วย(น่าภูมิใจแทน Nintendo จริง ๆ) สำหรับคนที่ไม่เคยดูและอยากไปหาเรื่องนี้มาดูก่อนอื่นให้คุณโยนทุกอย่างที่รู้เกี่ยวกับเกม Super Mario Bros ออกไปให้หมดทุกอย่าง(ย้ำว่าทุกอย่าง) เพราะในเรื่องนี้นอกจากชื่อของตัวละครแล้วไม่มีอะไรที่เหมือนในเกมเลยแถมตัวหนังแม้จะไม่ใช้ชื่อ  Super Mario Bros ตัวภาพยนตร์ก็ขาดความสนุกอยู่ดี เรื่องราวจะเล่าถึงการเดินทางของช่างซ่อมท่อน้ำที่ต้องเดินทางไปจักรวาลคู่ขนานที่ชื่อว่า Dystopic ที่ปกครองโดยประธานาธิบดี Koopa เพื่อไปช่วยเจ้าหญิง Daisy ซึ่งไม่ว่าจะมองมุมไหนตัวละครตัวนี้ก็ไม่มีอะไรเหมือน Koopa ที่เรารู้จักเลยแถมลูกน้องของ Koopa ก็เป็นมนุษย์กิ้งก่า ? ใครอยากถูกล้างสมองรับปีใหม่ก็ลองไปหาดูได้แต่ขอย้ำตรงนี้อีกครั้งว่า เราเตือนคุณแล้ว !

Super Mario Bros The Movie

ก็จบกันไปแล้วกับครั้งแรกในวงการเกมเพื่อเป็นการส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่เพื่อเป็นการเริ่มต้นเรื่องราวใหม่ ๆ เหมือนกับครั้งแรกในวงการเกม ซึ่งมีทั้งเรื่องราวที่น่าจดจำไปจนถึงเรื่องที่คุณแค่รู้ว่ามีแต่ไม่ต้องไปเจาะลึกมันอีกด้วยถือว่าเป็นการอ่านเพื่อเพิ่มความรู้เท่านั้นก็พอ และแน่นอนว่าครั้งแรกในวงการเกมยังมีอีกหลายเรื่องที่เรายังไม่ได้ยกมาให้อ่าน เอาไว้มีโอกาสเราจะหยิบยกเรื่องราวครั้งแรกในวงการเกมมานำเสนออีกครั้ง และถ้าใครมีข้อมูลอะไรที่น่าสนใจก็เพิ่มเติมกันมาได้เพื่อแลกเปลี่ยนกัน ส่วนคราวหน้าจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไรก็ติดตามกันได้ในปีหน้า สวัสดีปีใหม่ผู้อ่านทุกท่านขอให้สุขภาพแข็งแรงพบแต่สิ่งดี ๆ ตลอดปี 2020 !

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส