10 มุมมองอีกด้านในเนื้อเรื่องวิดีโอเกมที่เปรียบเทียบกับความเป็นจริงที่แสนโหดร้าย

ในอดีตเราเคยมีความเชื่อว่าโลกเรานั้นแบนหรือโลกเรานั้นคือจุดศูนย์กลางจักรวาลที่แม้ในตอนนี้ความรู้ความเข้าใจจะเปลี่ยนไปแล้วแต่ในอดีตถ้ามีคนที่บอกเราแบบนั้นจะกลายเป็นคนที่คิดต่างหรือเป็นพวกที่ถูกผู้คนเกลียดชังกล่าวหาว่าต่อต้านสิ่งที่เป็นความจริงไปจนถึงคนโกหกทั้งที่ความจริงนั้นไม่ได้มีแค่ด้านเดียว และหลายสิ่งหลายอย่างนั้นก็ไม่มีด้านไหนที่ถูกหรือผิด ในโลกของวิดีโอเกมที่เราเล่นก็เช่นกันที่เรามักจะมองเห็นสิ่งต่าง ๆ ที่ทางนักพัฒนาต้องการสื่อหรือบอกเราว่ามันเป็นแบบนั้นแบบนี้ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วยังมีมุมมองอื่น ๆ ที่น่าสนใจที่เราคิดไม่ถึงอยู่และหลายอย่างที่เมื่อเอามาเปรียบเทียบกับโลกแห่งความจริงมันก็คืออีกด้านที่โหดร้ายที่เราคิดไม่ถึงวันนี้เราจึงรวบรวมเรื่องราวเหล่านั้นมานำเสนอจะมีเรื่องที่น่าสนใจบ้างมาดูกันเลย

พวก Super Hero ปกป้องมนุษย์แต่มนุษย์กลับทำลายโลก

เริ่มต้นเรื่องแรกกับสิ่งที่เราหลายคนต่างรู้กันดีว่า SuperHero นั้นคือกลุ่มคนดีที่บางครั้งก็ไม่ต้องมีพลังพิเศษแค่มีความสามารถและเนื้อเรื่องที่ดีพวกเขาหรือเธอเหล่านั้นก็จะเป็นผู้ปกป้องโลกจากภัยคุกคามต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเหล่าร้ายที่คิดครองโลกไปจนถึงมนุษย์ต่างดาวสัตว์ประหลาดต่างมิติที่เห็นว่าโลกของเรานั้นเหมาะแก่การยึดครองที่ดูจากภายนอกแล้วโลกเรานั้นเป็นสีฟ้าสดใสสวยงามแต่ในความเป็นจริงแล้วป่าไม้เริ่มถูกทำลายเป็นจำนวนมากน้ำแข็งขั้วโลกเริ่มละลายจนน้ำจืดกินพื้นที่น้ำเค็มเพราะภาวะโลกร้อนเริ่มมีมากขึ้นสัตว์ป่าหลายชนิดค่อย ๆ สูญพันธุ์เพราะน้ำมือของมนุษย์ที่เหล่า Super Hero ปกป้องไม่ว่าจะเป็นเหล่าผู้มีพลังความสามารถที่ร่วมกันปกป้องโลกในซีรีส์ Marvel Vs Capcom หรือเกมของเหล่า Super Hero ที่ร่วมมือกันปกป้องโลกจากภัยคุกคามต่าง ๆ ที่เราได้เล่น

ย้อนกลับมาที่ภาพยนตร์ Avengers Infinity War และ Endgame ที่หลายครั้ง Thanos จะบอกถึงแนวคิดในการล้างบางประชากรครึ่งจักรวาลว่าการกระทำของเขามีข้อดีเพราะคนน้อยลงคนทำลายธรรมชาติก็น้อยลงทุกอย่างก็จะค่อย ๆ ฟื้นตัวน้ำสะอาดขึ้นสัตว์ป่าขยายพันธุ์มีอาหารพอเพียงต่อความต้องการทุกอย่างคืนสู่สมดุล และถ้ามองในมุมของโลกที่เพียงแค่มนุษย์หายไปครึ่งเดียวเท่านั้นโลกเราก็กลับมาสะอาดสมบูรณ์แบบที่ Thanos บอกซึ่งนั่นก็ทำให้เราเกิดคำถามขึ้นมาว่าสิ่งที่เหล่า Super Hero ทำนั้นถูกแล้วหรือที่ปกป้องมนุษย์ ซึ่งเราก็ไม่ได้บอกว่าสิ่งที่ Super Hero ทำมันผิดเพราะเหล่าปีศาจที่จะมายึดโลกก็คงทำไม่ต่างกับมนุษย์ทำสิ่งที่เราเอามาพูดตรงนี้ก็แค่อยากให้มองอีกมุมหนึ่งเท่านั้นว่ามนุษย์ที่เหล่า Hero ปกป้องมันก็ไม่ได้ดีไปกว่าพวกปีศาจที่มาทำลายโลกที่พวกเขาต่อต้านก็เท่านั้นและนี่ก็เป็นอีกหนึ่งมุมมองที่เรามักไม่คิดกัน

การทรมานสัตว์เพื่อความสนุก

เมื่อพูดถึงการทรมานสัตว์เราต้องแยกคำนี้ออกเป็นสองประเภทอย่างแรกคือฆ่าสัตว์เพื่อเอามาใช้ในการทำอาหารที่นั่นก็เรียกว่าการทรมานสัตว์แต่มันก็คือสิ่งที่เราต้องทำเพื่อความอยู่รอดซึ่งมันคือเรื่องปกติที่เรารู้ ๆ กันดังนั้นเราจึงขอข้ามมาพูดถึงกับอีกประเด็นนั่นคือของการทรมานสัตว์เพื่อความสนุกเช่นการเอาสัตว์มาต่อสู้กันหรือออกล่าสัตว์เพื่อเอามาทำกระเป๋ารองเท้าเครื่องแต่งกายที่ไม่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตหรือพูดง่าย ๆ คือไม่มีก็ไม่เป็นไรแต่การมีคือการฆ่าและทรมานสัตว์ ซึ่งถ้าพูดถึงเรื่องนี้ในวิดีโอเกมเราก็จะเห็นหลายเกมเลยที่ทำแบบนั้นเริ่มจากเกมซีรีส์ Monster Hunter ที่เป้าหมายของเราคือการขยายดินแดนไปยังพื้นที่ต่าง ๆ รวมถึงการฆ่าล่าเพื่อเอาชุดหนังกระดูกมาทำชุดเกราะบางตัวบางอย่างแทบไม่มีประโยชน์แต่ก็ต้องล่าทั้งที่มันก็อยู่ดี ๆ ตามธรรมชาติแต่เรากลับไปล่ามันแบบที่เราทำในโลกแห่งความจริงด้วยข้ออ้างต่าง ๆ เช่นมันสร้างความเดือดร้อนต้องการหนังเกล็ดมันเพราะสวยหรือต้องการเอาเนื้อมาทำอาหารทั้งที่ไม่จำเป็นเลย

หรือจะให้เห็นภาพเข้าไปอีกก็เกม Pokemon ที่เราต้องจับสัตว์ป่าเหล่านั้นมาฝึกจะได้เอาไปต่อสู้กันเพื่อความสนุกของเหล่า Pokemon Trainer และคนดูที่เพียงแค่สั่งให้ Pokemon ไปสู้กันจนบาดเจ็บถ้าคิดไม่ออกให้ถึงกีฬาที่เอาสัตว์มาสู้กันอย่างการตีไก่เอาหมามากัดกันในกรงซึ่งแน่นอนว่าเหล่าสัตว์หรืออาจจะเป็น Pokemon ในเกมต้องบาดเจ็บล้มตายแถม Pokemon บางตัวก็เป็นสายพันธุ์หายากที่ควรอนุรักษ์แต่เรากลับจับมันมาจากธรรมชาติจากครอบครัวจากคู่ของมันซึ่งถ้าเกม Pokemon มีจริงก็คงต้องเป็นแบบนี้แน่ ๆ หรือถ้าจะให้เห็นภาพไปอีกก็ในภาพยนตร์ Detective Pikachu ที่เราจะได้เห็นเหล่า Pokemon ที่อยู่กันตามธรรมชาติแต่เราไปจับมันมาสู้กันจับมาใช้งานไม่ต่างอะไรกับการจับสัตว์ป่าในชีวิตจริงใส่กรงดูแบบในโลกแห่งความจริงเลย

เราฆ่ามอนสเตอร์ที่มาทำร้ายทั้งที่มันเพียงแค่ปกป้องถิ่นหรือหาอาหาร

ต่อเนื่องจากหัวข้อที่แล้วที่เกี่ยวกับสัตว์ต่าง ๆ ที่อยู่ตามธรรมชาติของมันแล้วเราที่เล่นเป็นนักล่าผู้กล้าหรือเป็นตัวละครที่ต้องเดินทางไปแถวนั้นเพื่อหาของหรือแค่ผ่านทางที่ต้องฆ่พวกมันเพียงเพราะพวกมันจะมาฆ่าหรือขัดขวางเราในการเดินทาง ซึ่งหลายครั้งเราก็ไม่อยากฆ่าพวกมันเพราะเปลืองกระสุนเสียเวลาเปลืองพลังอย่างพวกเกม Fallout, Metro หรือ The Witcher ที่เราต้องเดินทางผ่านแถวนั้นแต่ก็มีมอนสเตอร์มาขวางทางจนเราต้องฆ่าพวกมัน ซึ่งถ้าเราดูให้ดี ๆ ตามหลักความเป็นจริงที่ไม่ได้มองว่ามอนสเตอร์เหล่านั้นมันคือโปรแกรมเกมแต่ตัวละครเหล่านั้นมันคือสิ่งมีชีวิตสิ่งที่พวกมันทำคือการปกป้องถิ่นของตัวเองและเราที่เป็นผู้เล่นคือคนที่ไปบุกรุกที่ของมัน

แน่นอนเหมือนในโลกแห่งความเป็นจริงที่เรามักจะอ้างความถูกต้องว่าสัตว์เหล่านั้นมันตัวอันตรายเราจึงต้องฆ่ามันเพื่อป้องกันตัวเช่นการเจองูในบ้านเราก็ตีมันตายทั้งที่จะไล่มันไปก็ได้นั่นก็เป็นเหตุผลเดียวกันกับที่สัตว์เหล่านั้นทำนั่นคือการฆ่าหรือไล่เราให้ออกไปจากพื้นที่ของมันซึ่งเมื่อเราออกมาจากพื้นที่ของมันไม่ว่าจะเป็นสัตว์จริง ๆ หรือในเกมมันก็จะไม่ตามมาทำร้ายเราแต่เราที่เรียกตัวเองว่าสัตว์ประเสริฐกลับเดินเข้าไปในถิ่นมันเพื่อฆ่าจ่าฝูงฆ่าพวกมันเพียงเพราะมันคือภารกิจที่เกมกำหนดมาซึ่งเราก็ไม่สนใจด้วยซ้ำว่าเจ้าของภารกิจตามเนื้อเรื่องต้องการอะไรจากการฆ่านั้นแต่เราก็ทำนั่นคืออีกด้านที่เราคิดไม่ถึงในการเดินทางฆ่าสัตว์และถ้ามีคนมาอ่านถึงตรงนี้ก็คงจะพูดว่าประมาณว่าถ้าคิดแบบนั้นก็ไม่ต้องฆ่ามอนสเตอร์พอดี ถ้าคิดจะประชดแบบนั้นแล้วทำได้ก็เชิญเลยไม่มีใครว่าเพราะบทความนี้แค่ต้องการพูดถึงมุมมองอีกด้านเมื่อเปรียบเทียบกับความเป็นจริงเท่านั้นไม่ได้บอกว่าใครควรไม่ควรทำ

เชื้อโรคที่เกิดจากมนุษย์เป็นต้นเหตุ

เมื่อพูดถึงหัวข้อที่เกี่ยวกับไวรัสโรคระบาดที่เกิดขึ้นตอนนี้เชื่อว่าใครหลายคนคงจะคิดถึงโรคไวรัสโคโรนาที่กำลังสร้างความวุ่นวายและฆ่าประชากรที่ติดเชื้อไปแล้วมากมายหลายคนทั่วโลกซึ่งเราอาจจะคิดว่าเชื้อไวรัสเหล่านี้มันเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติและไม่ใช่ฝีมือมนุษย์ที่สร้างมันขึ้นมา แต่เราก็คือต้นเหตุที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเพราะถ้าเราไม่อุตริเอาสัตว์ที่ไม่สมควรกินอย่างค้างคาวมากินก็คงจะไม่เกิดการแพร่เชื้อนี่ยังไม่นับโรคเอดส์หรือไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่เราเจอก็ล้วนแล้วแต่เกิดจากฝีมือมนุษย์ที่ไปบุกรุกธรรมชาติจนติดมาสู่เรา รวมถึงโรควัวบ้าไข้หวัดนกและอีกมากมายซึ่งหลายเกมที่เราเล่นอย่าง Days Gone, The Last of Us ไปจนถึงเกมซอมบี้อีกหลายเกมก็ใช้หลักการเดียวกันนั่นคือไวรัสปริศนาที่ทำให้มนุษย์ติดเชื้อโรคแบบเดียวกับในโลกแห่งความจริงที่เราเป็นตอนนี้

และถ้าไม่นับเชื้อโรคที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติมนุษย์เราก็สามารถเอาโรคเหล่านั้นมาใช้เป็นประโยชน์ในสงครามอย่างการโยนศพข้ามกำแพงเมืองที่ปิดล้อมหรือปล่อยสัตว์ที่ติดเชื้อไปยังสถานที่ต่าง ๆ ที่เคยมีในอดีตหรือในยุคนี้ที่เทคโนโลยีทันสมัยเราก็สามารถค้นพบไวรัสใหม่ ๆ ไปจนถึงการเก็บเชื้อโรคเหล่านั้นเอาไว้เพื่อการศึกษาซึ่งถ้าวันหนึ่งวันใดมันหลุดออกมาหรือกลายพันธุ์เราก็คงจะได้เห็นโลกที่ล่มสลายแบบในเกม The Division ที่คนร้ายส่งเชื้อไวรัสผ่านทางเงินและปล่อยในวัน Black Friday ที่คนจับจ่ายซื้อของติดเชื้อหรือถ้าเชื้อไวรัสเหล่านั้นหลุดออกมาแบบในเกม Resident Evil ซึ่งเราไม่ได้หมายถึงเชื้อโรคที่ทำให้คนเป็นซอมบี้แต่หมายถึงความผิดพลาดในการจัดเก็บดูแลจนเชื้อหลุดออกมาแบบในเกม Resident Evil ที่ทำให้เมืองทั้งเมือพินาศนั่นก็อาจจะเกิดขึ้นได้ซึ่งทั้งหมดคือมุมมองอีกด้านที่เราคิดไม่ถึงนั่นเอง

ข้อดีของสงครามโลกที่เราไม่รู้

ถ้าพูดถึงสงครามเราคงจะคิดถึงการฆ่าฟันของมวลมนุษย์ที่แทบจะไม่เกิดประโยชน์อะไรเลยกับทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นความเสียหายทั้งทางตรงอย่างผู้คนล้มตายบ้านเมืองเสียหายที่เราเห็นในเกม Call of Duty หรือ Battlefield ไปจนถึงความเสียหายทางด้านเศรษฐกิจโลกที่ไม่ว่าจะหันไปดูตรงไหนก็ไม่มีใครอยากให้เกิดสงคราม แต่ทุกอย่างในโลกไม่ได้มีแต่ข้อเสียเสมอไปเพราะในหลาย ๆ อย่างก็มักจะมีข้อดีซ่อนอยู่แต่เราแค่คิดไม่ถึงหรือข้อดีนั้นมันอาจจะเล็กน้อยเกินไปจนมันไม่น่าจะเอามาพูดถึงแต่ในเรื่องของสงครามนั้นมันกลับมีข้อดีเกิดขึ้นมากมายจากความสูญเสียนั้น

เริ่มจากข้อดีข้อแรกจากสงครามก็คือความรู้สึกหวาดกลัวต่อสงครามซึ่งถ้าใครที่ได้ติดตามข่าวมาตลอดจะทราบดีว่าโลกเรานั้นเกือบจะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 อยู่หลายครั้งมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นประเทศเกาหลีเหนือไปจนถึงฝั่งประเทศที่มีผู้ก่อการร้ายซึ่งเมื่อเริ่มจะเกิดประกายไฟเมื่อใดหลายประเทศใหญ่ ๆ อย่างจีนรัสเซียหรืออเมริกาเองก็มักจะเข้าไปไกล่เกลี่ยเจรจาเพื่อหาทางออกเพราะทุกประเทศต่างเคยบอบช้ำจากสงครามมาจึงพยายามจะไม่ให้มันเกิดขึ้น รวมถึงเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ถูกพัฒนาต่อยอดมาจากสมัยสงครามจนเราได้มาใช้ในยุคนี้อย่างคอมพิวเตอร์เครื่องแรกของโลกก็มีต้นแบบมาจากเครื่องถอดรหัสจาก Enigma machine ที่เกิดขึ้นในสงครามรวมถึงเทคโนโลยียานยนต์การสื่อสารรวมถึงอาหารอย่างไส้กรอกก็เกิดมาจากสงครามโลก และในยุคนี้เทคโนโลยีหลายอย่างก็มาจากการพัฒนาต่อยอดมาจากเทคโนโลยีทางการทหารทั้งสิ้นดังนั้นนั่นจึงเป็นข้อดีที่เราได้มาจากสงครามซึ่งถ้าถามว่ามันดีไหมก็จะตอบเลยว่าไม่ดีและไม่อยากให้เกิดขึ้น

Super Hero ไม่ฆ่าคนแต่ทำคนพิการ

กลับมาที่เรื่องของเหล่า Super Hero อีกครั้งกับคำขวัญของเหล่าผู้พยุงความยุติธรรมที่จะไม่ฆ่าคนร้ายแม้จะมีความผิดขนาดไหนก็ตามซึ่งก็จริงเราเห็น Super Hero หลายคนไม่ฆ่าคนแต่จะอัดคนร้ายจนสลบหรือหมดทางสู้จนถูกตำรวจจับซึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติที่เราเห็นได้ทั่วไปทั้งในการ์ตูนในเกมหรือภาพยนตร์ แต่สิ่งที่เราลืมคิดไปหนึ่งอย่างก็คือคนร้ายเหล่านั้นบางส่วนโดยเฉพาะเหล่าตัวประกอบพวกเขาคือคนธรรมดาที่ไม่มีพลังพิเศษหรือแม้แต่วายร้ายบางคนอย่าง Joker หรือ Otto Octavius พวกนี้เป็นคนธรรมดาที่ไม่มีพลังพิเศษซึ่งร่างกายของพวกเขาก็ไม่ต่างอะไรกับเราที่เมื่อถูกคนมีแรงมาก ๆ อัดนั่นย่อมส่งผลถึงร่างกายจนอาจจะพิการได้เลย

หรือถ้าคุณจะบอกว่า Batman ก็ไม่มีพลังพิเศษเป็นคนธรรมดาก็สามารถอัดคนได้อย่างนั้นรึเปล่า ในส่วนของ Batman นั้นจัดเป็นคนที่มีความสามารถทางการต่อสู้ก็เท่ากับมีพลังพิเศษไม่ต่างอะไรกับนักมวยไทยมาชกคนธรรมดาที่สามารถเตะเราสลบได้ดังนั้น Batman ในเกมก็ถือว่าเข้าค่ายผู้มีพลังที่ในเกมหรือในภาพยนตร์เราจะเห็นแค่พวกเขาสลบแต่หลายครั้งเราก็เห็น Super Hero เหล่านั้นหักกระดูกฝ่ายตรงข้ามยิ่งในเกมเราจะเห็นชัดมาก ๆ ว่าพวก Hero เตะได้รุนแรงเมื่อดูฉากที่เกมทำให้ช้าลงเพื่อให้เราเห็นท่วงท่าในการกำจัดศัตรูอย่างในเกม Spider-Man บน PS4 กับเกม Batman Arkham ซีรีส์คุณจะเห็นว่าแต่ละท่านั้นแรงขนาดไหนไม่เชื่อลองไปเอาเกมเหล่านั้นมาเล่นดูแล้วสังเกตท่าเตะต่อยเหล่านั้นดูว่ามันรุนแรงจนทำคนพิการได้จริง ๆ

จุดกำเนิดฆาตกรจากการถูกแกล้งถูกกดดันจากสังคม

ถ้าจะให้พูดถึงเหล่าฆาตกรโรคจิตในภาพยนตร์หรือในเกมต่าง ๆ อย่างเกม Friday the 13^th  พวก Psychopaths ในเกมซีรีส์ Dead Rising ไปจนถึงเหล่า Killers ในเกม Dead by Daylight ที่ทุกคนนั้นล้วนเป็นตัวร้ายที่โหดเหี้ยมน่าเกลียดน่ากลัวไร้ความเป็นคนที่ไม่ว่าจะมองมุมไหนตัวละครเหล่านั้นก็สมควรตายหรือไม่น่าจะเกิดขึ้นบนโลกและเราก็คงจะรู้สึกดีใจสะใจเมื่อเห็นตัวละครเหล่านั้นตายเพื่อชดใช้กับสิ่งที่พวกมันทำกับคนอื่น แต่ถ้าเรามองอีกมุมหรือเจาะลึกเข้าไปถึงประวัติของตัวฆาตกรโรคจิตเหล่านี้เราจะเห็นว่าพวกตัวละครเหล่านี้ต่างมีถูกสร้างขึ้นมาจากความกดดันการกลั่นแกล้งล้อเลียนของสังคมที่เรียกว่าเป็นเรื่องปกติไปของทุกยุคเลยก็ว่าได้ และเชื่อว่าหลายคนที่ได้อ่านตรงนี้ต่างต้องเคยโดนล้อเลียนโดนแกล้งจากผู้คนซึ่งแน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องดีและแน่นอนว่าความอดทนของคนก็มีระดับที่ต่างกันจนเมื่อมันถึงจุดสูงสุดทุกอย่างก็ระเบิดออกมา

ยกตัวอย่างฆาตกรใส่หน้ากากอย่าง Jason Voorhees ในเกม Friday the 13^th ที่ถ้าใครได้เคยดูซีรีส์นี้ภาคแรกจะทราบดีว่าฆาตกรโรคจิตคนแรกนั้นไม่ใช่ตัว Jason แต่เป็นแม่ของเขาที่โกรธแค้นคนในค่ายที่แกล้งลูกชายของเขาจนจมน้ำตายและแน่นอนว่า Jason ที่ฟื้นมาจากนรกก็เกิดจากการกลั่นแกล้งของคนเหล่านั้นรวมถึงเหล่า Killers ในเกม Dead by Daylight ที่ตัวละครสำหรับเกมนี้ทุกคนล้วนแล้วแต่มีเจอเรื่องเลวร้ายของสังคมที่บีบให้เขาเหล่านั้นกลายเป็นปีศาจ และเมื่อเรามองมาถึงโลกแห่งความจริงอย่างกรณีของนักเรียนถือปืนบุกยิงเพื่อนตัวเองหรือในต่างประเทศกับบ้านเราที่สื่อมักจะโทษเกมว่าเป็นต้นเหตุทั้งที่ความจริงแล้วสาเหตุมันมาจากการกลั่นแกล้งของคนในโรงเรียนซึ่งเราก็ไม่ได้บอกว่าเหล่าฆาตกรพวกนั้นน่าสงสารแต่เราจะบอกว่าคนที่สร้างปีศาจเหล่านั้นขึ้นมาคือคนแบบพวกคุณดังนั้นก่อนจะทำอะไรคิดถึงจิตใจคนอื่นบ้างเท่านั้นที่ต้อการสื่อ

เมื่อธรรมชาติทวงคืน

เมื่อพูดถึงเรื่องของภัยพิบัติทางธรรมชาติเช่นแผ่นดินไหวคลื่นยักษ์สึนามิไปจนถึงพายุต่าง ๆ ที่คงไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้นและเราก็ไม่สามารถหาทางยับยั้งไม่ให้มันเกิดขึ้นมาได้เราทำได้เพียงเตรียมตัวรับและหาทางซ่อมแซมเมื่อมันผ่านไป ซึ่งถ้ามองกันตามหลักแล้วภัยพิบัติทางธรรมชาติหลาย ๆ อย่างนั้นก็เกิดจากฝีมือของมนุษย์ที่ทำลายธรรมชาติซึ่งเมื่อถึงคราวที่ธรรมชาติเอาคืนเราที่เป็นมนุษย์ก็ต้องก้มหน้ารับกรรมร่วมกันอย่างในเกม Disaster Report ที่เราต้องหนีตายจากภัยธรรมชาติที่เข้ามาอย่างสมจริง

และเมื่อเราหันมาดูโลกแห่งความจริงความเสียหายที่เกิดขึ้นมานั้นก็ไม่ต่างอะไรกับในเกมเลยทั้งผู้คนบาดเจ็บล้มตายเพราะซากสิ่งปลูกสร้างทับไปจนถึงไฟไหม้ป่าที่เกิดจากคนมักง่ายที่ไม่ไปทิ้งก้นบุหรี่หรือจุดไฟเผาขยะที่ทั้งหมดเกิดจากการทำลายธรรมชาติทำให้เกิดสภาวะโลกร้อนทำให้น้ำทะเลอุ่นจนเกิดพายุที่รุนแรงการตัดไม้ทำลายป่าเมื่อฝนตกก็ไม่มีตัวลดความแรงของน้ำหรือยึดหน้าดินนี่ยังไม่นับการขุดเจาะเอาน้ำมันจากใต้ดินจนแผ่นเปลือกโลกเปลี่ยนแปลงและทำให้เกิดแผ่นดินไหวรวมถึงสึนามิที่เราคงได้เห็นความน่ากลัวของสิ่งเหล่านั้นไปแล้ว นี่ยังไม่นับฝุ่นควันที่เกิดจากการเผาอ้อยที่มีมากมายซึ่งคนที่ทำนั้นก็คือมนุษย์เพียงกี่คนแต่สิ่งที่ทุกคนต้องได้รับคือพวกเราทุกคน ดังนั้นเราควรจะร่วมมือกันรักษาธรรมชาติก่อนที่ธรรมชาติจะทวงคืนครั้งต่อไปแบบในเกม Disaster Report

จำนวนคนฆ่ากันเองมากกว่าโดนซอมบี้ฆ่า

กลับมาที่เรื่องราวของซอมบี้อีกครั้งหลังจากที่พูดถึงไปแล้วในหัวข้อต้น ๆ ซึ่งคราวนี้เรามาพูดถึงความโหดร้ายของมนุษย์ในเกมกันบ้างซึ่งเกมที่เราจะยกตัวอย่างเรื่องความโหดร้ายของมนุษย์ได้ดีที่สุดก็คงจะเป็นเกมแนวซอมบี้ที่เราซึ่งเป็นผู้เล่นเกมหรือคนดูหนังต่างทราบดีว่ามนุษย์ด้วยกันเองที่อันตรายที่สุดมากกว่าซอมบี้หรือสัตว์ประหลาด เพราะเมื่อโลกไร้ซึ่งกฎหมายควบคุมจิตใจของมนุษย์ก็ถึงจุดต่ำสุดจนเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงออกมา ซึ่งแน่นอนว่าหลายเรื่องที่เป็นจริงกว่านี้อย่างเรื่องการฆ่าเพื่อแย่งอาหารหรือข่มขืนเพศตรงข้ามที่ต้องมีเมื่อโลกไร้กฎหมายและรู้รึไม่ว่าถ้าเราไม่นับจำนวนซอมบี้ที่มีเยอะกว่าคนรอดชีวิตแล้วจำนวนคนที่ตายเพราะซอมบี้ในเกมหรือในภาพยนตร์นั้นน้อยกว่าจำนวนคนที่ฆ่ากันเองเสียอีก ยกตัวอย่างเกมในซีรีส์ Dead Rising หรือ Resident Evil ที่ทางรัฐบาลคิดทิ้งระเบิดหรือส่งทหารมาฆ่าทุกคนเพื่อทำลายทุกอย่างให้หมดนับเป็นการฆ่ากันที่น่ากลัวกว่าซอมบี้ฆ่าคนเสียอีก

นี่ยังไม่นับพวกมนุษย์กินคนในเกมซอมบี้อย่างเกม The Last of Us ที่มีพวก David  ที่เป็นกลุ่มมนุษย์กินคนรวมถึงใน The Walking Dead (video game) ก็มี St. John Family ที่จับมนุษย์ด้วยกันมากินเป็นอาหารแทนที่สัตว์เป็นการบ่งบอกถึงจิตใจอันต่ำตมของมนุษย์ซึ่งในโลกแห่งความเป็นจริงก็ใช่ว่าจะไม่มีมนุษย์กินคนหรือคนที่คิดจะทำเรื่องแย่ ๆ อย่างคนไข้ที่ติดเชื้อไวรัสโคโลนาที่เอาน้ำลายไปป้ายตามสถานที่ต่าง ๆ เพื่อแพร่เชื้อโรคซึ่งในเกมก็เป็นหนึ่งในภาพสะท้อนที่จะเกิดขึ้นจริงอย่างแน่นอนถ้าโลกเกิดเหตุแบบนี้

มนุษย์นั้นชั่วร้ายแต่ก็ไม่ใช่มนุษย์ทุกคนจะเป็น

ปิดท้ายด้วยมุมมองของบทความนี้ที่ดูเหมือนะต่อว่ามนุษย์นั้นเป็นตัวทำร้ายและทำให้เกิดเรื่องราวต่าง ๆ มากมายจนเราอาจจะคิดว่ามนุษย์นั้นชั่วร้ายและไม่สมควรมีอยู่บนโลกซึ่งถ้าถามผู้เขียนว่าจะปกป้องมนุษย์ไหมถ้าตัวเองมีพลังแบบ Superman ผู้เขียนจะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องมนุษย์แม้จะเกลียดขนาดไหนก็ตามนั่นก็เพราะมนุษย์ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่ชั่วร้ายไปเสียทุกคนดังนั้นเราจึงไม่ควรเหมารวมว่ามนุษย์สมควรตายจนหมดเพราะคนชั่วนั้นมันมีน้อยกว่าคนดีอาจจะ 1 ใน 10 คนหรืออาจจะแค่ 1 ใน 1000 ด้วยซ้ำดังนั้นเราไม่ควรตัดสินผ้าทั้งผืนเพียงเพราะรอยเปื้อนจุดเดียว

และนอกจากเหล่าคนไม่ดีที่มีน้อยแล้วเหล่าคนดีที่แม้จะไม่มีพลังพิเศษที่เป็นเพียงแค่คนธรรมดาแต่เมื่อมนุษย์เราเดือดร้อนทุกคนที่แม้จะต่างชาติต่างภาษาเมื่อถึงเวลาที่ใครเดือดร้อนเราก็พร้อมที่จะช่วยเหลืออย่างตอนสึนามิที่ญี่ปุ่นหรือไฟไหม้ป่าในประเทศออสเตรียทุกประเทศก็พร้อมที่จะช่วยเหลือประเทศเหล่านั้นรวมถึงคนในประเทศที่ช่วยกันเมื่อร้องขอความช่วยเหลือนั่นคือข้อดีของมนุษย์ที่แม้หลาย ๆ ส่วนจะแย่แต่ทุกอย่างก็ไม่ได้เลวร้ายไปจนหมด ดังนั้นสิ่งที่เราต้องการบอกก็คือทุกอย่างนั้นมีหลายด้านแม้แต่สิ่งที่เราต่อว่าและเกลียดชังหรือชื่นชมว่าดีงามไร้ที่ติก็ยังมีด้านดีและไม่ดีไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบทุกอย่าง

ก็จบกันไปแล้วกับ 10 เรื่องราวมุมมองอีกด้านที่เราคิดไม่ถึงในวิดีโอเกมที่เมื่อเราเอาเรื่องราวในเกมมาเปรียบเทียบกับความเป็นจริงแล้วเรากลับพบว่ามันมีอะไรหลาย ๆ อย่างที่สามารถเกิดขึ้นได้จริง ซึ่งบางอย่างก็เกิดขึ้นมาแล้วและหลายอย่างก็เป็นมุมมองที่เราไม่เคยคิดตามมาก่อนหรืออาจจะลืมคิดไปเราจึงรวบรวมมานำเสนอ ซึ่งสิ่งที่เราเอามาพูดถึงนี้ไม่ใช่การต่อว่าหรือดูถูกมนุษย์แต่มันคือความเป็นจริงอีกด้านหนึ่งเท่านั้นและหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ผู้อ่านได้เปิดมุมมองใหม่ ๆ ในการมองโลกดูทุกอย่างมากขึ้นกว่าเดิมและถ้าใครมีข้อคิดดี ๆ ที่น่าสนใจก็มาแลกเปลี่ยนกันได้เพราะยังมีอีกหลายอย่างที่เราคิดไม่ถึงยิ่งในวิดีโอเกมแล้วยังมีอีกหลายเรื่องให้เปรียบเทียบเอาไว้มีโอกาสเราจะหยิบยกมานำเสนออีกยังไงก็ติดตามกันได้

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส