ปกติแล้ว “ปีศาจ” หรือ “อสุรกาย” จากนรกนั้นเป็นดั่งตัวแทนของความน่ากลัวในจินตนาการของมนุษย์ พวกมันคือเรื่องเล่าสืบต่อกันมาที่ทำให้เด็กๆ นอนฝันร้าย เป็นศูนย์รวมแห่งความชั่วร้ายที่แม้แต่ผู้ที่มีศรัทธาแรงกล้าก็ยังต้องหวาดหวั่น… แต่ใครจะรู้ว่าช่วงหลังๆมานี้เจ้าพวกปีศาจที่ว่าก็มีอะไรให้กลัวเหมือนกันนะ ทุกคืนในนรก พวกมันต่างหวาดระแวงว่าจะได้เจอกับมนุษย์ในเกราะสีเขียวๆ หรือไม่ นอยด์แตกว่าเมื่อไหร่จะโดนลูกปรายร้อน ๆ จากปากกระบอกลูกซองแฝดป่นร่างเป็นผุยผง หรือจะต้องพบจุดจบด้วยการถูกฉีกกระชากเป็นชิ้น ๆ จากมือชายล่ำบึ้กวันนี้รึเปล่า ชายที่อุดมไปด้วยความโกรธเกลียดอสูรอเวจีระดับอนันต์ หมอนั่นคือนาย “Doomguy” หรือที่มีชื่อเล่นในนรกว่า “DOOM Slayer” นั่นเอง
อะไรกันหนอที่ทำให้นาวิกโยธินคนนี้โหดสัสจนแม้แต่นรกยังต้องขยาดขนาดนี้? เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองให้เกม DOOM Eternal ที่กำลังจะออกมาให้เล่น เรามาสืบประวัติชายฉกรรจ์ผู้เหยียบย่ำภูติผีปีศาจไปด้วยกันดีกว่า!!?
(ปล. ขอความกรุณาเปิดเพลงประกอบ BFG Division ของนาย Mick Gordon ไปด้วย เพื่อความมันส์หยดติ๋งยิ่งขึ้นระหว่างอ่าน)
เปิดตำนาน DOOM Marine
ในโลกอนาคต ปี ค.ศ.อะไรซักอย่าง นาวิกโยธินอวกาศธรรมด๊าธรรมดานายหนึ่งได้ถูกส่งมาเป็นทหารยามให้กับบริษัท Union Aerospace Corporation หรือ UAC บนดวงจันทร์ของดาวอังคาร โทษฐานเพราะไปปล่อยหมัดขวาตรงใส่ผู้บังคับบัญชาที่ดันสั่งให้หน่วยของเขายิงใส่ประชาชนตาดำ ๆ หลังจากยืนเตะฝุ่นแดง ๆ อยู่ 3 ปี วันหนึ่งการทดลองเรื่องประตูมิติของ UAC ก็เกิดความผิดพลาด จนดูดกลืนดวงจันทร์ของดาวอังคารนามว่า Deimos หายไป และปล่อยฝูงอสูรจากนรกพรั่งพรูออกมาบนศูนย์วิจัย UAC ที่นาย DOOM Marine ประจำการอยู่ เมื่อบุคลากรและทหารนายอื่นถูกอสูรฆ่าตายหรือไม่ก็ถูกสิงจนเรียบ เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากคว้าปืนพกออกมาบู๊กับทัพอสูร แล้วค่อยๆ ยกระดับเป็นปืนลูกซอง ปืนกล เลื่อยไฟฟ้า หึหึหึ
นาย DOOM ฆ่าอสูรไปเป็นกองพะเนินเพื่อฝ่าเข้าไปในฐาน UAC ด้วยหวังว่าจะพบหนทางหนีกลับโลก (เพราะตัวเองขับยานอวกาศไม่เป็น) จนสุดท้ายเขาก็กระโจนเข้าไปในประตูมิติซึ่งพาเขาสู่ดวงจันทร์ Deimos ที่หายไป แต่ตอนนี้ Deimos ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของมิตินรกไปเรียบร้อยแล้ว หมอนี่กอดปืนลูกซองสู้ขาดใจจนโค่นอสูรยักษ์ครึ่งเหล็ก “Cyberdemon” ลงได้ ยังไม่พอ เขายังสาดลูกตะกั่วร้อน ๆ ใส่บอสแมงมุม Spider Mastermind จนสมองยุ่ย เมื่อนรกเห็นท่าไม่ดีจึงตัดสินใจเปิดประตูมิติส่งอีตานี่กลับโลกดีกว่า ด้วยเหตุผลที่ว่าเขา “ดุเกินไปจนแม้แต่นรกก็เอาไม่อยู่” ทุกอย่างดูเหมือนจะแฮปปี้เอนดิ้ง แต่เมื่อ Doomguy กลับมาเหยียบผืนโลก เขาก็พบว่ามันโดนทัพนรกบุกถล่มจนราบคาบไปแล้ว ที่สำคัญพวกมันยังสังหารกระต่ายตัวโปรดของ Doomguy ที่ชื่อว่า “Daisy” แล้วจับมาเสียบประจานซะด้วย ความโกรธแค้นทำให้เขาควงปืนวิ่งเข้าไปไล่ฆ่าอสูรบนโลกต่อแบบไม่ต้องพักหายใจ แล้วมหรสพฆ่าอสูรก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง
ล้างนรกบนดินใน DOOM II และ DOOM 64
โลกมนุษย์พังเละเทะจากไฟนรกที่ลุกลามไปทั่วทุกหนแห่ง แม้กระนั้นนาย Doomguy ที่ระอุไปด้วยความคลั่งแค้นก็ไม่หยุดตื้บปีศาจทุกตัวที่ขวางหน้า จนกระทั่งเขาได้พบกับเหล่ามนุษยชาติที่เหลือรอดซึ่งกำลังสร้างยานอวกาศขนาดมหึมากันอยู่ แผนของมนุษย์คือพาผู้รอดชีวิตทุกคนหนีไปจากโลกใบนี้ซะ นาย Doomguy ก็เห็นดีเห็นงามด้วย แต่ปรากฏว่าเหล่าอสูรดันมาบุกโจมตีฐานปล่อยยานราวกับเดาใจได้ แถมพวกมันยังกางบาเรียเพลิงดักไม่ให้มียานอวกาศลำไหนบินออกจากโลกได้อีก ร้อนให้พระเอกของเราควงปืนลูกซองแฝด Super Shotgun ไปกระหน่ำอสูรนรกทุกตัวและปิดบาเรียนรกได้สำเร็จ ในขณะที่ยานยักษ์ของมนุษยชาติบินจากโลกใบนี้ไป นาย Doomguy ที่เป็นมนุษย์ผู้เดียวที่ยังเหลืออยู่บนโลกก็ตัดสินใจนั่งรอความตายอย่างสบายใจ เนื่องจากได้รู้ว่าภารกิจของเขาสำเร็จลุล่วงแล้ว แต่จู่ๆ เขาก็ได้รับข้อความจากผู้รอดชีวิตนอกโลก ระบุว่าพวกเขารู้ถึงต้นตอของทัพนรกแล้ว มันมาจากประตูมิติที่บ้านเกิดของเอ็งนั่นแหละ
Doomguy เอามือยันเข่าลุกขึ้นไล่สังหารอสูรตนแล้วตนเล่าอีกครั้งจนกระทั่งไปถึงที่หมาย เมื่อเห็นว่าไม่มีทางหยุดกองทัพปีศาจอัปลักษณ์จากฝั่งนี้ได้ เขาจึงกระโจนผ่านประตูมิติเข้าไปในนรกอีกครั้ง (คราวนี้คนละขุมกับภาคแรกนะ) แล้วเขาก็ต้องปะฉะดะกับปีศาจยักษ์ที่เป็นดั่งตัวแทนความชั่วร้ายทั้งมวล มันคือ”สัญลักษณ์แห่งบาป” ของแท้และดั้งเดิม มนุษย์ทั่วไปเจอแบบนี้คงต้องหันไปพึ่งหลวงพ่อเลี่ยมทองหรือไม้กางเขน แต่หมอนี่ขอพึ่ง Rocket Launcher แทนละกัน เขาส่งขีปนาวุธเข้าใส่สมองของมันจนระเบิดเป็นจุล ทำให้ประตูมิติจากนรกสู่โลกปิดลง และ Doomguy ก็ได้หวนคืนสู่ผองเพื่อนชาวโลกในที่สุด…
แต่เรื่องมันยังไม่จบ! เมื่อมนุษย์ตรวจพบว่ายังมีอสุรกายมากมายป้วนเปี้ยนอยู่บนดวงจันทร์ Phobos และ Deimos จากภาคแรก กองทัพจึงตัดสินใจปูพรมระเบิดรังสีเพื่อหวังฆ่าพวกแม่มให้เรียบ แต่จนแล้วจนรอดก็ยังมีปีศาจหลงเหลืออยู่ดี นาวิกโยธิน Doomguy จึงต้องกลับไปล้างบางในถิ่นเก่าของเขาอีกที หลังจากเขาฆ่าพวกมันจนเรียบ (อีกแล้ว) เขาก็ประจักษ์ว่าเหล่าภูตผีนรกจะไม่มีวันหยุดรุกรานแดนมนุษย์ ดังนั้นแทนที่จะตั้งรับอยู่ฝ่ายเดียวตรงฟากนี้ สู้ไปไล่บี้มันจากฟากนู้นดีกว่า ว่าแล้วเขาก็หักข้อนิ้วกร๊อบ ๆ กำปืนลูกซองแฝดในมือถลาเข้าสู่มิตินรก เพื่อเปิดศึกกับปีศาจในอเวจีไปตลอดกาล…
ยัง… ยังไม่จบ เมื่อเขาตื่นมาอีกครั้งในนาม “The DOOM Slayer”
พระเอกนาวิกโยธินของเราไล่ล่าฆ่าอสุรกายในนรกอย่างไม่มีเหน็ดเหนื่อย ไม่มีหยุดหย่อน และไม่ว่าปีศาจหน้าไหน จำนวนเท่าไหร่ก็ไม่สามารถหยุดยั้งเขาได้แล้ว ร้อนจนจ้าวปีศาจตัวเท่าก็อดซิลล่าฉายา “ไททัน” ต้องออกโรงมาฉะกับนาย Doomguy ด้วยตนเอง ฟังแบบนี้แล้วคิดว่าเขาจะเจอกับคู่ปรับที่สมน้ำสมเนื้อแล้วสินะ? ผิดแล้วจ้า เพราะไททันพลาดท่าโดน Doomguy สังหารลงเช่นกัน (กลายเป็นซากให้เห็นในด่านนรกของ DOOM ภาค 2016) เป็นเหตุให้อสูรในแดนนรกต้องลงศิลาจารึกเกี่ยวกับหมอนี่เอาไว้ ระบุว่ามันคือฝันร้ายของชาวนรก และมันมีนามกรว่า “The DOOM Slayer”
การสู้รบกับฝูงอสูรในนรกขุมแล้วขุมเล่าชั่วกัปชั่วกัลป์ทำให้เขาเดินทางข้ามมิติไปพบกับเผ่า “Night Sentinels” ผู้ที่เปิดศึกสู้กับนรกได้อย่างถึงพริกถึงขิงไม่ต่างกัน แน่นอนว่าเมื่อพวกเขาได้เห็นฝีไม้ลายมือของนาย DOOM ก็ยินดีอ้าแขนรับเข้ามาเป็นพวก แล้วทั้งคู่ก็ร่วมกันรบกับนรกอย่างหนักหน่วงจนแม้แต่นรกก็ไม่สามารถรุกคืบต่อได้ นอกจากนี้ เกราะของนาย DOOM ยังได้รับการอัปเกรดเป็นชุด “Praetor Suit” ทำให้ทุกครั้งที่เขาฉีกกระชากสัตว์นรกเป็นชิ้น ๆ เขาจะสามารถฟื้นฟูพลังชีวิตให้กลับมาพร้อมซัดกับชาวบ้านได้เลย
แต่เมื่อไม่ได้ด้วยเล่ห์ นรกก็ต้องเอาด้วยกล พวกอสูรได้แอบไปทำข้อตกลงลับหลังกับ Night Sentinels นายหนึ่ง โดยอ้างว่าพวกมันสามารถคืนชีพลูกชายที่ตายไปแล้วของเขากลับมาได้ หากเขายอมนำทางทัพนรกไปยังแหล่งพลังงานที่คอยปกปักรักษาเหล่า Night Sentinels ความโหยหาลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเพียงคนเดียวทำให้เขายอมทำตามข้อเรียกร้องของนรก ส่งผลให้ดินแดนของ Night Sentinels ต้องด่าวดิ้น และตัวเขาเองก็ถูกตราหน้าว่าเป็น “The Betrayer” ร้ายไปกว่านั้น พวกนรกเจ้าเล่ห์ยังได้คืนชีพลูกชายของเขาขึ้นมาในร่างของปีศาจ “สัญลักษณ์แห่งบาป” ตัวใหม่ ปิดฉากตำนานของเผ่า Night Sentinels ไปตลอดกาล…
ถึงจะไร้ซึ่งพันธมิตรแต่ Doomguy ก็ยังคงต่อสู้ต่อไป เมื่อนรกทนไม่ไหวจึงวางกับดักด้วยการถล่มวิหารทั้งหลังลงมาใส่ร่างเขา จากนั้นพวกมันก็ผนึกพระเอกของเราเอาไว้ในโลงหินต้องสาป และจับเขาทรมานติดต่อกันเป็นเวลาหลายร้อยหลายพันปี… จนกระทั่งมีมนุษย์ดาวอังคารกลุ่มใหม่ (น่าจะมาจากคนละมิติ) ที่ทำการวิจัยเกี่ยวกับพลังงานนรก ดั๊นไปจ๊ะเอ๋กับโลงหินที่ว่าในแดนอเวจี ความอยากรู้อยากเห็นทำให้สมาชิกในทีมสำรวจถูกอสูรฆ่าตายไปหลายคน พวกมันสู้ตายถวายชีวิตเพื่อไม่ให้มีใครเข้าใกล้โลงมรณะโลงนี้ แต่สุดท้ายมนุษย์ครึ่งเหล็กชื่อว่า Samuel Hayden ก็นำทีมฝ่าเข้าไปขนโลงที่ว่าออกมาจนได้ และเมื่อทัพนรกพรั่งพรูออกมาอาละวาดบนดาวอังคารอีกรอบ ฝาผนึกของโลงหินก็ถูกแง้มออก แล้วนาย Doomguy ในฐานะ “DOOM Slayer” ก็ลืมตา คว้าปืน เตรียมบรรเลงเพลงสวดศพให้พวกอสูรกันอีกครั้ง…
*โบนัส เพื่อนรักต่างแดนของนาย Doomguy
รู้ไหมว่าถึงจะดุขนาดนี้ ตานี่ก็มีมุมมุมิกับเค้าเหมือนกันนะ เพราะเขาเป็นเพื่อนสนิทกับแม่สาว Isabelle จากเกม Animal Crossing จ้า ต้นตอมันมาจากการที่เกม DOOM Eternal และ Animal Crossing: New Horizons ดันเลื่อนมาออกตรงกันพอดีในวันที่ 20 มีนาคม 2020 เกมเมอร์ช่างสังเกตก็เลยแห่วาดแฟนอาร์ตน่ารัก ๆ จับคู่ตัวละครจากทั้งสองเกมให้มาเจอกันซะเลย FC ของเกมสองเกมที่แทบจะไม่มีอะไรเหมือนกันก็ดันคุยถูกคอกันซะงั้น ส่วนทีมพัฒนา id Software ก็บ้าจี้เออออตามว่าสองคนนี้เค้าซี้กันจริงจริ๊ง ดังนั้นหากคุณเสร็จกิจจากการปลดปล่อยโทสะใส่อสูรใน DOOM Eternal เมื่อไหร่ ลองหลบมาพักร้อนบนเกาะใน Animal Crossing: New Horizons บ้างก็ได้นะ
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส