ท่ามกลางสถานการณ์ที่จะขยับตัวทำอะไรก็ลำบากไปหมดในช่วงนี้ อาจทำให้เราคิดถึงช่วงเวลาเรียบง่ายในวัยเด็กที่อะไร ๆ ก็ดูเรียบง่าย ทำอะไรก็สนุกไปหมด จะหยิบเกมไหนมาเล่นก็เพลินจนลืมเวลา ถึงแม้ในชีวิตจริงเราไม่ได้มีไทม์แมชชีนให้ย้อนเวลากลับไปหาความหลัง แต่โชคดีที่เรายังมี “เกมดี ๆ ” ให้ใช้รำลึกความทรงจำดี ๆ ได้เพียบ สำหรับใครที่อยากกลับไปสัมผัสประสบการณ์เล่นเกมสนุก ๆ แบบวันวานแก้เครียด วันนี้เรามีเกม Remake / Remastered ดี ๆ 6 เกมมาแนะนำให้คุณใช้ย้อนเวลากลับไปเล่นเกมอย่างแฮปปี้เหมือนกาลก่อน แถมทั้ง 6 เกมยังผ่านการอัปเกรดมาจนสนุกไม่แพ้ตอนที่คุณเคยเล่นมันครั้งแรกด้วยนะ!
ปล. ถ้ามีเกมเก่าเล่าใหม่ดี ๆ เกมไหนตกหล่นไปก็ช่วยมาบอกในคอมเมนต์กันนะจ๊ะ
อันดับ 6: Call of Duty 4: Modern Warfare Remastered
แพลตฟอร์ม: PC, Xbox One, PlayStation 4
ขาเกม FPS คงจะจำช่วงเวลาตอนได้เล่นสุดยอดเกมเดินหน้ายิงในสงครามยุคปัจจุบันอย่าง “COD4” เป็นครั้งแรกได้แม่นนักแล ทั้งแอ็คชั่นสุดมันส์ที่ให้เรารบเคียงบ่าเคียงไหล่กับนาวิกโยธินสหรัฐฯ และหน่วย SAS ทั้งงานออกแบบฉากสุดเจ๋งที่ทำให้เราลุ้นระทึกในฐานะพลซุ่มยิงที่ลอบเร้นเข้าไปหลังแดนข้าศึก หรือฉากที่เราโดนระเบิดนิวเคลียร์อัดเข้าอย่างจัง ความมันส์ระห่ำเหล่านี้จะกลับมาอย่างครบครันในภาค Remastered ที่คงความเจ๋งทุกอย่างเอาไว้แบบเดิม เพิ่มเติมคืองานภาพที่สวยขึ้นจนไม่แพ้เกม FPS ใหม่ ๆที่เพิ่งออก และงานเสียงที่หนักแน่นขึ้น ปืนแต่ละกระบอกยิงสะใจไม่รู้สึกว่าเป็นปืนเป๊าะแป๊ะ สองปัจจัยนี้เสริมให้โหมดแคมเปญที่มันส์อยู่แล้วให้เด็ดดวงยิ่งกว่าเก่า
นอกจากนี้เกมยังมาพร้อมมัลติเพลเยอร์ที่เป็นต้นแบบให้ COD แทบทุกภาคหลังจากนั้นด้วย ใครอยากกลับไปมันส์ในโหมดหลายผู้เล่นที่เรียบง่ายแต่มันส์ไม่เสื่อมคลายก็เข้าไปโจ้กันได้ ส่วนใครเล่นโหมดแคมเปญจบแล้วอารมณ์ค้างก็สามารถไปต่อในภาค Remastered ของ Modern Warfare 2 ได้ด้วยนะ จะได้นั่งเล่นไปยาว ๆ ในยุคทองของแคมเปญ Call of Duty ที่มาจากฝีมือทีม Infinity Ward ตัวจริงผู้ให้กำเนิดซีรี่ส์นี้
อันดับ 5: Crash Bandicoot N. Sane Trilogy
แพลตฟอร์ม: PC, Xbox One, PlayStation 4, Nintendo Switch
เชื่อว่าซีรี่ส์ Crash Bandicoot คือเกมแพลตฟอร์มเมอร์ชื่อดังที่เราทุกคนต่างเคยเล่นมาในยุค PlayStation เครื่องแรก (และเชื่อว่าหลายคนแทบจะปาจอยทิ้งเพราะมัน) ความสนุกจากการได้กระโดดพ้นขอบผาแบบหวุดหวิด ได้เก็บหน้ากาก Aku Aku 3 อันจนไร้เทียมทาน หรือบางทีแค่ได้เห็นนาย Crash ตายแล้วตายอีกด้วยวิธีแปลก ๆ ก็ฮาแล้ว
หากคุณอยากกลับไปเล่นเกมแนวแพลตฟอร์มเมอร์แบบสมัยก่อน เกม Crash ภาค N. Sane Trilogy เป็นตัวเลือกชั้นยอดที่จะให้คุณกระโดดหลบหลุมหน้าผาแบบเพลิน ๆ แบบยาว ๆ ไปเลย 15 ชั่วโมงติด เพราะมันรวบมาให้เล่นทีเดียว 3 ภาครวด แถมด้วยงานอัปเกรดภาพกราฟิกชนิดหน้ามือเป็นหลังเท้า จากกราฟิกแผ่น ๆ เหลี่ยม ๆ กลายเป็นตัวละครโพลิกอน 3 มิติสมบูรณ์แบบ คงไว้แต่ความยาก ship หายไม่เสื่อมคลายให้สายแพลตฟอร์มเมอร์ Old-School ได้สาแก่ใจ ส่วนใครที่คิดถึงเกม Crash แนวขับรถป่วน ๆ อย่าง Crash Team Racing ก็ไปลองเล่นภาคต่ออย่าง Crash Nitro Fuel ได้นะ รับรองว่ายังโหด มันส์ ฮา ไม่ต่างจากภาคในเครื่อง PS1 เหมือนกัน
อันดับ 4: The Legend of Zelda: Link’s Awakening
แพลตฟอร์ม: Nintendo Switch
ถ้าอยากจะรู้ว่าใครเป็นเกมเมอร์รุ่นเก๋าตัวจริง ต้องถามเลยว่าเคยผ่านเกม “The Legend of Zelda” ภาพ 8 บิทมาสักภาคไหม? หากใครเคยผ่านมาก็ต้องขอชาบู และหากใครอยากกลับไปเจอเกมผจญภัยที่เรียบง่ายแต่สนุก เน้นสู้แบบขำ ๆ และแก้ปริศนาแบบเพลิน ๆ เกม The Legend of Zelda: Link’s Awakening บนเครื่อง Switch คือเครื่องย้อนเวลาชั้นยอด มันจะพาคุณกลับไปสู่ยุคเกมกดยอดฮิตนามว่า “เกมบอย” แต่แทนที่คุณจะได้เห็นพิกเซลสีเขียว ๆ เหลี่ยม ๆ แบบหน้าจอเกมบอย คุณจะได้เห็นภาพโพลิกอนสวยเนียน สไตล์ตุ๊กตุ่นเซรามิกน่ารัก ๆ แทน
เกม Remake เกมนี้ทำมาเพื่อแฟนพันธุ์แท้ของภาคเก่าและเหล่าเกมเมอร์ที่อยากกลับไปเจอเกมแอ็กชันแอดเวนเจอร์ของแท้และดั้งเดิมเด๊ะ ๆ ให้ผู้เล่นได้สนุกกับการขบคิดแก้ปริศนา โดยทุกฉากทุกพัซเซิลที่เคยมีอยู่ในภาคเกมบอยคัลเลอร์เมื่อปี 98 ยังคงมีอยู่เหมือนเดิมไม่ผิดเพี้ยน แม้แต่เพลงประกอบยังใช้ตามของเดิมทุกโน้ตเลยคิดดู ทีมพัฒนาเขาแค่ปรับภาพกราฟิก องค์ประกอบศิลป์ และอนิเมชันทั้งหมดให้สวยงามเหมือนฉากของเล่น ดูโมเดิร์นสมกับเป็นเกมบนเครื่อง Nintendo Switch แต่ในขณะเดียวกันก็ยังให้อารมณ์คลาสสิกเหมือนเล่นเกมกด ใครคิดถึงช่วงเวลาที่เคยตัดผมทรงหัวเกรียน นั่งติดเกมบอย สลับกับเป่าตลับเกมจนตัวโก่ง ลองให้ Zelda ภาคนี้พากลับไปหาช่วงเวลาดี ๆ ในตอนนั้นดูสิ
อันดับ 3: Black Mesa
แพลตฟอร์ม: PC
คอเกม FPS พีซีรุ่นเก๋าคงจะจดจำเกมเดินหน้ายิงชื่อประหลาดอย่าง Half-life กันได้ ทั้งจากภาพกราฟิกสุดงามที่ทำให้เราต้องตาค้าง (เมื่อ 20 ปีก่อนอะนะ) งานออกแบบฉากที่ทำให้เราทั้งอินทั้งลุ้นระทึกแบบที่ไม่เคยเจอที่ไหน และศัตรูที่ยิงสู้ด้วยมันส์สุด ๆ การมาถึงของ Half-life ภาคแรกได้ยกระดับมาตรฐานใหม่ให้กับเกม FPS ทุกเกมที่ออกมาหลังจากนั้น แล้วยังให้กำเนิดเกมมัลติเพลเยอร์มันส์ ๆ อย่าง Counter-strike ให้เราเอาไว้เล่นกับเพื่อนตามร้านเน็ตอีกด้วย
Black Mesa คือโพรเจกต์แฟนทำเองที่ส่งมอบเกมเพลย์สุดคลาสสิกได้ดีกว่า Half-life ภาคต้นฉบับซะอีก โดยทีมพัฒนา Crowbar Collective เขาใช้เวลาเป็น 10 ปีปั้น Half-life ภาคแรกขึ้นมาใหม่จากกราฟิกเอนจิ้นของภาค 2 ซึ่งพวกเขาไม่ได้แค่ “แปลงโฉม” ของเก่าอย่างเดียว แต่ยัง “เติม” และ “แต่ง” ของใหม่เข้าไปให้เกมเล่นสนุกขึ้น อย่างเช่น ฉากสู้กับทหารบนพื้นดินและฉากมิติเอเลี่ยน Xen ที่แทบจะรื้อทำใหม่หมดเลยในขณะเดียวกันมันก็ยังเต็มไปด้วยกลิ่นอายจากเกมต้นตำรับ ไม่ว่าโมเดลปืน ดนตรีประกอบ เสียงเอฟเฟกต์ ทั้งหมดได้รับการยกเครื่องใหม่ แต่ก็ยังให้อารมณ์แบบเก่าที่คุณคุ้นทั้งด้านภาพและเสียง หากคุณเป็นแฟนซีรีส์นี้อยู่แล้ว กดมาเล่นเถอะ ประสบการณ์วันวานที่ได้รับคุ้มค่าราคาแค่ 289 บาทแน่นอน
อันดับ 2: Resident Evil 2 Remake
แพลตฟอร์ม: PC, Xbox One, PlayStation 4
Resident Evil (หรือ Biohazard สำหรับคนที่เล่นแผ่นญี่ปุ่น) ถือเป็นเกมสยองขวัญที่ให้กำเนิดเกมแนว Survival Horror ขึ้นมาในวงการ โดยเฉพาะ RE 2 ที่นอกจากจะขยายฉากให้ใหญ่และมีความหลากหลายกว่าภาคแรกหลายเท่า มันยังเพิ่มศัตรูสยองหน้าใหม่ให้สู้อีกเพียบ ทั้งยังมีจังหวะการเดินเรื่องที่ลุ้นระทึกปนสยองยิ่งกว่าเดิม ทุกคนคงจำอาการหวาดเสียวเวลาเปิดประตูแต่ละบานในสน. เมือง Raccoon กันได้ ความรู้สึกโล่งอกเวลาเจอต้นไม้สีเขียววางอยู่ในห้องเซฟ และความกดดันเวลาที่ต้องเจอกับอี Licker ลิ้นยาวป้วนเปี้ยนอยู่ตามโถงทางเดิน หากคุณอยากกลับไปเจอความสยองในวัยเด็กแบบนั้นอีกล่ะก็ RE2 Remake พร้อมจะทำให้คุณกรี๊ดแตกลั่นบ้านเหมือนเมื่อ 20 ปีก่อนเด๊ะ
นอกจาก RE2 Remake จะยังคงความสยองแบบคลาสสิกเหมือนที่เกมเมอร์รุ่นเดอะยังจำกันได้ เกมยังอัดของใหม่เข้ามาแบบไม่เหนียม ทั้งกราฟิกสุดงามอย่างกับฉากในหนัง สน.ตำรวจเมือง Raccoon ก็ปรับโฉมใหม่ซะดูดีมีสกุล แต่ก็ยังเต็มไปด้วยปริศนาตามซอกหลืบที่คนเคยเล่นเวอร์ชันแรกต้องจำกันได้ ส่วนมุมกล้องแบบมองผ่านไหล่ก็ทำให้เกมเล่นง่ายขึ้นเยอะ นอกจากนี้เกมยังเพิ่มฉากเหตุการณ์ใหม่ที่ทำให้เนื้อเรื่องของทั้ง Leon และ Claire สมบูรณ์ขึ้น และบอสมหาโหดทั้งหลายก็น่ากลัวขึ้นด้วย (โดยเฉพาะนาย Mr. X ที่เดินป้วนเปี้ยนอยู่ได้) เรียกได้ว่าเป็นการคืนฟอร์มให้ภาคต่อของเกมสยองขวัญคลาสสิกและชื่อแบรนด์ CAPCOM แบบเต็มๆ แล้วแบบนี้แฟนเกมสยองขวัญรุ่นใหญ่จะยอมพลาดได้ไง?
อันดับ 1: Final Fantasy VII Remake
แพลตฟอร์ม: PS4
เกมเมอร์ท่านไหนที่โตมากับเกมญี่ปุ่นโดยเฉพาะเกใมแนว “JRPG” คงจะไม่พลาดซีรี่ส์ Final Fantasy มาแน่ โดยเฉพาะไฟนอล 7 ที่ขึ้นหิ้งคลาสสิกในดวงใจหลาย ๆ คนผู้เคยมีเครื่อง PlayStation เครื่องแรกไว้ในครอบครอง ทั้งเรื่องที่มันเป็นเกม FF เกมแรกที่ใช้กราฟิกสามมิติเต็มรูปแบบ มีตัวละครที่เป็นเอกลักษณ์น่าจดจำเป็นขบวน และยังมีฉากหักมุมในตำนานที่กระแทกหัวใจเกมเมอร์ประหนึ่งประสานงาด้วยรถสิบล้อ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าไฟนอล 7 คือเกมที่อบอวลไปด้วยวันหวานอันหอมหวานของเกมเมอร์มากมาย และข่าวดีที่เซอร์ไพรส์มากก็คือเกม Final Fantasy VII Remake สามารถรักษาประสบการณ์ดี ๆ ในวัยเยาว์ที่ว่าได้อย่างไม่ทำให้แปดเปื้อน แถมมันยังปรุงแต่งความทรงจำเหล่านั้นให้สนุกกว่าเก่าด้วยองค์ประกอบใหม่ ๆ ที่จะทำให้คุณต้องประหลาดใจ
แม้เกมที่ออกมาจะเป็นแค่ส่วนเดียวของเนื้อเรื่องเดิมทั้งหมด แต่ Square Enix ได้ใช้เวลา 5 ปีเต็มเก็บทุกรายละเอียดในทุกองค์ประกอบเกม ทั้งฉากเมืองสลัมใน Midgar บทสนทนาใหม่ที่เติมบุคลิกให้กับตัวละครหน้าเดิมทุกตัวที่เราจำกันได้ แม้แต่ระบบการต่อสู้ก็เปลี่ยนจาก Turn-Based มาเป็นแอ็กชันเรียลไทม์เต็มรูปแบบ แต่ก็ยังแฝงองค์ประกอบด้าน Tactic แบบเดิมเอาไว้ เรียกว่าเป็นภาคจินตนาการใหม่ทั้งเกมน่าจะเหมาะกว่าคำว่า Remake เพราะมันให้ความรู้สึกเหมือนเกมเก่าที่เราคุ้นเคยแต่ก็เต็มไปด้วยของใหม่มากมาย ส่วนเนื้อเรื่องก็เป็นการขยายความส่วนปฐมบทของไฟนอล 7 ใหม่หมดแบบจบในตัวเอง และยังแถมจุดเซอร์ไพรส์หลายจุดที่แฟน ๆ ไม่คาดคิดว่าจะได้เจออีกต่างหาก ที่สำคัญที่สุดคือภาพกราฟิกในเกมนี้ยังสวยงามขึ้นกว่าภาคต้นตำรับราวฟ้ากับเหว สวยระดับที่ว่าทุกฉากทุกตอนในเกมดูเหมือนภาพยนตร์คั่นฉากไปเลย โดยเฉพาะหน้าน้องนางแต่ละคนนี่สวยเช้งซะจนใจสั่นระทวย
Final Fantasy VII Remake คือที่สุดของเกมเก่าเล่าใหม่ในอุดมคติ เพราะมันแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของทีมพัฒนาที่ไม่ได้สักแต่ว่าอัพเกรดภาพและเสียงให้มันจบ ๆ ไป มันชี้ให้เห็นว่าพวกเขาต้องการขัดเกลาเกมคลาสสิกในหัวใจเกมเมอร์ให้ดีขึ้นจริง ๆ แม้การเปลี่ยนแปลงบางจุดอาจจะไม่ถูกใจแฟนเดนตายบ้าง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าไฟนอล 7 เวอร์ชันนี้เป็นเกมดีมีคุณภาพของจริงไม่มีสิ่งไร้สาระเจือปน ฟันธง!
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส