เรียกได้ว่าติดกันทั่วบ้านทั่วเมืองกับเกม Animal Crossing: New Horizons ซึ่งปัจจุบันได้วางจำหน่ายไปแล้วทั่วโลกมากกว่า 13.4 ล้านชุด ซึ่งเกมได้ถูกวางจำหน่ายมาเพียง 1 เดือนนิด ๆ เท่านั้นเอง ซึ่ง beartai ขอแนะนำ Tip 5 วิธีหา “Bells” หรือค่าเงินในเกมแบบคุ้มค่าใน Animal Crossing: New Horizons มาฝากกลุ่มผู้เล่นหน้าใหม่ที่กำลังประสบกับปัญหา “Bell” ขาดมือ ทำอะไรไม่สะดวกกันครับ

วิธีที่ 1: เก็บผลไม้ขาย

วิธีแรกเป็นวิธีเริ่มต้นที่ทุก ๆ คนคุ้นเคยกันดี นั่นคือการเก็บผลไม้ขายใช่ไหมครับ แต่จริง ๆ แล้วมันมีเทคนิกพิเศษโดยเฉพาะคนที่เล่นกับเพื่อน (เพราะเกมนี้เอามาเล่นคนเดียวก็จะเหงาเกินไป) ซึ่งโดยปกติผลไม้ที่เมืองเราจะสามารถขายได้แค่ 100 bells และผลไม้ต่างเมืองก็จะขายได้ที่ 500 bells ดังนั้นเรา ก็แค่ให้ทำการแลกเปลี่ยนผลไม้กับเพื่อน โดยช่วงแรกอาจจะเอามาปลูกก่อน ซึ่งผลไม้เมื่อทำการปลูก จะใช้เวลา 5 วันจริง(นับวันที่ปลูก) ในการเติบโต โดยไม่ต้องรดน้ำต้นไม้ และจะให้ผลผลิตครั้งแรกทันที 3 ลูกเมื่อเติบโต และหลังจากนั้นจะเติบโตต่อเนื่องทุก ๆ 2 วัน เรียกได้ว่าปลูกครั้งเดียว ได้เงิน 1,500 bells ต่อต้น แถมได้แบบต่อเนื่องไปยาว ๆ (Passive Income สุด ๆ) แถมนอกจากนี้ยังมี DIY Receipt หลาย ๆ อย่างที่เอาผลไม้มาทำเพื่อเพิ่มความสวยงามให้กับตัวเราและเมืองได้อีกด้วย

ผลไม้ที่มีภายในเกม

  • Apple
  • Cherry
  • Coconut (จะออกผลแค่ 2 ลูกและขายได้ 250 Bells ต่อลูกเท่านั้นทุกที่)
  • Orange
  • Pear
  • Peach

*แนะนำเพิ่มเติม ให้เราเอาผลไม้ของเมืองตัวเองไปขายยังเมืองของเพื่อน (ที่ไม่ได้เป็น Main Fruit เดียวกัน) แค่นี้ก็ได้เงิน 500 Bells ต่อผลเช่นเดียวกัน

และนอกจากนี้ถ้าเราเห็นแสงที่เรือง ๆ ตามพื้น เมื่อเราขุดขึ้นมา เราจะได้รับเงิน 1,000 Bells แต่เราสามารถเอาเงินฝังกลับไปได้ แล้วเงินนั้นจะงอกกลับออกมาเป็น 3 เท่า โดยมูลค่าที่คุ้มที่สุดจะอยู่ที่ 10,000 Bells เมื่อฝังแล้วต้นไม้เติบโต จะได้รับเงินกลับมา 30,000 Bells อย่างแน่นอน แต่ถ้าใครอยากลุ้นก็สามารถฝังได้สูงสุดถึง 99,000 Bells โดยจะมีโอกาสเสี่ยงที่จะเหลือเงินเพียง 10,000 Bells ต่อถุง (รวม 30,000 Bells) เท่านั้น!

วิธีที่ 2: ทำอุปกรณ์ DIY ขาย

อีกวิธีคือ การทำของ DIY ขาย ซึ่งราคาที่ได้จะมีมูลค่าเท่ากับอุปกรณ์ที่เราใช้ประกอบ x 2 ขึ้นไป (ยกตัวอย่างเช่น Hay Bed ใช้ Weed 20 อัน ถ้าขายทันทีจะได้ 200 Bells แต่ถ้าเอาไป DIY จะขายได้ 400 Bells เป็นต้น) ก็ทำให้เราได้เงินมากกว่าเดิมเยอะ

และเมื่อเราเล่นไปจนถึงมีร้าน Nook’s Cranny แล้ว เราจะเห็น Menu ที่เรียกว่า What’s hot today? ซึ่งจะบอกว่า วันนี้มีอะไรที่พวกเขาสนใจเป็นพิเศษบ้าง ซึ่งเมื่อเราขายก็จะได้เงินกลับมา x2 จากราคาอุปกรณ์เดิม นั่นหมายความว่าเราจะได้เงินถึง 4 เท่าขึ้นไปจากค่าอุปกรณ์เริ่มต้นนั่นเอง

วิธีที่ 3: จับปลา จับแมลงขาย

อีก 1 วิธี Basic ที่หลาย ๆ คนทำกันอยู่แล้ว นั่นคือการไล่จับปลา จับแมลง เก็บหอยมาขายเพื่อเอาเงินไปทำทุนต่อไป ยิ่งเราจับของแพงมาเท่าไหร่ ก็ขายได้กำไรเท่านั้น โดยเฉพาะการเดินทางไปเกาะพิเศษ The Mystery Tour โดยใช้ตั๋ว Nook miles ticket นั่นเอง ซึ่งเกาะเหล่านี้จะมีจุดเด่นตรงที่ จะมีปลาและแมลงที่เกิดเป็นจำนวนมาก ซึ่งก็ทำให้เราสามารถหาเงินมาได้เป็นกอบเป็นกำเลยล่ะครับ

ไปรอบเดียวก็รวยไม่รู้เรื่อง

โดยมีคำแนะนำคือ ให้เราหาเว็บไซต์ในการดูข้อมูลว่า ปลาหรือแมลงชนิดไหนมีราคาเท่าไหร่บ้าง ถ้ามีราคาถูก ก็ให้ปล่อยไป อย่าไปเสียดายครับ เพราะค่าตั๋วแพงกว่าเยอะ

และการปลูกดอกไม้ไว้เยอะ ๆ ก็เป็นอีกวิธีที่หลาย ๆ คนทำเพื่อเพิ่มความสวยงามให้กับเมือง แต่จริง ๆ ไม่เพียงแค่ความสวยงามเท่านั้น วิธีนี้ยังมีข้อดีคือ มันจะมาพร้อมกับแมลงพิเศษต่าง ๆ มากมายที่มีโอกาสเกิดมากขึ้น ซึ่งแมลงก็จะเกิดในบริเวณนี้เพียงอย่างเดียว ไม่ต้องวิ่งไปทั่วเกาะให้เมื่อย เรียกว่ายิงปืนนัดเดียวได้นก 2 ตัว ได้ทั้งเกาะสวย แถมยังได้ทุ่งสำหรับจับแมลงอีกต่างหาก

วิธีที่ 4: เก็บไว้เพื่ออนาคต

วิธีนี้สำหรับคนที่เริ่มมี Bells เหลือใช้ไม่ขาดมือแล้ว นั่นคือการ “เก็บ” ปลาหรือแมลงที่มีมูลค่าพอสมควรเอาไว้ก่อน ไม่ว่าจะเป็นการเก็บในเกาะโดยการวางไว้ หรือจะเป็นการเก็บใน Storage ของบ้าน ซึ่งในเกม Animal Crossing: New Horizons นี้ก็จะมี NPC พิเศษหลายตัวด้วยกันที่คอยมาแวะเวียนเยี่ยมเมืองของเราเมื่อเมืองได้มีการพัฒนามาถึงระดับหนึ่งแล้ว ซึ่งจะมี NPC 2 ตัวหลัก ๆ คือ

C.J.

NPC สายตกปลาที่จะเข้ามาในเมืองเราเพื่อจัด Event ตกปลาพิเศษ รวมไปถึงการรับซื้อปลาในมูลค่าที่สูงกว่าเดิมถึง 50% นั่นเอง

Flick

อีก 1 NPC ที่มีโอกาสแวะเข้ามาในเมืองของเรา โดย Flick จะรับซื้อแมลงในมูลค่าที่สูงกว่าเดิม 50% เช่นกัน

วิธีที่ 5: ซื้อหัวผักกาดเพื่ออนาคต

วิธีสุดท้ายนี้คือ 1 ในวิธีที่รวยเร็วที่สุด และเสี่ยงที่สุดเช่นกัน โดยวิธีนี้แนะนำสำหรับคนที่มีเงินติดตัวอยู่พอสมควร และมีพื้นที่ภายในบ้านเหลือ นั่นก็คือการซื้อหัวผักกาด หรือ Turnip ผ่าน NPC Daisy Mae ที่จะเดินทางมาทุก ๆ วันอาทิตย์ของแต่ละสัปดาห์นั่นเอง โดยราคาของ Turnip จะอยู่ที่ประมาณ 100 Bell ต่อหัว (ราคาไม่แน่นอน) ซึ่งจะถูกบังคับซื้อที่ 10 หัวขึ้นไป และพกได้ 100 หัวต่อ 1 ช่อง ซึ่งหัวผักกาดจะมีความพิเศษแตกต่างจากไอเทมชนิดอื่นของเกมคือ มันจะเน่าทันทีถ้าเราวางไว้นอกตัวบ้านเป็นเวลา 1 วัน และจะเน่าเมื่อเวลาผ่านไป 1 สัปดาห์ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม และไม่สามารถเก็บใส่ในช่องเก็บของในบ้านได้ ซึ่งทำให้เราต้องหาวิธีทำยังไงก็ได้ให้ผักกาดอยู่ภายในบ้านของเรา โดยไม่ล้นออกมานั่นเอง

Daisy Mae

อีก 1 NPC ที่ทุก ๆ คนทั้งรักทั้งเกลียดในเวลาเดียวกัน โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ไม่มีเวลาเช็กราคาของหัวผักกาดตลอด เรียกได้ว่าถ้าใครขาดทุนนี่แทบจะอยากเอาเธอไปทำหมูป่าผัดเผ็ดเลยทีเดียว

พอเราซื้อเรียบร้อย เราก็จะสามารถเช็กราคาที่จะขายได้ที่ร้าน Nook Cranny ซึ่งราคาจะอัปเดตแบ่งออกเป็นช่วงเช้าคือ ตั้งแต่เวลาร้านเปิดจนถึงก่อน 12:00 น. และช่วงบ่ายคือ ตั้งแต่เวลา 12:00 น. ไปจนถึงเวลาร้านปิดนั่นเอง จึงทำให้หลาย ๆ คนมีโอกาสพลาดการเช็กราคาช่วงเช้าไปได้ ยิ่งใครซื้อเยอะ ๆ อย่าลืมคอยเช็กราคานะครับ

สำหรับใครที่เพื่อนเยอะ (อีกแล้ว) เราก็มีวิธีง่าย ๆ คือการ “ถาม” เลยว่า ร้านที่เมืองเขาขายอยู่เท่าไหร่ ถ้าเราพอใจราคา ก็ให้เอาหัวผักกาดที่บ้านเราบินไปขายที่เมืองเขาได้ ซึ่งก็อาจจะแบ่งเงินให้เพื่อนเล็กน้อยเป็นค่าเสียเวลา หรือไม่ถ้าเราได้ราคาที่ดีพอ ก็อาจจะเปิดแบบ Public ให้คนเดินทางมาขายที่เมืองเราโดยแลกเป็นค่าเข้าเมืองก็ได้เช่นกัน (แต่อย่าลืมทำทางกั้นดี ๆ ด้วยนะ เดี๋ยวเจอเกรียนเหยียบดอกไม้พังหมดไม่รู้ด้วย)

ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียง 5 วิธีเบื้องต้นที่ใช้หาเงินภายในเกม Animal Crossing: New Horizons ก็หวังว่าหลาย ๆ คนจะตั้งตัวได้ไว เพื่อเอาเงินไปสร้างเมืองที่น่าอยู่ของเราและชวนเพื่อน ๆ มาเล่นกันเยอะ ๆ นะครับ

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส