การเล่นเกมได้อะไรมากกว่าที่คิด คำพูดสั้น ๆ ของคนเล่นเกมที่พยายามสื่อสารไปยังคนที่ไม่ได้เล่นเกม และมองว่าเกมที่เราเล่นนั้นมันไร้สาระ ที่ไม่มีอะไรน่าสนใจไปกว่าการเล่นเกมเพื่อความบันเทิง แม้เราจะบอกว่าเราได้ภาษาตอนเล่นเกมมันก็ไม่มากพอที่จะเอามาอ้างได้ เมื่อคิดได้แบบนั้นเราจึงไปค้นหาเกมที่น่าสนใจ ที่สามารถเอามาอ้างอิงบอกคนที่ไม่ได้เล่นเกม ว่าวิดีโอเกมที่เรานั่งเล่นอยู่นั้นก็มีสาระและสอนเราในหลาย ๆ เรื่อง ที่สามารถเอามาใช้ในชีวิตประจำวันได้ และนี่คือ 10 เกมและแนวเกมต่าง ๆ ที่สอนคนเล่นเกมในเรื่องต่าง ๆ เพื่อคุณจะได้เอาสิ่งนี้ไปบอกคนที่ไม่ได้เล่นเกมให้เข้าใจ จะมีเรื่องอะไรบ้างนั้นมาดูกันเลย
คำเตือน.เนื้อหาในบทความเป็นเชิงเปรียบเทียบเท่านั้นโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
ได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์เหมือนไปเดินพิพิธภัณฑ์
เรื่องแรกที่คุณจะได้จากการเล่นเกม นั่นคือการเรียนรู้ประเพณีศิลปวัฒนธรรมต่าง ๆ ทั่วโลก ทั้งแบบในโลกอดีตผ่านเกมซีรีส์ Assassin’s Creed ที่ทุกภาคของเกมในซีรีส์นั้นจะพาเราไปยังยุคสมัยต่าง ๆ ทั้งแต่ประเทศอียิปต์ในยุคโบราณ ไปจนถึงยุคกลางในประเทศอื่น ๆ ที่แม้แต่นักประวัติศาสตร์ที่ได้เห็นฉากในเกม Assassin’s Creed ยังยอมรับเลยว่าทีมพัฒนาใส่ใจและอ้างอิงสิ่งต่าง ๆ ที่มีอยู่จริงมาใส่ในเกมได้อย่างลงตัว และเมื่อเราได้เข้าไปเล่นในเกมเราก็จะได้เห็นสิ่งต่าง ๆ มากมายที่สมจริง ไม่ต่างอะไรกับการไปเดินในพิพิธภัณฑ์ผ่านการเล่นเกม ที่ทำให้เราได้ความรู้เอาไปบอกกับคนอื่นได้
นอกจากโลกในยุคอดีตแล้วในหลาย ๆ เกมก็ได้อ้างอิงฉากและเรื่องราวจากความจริงในประวัติศาสตร์โลก อย่างสงครามเย็นหรือสงครามโลกครั้งที่ 1 กับ 2 ที่คนซึ่งเล่นเกมแนวยิงอย่าง Battlefield หรือ Call of Duty จะทราบเรื่องราวในประวัติศาสตร์เป็นอย่างดี ทั้งการสังหารหมู่ชาวยิวนับล้าน สงครามการต่อสู้ในประเทศต่าง ๆ ที่หาไม่ได้จากในห้องเรียน ที่หลายคนอาจจะบอกเชิงประชดว่าจะรู้ไปทำไม เรื่องแบบนี้รู้ไปแล้วจะทำอะไรได้ ก็คงต้องบอกคนเหล่านั้นว่า การเรียนรู้ประวัติศาสตร์มันทำให้เราเข้าใจในสิ่งที่เคยเกิดขึ้น ทั้งความผิดพลาดความดีงามที่คนในอดีตทำไว้ และหลายสิ่งในตอนนั้นก็ยังส่งผลอยู่ในยุคปัจจุบัน แถมการเรียนรู้ก็ไม่ต้องแบกหามอะไร(รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม) แถมยังทำให้เราดูเป็นคนมีความรู้มากกว่าจะโดนด่าว่าเป็นแค่เด็กติดเกมอีกด้วย
เรียนรู้การรักษาพยาบาลเบื้องต้น
อีกหนึ่งสิ่งที่เราจะได้จากการเล่นเกม นั่นคือการเรียนรู้เรื่องราวต่าง ๆ ที่หาไม่ได้ทั่วไป และมันก็เป็นสิ่งที่สามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้ อย่างการรักษาพยาบาลผู้บาดเจ็บเบื้องต้น เช่นแผลถูกมีดบาดแผลฟกช้ำหรืออาการกระดูกหัก ที่ไม่ใช่แค่เอาไม้มาดามแล้วเอาผ้ามันแบบที่เห็นในภาพยนตร์ ไปจนถึงการถูกงูกัดหรือบาดเจ็บแบบที่เราก็ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่เราจะได้เรียนในห้องเรียนหรือมีใครมาบอกเราว่าควรทำอย่างไร แต่ในวิดีโอเกมหลายเกมนั้นจะให้เรารับบทเป็นหมอแบบต่าง ๆ ตั้งแต่แพทย์ฝึกหัดไปจนถึงแพทย์ที่ต้องผ่าตัดผู้ป่วย ที่เราซึ่งได้เล่นเกมนี้อาจจะไม่ได้เก่งขนาดไปผ่าใครได้เหมือนในเกม แต่เราก็สามารถคาดเดาอาการป่วยจากการวินิจฉัยที่เกมจะให้เราทำได้
ในหลาย ๆ เกมที่เราได้เล่นเกี่ยวกับการเป็นแพทย์นั้น ตัวเกมจะให้เราวินิจฉัยอาการป่วยของคนไข้ด้วยวิธีการต่าง ๆ ที่เกมจะบอกให้เราทำ ซึ่งการเล่นนั้นจะมีอาการบาดเจ็บแบบต่าง ๆ ทั้งแบบเล็ก ๆ น้อย ๆ จนไปถึงอุบัติเหตุใหญ่ ๆ ที่เราสามารถปฐมพยาบาลเบื้องต้นอย่างถูกวิธี ก็สามารถช่วยให้คนป่วยรอดชีวิตหรืออาการป่วยไม่บานปลายได้ อย่างอุบัติเหตุหลาย ๆ ครั้งเราห้ามเคลื่อนย้ายคนป่วยจนกว่ารถพยาบาลจะมา หรือการบวมจากอุบัติเหตุอาจจะเกิดจากกล้ามเนื้อหรือกระดูกหัก ที่เกมเหล่านี้จะสอนเราให้ดูเป็น ดังนั้นถ้าคุณบอกว่าเกมไร้สาระก็คงจะพูดแบบนั้นไม่ได้แล้ว ส่วนเกมที่มีเกี่ยวกับการแพทย์ก็อย่าง Trauma Center Under the Knife หรือ LifeSigns Surgical Unit เอาไว้มีโอกาสจะรวบรวมเกมเกี่ยวกับแพทย์มาให้ได้หามาเล่นกัน
ได้เรียนรู้การทำอาหาร
ต้มผัดแกงทอดหอมอร่อยในพริบตา คำกล่าวโฆษณาที่หลายคนน่าจะคุ้นหูที่พูดแล้วเหมือนจะง่ายเกี่ยวกับการทำอาหาร เพราะการทำอาหารนั้นไม่ใช่แค่การหั่นผักสับหมูใส่เครื่องปรุงน้ำปลาพริกต้ม ๆ ทอด ๆ ก็เสร็จ แต่ทุกอย่างนั้นมีวิธีของมัน ทั้งการหั่นผักหั่นเนื้อก็ใช้วิธีที่ต่างกัน รวมถึงการทำอาหารแบบต่าง ๆ ที่ไม่ใช่แค่ใช้เครื่องปรุงสำเร็จรูปที่ขายตามร้านแบบในสมัยนี้ แต่มันคือวิถีที่ต้องใช้ประสบการณ์ในการลงมือทำ และเชื่อว่าหลายคนที่เมื่อเห็นอาหารเมนูน่ากินเหล่านี้ตามสถานที่ต่าง ๆ ก็คงอยากจะลงมือทำบ้าง แต่พอดูวิธีสอนทำในอินเทอร์เน็ตหรือซื้อหนังสือมาทำตามมันก็ยังยาก ถ้าแบบนั้นเรามาลองเล่นในเกมดูก่อนไหม เราจะได้เข้าใจว่าอะไรต้องทำอย่างไร แถมเรายังได้ลงมือทำอาหารเอง(ในเกม) อีกด้วย
โดยเกมสอนทำอาหารเหล่านี้จะสอนคุณตั้งแต่วิธีการหั่นสิ่งต่าง ๆ ว่าต้องทำอย่างไรท่าไหน อย่างเกมซีรีส์ Cooking Mama ที่จะสอนเราหมดทุกขั้นตอน เริ่มตั้งแต่การเลือกเมนูว่าต้องการจะทำอะไร ที่มีอยู่หลายเมนูที่น่ากินทั้งนั้น พอเลือกเมนูแล้วเกมจะสอนเราให้ทำอาหารนั้น ๆ ตั้งแต่หั่นวัตถุดิบกวนส่วนผสมใส่เครื่องปรุง รวมถึงนวดแป้งไปจนถึงผัดในกระทะ ทุกขั้นตอนเราต้องควบคุมเองด้วยมือของเราทั้งหมด และพอเราทำจนเสร็จทีนี้เราก็สามารถไปซื้อวัตถุดิบมาทำเองได้แล้ว เพราะการได้ลงมือขยับหรือทำเองในเกม มันย่อมดีกว่าการนั่งดูแล้วทำตามไปทีละขั้นจากในจอมือถือ มันจะทำให้เราไม่ได้เรียนรู้เท่ากับการทดลองทำจริง(ในเกม) และหลายคนที่ได้เล่นเกมแล้วลองเอาไปทำจริง ๆ ก็มีอยู่มากมาย แถมเกมแนวสอนทำอาหารก็มีอยู่มากมายแม้แต่บนโทรศัพท์มือถือ ยังก็ลองไปหามาเล่นดู แต่ข้อเสียคืออาหารเหล่านั้นมักจะเป็นอาหารต่างประเทศไม่ใช่อาหารในบ้านเราเท่านั้น แต่ถ้าลองฝึกบ่อย ๆ ก็จะเก่งจนสามารถทำเมนูอื่น ๆ ได้อย่างแน่นอน
ได้เรียนรู้เกี่ยวกับจิตใจแง่มุมความคิดของตนเองและผู้อื่นจากในเกม
ถ้าใครหลายคนได้เรียนรู้อะไรต่าง ๆ จากการชมภาพยนตร์ ทั้งแง่มุมในเรื่องต่าง ๆ รวมถึงความคิดและความรู้จากการชมภาพยนตร์ คนที่เล่นเกมก็คงจะได้เห็นสิ่งเหล่านี้มากกว่า เพราะการเล่นเกมนั้นก็เหมือนตัวเราได้หลุดเข้าไปในเกม และหลายครั้งในเกมที่เราเล่นจะมีคำถามหรืออิสระให้เราทำในสิ่งต่าง ๆ ที่โลกแห่งความเป็นจริงทำไม่ได้ อย่างการป่วนเมืองหรือฆ่าคน แต่ก็มีหลายเกมที่ห้ามเราทำหรือทดสอบเราด้วยคำถาม หรือทางเลือกเพื่อดูว่าเราเป็นคนอย่างไร เช่นเกม Until Dawn เกมแนวดูเนื้อเรื่องแบบภาพยนตร์แต่เราสามารถเลือกเส้นทางที่จะเกิดขึ้นได้ และหลายครั้งในเกมก็จะทดสอบเราว่าเราเป็นคนแบบไหนเมื่อเจอเหตุไม่คาดคิด เราเป็นคนที่เห็นแก่ตัวไม่สนใจคนอื่น เป็นคนที่เสียสละช่วยผู้คน หรือเป็นคนขี้กลัวที่เอาตัวเองรอด ที่ถ้าเราไม่โกหกตัวเองและเล่นตามที่ตัวเองรู้สึกจริง ๆ คุณจะได้เห็นผลที่ตามมาจากการกระทำของคุณในตอนท้ายเกม
และการเล่นเกมก็ไม่ใช่แค่การเห็นตัวเองเท่านั้น แต่การเล่นเกมยังทำให้เราเห็นจิตใจคนอื่นด้วย โดยเฉพาะเกมแนวออนไลน์ที่เราจะได้เล่นกับผู้เล่นคนอื่นแบบเป็นทีม เราจะได้เห็นผู้คนมากมายที่เปิดเผยตัวจริง ๆ ออกมาจากการเล่นเกม อย่างคนที่ชอบสั่งคนนั้นคนนี้ให้ทำตาม คนหัวร้อนขี้โมโห คนที่ชอบช่วยเหลือคนอื่น หรือคนที่เอาแต่เล่นไม่สนใจใคร ที่ในโลกปกติเราอาจจะเห็นเขาเป็นนิ่ง ๆ พูดน้อยหรือเป็นคนตลก แต่พอมาในเกมกลับกลายเป็นอีกคน ยิ่งเป็นคนที่เรารู้จักการเล่นเกมจะเปิดเผยตัวตนที่ซ่อนเอาไว้ เหมือนตัวตนในโลก Social ที่มักจะเป็นตัวตนจริง ๆ มากกว่าโลกปกติที่เราต้องสวมหน้ากากเข้าสังคม และน้อยคนนักที่จะเปิดเผยตัวจริง ดังนั้นการเล่นเกมก็เป็นอีกสิ่งที่ทำให้เราเรียนรู้ตัวเอง และเรียนรู้คนอื่นด้วยว่าเราเป็นคนแบบไหน
สามารถประยุกต์สิ่งที่เล่นในเกมมาใช้ในชีวิตจริงได้
อีกหนึ่งสิ่งที่คนไม่ได้เล่นเกมไม่เข้าใจ นั่นคือการประยุกต์สิ่งที่เล่นในเกมมาใช้ในชีวิตจริงได้ อย่างการขับรถ ขับเครื่องบิน ควบคุมรถไฟ การยิงปืน หรือแม้แต่การทำอาหารที่เราได้อธิบายไปแล้ว เพราะเกมในยุคนี้นั้นจะเน้นที่ความสมจริง ที่นอกจากกราฟิกที่สวยแล้วยังมีระบบควบคุมต่าง ๆ ในเกมยังอ้างอิงมาจากของจริง เช่นการเลี้ยวรถการเบรก การทิ้งน้ำหนักของรถตอนเลี้ยวไปจนถึงการควบคุมพวงมาลัย ที่เราไม่ได้บอกว่าทุกคนที่เลนเกมแข่งรถด้วย Controller พวงมาลัยหรือ Controller แบบปกติจะทำให้คุณกระโดดขึ้นรถจริงแล้วขับเป็นเลย แต่มันคือการฝึกพื้นฐานการเรียนรู้แบบสมจริง ซึ่งหลายคนที่เล่นเกมมาก่อนก็สามารถขับรถเป็นได้อย่างรวดเร็วกว่าคนไม่ได้เล่นเกม เพราะวิธีการควบคุมต่าง ๆ ในของจริงมันเหมือนกับในเกม
และสิ่งที่เรากล่าวมาในต่างประเทศก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว กับเด็กชายวัย 10 ขวบที่ช่วยชีวิตคุณตาที่กำลังขับรถแล้วเกิดเป็นลม จนหลานชายมาช่วยควบคุมพวกมาลัยจนคุณตาได้สติจนไม่เกิดอุบัติเหตุ โดยเด็กชายบอกว่าเพราะเกม Mario Kart จนสามารถควบคุมรถได้ หรือจะเป็นชายหนุ่มที่ไปขอสมัครเข้ากองทัพสหรัฐ ฯ และสามารถใช้ปืนยิงได้อย่างแม่นยำทั้งที่ไม่เคยจับปืนจริง เขาบอกว่าได้ความสามารถในการควบคุมเล็งยิงมาจากในเกม Counter-Strike จนอยากมาเป็นทหาร ถึงเรื่องเหล่านี้จะดูเล็กน้อยแต่ก็เป็นหนึ่งในทักษะที่เราสามารถประยุกต์เอามาใช้ในชีวิตได้ แม้จะดูไม่ยิ่งใหญ่แต่มันก็ดีกว่าไม่เป็นไม่รู้ไม่ได้เลยจริงรึเปล่า
เรียนรู้การเอาตัวรอด
อีกหนึ่งทักษะการเอาตัวรอดที่เราสามารถเรียนรู้ได้จากการเล่นเกม ก็คือการเอาชีวิตรอดในแบบต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นแบบไม่คาดฝัน อย่างแผ่นดินไหวตึกถล่มคลื่นสึนามิไปจนถึงพายุฝนน้ำท่วมที่มันอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เราจะได้เจอทุกวันหรือบ่อย ๆ (ยกเว้นน้ำท่วม) แต่เมื่อเจอแล้วเราจะเอาตัวรอดจากสถานการณ์เหล่านั้นได้รึเปล่านั่นคือสิ่งที่น่าคิด เพราะสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่เราจะได้เจอกันบ่อย ๆ และการเรียนรู้วิธีเอาชีวิตรอดกับเรื่องเหล่านี้ก็ไม่มีสอนตามโรงเรียน หรือแม้แต่ดูในภาพยนตร์ก็ไม่มากพอที่จะช่วยให้คุณผ่านไปได้ แต่ในวิดีโอเกมเราจะได้ไปมีส่วนร่วมในเหตุการณ์ดังกล่าวครบทุกอย่าง และเราที่เป็นผู้รอดชีวิตในเกมก็จะได้เรียนรู้ลองผิดลองถูกในการเอาตัวรอด เช่นการหาน้ำหรืออาหารอย่างในเกมซีรีส์ Disaster Report ที่สอนเราในการเอาตัวรอดในเมืองที่ถูกแผ่นดินไหวตึกถล่ม
และนอกจากการเจออุบัติภัยต่าง ๆ ในเมืองแล้ว ในหลาย ๆ เกมที่เราเล่นก็มีการจำลองการใช้ชีวิตในป่า ที่เริ่มตั้งแต่การหาอาหารจุดไฟสร้างที่พักทำอาวุธไปล่าสัตว์ ที่ถ้าใครเคยเล่นเกมมาก่อนแล้วเกิดไปติดป่าก็สามารถเอาชีวิตรอดได้ แต่คงไม่ใช่การเอาชีวิตรอดแบบมืออาชีพอย่างคนป่า แต่เราจะรู้ว่าควรทำอะไรก่อนหลัง ทั้งการสร้างที่พักหาอาหารและรู้ว่าอะไรกินได้ไม่ได้ เพราะในเกมแนวนี้จะสอนเราถึงสิ่งที่กินได้ไม่ได้ อย่างเกม Metal Gear Solid 3 Snake Eater ที่เกมจะบอกเราเกี่ยวกับสัตว์ต่าง ๆ ที่กินได้ไม่ได้ หรือจะเป็นเกมเอาตัวรอดในป่าอย่าง The Forest ที่ค่อนข้างสมจริง ที่เอามาเล่นก็สนุกแถมยังได้ทักษะการเอาตัวรอดไปในตัวอีกด้วย
ได้เรียนรู้วิชาต่อสู้
เมื่อพูดถึงวิชาต่อสู้ หลายคนคงจะคิดถึงภาพคนเล่นเกมสามารถใช้ท่าเตะคาราเต้ หรือชกคนที่ตัวโตกว่าได้เพราะเล่นเกมมาจนทำตามได้ ซึ่งต้องบอกว่าไม่ใช่แบบนั้น แต่ที่เราจะบอกก็คือสิ่งที่เราได้จากการเล่นเกมมันคือทักษะไหวพริบในการตัดสินใจ เช่นเมื่อเกิดเหตุต้องไปอยู่ในที่มีคนต่อสู้กัน(ตีกัน) เราจะสามารถเอาตัวรอดจากตรงนั้นได้อย่างไร หรือการตัดสินใจทำอะไรบางอย่างที่ต้องคิดอย่างรวดเร็ว เช่นเวลาเดินจะหกล้มเราจะสามารถคิดได้ทันว่าจะต้องทำอย่างไร หรือเห็นคนกำลังจะล้มเราก็สามารถตัดสินใจและทำได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งมันเป็นทักษะที่ได้จากการเล่นเกมต่อสู้ ที่เราต้องใช้ความคิดและการตัดสินใจที่รวดเร็วในการทำสิ่งต่าง ๆ เช่นตอนนี้ควรโจมตีท่านี้ ตอนนี้ควรถอยหลังหรือโจมตีในช่องว่างของอีกฝ่าย ที่เราต้องคิดเร็วทำเร็ว จนกลายเป็นความเคยชินของสมอง ที่จะทำให้เราคิดตัดสินใจทำอะไรได้อย่างรวดเร็วไปแบบไม่รู้ตัว พอ ๆ กับคนที่เล่นเกมแนวยิงมุมมองบุคคลที่ 1 ที่จะมีกิริยาตอบสนองต่อสิ่งที่เห็นได้เร็วกว่าคนทั่วไป
และถ้าถามว่าคนเล่นเกมสามารถเอาท่าที่มีในเกมมาใช้ได้รึเปล่า ก็ต้องตอบเลยว่าทำได้ แต่เราต้องไม่ลืมว่าสิ่งเหล่านี้เราต้องฝึกฝนอย่างถูกวิธี จนกล้ามเนื้อร่างกายแข็งแกร่งจึงสามารถใช้ท่านั้นได้อย่างรุนแรง แต่ก็มีท่าต่อสู้บางอย่างที่ไม่ต้องใช้แรงแต่อาศัยทักษะไหวพริบที่รวดเร็ว อย่างท่าต่อสู้ CQC ในเกมซีรีส์ Metal Gear Solid ที่เราสามารถจับบิดและผลักอีกฝ่ายลงพื้นได้ถ้าเราจับจังหวะและหมุนตัวได้ถูกวิธี ซึ่งมันสามารถทำได้จริงแม้คน ๆ นั้นจะตัวเล็กหรือเป็นผู้หญิงก็ตาม แต่ก็อย่างที่บอกไปว่าแค่ดูในเกมอย่างเดียวมันไม่พอต้องฝึกฝนด้วย และต้องฝึกบ่อย ๆ ทุกวันจนเคยชิน ไม่ใช่แบบเล่นจากในเกมแล้วไปลองทำมันคงเป็นไปได้ยาก แต่อย่างน้อยเราก็มีพื้นฐานเคล็ดท่วงท่ามาจากในเกมว่าต้องทำอย่างไร ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับคุณว่าจะนั่งเล่นเกม หรือจะลุกขึ้นมาฝึกให้ร่างกายแข็งแรงจนทำแบบในเกมต่อสู้ได้
ความรู้ทางด้านภาษาที่เพิ่มขึ้น
เชื่อว่าคนที่ไม่ได้เล่นเกมแล้วอ่านมาถึงตรงหัวข้อนี้ คงจะมองบนแล้วพูดว่าเล่นเกมได้เรื่องภาษาอีกหรอก เพราะมันเป็นหัวข้อที่คนเล่นเกมชอบเอามาพูดบอก หรืออวดคนที่ไม่ได้เล่นเกมให้รู้ เพราะเกมส่วนมากที่เราเล่นนั้นจะเป็นภาษาอังกฤษ เมื่อเราเล่นและเปิดซับภาษาอังกฤษไปด้วย พร้อมกับการคาดเดาท่าทางการกระทำหรือทราบเนื้อเรื่องในเกม เราก็จะเข้าใจว่าสิ่งที่ตัวละครพูดนั้นหมายถึงอะไร ที่เมื่อเราทำแบบนี้บ่อย ๆ เข้าเราก็จะมีทักษะนี้ไปโดยไม่รู้ตัว ซึ่งก็ใช่ว่าจะเป็นไปได้กับทุกคน เพราะคนที่ชอบข้ามช่วงของเนื้อเรื่องไปและเล่นเอาสนุกอย่างเดียว หรือบางคนรู้และพิมพ์ภาษาสั้น ๆ ที่ใช้ในเกมอย่างคำด่าคำต่อว่าอีกฝ่ายเท่านั้น ไม่สนใจจะศึกษาภาษาที่ว่ามาเลยก็มี ดังนั้นการเอาเรื่องการได้ภาษาในการเล่นเกมนั้นจึงไม่ถูกเสียทีเดียว เพราะขนาดเกมที่มีซับภาษาไทยให้อ่านหลายคนยังกดข้ามเลย ดังนั้นเราจึงเอามาอ้างอิงไม่ได้
แต่ถึงอย่างนั้นเราก็สามารถบอกใคร ๆ ได้ว่าการเล่นเกมก็ช่วยเราในเรื่องภาษาได้เหมือนกัน เพราะมีบางเกมที่จะให้เราฝึกภาษาอังกฤษระหว่างเล่น อย่างเกม English of the Dead ที่อยู่บนเครื่อง Nintendo DS ที่เป็นเกม The House of the Dead มาดัดแปลงเป็นเกมฝึกการใช้ภาษา ที่เราจะต้องเขียนตัวอักษรแทนกระสุนที่ใช้ยิงศัตรู ที่ตัวเกมจะเริ่มจากง่าย ๆ อย่างการใช้ปากกาเขียนตัวอักษรภาษาอังกฤษให้เหมือนและเร็วที่สุด ก่อนที่ตัวเกมจะค่อย ๆ พัฒนาความยากมาเป็นการกดพิมพ์คำที่ขึ้นให้ทัน ไปจนถึงการเติมตัวอักษรในช่องว่างก่อนซอมบี้จะมากัด เรียกว่าเป็นการฝึกภาษาได้ดีมาก ๆ จนเราสามารถบอกใคร ๆ ได้ว่าเราเก่งภาษาอังกฤษเพราะการเล่นเกมได้อย่างเต็มปากก็คราวนี้
เรียนรู้การตั้งเป้าหมายและวิธีไปให้ถึงเป้าหมายจากการเล่นเกม
คุณเคยตั้งเป้าหมายให้ชีวิตรึเปล่า เช่นฉันจะเก็บเงิน ฉันจะลดความอ้วน ฉันจะทำแบบนั้นแบบนี้ แต่สุดท้ายเราก็ทำได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่สำหรับคนเล่นเกมนั้นการตั้งเป้าแล้วทำให้ได้นั้นเป็นเรื่องปกติที่หลายคนที่เล่นเกมทำได้ เพราะเมื่อคนเล่นเกมอย่างเราเปิดเกมมาเราก็จะตั้งเป้าหมายเอาไว้แล้วว่าเราจะต้องเล่นเกมนี้ให้จบ เราจะหาทางผ่านหาวิธีแก้ไขปริศนาและทำทุกอย่างแม้แต่การโกงเกมเพื่อให้จบ(อันนี้เป็นสิ่งไม่ดีและคนเล่นเกมน้อยคนจะเลือกทำ) ดังนั้นการตั้งเป้าหมายและเดินทางไปให้ถึงคนเล่นเกมจึงมีสูงกว่า เพราะคนส่วนมากมักจะรีบร้อนรีบหาวิธีเพื่อให้ได้สิ่งนั้นหรือหาทาลัดเพื่อให้ผลสำเร็จเร็ว ๆ เช่นการลดความอ้วนที่ต้องไปพึ่งยามากกว่าการออกกำลังกายและควบคุมอาหาร ต่างกับคนเล่นเกมที่กว่าจะผ่านด่านผ่านเกมได้ต้องใช้เวลาในการหาของผสมไอเทมฝึกตัวละครจนเก่ง ซึ่งต้องใช้เวลาในการผ่าน คนเล่นเกมจึงค่อนข้างมีความอดทนในการทำสิ่งต่าง ๆ ไปแบบไม่รู้ตัว
และสิ่งที่คนไม่ได้เล่นเกมหลายคนอาจจะไม่ทราบ ว่าเกมหนึ่งเกมนั้นกว่าจะเล่นจนจบที่นับเฉพาะเนื้อเรื่องหลักอย่างเดียวก็กินเวลาเกิน 10 ชั่วโมงไปแล้ว หรือจะเป็นเกมที่สั้น ๆ ก็ต้องใช้เวลา 3 ถึง 5 ชั่วโมงในการเล่นครั้งแรก นี่ยังไม่นับเกมออนไลน์ที่กว่าจะเก่งได้นั้นต้องมาจากตัวผู้เล่นเองที่ต้องฝึกฝน ดังนั้นคนที่เล่นเกมทุกอย่างจึงค่อนข้างมีความอดทนมีเป้าหมาย และพยายามไปให้ถึง ซึ่งนั่นคือสิ่งทักษะที่คนเล่นเกมมี และถึงจะบอกว่าไม่ใช่ทุกคนที่เป็นแต่ส่วนมากนักเล่นเกมจะมีกัน ไม่เชื่อลองดูตัวคุณเอง(หมายถึงคนที่เล่นเกม) แล้วนึกย้อนไปว่าหลายอย่างในชีวิตที่ไม่ใช่การเล่นเกมเราก็อดทนรอคอย และค่อย ๆ ทำค่อย ๆ ไปจริงรึเปล่า
สรุปข้อเสียและข้อดีของการเล่นเกม
ปิดท้ายกับการสรุปสิ่งที่เราพูดมาทั้งหมด ที่เกี่ยวกับการเล่นเกมนั้นได้อะไรมากกว่าที่หลายคนคิด ซึ่งทุกอย่างที่เราพูดมานั้นมันคือเรื่องดีสิ่งดีที่เราได้มาจากเกม แต่ทุกอย่างบนโลกใบนี้ล้วนแต่มีข้อเสียถ้าเราทำมากเกินไปหรือน้อยไป การเล่นเกมก็เช่นกันที่แม้เราจะมีทักษะต่าง ๆ มากมายขนาดไหนจากการเล่นเกม แต่ถ้าเราไม่เอามาใช้ทำประโยชน์หรือเอาไปช่วยเหลือใคร การที่เรามีความสามารถแบบนี้ก็ไร้ความหมายที่มีก็เหมือนไม่มี ดังนั้นถ้าคุณรู้ว่าตัวเองมีทักษะและความชอบด้านไหนที่ได้มาจากเกมก็เอาไปใช้ไปทำเสีย และเมื่อมีถามว่ามีทักษะแบบนี้มาจากไหนคุณจะได้พูดได้เต็มปากว่าได้มาจากการเล่นเกม หรือรู้มาจากเกมมันยิ่งเป็นบอกใคร ๆ ว่าเกมมีอะไรดีกว่าที่คุณคิด และมันเป็นมากกว่าแค่ความบันเทิงที่ต้องนั่งแค่หน้าจอทีวีหรือมือถือ
และนอกจากการเอาสิ่งที่ได้จากเกมมาใช้แล้ว เรายังสามารถเอาสิ่งที่ได้จากเกมเหล่านี้มาพัฒนาตัวเองให้เติบโตขึ้น เช่นการได้รู้จักผู้คนจิตใจแง่มุมความคิดของตนเองและผู้อื่นในเกมที่เราได้อธิบายไป หรือจะเป็นหัวข้อสุดท้ายอย่างการเรียนรู้การตั้งเป้าหมายและวิธีไปให้ถึงเป้าหมายจากการเล่นเกม ที่จะช่วยยกระดับชีวิตคนเล่นเกมแบบเราให้ดีขึ้น แต่ทั้งหมดจะเกิดขึ้นมาได้ถ้าคุณเปิดใจยอมรับและอยากมีมันคุณจึงจะได้มันมา เพราะไม่ใช่แค่นั่งกด ๆ เกมเป็นร้อยชั่วโมงแต่ไม่คิดจะเก็บเกี่ยวอะไรเลย มันก็ไม่ต่างอะไรกับสิ่งที่คนไม่ได้เล่นเกมว่าคุณ ดังนั้นการเปิดใจเปิดความคิดคือสิ่งแรกที่คุณควรมี และถ้าอ่านมาถึงตรงนี้คุณก็ควรเริ่มทำเริ่มเป็นได้แล้วตั้งแต่ตอนนี้ ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าใดก็ตามเราสามารถเริ่มต้นได้เสมอและเมื่อทำได้คุณจะรู้สึกรักตัวเองมากกว่าที่คุณคิด
ก็จบกันไปแล้วกับข้อดีที่ได้จากการเล่นเกมในแบบต่าง ๆ โดยในบทความจะพยายามอ้างอิงสิ่งต่าง ๆ จากความเป็นจริงที่เกิดขึ้นกับนักเล่นเกมทั้งไทยและต่างประเทศจากข่าวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น และการอ้างอิงเกมต่าง ๆ ที่สามารถเอามาใช้ฝึกทักษะได้จริง ๆ และหวังว่าบทความนี้จะเป็นตัวจุดประกายให้หลายคนที่ได้อ่าน ทั้งคนที่เล่นเกมและไม่เล่นเกม ได้รับรู้และเข้าใจในมุมมองสิ่งที่ได้จากเกม ส่วนคนที่เล่นเกมก็จะได้ทราบถึงสิ่งที่ตัวเองสามารถทำได้และคิดว่าตัวเองทำได้ โดยเริ่มจากการเปิดใจและไร้ข้อแม้มาเป็นตัวกำหนดในการทำสิ่งต่าง ๆ เพราะเราเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนมีความสามารถแค่ไม่เอาออกมาใช้หรือต้องฝึกฝนจึงจะเก่ง ขอให้ทุกคนสู้ ๆ เพื่อตัวคุณเองและคุณที่คุณรัก จะได้ไม่มีใครมาว่าการเล่นเกมนั้นไร้สาระอีกต่อไป
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส