คุณเคยพยายามที่จะเข้าใจคนอื่นบ้างรึเปล่า ? อยากรู้ว่าเขาคิดอย่างไรรู้สึกอย่างไร โดยเฉพาะคนที่ป่วยทางจิต ที่สภาพจิตใจความคิดและความรู้สึกของพวกเขานั้นจะต่างกับคนทั่วไป ซึ่งต้องบอกก่อนว่าผู้ป่วยทางจิตไม่ใช่คนบ้า แต่คนเหล่านั้นคือคนที่มีจิตใจที่ผิดปกติเพราะการถูกทำร้ายมาอย่างรุนแรงทางด้านร่างกาย จนส่งผลมาถึงจิตใจหรือจะเป็นอาการป่วยที่มีมาตั้งแต่เกิด และเราจะไปชี้หน้าบอกคนเหล่านั้นว่าจงหาย ทำไมถึงเป็นทำไมถึงไม่ลุกขึ้นสู้กับมันปัญหาแค่นี้เอง มันเป็นไปได้สำหรับคนที่เป็นปกติ แต่เราจะเอาไปใช้กับคนเหล่านั้นไม่ได้ และในหลาย ๆ ครั้งคนที่ป่วยทางจิตหรือคนที่ศึกษามาทางด้านนี้ ก็พยายามจะใส่ความคิดความรู้สึกที่ตนเองมีให้ผู้อื่นรับรู้ผ่านสื่อต่าง ๆ และวิดีโอเกมก็คือหนึ่งในสิ่งที่สามารถสื่อออกมาได้ดีที่สุด และนี่คือ 10 เกมที่สะท้อนสภาพจิตใจของคนที่ป่วยทางจิตแบบต่าง ๆ จะมีอะไรบ้างนั้นมาดูกันเลย
คำเตือน เนื้อหาในบทความมีการเปิดเผยเนื้อเรื่องในเกมโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
สารบัญเนื้อหา
- Depressed Find Memories สะท้อนจิตใจของผู้ป่วยโรคซึมเศร้า
- Little Misfortune มุมมองที่ไร้เดียงสาของเด็กน้อยในโลกที่โหดร้าย
- Neverending Nightmares สิ่งที่สะท้อนจากจิตใจคนเป็นโรคซึมเศร้า
- The Evil Within จิตใจที่ถูกทำร้าย
- Among the Sleep จิตใจของเด็กทารกที่มีต่อโลก
- Sea of Solitude จิตใจที่เต็มไปด้วยความเศร้า
- Resident Evil 7 ความโหยหาต้องการสิ่งที่ไม่มี
- American McGee’s Alice หนีจากโรคแห่งความจริง
- Silent Hill 2 สภาพจิตใจส่วนลึกที่ถูกเปิดเผย
- auti-sim เกมจำลองเป็นผู้ป่วยคออทิสติก
Depressed Find Memories สะท้อนจิตใจของผู้ป่วยโรคซึมเศร้า
เริ่มต้นเกมแรกกับฝีมือคนไทยในเกม Depressed Find Memories ที่เป็นผลงานของนักศึกษามหาวิทยาลัยศรีปทุมกับสถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น ที่เข้ามาร่วมฝึกงานกับทาง MAD Virtual Reality Studio ผู้สร้างเกมผีที่หลายคนรู้จักอย่าง ARAYA ในการผลิตเกมนี้ขึ้นมา เพื่อเป็นการสะท้อนถึงมุมมองความคิดและจิตใจของคนที่เป็นโรคซึมเศร้า ว่ารู้สึกอย่างไรผ่านการเล่นเกมนี้ โดยตัวเกมจะนำเสนอในมุมของความสยองขวัญ กับเด็กชายที่ถูกไล่ล่าจากอีกตัวตนหนึ่งของตัวเองที่พยายามตามล่าเขา ซึ่งเป้าหมายของเกมนั้นจะเป็นการตามหาความทรงจำเศษเสี้ยวความรู้สึกดี ๆ ที่อยู่ในใจของเด็กชายให้กลับมาด้วยตัวเอง แต่ด้วยจิตใจที่ดำมืดและเต็มไปด้วยความรู้สึกแย่ของเด็กชาย จึงทำให้บรรยากาศในเกมดูมืดและน่ากลัว ที่เป็นเหมือนจิตใจของคนที่เป็นโรคซึมเศร้ารู้สึกตลอดเวลา เพื่อให้เราคนเล่นรู้ว่าคนที่เป็นโรคซึมเศร้าเขารู้สึกอย่างไร
ตัวเกมจะเล่าเรื่องราวของ Ash เด็กชายที่ต้องย้ายบ้านย้ายโรงเรียนมายังสถานที่ใหม่ ที่เมื่อมาถึงเขากลับได้รับสิ่งแย่ ๆ ทั้งจากที่โรงเรียนและที่บ้าน จนเด็กชายที่ปกติก็เป็นคนเงียบ ๆ ชอบเก็บตัวก็ยิ่งจมดิ่งในความมืดจนทำให้เขาฆ่าตัวตาย แต่เมื่อเสียชีวิตเขาก็ได้เจอกับยมทูตและบอกว่าเขายังไม่ถึงที่ตาย พร้อมกับให้โอกาส Ash ได้ตามหาความทรงจำดี ๆ ที่ผ่านมาที่อาจจะลืมไป เราจึงต้องออกตามหาสิ่งนั้นผ่านความมืดในใจตัวเอง ตัวเกมแม้จะมีกราฟิกที่น่ารักดูสดใส แต่เนื้อหาของเกมรวมถึงระบบการเล่นและเสียงประกอบ กลับทำให้คนเล่นรู้สึกกดดันตรงข้ามกับกราฟิกที่แสดงออกมา มุมมองในเกมจะเป็นแบบบุคคลที่ 1 ที่เราต้องวิ่งหนีซ่อนและพยายามหาความความทรงจำดี ๆ ผ่านความรู้สึกดำมืดในใจตัวเอง ที่ทำให้เราพอจะเข้าใจได้ว่าคนที่เป็นโรคซึมเศร้าเขาจะรู้สึกดำมืดแบบนี้ และเราคงจะไปกระตุ้นให้เขาลุกขึ้นสู้ไม่ได้ แต่เขาต้องลุกขึ้นสู้ด้วยตัวเองนั่นคือสิ่งที่เกมต้องการบอกคนที่ไม่เป็นโรคนี้ทราบ
Little Misfortune มุมมองที่ไร้เดียงสาของเด็กน้อยในโลกที่โหดร้าย
Little Misfortune คืออีกหนึ่งเกมที่สะท้อนสภาพจิตใจได้เป็นอย่างดีเกมหนึ่งที่เราอยากให้คุณได้เล่น กับมุมมองที่ไร้เดียงสาของเด็กน้อย Ramirez Hernandez ที่พยายามตามหาความสุขชั่วนิรันดร์ผ่านมุมมองของโลกแห่งจินตนาการของเธอ (Misfortune) ที่ต้องเดินทางผ่านโลกแห่งฝันร้ายแบบต่าง ๆ ที่เป็นเรื่องราวของคนอื่น ๆ ที่ Misfortune เจอ แต่ด้วยความไร้เดียงสาและมองโลกในแง่ดีของเด็กน้อย ก็ทำให้ทุกอย่างดูเป็นสิ่งที่ดีและไม่เลวร้าย ที่เป็นเหมือนการสะท้อนให้เราเห็นจิตใจของเด็กที่ไร้เดียงสา และพยายามสร้างเกาะมาปกป้องจิตใจตนเองจากเรื่องเลวร้ายต่าง ๆ ที่ผู้ใหญ่หลายคนนั้นไม่มีที่เหมือนเป็นการประชดประชันใส่ผู้เล่นเบา ๆ ว่าขนาดเด็กน้อยตัวแค่นี้ยังพยายามมองโลกในแง่ดีได้เลย แล้วทำไมคุณถึงไม่ทำตามบ้าง
ตัวเกมจะเป็นแนว 2.5D กับการเดินทางไปยังเรื่องราวต่าง ๆ ของคนที่ Misfortune รู้จักที่บรรยากาศของเกมนั้นดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความบิดเบี้ยวและดูแปลก ๆ แต่ด้วยการมองโลกในแง่ดีกับการไร้เดียงสาผ่านการกระทำและบทพูดของ Misfortune ก็ทำให้เรารู้สึกอบอุ่นและหลงรักเธอ ที่แม้ตอนจบเกมจะหักมุมและสะเทือนใจ แต่สิ่งที่ตัวเกมต้องการบอกเราให้รู้ว่าโลกนี้มันไม่สวยงามหรอกนะ แต่ถ้าเราไม่ยอมรับมันและหาทางแก้ไขมันมากกว่าจะจมดิ่งไปกับความเศร้า เราก็จะแก้ไขปัญหาไปได้เหมือนที่ Misfortune มี Benjamin สุนัขจิ้งจอกเป็นผู้พิทักษ์ที่ช่วยเหลือ ซึ่งแท้จริงแล้วก็คือตัวเธอเองต่างหากที่สร้าง Benjamin ขึ้นมา สิ่งที่ตัวเกมนำเสนอคือมุมมองของจิตใจที่ดีงามในโลกที่เลวร้าย เหมือนผู้พัฒนาจะบอกเราว่า จงลุกขึ้นสู้แบบ Misfortune และถ้าคุณเข้มแข็งคนที่คุณรักก็จะมีความสุขเหมือนที่ Misfortune ทำให้แม่ของเธอ
Neverending Nightmares สิ่งที่สะท้อนจากจิตใจคนเป็นโรคซึมเศร้า
คุณอยากรู้ไหมว่าคนเป็นโรคซึมเศร้ารู้สึกอย่างไร ? ถ้าคุณอยากรู้ก็ลองหาเกม Neverending Nightmares เพราะเกมนี้ได้คุณ Matt Gilgenbach ที่เป็นโรคซึมเศร้ามาเป็นคนออกแบบเกมนี้ เพื่อให้คนปกติรับรู้ถึงความรู้สึกของคนที่เป็นโรคซึมเศร้า ว่าสภาพจิตใจของคนเหล่านั้นมันเหมือนตัวเองกำลังติดอยู่ในฝันร้ายเหมือนกับเกม Depressed Find Memories ที่เราจะวนเวียนอยู่กับเรื่องราวต่าง ๆ ที่เลวร้ายซ้ำไปซ้ำมา เหมือนถูกปีศาจมาตามไล่ล่าและฆ่าเราให้เจ็บปวดซ้ำ ๆ ในโลกที่เราทำได้แค่หนี และถึงเราจะพยายามหนีขนาดไหนเราก็ยังต้องวนเวียนอยู่ตรงนั้น นั่นคือสิ่งที่เกม Neverending Nightmares ต้องการบอกให้เรารู้
ในส่วนของตัวเกมนั้นจะเล่าเรื่องราวของของ Thomas เด็กชายในชุดนอนที่ติดอยู่ในโลกแห่งฝันร้ายที่เป็นขาวดำ โดยเขาจะต้องผ่านเรื่องราวต่าง ๆ ในความทรงจำอันเลวร้ายที่ผ่านมาในชีวิตที่สั่งสมให้ Thomas กลายเป็นโรคซึมเศร้า ตัวเกมจะเป็นแนว 2.5D ที่เราต้องหาทางแก้ไขปริศนาต่าง ๆ เพื่อหาคำตอบว่าสิ่งที่ Thomas เจอนั้นมันคือเรื่องอะไรที่ทำร้ายจิตใจเขาในตอนนั้น โดยมีเหล่าปีศาจที่เป็นตัวแทนของความโหดร้ายของโรคซึมเศร้ามาเป็นตัวขัดขวางเรา ตัวเกมออกไปทางแนวสยองขวัญที่เน้นเลือดสีแดงและฉากที่น่ากลัว ตัวเกมค่อนข้างหดหู่เงียบวังเวง ซึ่งเป้าหมายของทีมพัฒนาที่ต้องการบอกกับคนปกติให้เข้าใจจิตใจของคนเป็นโรคซึมเศร้า ว่าเขาต้องรู้สึกอย่างไรในชีวิต ที่บางครั้งที่เห็นเขายิ้มนั่นอาจจะเป็นสิ่งดี ๆ ที่เขามีเมื่อเอาชนะปีศาจได้ แต่เดี๋ยวเขาก็ถูกไล่ล่าจากปีศาจในจิต(เปรียบเปรย) จนทำให้กลับมาจมดิ่งอีกครั้ง ใครที่อยากรับรู้ความรู้สึกของคนเป็นโรคซึมเศร้าก็ลองหาเกมนี้มาเล่นดู แล้วคุณจะรู้ว่าคนเหล่านั้นเขาน่าเห็นใจขนาดไหน
The Evil Within จิตใจที่ถูกทำร้าย
คราวนี้มาที่เกมซึ่งหลายคนน่าจะคุ้นเคยกันบ้าง กับเกมสยองขวัญโรคจิตที่ใครซึ่งเคยเล่นมาแล้ว ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เกมนี้สะท้อนมุมมองความคิดและจิตใจของมนุษย์ที่ถูกทำร้ายได้ออกมาได้น่ากลัวหดหู่สิ้นหวัง และน่าสยดสยองไปพร้อม ๆ กันได้อย่างลงตัว กับเกม The Evil Within เกมสยองขวัญจากฝีมือการสร้างของคุณ Shinji Mikami ผู้ให้กำเนิดซีรีส์ Resident Evil ที่หลายคนรู้จักกับการจมดิ่งไปในจิตใจส่วนลึกของมนุษย์ แต่มันไม่ใช่จิตใจของคนปกติ แต่เป็นจิตใจของคนที่ถูกทำร้ายทั้งทางร่างกายจิตใจซ้ำแล้วซ้ำอีก จนห้วงลึกของคน ๆ นั้นจมดิ่งในความมืดบิดเบี้ยวที่ต่างกับโรคซึมเศร้า เพราะเจ้าตัวรับรู้เข้าใจที่เมื่อเจอเรื่องแย่ ๆ มาก ๆ เข้า เราก็จะกลายเป็นคนมองโลกในแง่ร้ายตลอดเวลาจนชินชาอะไรแบบนั้น
สำหรับคนที่ไม่เคยเล่น เกม The Evil Within ตัวเกมจะกล่าวถึง Sebastian Castellanos ตำรวจนักสืบฝีมือดีที่มาสืบคดีฆาตกรรมหมู่สุดสยดสยองที่โรงพยาบาล Beacon Mental แต่เมื่อมาถึงเขากลับถูกส่งไปยังโลกต่างมิติที่เต็มไปด้วยความสยองขวัญเกินมนุษย์ธรรมดาจะรับได้ ซึ่งความจริงแล้วโลกที่ Sebastian หลงไปนั่นคือสภาพจิตใจของ Ruvik ชายผู้สร้างระบบ STEM ที่เป็นเหมือนโลกเสมือนจริงที่เราสามารถถอดจิตเข้าไปอยู่ได้ และสิ่งที่เราได้เห็นในเกมนั้นก็คือจิตใจของ Ruvik ที่แสดงออกมาจากความรู้สึกเกลียดโลกใบนี้ของเขาผ่านโลกต่าง ๆ ในเกม รวมถึงตัวละครปีศาจที่เจอในเกมก็เป็นตัวสะท้อนจิตใจของเขา เช่นปีศาจหัวตู้เซฟที่เป็นเหมือนตัวแทนของการปิดความรู้สึกตัวเองที่อยากทำลายทุกอย่างแต่ต้องเก็บกดเอาไว้ (เมื่อเอาชนะมันได้ภายในตู้เซฟจะเต็มไปด้วยเลือดที่ไหลออกมา) หรือจะเป็นเหล่าซอมบี้ในเกมที่เป็นสิ่งที่น่ารักเกลียดที่ Ruvik มองคนทั่วไปว่าเป็นเพียงพวกโง่ไร้สมอง หรือจะพูดให้เห็นภาพง่ายขึ้นสิ่งที่ Ruvik เป็นก็เหมือนสภาพจิตใจของฆาตกรโรคจิตหรือคนที่มีความโกรธโมโหชั่ววูบที่ทำเรื่องเลวร้ายลงไป ก็เหมือนเราได้สร้างโลกดำมืดขึ้นมาในใจ นั่นคือสิ่งที่เกม The Evil Within ต้องการบอกเราคนเล่น
Among the Sleep จิตใจของเด็กทารกที่มีต่อโลก
คุณเคยสงสัยบ้างไหมว่าเด็กตัวเล็ก ๆ อายุราว ๆ 2 ขวบหรืออาจจะโตกว่านั้นก็ได้ พวกเขาจะรู้สึกอย่างไร กับสิ่งที่เกิดขึ้นจากผู้ใหญ่อย่างเราทำกับพวกเขา นั่นคือสิ่งที่เกม Among the Sleep ต้องการจะบอกกับเรา กับการเดินทางสู่โลกแห่งฝันร้ายของเด็กทารกกับเพื่อนสนิทอย่างพี่หมี ที่ออกเดินทางเพื่อหาทางออกจากฝันร้าย ที่ความจริงแล้วมันคือสิ่งที่เด็กน้อยได้รับจากผู้ใหญ่ที่เอามาตีความในแบบของตนเอง บวกกับความไร้เดียงสาที่ยังไม่รู้ความเหมือนกับเกม Little Misfortune จึงทำให้การตีความของสิ่งที่เจอต่างกับเด็กโตรู้สึก ทั้งผีที่เจอในเกม ความหนาวเย็นและความมืดที่เหมือนกำลังหาทางออก ทุกอย่างล้วนเกิดมาจากการตีความของเด็กน้อยจากโลกแห่งความเป็นจริงที่แสดงออกมาผ่านวิดีโอเกม
ตัวเกม Among the Sleep จะให้เรารับบทเป็นเด็กทารกวัย 2 ขวบชื่อ David ที่ต้องออกเดินทางหนีจากฝันร้ายผ่านความทรงจำในช่วงเวลาต่าง ๆ ที่จะตีความจากสิ่งที่เด็กน้อยเห็น ตัวเกมจะเป็นแนวมุมมองบุคคลที่ 1 ที่เราทำได้แค่คลานบนพื้นและเห็นทุกอย่างสูงใหญ่ไปหมด(ก็เราเป็นเด็กทารก) แต่ตัวเกมก็ไม่ใจร้ายส่งผู้ช่วยมาให้เรานั่นคือ Teddy ตุ๊กตาหมีที่เราได้มาเป็นของขวัญวันเกิด โดยสิ่งที่ตัวเกม Among the Sleep นำเสนอนั้นคือความรู้สึกของเด็กน้อยที่ต้องเห็นพ่อแม่ทะเลาะกัน เขาต้องถูกขังอยู่คนเดียวในห้องจนบางครั้งแม่ก็ลืมเขา จนห้องมืดสนิทและหนาวเย็น มีเพียงพี่หมีที่เป็นเพื่อนให้ความอบอุ่นที่เหมือนเป็นคนดูแลเขา จนทำให้ในเกมเราจะได้เห็นความมืดและการหาทางออก ส่วนปีศาจที่อยู่ในเกมที่ตามล่าเรานั้นก็คือแม่ของ David ที่เมื่อเธอทะเลาะกับพ่อ แม่มักจะมาทำร้ายและดุ David จนทำให้เด็กน้อยตีความแม่ตนเองเป็นปีศาจ ส่วนพี่หมีคือความอบอุ่นที่เมื่อได้กอดแล้วจะรู้สึกอบอุ่น เหมือนเราที่นอนกอดหมอนข้างและรู้สึกปลอดภัยที่มีมันอยู่ข้าง ๆ ตัวเกมออกไปทางแนวสยองขวัญ ที่เกมต้องการบอกเราว่าสิ่งที่เราทำกับเด็ก ๆ เขาจะจดจำและตีความมันเป็นแบบที่เขาคิด และสิ่งนั้นจะหล่อหลอมเป็นตัวตนของเขาในตอนโต และถ้าใครบอกว่าไม้เรียวสร้างคนก็ต้องบอกว่าไม่ใช่ เพราะไม้เรียวอันนี้ก็จะสร้างไม้เรียวอีกอันไปยังเด็กคนต่อไป นั่นคือสิ่งที่เกมนี้สื่อออกมาบอกผู้ใหญ่ที่เป็นคนเล่นแบบเรา
Sea of Solitude จิตใจที่เต็มไปด้วยความเศร้า
Sea of Solitude คืออีกหนึ่งเกมที่สะท้อนมุมมองความคิดความรู้สึกของคนที่ท้อแท้หดหู่สิ้นหวังและคิดว่าตัวเองไร้ค่า ที่ถูกแสดงออกผ่านตัวละครที่เราควบคุมที่เป็นปีศาจตาสีแดงที่น่ากลัว ซึ่งนั่นคือสิ่งที่คนซึ่งกำลังสิ้นหวังท้อแท้คิดว่าตนเองไร้ค่ามักคิดกับตัวเอง กับการเดินทางไปในโลกที่เต็มไปด้วยน้ำท่วมที่จมทุกอย่างเอาไว้ ที่เปรียบเหมือนน้ำตาความเศร้าที่ท่วมท้นออกมาในใจ ซึ่งสิ่งที่คนเหล่านี้เป็นจะต่างกับโรคซึมเศร้า ตรงที่เราสามารถแก้ไขและรักษามันได้ เราทุกคนเคยคิดว่าตัวเองไร้ค่าไม่มีใครสนใจ และเหล่าปีศาจก็เปรียบเสมือนตัวแทนของความรู้สึกแย่ที่สิ้นหวัง ที่พยายามกลืนกินเราให้มากขึ้นกว่าเดิม และเราต้องหาทางหนีมันเพื่อเอาชนะความรู้สึกสิ้นหวังนั้น นั่นคือสิ่งที่เกม Sea of Solitude ต้องการบอกเรา
ในส่วนของตัวเกม Sea of Solitude จะให้เรารับบทเป็น Kay เด็กสาวที่คิดว่าตนเองไร้ค่า เธอคือปีศาจที่ไม่มีใครสนใจกับการเดินทางเพื่อหนีจากโลกแห่งความทุกข์ที่เต็มไปด้วยความรู้สึกสิ้นหวัง ผ่านน้ำที่ท่วมทุกสิ่งที่เหมือนน้ำตาแห่งความเสียใจ ตัวเกมจะเป็นแนว Adventure ที่เราต้องหาทางแก้ปริศนาเพื่อไปต่อ โดยระหว่างทางเราจะถูกสัตว์ประหลาดที่เป็นตัวแทนความเศร้าที่คนอื่นทำกับ Kay มาขัดขวาง ซึ่งปีศาจแต่ละแบบนั้นก็เหมือนเป็นตัวแทนของความทุกข์หลาย ๆ แบบที่ไม่ใช่แค่ Kay เจอ แต่มันคือสิ่งที่คนเล่นแบบเราก็ต้องเจอเหมือนกัน ดังนั้นการเล่นเกม Sea of Solitude ก็เหมือนเป็นการบอกตัวเอง(คนเล่นเกม) ว่าเราสามารถเอาชนะความทุกข์และความคิดว่าตัวเองไร้ค่าได้ด้วยการก้าวข้ามปีศาจเหล่านั้น และสร้างคุณค่าให้ตัวเองเพราะคุณไม่ใช่ปีศาจที่ไร้ค่า แต่จิตใจของคุณต่างหากที่ตีค่าตัวเองไม่ใช่คนอื่นตีค่าคุณ และปีศาจ(คนที่มาทำร้ายเรา) จะทำอะไรเราไม่ได้เลยถ้าเราเข้มแข็งมากพอ นั่นคือสิ่งที่เกม Sea of Solitude บอกเรา
Resident Evil 7 ความโหยหาต้องการสิ่งที่ไม่มี
เชื่อว่าคนที่ได้เล่นเกม Resident Evil 7 มาก่อนคงจะรู้สึกทั้งสงสารและเกลียด Eveline เด็กสาวต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมดในเกมนี้ ที่เรื่องราวของ Eveline นั้นต้องเกิดและเติบโตมาในห้องทดลองในฐานะอาวุธชีวภาพที่สามารถขายได้ในตลาด ตลอดชีวิตที่ Eveline จำความได้เธอไม่มีพ่อแม่และสิ่งที่เด็กน้อยโหยหามาตลอดก็คือครอบครัว จนวันหนึ่งที่เธอหนีออกมาได้ เด็กน้อยก็ได้รับการช่วยเหลือจากคนในครอบครัว Baker ทำให้เด็กน้อยได้พบกับครอบครัวครั้งแรก แต่ด้วยความไร้เดียงสาของเด็กที่มีพลังพิเศษ จึงทำให้ความต้องการของเด็กน้อยที่ตีความคำว่าครอบครัวไปในแบบที่ตัวเองต้องการ และสิ่งที่เกิดขึ้นในเกม Resident Evil 7 ก็คือมุมมองความคิดของเด็กเอาแต่ใจคนหนึ่งที่อยากมีครอบครัวเท่านั้น
สำหรับคนที่ยังไม่ทราบตัวของ Eveline หรือ E-001 เป็นมนุษย์ที่ถูกดัดแปลงพันธุกรรม โดยบริษัท The Connections ที่ออกแบบอาวุธชีวภาพรูปแบบใหม่ในรูปแบบของเด็กผู้หญิง ที่สามารถแทรกซึมเข้าไปยังสถานที่ต่าง ๆ ได้โดยไม่มีใครสนใจ ก่อนจะให้เด็กน้อยใช้พลังที่ตนเองมีควบคุมผู้คนให้เป็นตามที่ต้องการ หรือจะสร้างกองทัพสัตว์ประหลาดก็สามารถทำได้นั่นคือสิ่งที่ Eveline มี โดยสิ่งที่ครอบครัว Baker เป็นนั้นก็คือการสะท้อนจิตใจของเด็กที่ถูกผู้ใหญ่ทำร้ายกักขัง และความก้าวร้าวที่เราได้เห็นจากครอบครัว Baker นั้นก็คือความรู้สึกของเด็กน้อยที่ถูกคุกคาม และพยายามจะต่อต้านจากคนนอกที่พยายามเข้ามายุ่ง ที่เราจะเห็นเด็ก ๆ หลายคนที่พยายามแสดงกิริยาร้าย ๆ ใส่เมื่อคนเข้าใกล้ หรือการทำเรื่องแย่ ๆ ต่าง ๆ ก็เหมือนเป็นการปกป้องตัวเองเพื่อไม่ให้ใครเข้ามาทำร้ายตัวเองได้ Eveline ก็ทำแบบเดียวกันเพราะเธอกลัวว่าตัวเองจะถูกพรากครอบครัวไป เธอจึงสร้างครอบครัว Baker ขึ้นมาบ้า ๆ บอ ๆ แบบนี้ นั่นคือสิ่งที่หลายคนยังไม่เข้าใจเพราะถ้าเราดูดี ๆ แล้ว Eveline ก็คือเหยื่อของความรุนแรงที่ผู้ใหญ่สร้างขึ้นมานั่นเอง
American McGee’s Alice หนีจากโรคแห่งความจริง
ถ้าโลกแห่งความเป็นมันโหดร้ายเกินกว่าจิตใจจะรับไหว สมองก็จะส่งจิตใจของคนที่ถูกกระทบกระเทือนจิตใจไปยังโลกแห่งจินตนาการ ที่หลายคนเรียกคนที่เป็นแบบนี้ว่าคนวิกลจริตที่ไม่ยอมรับความจริงเพ้อฝันถึงสิ่งที่ไม่มีตัวตน โดยเกม American McGee’s Alice จะเป็นเหมือนการสื่อถึงมโนภาพที่คนเป็นโรควิกลจริตเห็น โดยตัวเกม American McGee’s Alice นั้นจะเป็นการเล่าเรื่องราวของเด็กสาวที่จิตใจถูกกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง จากการเห็นพ่อแม่ของตนเสียชีวิตต่อหน้าต่อตาด้วยอุบัติเหตุไฟไหม้ จนทำให้เธอถูกจัดว่าเป็นคนวิกลจริตจึงถูกส่งไปยัง Rutledge Asylum เพื่อรักษา เพราะ Alice จะเห็นภาพหลอนของสิ่งต่าง ๆ ตลอดเวลาและนั่นคือที่มาของเกม เพราะเราจะได้หลงเข้าในจิตใจของ Alice กับสิ่งที่เธอมองเห็น โดยจะเป็นการอ้างอิงนิทาน Alice in Wonderland มาดัดแปลงให้ดูโหดที่เป็นเหมือนตัวแทนของจิตใจ Alice นั่นเอง
ถ้าคุณจะเล่นเกมนี้ก็จงลืมนิทานต้นฉบับไปให้หมด เพราะเกม American McGee’s Alice จะเป็นการดัดแปลงเนื้อหาใหม่ทั้งหมด โดยอ้างอิงหลักจิตวิทยาของผู้ป่วยทางจิตที่มักจะมองเห็นสิ่งต่าง ๆ บิดเบี้ยวและเกินจริง ดังนั้นสิ่งที่อยู่ในเกมนี้ก็จะบิดเบี้ยวน่าเกลียดตามสภาพจิตใจที่ Alice สร้างขึ้นมาเอง และการหลงเข้าไปในจิตใจของตนเองนั้นก็เหมือนเป็นการยอมรับความจริงของเธอเอง ที่พยายามดิ้นรนขัดขืนไม่อยากหลงอยู่ในมโนจิตแบบนี้ไปตลอดชีวิต ซึ่งเมื่อ Alice เอาชนะ Queen of Hearts ที่ก็คือจิตใจของตนเองได้ Alice ก็หายจากอาการป่วย ซึ่งในโลกแห่งความเป็นจริงเราก็คงจะเห็นหลายคนที่สามารถหายจากอาการป่วยทางจิตมาเป็นปกติได้ และสิ่งที่เกมสื่อออกมาคือความรู้สึกของผู้ป่วยว่าสิ่งที่เขาหลงไปอยู่นั้นมันไม่ได้สวยงาม แต่อาจจะบิดเบี้ยวน่ากลัวจนเราเห็นคนป่วยหลายคนหวาดกลัวสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งอาจจะเป็นอย่างที่เกมนี้สื่อก็ได้ใครจะรู้
Silent Hill 2 สภาพจิตใจส่วนลึกที่ถูกเปิดเผย
เมื่อพูดถึงเกมสยองขวัญอย่าง Silent Hill เชื่อว่าหลายคนคงจะคิดถึงเมืองที่เต็มไปด้วยหมอกสัตว์ประหลาดและโลกสนิมที่แสนโรคจิต แต่ใครจะรู้ว่าสิ่งที่เมือง Silent Hill แสดงออกมาให้เราเห็นนั้นก็เหมือนกับระบบ STEM ในเกม The Evil Within ที่จะสร้างสภาพเมืองสัตว์ประหลาดจากจิตใจของคน ที่เป็นแกนความคิดหลักมาสร้างเป็นโลกนั้น ๆ ขึ้นมา และแน่นอนว่าในเกม Silent Hill ทุกภาคก็จะอ้างอิงสภาพจิตใจของตัวละครหลักมาสร้างเป็นโลกที่บิดเบี้ยวแบบเกม American McGee’s Alice แต่จะต่างกันตรงที่เราจะไม่ได้หลุดเข้าไปในจิตใจ แต่เมือง Silent Hill จะอ่านจิตใจเบื้องลึกเราและสร้างโลกใหม่ขึ้นมา โดยภาคที่เห็นชัดที่สุดก็น่าจะเป็นเกม Silent Hill ภาค 2 ที่ทุกสิ่งทุกอย่างที่ James Sunderland เห็นนั้นคือมโนจิตส่วนลึกในใจของเขา ที่เมือง Silent Hill สร้างขึ้นมาโดยที่เจ้าตัวไม่รู้
เริ่มจากตัว Pyramid Head ที่เป็นสัญลักษณ์ของความหวาดกลัวต่อความผิดของ James โดยสิ่งที่ Pyramid Head ทำในเกมทั้งการข่มขืนสัตว์ประหลาด(ในเกมจะแสดงไม่ชัดเจนคนเล่นต้องตีความเอง) ก็เป็นส่วนลึกในใจของ James ที่มีความต้องการทางเพศที่สูง และการฆ่า Maria ของ Pyramid Head ก็มาจากส่วนลึกในใจของ James ที่ต้องการให้ภรรยาเสียชีวิต(Maria คือคนหน้าเหมือนภรรยา) หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ Pyramid Head เป็นตัวแทนความต้องการในใจของ James นั่นเอง รวมถึงพวกสัตว์ประหลาดที่เหมือนขาเดินได้( Mannequin) กับนางพยาบาลที่แต่งตัวออกไปทางล่อแหลม ก็มาจากจิตใจส่วนลึกของ James ที่มองนางพยาบาลเป็นวัตถุทางเพศกับความชอบท่อนขาเรืองร่างของผู้หญิง และถ้าเราดูดี ๆ ศัตรูในเกมนี้จะออกไปทางผู้หญิงที่มีขาเรียวงามทั้งหมด ซึ่งนั่นคือการสะท้อนจิตใจอันบิดเบี้ยวของ James ที่เป็นเหมือนกระจกที่สะท้อนตัวเราที่เราไม่ยอมรับมัน ซึ่งเป็นสิ่งนักพัฒนาเกมต้องการสื่อบอกคนเล่นเกม
auti-sim เกมจำลองเป็นผู้ป่วยคออทิสติก
ปิดท้ายกับคำพูดที่ว่าถ้าไม่ลองเป็นก็คงไม่มีวันรู้ วลีที่เราคงจะพูดไม่ได้ไม่เต็มปากว่าคนที่ป่วยทางจิตเขารู้สึกอย่างไรถ้าเราไม่มาเป็นเอง ทางทีมพัฒนา Vancouver Hacking Health hackathon จึงได้สร้างเกม auti-sim หรือ Autism Simulator ขึ้นมาเพื่อจำลองความรู้สึกของเด็กที่เป็นโรคออทิสติก ที่เรามักจะเห็นคนที่เป็นโรคนี้จะชอบอยู่คนเดียวเก็บตัวไม่ค่อยชอบออกไปพบเจอผู้คน และเมื่อถูกกระตุ้นกับสภาวะแวดล้อมต่าง ๆ จากภายนอก คนเหล่านี้จะแสดงกิริยาต่อต้านกรีดร้อง ที่เป็นความผิดปกติของสมองและระบบประสาทที่เราซึ่งเป็นคนปกติไม่เข้าใจ แต่เมื่อคุณได้เล่นเกมนี้คุณจะเข้าใจความรู้สึกของคนที่เป็นโรคนี้ได้อย่างชัดเจน
ในส่วนของตัวเกมนั้นจะเป็นการจำลองสนามเด็กเล่นแห่งหนึ่ง ที่เราจะได้รับบทเป็นเด็กที่เป็นโรคออทิสติกที่อยู่ในสนามเด็กเล่น เมื่อเราเดินไปใกล้เด็ก ๆ เหล่านั้นที่กำลังเล่นกันอย่างสนุกสนาน เสียงในเกมจะแหลมและดังขึ้นอย่างผิดปกติ รวมถึงภาพที่จะพร่ามัวไม่ชัดเจนที่เป็นการสะท้อนความรู้สึกของคนที่เป็นโรคนี้ ว่าต้องทนทุกข์ทรมานขนาดไหนที่ต้องอยู่ท่ามกลางผู้คน จนคนเหล่านั้นต้องกรีดร้องออกมาเพื่อให้ความรู้สึกเหล่านั้นหมดไป(ลองเล่นแล้วเข้าใจเลยว่าทำไมผู้ป่วยถึงต้องปิดหู และร้องออกมาด้วยความหวาดกลัว) ตัวเกมแม้จะเป็นแค่การจำลองไม่มีเป้าหมายหรือเส้นทางใด ๆ แต่มันก็คือเกมที่นักพัฒนาอยากให้คนปกติได้รับรู้ความรู้สึกที่ผู้ป่วยไม่สามารถบอกให้คนอื่นเข้าใจได้ ใครอยากเล่นก็ลองไปค้นหาชื่อเกมและโหลดมาเล่นดู ไม่ก็ไปดูในวิดีโอที่มีการทดลองเล่น แล้วคุณจะรู้ว่าคนที่ป่วยทางจิตเขารู้สึกอย่างไร
ก็จบกันไปแล้วกับการนำเสนอสภาพจิตใจของคนป่วยทางจิตผ่านวิดีโอเกมแบบต่าง ๆ หวังว่าบทความนี้จะเป็นตัวช่วยให้ใครหลายคนได้เข้าใจมุมมองความคิด และความรู้สึกของคนที่ป่วยทางจิตแบบต่าง ๆ มากขึ้น ว่าพวกเขานั้นรู้สึกอย่างไร และสิ่งที่เราคนปกติควรทำคือการให้กำลังใจดูแลและเข้าใจในสิ่งที่เขาเป็น อย่าไปโกรธหรือต่อว่าพวกเขา เพราะสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่ผู้ป่วยอยากเป็น และมันไม่สามารถควบคุมหรือบังคับให้ตัวเองเลิกคิดเลิกเป็นได้ และเราขอใช้พื้นที่นี้เป็นกำลังใจให้คนที่กำลังป่วยไม่ว่าจะเป็นโรคอะไรก็ตาม จงมีความหวังและอยู่เพื่อคนที่คุณรักอย่ายอมแพ้ เพราะคุณคือส่วนหนึ่งของโลกใบนี้และโลกใบนี้ก็ต้องการคุณมากกว่าที่คุณคิด
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส