เปิดตำนาน Ghosts ‘n Goblins (มาไคมูระ) เกมในตำนานที่ขึ้นชื่อด้วยความโหด !!

หลังจากการกลับมาของเกมสุดโหดของ Capcom อย่าง Ghosts ‘n Goblins Resurrection ที่กลับมาวางขายอีกครั้งบน Nintendo Switch และถือว่าประสบความสำเร็จในการคืนชีพเกมในตำนานกลับมาเกิดในยุคใหม่ได้ลงตัว และยังสานต่อความโหดของเกมแบบพบกันครึ่งทางเพราะมีโหมดง่าย (มาก) มาให้เล่นกันด้วย ส่วนใครอยากรู้ว่าภาค Resurrection สนุกแค่ไหนไปอ่านรีวิวได้ที่ กดเลยรีวิวเกม Ghosts ‘n Goblins Resurrection

แต่แฟนเกมยุคใหม่ที่เกิดไม่ทันอาจจะไม่ทราบว่าตำนานของ Ghosts ‘n Goblins มีมาแล้วกี่ภาคและนอกจากเกมหลักแล้วทาง Capcom ยังมีการออกวางขายภาคแยกออกมาจากซีรีส์หลักด้วย และออกมาหลายเกมมากกว่าแถมยังมีตัวละครที่แตกต่างจากซีรีส์หลักด้วย วันนี้ทาง beartai ได้รวบรวมเอาตำนาน Ghosts ‘n Goblins มารวมกันทุกภาคเพื่อให้คอเกมยุคใหม่ที่สนใจเกมสุดโหดระดับเทพได้ทราบตำนานจากค่าย Capcom ที่ในยุคก่อนโด่งดังไม่แพ้เกมอื่น

Ghosts ‘n Goblins เปิดตำนานความโหดบนเกมตู้ !!

เกม Ghosts ‘n Goblins หรือชื่อภาษาญี่ปุ่นที่คนไทยคุ้นเคยคือ “มาไคมูระ” เป็นผลงานของคุณ Tokuro Fujiwara ทีมงาน Capcom ที่อยู่เบื้องหลังเกมดัง ๆ อย่าง Rockman ด้วย และเวอร์ชันแรกออกบนเกมตู้ก่อนในปี 1985 ก่อนจะย้ายบ้านบนลงคอนโซลหลายเครื่องแต่ที่โด่งดังที่สุดคงหนีไม่พ้นบน Famicom ที่มีการออกเป็นตลับในปี 1986 และความโดดเด่นของเกมคือรูปแบบการเล่นแบบ 2D มุมมองด้านข้างที่ตัวเอกเป็นอัศวินสวมชุดเกราะที่แสนเปราะบางเพราะโดนอัดทีเดียวก็แตกแล้ว และเมื่อเราโดนโจมตีอีกครั้งก็จะตายเป็นกระดูกไป ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเกมมาจนทุกวันนี้

แน่นอนว่าภาคแรกกราฟิกอาจจะไม่โดดเด่นเพราะยังดูอยู่ในยุค 80s โดยบนฉบับอาเขตจะมีรายละเอียดดีกว่าบนแฟมิคอม รูปแบบการเล่นยังมีแค่พื้นฐานแค่เดินและโจมตีศัตรูด้วยการปาอาวุธ ยังไม่มีอะไรพิเศษมากกว่านี้แต่มีรูปแบบของอาวุธให้เลือกใช้หลายแบบอยู่ แต่ที่ทำให้มันเป็นตำนานคือความโหดที่แม้จะไม่ได้มีรายละเอียดลูกเล่นอะไรแต่ การที่ตัวเอกมีความจำกัดทั้งพลังกายและการเคลื่อนไหว ทำให้การลุยผ่านด่านที่เต็มไปด้วยศัตรูที่ใส่มาในจุดที่กำจัดได้ยาก บอสสุดโหดที่โผล่มาในรูปแบบที่คาดไม่ถึง และยังต้องเล่น 2 รอบเพื่อให้จบเกมเรียกว่าเด็ก ๆ ยุคนั้นมีหัวร้อนไม่แพ้การเล่น Dark Souls ของยุคนี้เลย และความโด่งดังทำให้ Ghosts ‘n Goblins ภาคแรกถูกเอากลับมาขายใหม่หลายรอบ และได้รับเลือกให้อยู่ในคอนโซลตัวเล็กของนินเทนโดอย่าง Famicom Mini ทั้งโซนญี่ปุ่นและอเมริกาด้วย

สานต่อความสำเร็จในยุค 16Bit

หลังจากขายดิบขายดี ทาง Capcom ได้ขนเอาภาคต่อออกมาในชื่อ Ghouls ‘n Ghosts หรือชื่อญี่ปุ่นคือ “ได มาไคมูระ” ออกวางขายในเวอร์ชันเกมตู้ก่อนเหมือนเดิมในปี 1988 ก่อนจะย้ายลงคอนโซลหลายเครื่องในปี 1989 แต่ที่โด่งดังคงหนีไม่พ้นบน Mega Drive แน่นอนว่ากราฟิกจะถูกยกระดับขึ้นมาให้ดูดีกว่าเดิม เพลงประกอบที่เอาธีมเดิมมาปรับแต่งให้ดูหลอนและลงตัวมากขึ้น และเกมเพลย์ยังเพิ่มเติมสิ่งใหม่เข้าไปมากมายด้วยเช่นการเพิ่มทิศทางในการโจมตีได้มากขึ้นเพราะปาอาวุธขึ้นด้านบนและด้านล่างได้ นอกจากนี้ยังเสริมอาวุธใหม่ ๆ เข้าไปแถมยังเพิ่มชุดเกราะทองที่เมื่อสวมแล้วจะสามารถใช้ท่าพิเศษได้ และอาวุธแต่ละประเภทจะมีท่าพิเศษประจำตัวด้วย แน่นอนว่าความยากยังโหดเหมือนเดิม แต่ภาคนี้บน Mega Drive มีสูตรอมตะมาให้เลือกใช้ด้วยทำให้มือใหม่เล่นจบได้

โดยสมัย 16Bit มีภาคต่อบน Super Famicom หลังจากนั้นในปี 1991 ทาง Capcom ได้ส่งเกม Super Ghouls ‘n Ghosts (โจ มาไคมูระ ในญี่ปุ่น) ออกเฉพาะคอนโซล 16Bit ของนินเทนโดเท่านั้นไม่ออกเกมตู้มาก่อนถือว่ามาแปลก แต่กราฟิกของเกมไม่ค่อยแตกต่างจากภาคก่อนนักเพราะยังอยู่ในยุค 16Bit แถมด้วยเกมเพลย์ที่ยังเป็น 2D เหมือนเดิมแต่ภาคนี้เพิ่มเติมการกระโดดสองจังหวะเข้ามาทำให้เคลื่อนไหวได้ไกลกว่าเดิม แต่ได้ตัดเอาการปาอาวุธหลายทิศทางออกไป ส่วนชุดของภาคนี้ได้เพิ่มเกราะเงินเข้ามาที่จะช่วยเพิ่มพลังให้อาวุธหลักของเราให้แรงมากขึ้น และแน่นอนว่าชุดเกราะทองก็ยังคงอยู่เพื่อให้ผู้เล่นใช้ท่าพิเศษเหมือนเดิม ส่วนของใหม่อีกส่วนคือมีโล่มาให้ใช้งานเพื่อป้องกันกระสุนบินจากด้านหน้าได้ 1 ครั้ง โดยรวมภาคนี้ถือว่าง่ายขึ้นพอสมควรสามารถเล่นจบได้โดยไม่หัวร้อนมากนัก

ภาคเสริมภาคแยกของ Ghosts ‘n Goblins ก่อนจะหายไปยาว

ซีรีส์ Ghosts ‘n Goblins นอกจากภาคหลักแล้วยังมีการออกภาคเอามาขายใหม่ หรือภาคที่กลายเป็นเกม Puzzle ด้วยแต่ในบทความนี้จะขอพูดถึงเกมแอ็กชันเท่านั้น โดยภาคแยกครั้งแรกสร้างในปี 1990 บน Gameboy รุ่นจอขาวดำในชื่อ Gargoyle’s Quest ที่ตัวเอกในเกมจะเป็นศัตรูในภาคหลักอย่าง Red Arremer ปีศาจสีแดงที่บินได้ และเป็นตัวป่วนในภาคหลักมาเป็นพระเอกเต็มตัว ผ่านเกมเพลย์แอ็กชัน 2D ที่สนุกมีการใช้ลูกเล่นการบินแล้วเกาะกำแพงมาใช้ได้ลงตัว และมีการออกภาคต่อบนแฟมิคอม แต่เชื่อว่าคนไทยอาจจะไม่คุ้นเคยกันนัก

และหลังจากนั้นในปี 1994 Capcom ได้ส่งเกม Demon’s Crest ที่เป็นการกลับมาของ Red Arremer บน Super Famicom ที่มีกราฟิกดูดีมากกว่าเดิม แม้ยังเป็นแอ็กชัน 2D งานออกแบบฉากในเกมทำได้ยอดเยี่ยมมีการผสมผสาน RPG ที่มีฉากแผนที่ และสามารถอัปเกรดตัวละครได้หลากหลายชนิดเปลี่ยนร่างไปเลย เช่นบางร่างว่ายน้ำได้ บางร่างบินไม่ได้แค่ทรงพลัง หรือร่างที่มีปีกยาวที่สามารถบินได้ดีกว่าแบบปรกติ ทำให้ตัวเกมหลากหลายและมีความซับซ้อนกว่า มาไคมูระ ภาคหลักมาก ๆ และเป็นอีกเกมระดับตำนานที่ไม่ควรพลาด

นอกจากนี้ทาง Capcom ยังเคยออกเกม Maximo: Ghosts to Glory บน PS2 (วางขายในปี 2001) ที่เป็นเวอร์ชั่นที่ไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรง แต่เรื่องราวในเกมจะเกิดในโลกของ Ghosts ‘n Goblins และเป็นแอ็กชันสามมิติที่มีความรวดเร็ว และแตกต่างจากซีรีส์หลักมาก แถมยังได้ศิลปินในตำนานอย่าง Susumu Matsushita มาออกแบบตัวละครให้ด้วย และมีการออกภาคต่อในชื่อ Maximo vs. Army of Zin ที่ออกในปี 2003 บน PS2 เหมือนเดิม แต่เป็นที่น่าเสียดายที่หลังจากการออกภาคเสริมซีรีส์ มาไคมูระ ก็เงียบหายไปพักใหญ่

กลับมาเกิดใหม่ของ Ghosts ‘n Goblins บน PSP

หลังจากภาคหลักห่างหายไปหลายปี Capcom ได้คืนชีพอีกครั้งบนเครื่องพกพาของ Sony อย่าง PSP กับภาค Ultimate Ghosts ‘n Goblins ที่ยกเครื่องครั้งใหญ่ ด้วยการอัปเกรดกราฟิกให้ทันสมัยเพราะตัวละครเป็น 3D แต่รูปแบบการเล่นยังคงเป็นแอ็กชัน 2D มุมมองด้านข้างเหมือนเดิม และได้ปรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัยเช่นความยากในเกมที่ลดลง (แต่มีโหมดยากให้เล่น) เพราะในภาคนี้ชุดเกราะไม่ได้โดนครั้งเดียวแตกแล้วแถมยังมีให้เลือกหลายชุดที่มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน และยังมีระบบท่าไม้ตายและอาวุธใหม่เสริมเข้ามาด้วย ถือว่าเป็นภาคที่ทาง Capcom คิดแตกต่างจากเดิมและแม้จะไม่ได้ประสบความสำเร็จมากนัก แต่หลายสิ่งหลายอย่างในภาค Ultimate Ghosts ‘n Goblins โผล่ในภาค Resurrection ด้วย ถือว่าเป็นอีกภาคที่สนุกและไม่เชยทุกวันนี้ยังหยิบมาเล่นได้

Ghosts ‘n Goblins ภาคที่ออกบนสมาร์ตโฟน

ในยุคที่เกมดังไปออกบนมือถือแน่นอนว่า Capcom ได้ส่งซีรีส์สุดโหดลงบน ios ในชื่อ Ghosts ‘n Goblins: Gold Knights ในปี 2009 และมีภาค 2 ออกในปี 2010 ที่กราฟิกในเกมคล้ายกับเวอร์ชัน PSP ที่ตัวละครเป็น 3D แต่เกมเพลย์เป็น 2D ความโดดเด่นของฉบับมือถือคือมีหลากหลายตัวละครให้เล่น ซึ่งผู้เล่นจะสามารถเลือกได้ระหว่าง Arthur ที่มาพร้อมความทรงพลังและชุดเกราะที่แกร่งแต่มีข้อเสียคือความเร็วจะต่ำ นอกจากนี้ยังมี Lancelot ที่จะมาในภาค 2 โดยเขาจะมีความเร็วในการโจมตีสูง แต่ความรุนแรงจะน้อยกว่า รวมทั้งพลังป้องกันของเกราะจะน้อยกว่า ปิดท้ายกับ Perceval ที่เน้นโจมตีระยะประชิด ที่มีพลังโจมตีสูงกว่า Arthur นอกจากนี้ยังใช้ดาบที่กำหนดด้วยธาตุได้หลายชนิดแต่ข้อเสียคือ Perceval ไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้ อย่างไรก็ตามในปัจจุบันเกม Ghosts ‘n Goblins: Gold Knights ได้ถูกเอาออกจาก App Store ตั้งแต่ปี 2016 แล้วทำให้หาเล่นไม่ได้ในตอนนี้

โดยทุกวันนี้แฟนเกมสามารถหาเล่นเกม Ghosts ‘n Goblins ภาคเก่า ๆ ได้ในเวอร์ชั่นเอามาขายใหม่ของ Capcom และการมาของภาคใหม่ Ghosts ‘n Goblins Resurrection ทำให้ในอนาคตมีโอกาสที่จะเห็นภาคใหม่มาต่อเนื่องหากภาคนี้ประสบความสำเร็จ แฟน ๆ เกมรุ่นใหม่ที่อยากลองสัมผัสความยากระดับสุดโหดก็ลองให้ไปหามาเล่นได้รับประกันความหัวร้อนไม่แพ้เกม Dark Souls แน่นอน

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส