คุณเคยสงสัยกันบ้างไหมว่าเรื่องราวที่ดีหรือร้ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นมาในโลกนั้น ล้วนแต่มีจุดเริ่มต้นมาจากสิ่ง ๆ หนึ่งหรือคน ๆ หนึ่งเป็นคนเริ่มสร้างขึ้นมา ที่มีทั้งแบบเต็มใจทำให้เกิดขึ้นหรือจะเป็นแบบไม่เต็มใจไม่ได้คิดว่ามันจะเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งในโลกของวิดีโอเกมก็เช่นกันที่หลายครั้งเรื่องราวต่าง ๆ ก็เกิดขึ้นมาจากตัวละครตัวเดียวได้ทำบางอย่าง จนทำให้เกิดเป็นลูกโซ่ตามมาอีกหลายภาค จนเราต้องกลับมาคิดว่าถ้าไม่มีตัวละครเหล่านี้เรื่องราวต่าง ๆ คงไม่มีทางเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เมื่อคิดได้แบบนั้นเราจึงไปค้นหาตัวละครที่เป็นต้นเหตุของเรื่องราวต่าง ๆ มานำเสนอ โดยเราเอาพื้นฐานที่ว่าถ้าไม่มีตัวละครเหล่านี้ หรือการกระทำแบบนี้ก็จะไม่มีเรื่องราวในเกมตามมา จะมีเรื่องราวอะไรที่น่าสนใจบ้างนั้นมาดูกันเลย
มีใครกันบ้างนะ
- Henry Travis จากเกม Resident Evil
- Doctor Albert W. Wily จากเกม Rock Man X
- Professor Hojo จากเกม Final Fantasy VII
- Kratos จากเกม God of War
- Ruvik จากเกม The Evil Within
- Princess peach จากเกม Super Mario
- The Boss จากเกม Metal Gear
- Ellie จากเกม The Last of Us
- Heihachi Mishima จากเกม Tekken
- Arceus จากเกม Pokemon
- Morcant เกม Dragon Quest Xl
- Valtiel จากเกม Silent Hill
- Norman Osborn จากเกม Marvels Spider-Man Miles Morales
Henry Travis จากเกม Resident Evil
เริ่มต้นตัวละครแรกจากซีรีส์ผีชีวะหรือ ‘Resident Evil’ ที่ถ้าเราจะพูดถึงจุดกำเนิดเริ่มต้นของความชั่วร้ายนั้น หลายคนคงจะคิดถึง ‘Ozwell E. Spencer’ ออสเวลล์ อี. สเปนเซอร์ ที่ถ้าไม่มีเขาก็คงไม่เกิดเรื่องราวต่าง ๆ ในเกม ‘Resident Evil’ ขึ้น ซึ่งนั่นก็ถูกเพียงครึ่งเดียว เพราะถ้าเราย้อนกลับไปในเกม ‘Resident Evil 5’ ได้มีการเปิดเผยต้นกำเนิดของไวรัสในเกมนี้ว่าความจริงแล้วมันเกิดมาจากดอกไม้ของชนเผ่า Ndipaya ที่มีชื่อว่า Stairway of the Sun ซึ่งคนที่ไปค้นพบดอกไม้นี้ก็คือ ‘Henry Travis’ เฮนรี ทราวิสชายผู้ชอบการเดินทางท่องป่าในทวีปแอฟริกา เขาได้จดบันทึกการเดินทางต่าง ๆ เอาไว้มากมายถึง 72 เล่มในชื่อ ‘Natural History Conspectus’ และหนึ่งในบันทึกนั้นก็มีเรื่องราวของดอกไม้ Stairway of the Sun ที่ชนเผ่านี้จะคัดเลือกหัวหน้าเผ่าที่สามารถกินดอกไม้นี้แล้วไม่ตาย ซึ่งคนนั้นจะมีพละกำลังและชีวิตที่ยืนยาวจนมันไปเตะตาสเปนเซอร์ที่ได้อ่าน จนกลายเป็นการสำรวจเพื่อหาดอกไม้ขึ้นมา และสุดท้ายดอกไม้เหล่านี้ก็คือต้นทางของเชื้อ T-Virus จุดเริ่มต้นหายนะต่าง ๆ ในเกมนี้ ซึ่งถ้าไม่มีบันทึกของเฮนรีก็คงไม่มีการสร้างเชื้อ T-Virus ขึ้นมานั่นเอง ที่จนถึงตอนนี้เราก็ยังไม่ทราบเลยว่าเฮนรีหน้าตาเป็นอย่างไร เพราะมีแต่การเอ่ยชื่อเขาเท่านั้น คงต้องรอดูว่า Capcom จะเอาเรื่องราวของเขามาขยายต่อรึไม่ แต่ที่แน่ ๆ คือถ้าไม่มีชายคนนี้คงไม่เกิดเรื่องราวใน ‘Resident Evil’ แน่นอน
Doctor Albert W. Wily จากเกม Rock Man X
อีกหนึ่งตัวละครที่สร้างความวุ่นวายข้ามซีรีส์ กับชายผู้เป็นเบอร์ 2 ตลอดกาลอย่าง ‘Albert W. Wily’ อัลเบิร์ต ดับเบิลยู ไวลี่ ที่หลายคนอาจจะสงสัยว่าตัวร้ายคนนี้ไปเกี่ยวอะไรกับซีรีส์ ‘RockMan X’ และถ้าไม่มีเขาเรื่องราวใน ‘RockMan X’ คงจะไม่เกิดขึ้นได้อย่างไร คงต้องย้อนเวลากลับไปในช่วงท้ายของของเกม ‘Rockman Power Battle 2’ ในตอนนั้นดร.ไวลี่ได้บอกกับเราว่าเขากำลังสร้างสุดยอดหุ่นยนต์ขึ้นมา ซึ่งดูจากเงาก็ทราบทันทีว่าคือ Zero ซึ่งก็ตรงกับเนื้อหาในเกม ‘RockMan X 4’ ที่เล่าย้อนไปในอดีตที่ Zero เพิ่งตื่นได้ก่อความวุ่นวายจน Sigma ที่ตอนนั้นยังเป็น Maverick Hunters ของหน่วย Elite ที่ 17 ได้มาปราบ แต่เขากลับไม่สามารถต่อการกับความบ้าคลั่งของ Zero ได้ จนตอนนั้นที่ Sigma กำลังจะจนมุมเขาได้ทำลายลูกแก้วบนหมวกของ Zero จนแตก ตอนนั้นเองที่ Maverick Virus ก็ถูกถ่ายโอนโดยตรงไปยัง Sigma จนเกิดเป็นเรื่องราวในภาคต่าง ๆ ซึ่งคนที่สร้าง Maverick Virus ก็คือดร.ไวลี่ที่ต้องการให้ Zero ทำลายโลกในอนาคตแต่ Zero กลับมาปกป้องโลก ซึ่งถ้าไม่มีดร.ไวลี่เรื่องราวใน ‘RockMan X’ คงจะสงบสุขกว่านี้เพราะไม่มี Sigma และ Maverick Virus ที่เป็นตัวร้ายมาก่อความวุ่นวายนั่นเอง
Professor Hojo จากเกม Final Fantasy VII
คุณคิดว่าเรื่องราวในเกม ‘Final Fantasy VII’ เริ่มต้นจากตรงไหน ? แน่นอนว่าเราต้องคิดถึง ‘Sephiroth’ เซฟีรอธ ที่เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราว เพราะเขาเป็นคนสร้างความวุ่นวายทั้งหมดในเกม ที่ถ้าไม่มีเขาคนนี้เรื่องราวอุกกาบาตชนโลกสัตว์ประหลาดมามาสร้างความวุ่นวายคงไม่มี หรือจะเป็น Jenova สิ่งมีชีวิตที่กลืนกินดวงดาวที่หมายตาโลกที่ถ้าไม่มีปีศาจตนนี้เรื่องราวต่าง ๆ คงไม่เกิด ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานั้นถูกแค่แค่ครึ่งเดียว
เพราะถ้าเราจะมองกันจริง ๆ คนที่ทำให้เกิดเรื่องราวนี้ขึ้นมาก็คือชายที่ชื่อว่า ‘Hojo’ โฮโจ เพราะเขาคือคนที่ขุดค้นพบ Jenova ที่ถูกผนึกโดยชนเผ่าโบราณปิดผนึกขึ้นมา (ถ้าไม่มีโฮโจตัว Jenova คงนอนในดินต่อไป) จนเมื่อโฮโจได้ร่าง Jenova มาเขาก็ทำการทดลองสร้างมนุษย์ดัดแปลงในชื่อ ‘Jenova Project’ เพื่อสร้างสุดยอดนักรบที่มีเพียงเซฟีรอธซึ่งเป็นลูกชายตัวเองเท่านั้นที่เป็นมนุษย์ทดลองที่สมบูรณ์ และแน่นอนว่าตัวเซฟีรอธที่เขาใจผิดคิดว่า Jenova คือแม่ก็เกิดบ้าคลั่งฆ่าผู้คนสร้างความวุ่นวายจนเป็นการทำลายโลกเพื่อแม่ นี่ยังไม่นับเหล่าทหารใต้เมืองปีศาจต่าง ๆ ไปจนถึงการจับทหารมาทดลองอีกมากมายรวมทั้ง ‘Cloud’ คลาวด์ ที่ก็เกิดมาจากฝีมือของโฮโจ เรียกว่าถ้าไม่มีชายคนนี้เรื่องราวใน ‘Final Fantasy VII’ ก็คงไม่เกิดขึ้นได้เลยทีเดียว
Kratos จากเกม God of War
มาถึงเกมโล้นซ่าล่าทวยเทพกับเกม ‘God of War’ ที่ถ้าเราพยายามย้อนกลับไปดูเรื่องราวจุดเริ่มต้นว่าถ้าไม่มีตัวละครคนไหนเรื่องราวในเกมนี้จึงจะไม่เกิดขึ้น ซึ่งหลายคนคงจะคิดถึงน้องชายของ ‘Kratos’ เครโทส อย่าง ‘Deimos’ ดีมอส ที่ถ้าไม่มีเขาเรื่องราวคงไม่เกิดขึ้นเพราะดีมอสคือเด็กที่มีปานตามคำทำนายบอกเอาไว้ว่า ชายผู้มีปานสีแดงพาดที่ตัวจะเป็นผู้ทำลายเหล่าทวยเทพ เพราะเหตุนี้เขาจึงถูกเทพเจ้าลักพาตัวไปในช่วงวัยเด็ก ซึ่งเอาจริง ๆ แล้วต่อให้มีดีมอสรึไม่เรื่องราวในเกม ‘God of War’ ก็คงเกิดขึ้นอยู่ดี เพราะสุดท้ายแล้วเครโทสก็ไปสู้ในสงคราม และก่อนที่จะพลาดท่าเขาได้ถวายตัวเองต่อเทพแห่งสงคราม ‘Ares’ เอง จนกลายเป็นหมากของเทพเจ้าจนเรื่องราวบานปลายเป็นการฆ่าครอบครัวตัวเอง จากนั้นเครโทสก็มีปานแดงตามตัวเพราะความแค้นที่มีต่อเทพ ซึ่งถ้าไม่มีเครโทสตั้งแต่ต้นเรื่องราวใน ‘God of War’ ทั้งหมด (ย้ำว่าทั้งหมดรวมถึงภาคล่าสุดด้วย) คงจะไม่เกิดขึ้น เพราะเขาคือตัวแปรสำคัญในเรื่อง รึถ้าคุณจะบอกว่างั้นก็ตัดเทพเจ้าแห่งสงครามที่ให้พลังเครโทสออกไปก็สิ้นเรื่อง แต่อย่าลืมว่าจะมีเทพเจ้าองค์อื่นที่รับฟังเสียงผู้คนอยู่หลายองค์ ต่อให้ไม่ใช่เทพแห่งสงครามก็จะมีเทพองค์อื่นมาให้พรอยู่ดี ดังนั้นถ้าคิดถึงการไม่มีตัวตนของเครโทสคือทางออกที่ดีที่สุด
Ruvik จากเกม The Evil Within
มากันที่เกมแนวหลอนสยองขวัญปั่นประสาทคนเล่นอย่าง ‘The Evil Within’ กันบ้าง ซึ่งคนที่ไม่รู้จักเกมนี้จะให้เรารับบทเป็นนักสืบหนุ่มนาม ‘Sebastian Castellanos’ เซบาสเตียน คาสเทลลานอส ที่ชีวิตต้องวนเวียนอยู่กับการหลงเข้าไปในต่างมิติที่เรียกว่า Stem หรือ ‘โลกเสมือนจริง’ ที่เราสามารถทำอะไรก็ได้ในโลกนั้น แต่ตัวจริงกลับนอนเป็นผักอยู่บนเตียง ซึ่งคนที่สร้างเครื่องมือที่เรียก Stem ขึ้นมานั้นก็คือ ‘Ruvik’ รูวิค เด็กอัจฉริยะที่ได้ฉายาจากคนรู้จักว่าฆาตกรต่อเนื่องที่ปลอมตัวเป็นนักวิทยาศาสตร์ ซึ่งในวัยเด็กเขาและพี่สาวเคยถูกไฟคลอกจนบาดเจ็บสาหัส จนทำให้เขาเป็นคนเก็บตัวและทรมานกับแผลไฟไหม้ เขาจึงสร้าง Stem ขึ้นมาเพื่อจะย้ายตัวตนไปอยู่ในนั้นจะได้มีชีวิตกับพี่สาว แต่สุดท้ายงานวิจัยเขาก็ถูกคนที่ให้การสนัยสนุนขโมยไปและอ้างว่าเป็นผลงานตนเอง จนทำให้รูวิคโกรธ ทั้งที่ปกติเขาก็เป็นคนโรคจิตชอบจับมนุษย์มาทำร้ายอยู่แล้ว พอมาเป็นศูนย์กลางของระบบโลกใน Stem ที่สามารถจะสร้างโลกให้เป็นแบบไหนก็ได้ ที่นั่นจึงกลายเป็นบ้านผีสิงสุดโรคจิตที่เราได้เจอในเกม ซึ่งถ้าไม่มีชายคนนี้หรือเขาถูกไฟคลอกตายในโรงนาโดยที่พี่สาวไม่ช่วย ก็คงไม่มีเรื่องราวในเกม ‘The Evil Within’ ทั้งสองภาคแน่นอน(เรื่องราวใน ‘The Evil Within 2’ คือ Stem ที่พัฒนามาอีกขั้นจากของรูวิค)
Princess peach จากเกม Super Mario
อันนี้คงไม่ต้องอธิบายอะไรกันมากเพราะเชื่อว่าทุกคนคงจะทราบกันดีอยู่แล้ว ว่าเกือบทุกครั้งที่เกิดเรื่องราวในเกม ‘Super Mario’ นั้นจะมาจาก ‘Princess peach’ เจ้าหญิงพีช ที่ถูกจับตัวไป เพราะถ้าไม่มีเธอ ‘Mario’ มาริโอ้ ก็คงไม่รู้ว่าจะไปช่วยใคร เขาก็คงเป็นแค่ช่างประปาแห่งอาณาจักรเห็ดต่อไปไม่ได้เป็นวีรบุรุษไปช่วยเจ้าหญิง หรือถ้าคุณคิดว่าถ้าไม่มี ‘Bowser’ บาวเซอร์ หรือ ‘Koopa’ คูป้า ในภาษาญี่ปุ่น ก็ไม่มีใครจับตัวเจ้าหญิงไปนั่นก็ไม่ใช่เสียทีเดียว เพราะหลายครั้งที่เจ้าหญิงพีชถูกจับตัวไปโดยตัวร้ายคนอื่นก็มีหลายครั้ง จนพวกมาริโอ้กับบาวเซอร์ต้องร่วมมือกันไปช่วยเจ้าหญิง ดังนั้นถ้าไม่มีคุณเจ้าหญิงผู้ชอบถูกจับเรื่องราวต่าง ๆ ในซีรีส์ ‘Super Mario’ คงไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน
The Boss จากเกม Metal Gear
ถ้าจะพูดถึงตัวละครที่ตรงกับเนื้อหาในบทความนี้ที่สุด ก็น่าจะเป็น The Boss นายทหารสุดแกร่งจากเกมซีรีส์ ‘Metal Gear’ ที่ตัวของเธอนั้นคือตัวต้นเหตุของเรื่องราวความวุ่นวายทั้งหมดก็ว่าได้ โดยเรื่องราวต้องย้อนกลับไปในเกม ‘Metal Gear Solid 3’ ที่ The Boss ต้องตายในฐานะผู้ก่อการร้าย ทั้งที่ความจริงเธอคือวีรสตรีที่ปกป้องโลกจากสงครามโลกครั้งที่ 3 จนเมื่อเธอตายกลุ่มคนที่เทิดทูน The Boss ไม่ว่าจะเป็น Major Zero ไปจนถึง Big Boss จึงหยิบเอาคำพูดของ The Boss มาตีความเกี่ยวกับโลกที่ไร้ซึ่งสงครามไปตามแต่ความคิดของแต่ละคน โดยฝั่ง Major Zero คิดไปว่าโลกที่ไร้ซึ่งสงคราม คือโลกที่ถูกควบคุมด้วยบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่และไม่มีวันผิดพลาดอย่าง AI ที่คอยควบคุมเศรษฐกิจการเงินไปจนถึงเรื่องราวต่าง ๆ ในโลกให้เป็นไปตามที่ถูกต้อง ขณะที่ Big Boss กลับตีความไปว่าถ้าอยากให้โลกไม่มีสงคราม เราก็ต้องปกครองโลกด้วยความกลัว โดยการตั้งกองทัพขนาดใหญ่แล้วปกครองโลกใบนี้ ทีนี้ก็จะไม่มีใครกล้าก่อสงคราม(ใครกล้าก่อสงครามจะโดน BigBoss ตบ) ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่ The Boss หมายถึงอะไร แต่ที่แน่ ๆ คือถ้าไม่มีเธอคนนี้ก็คงไม่เกิดเรื่องราวในซีรีส์ ‘Metal Gear’ เพราะจะไม่มีใครมานั่งตีความในสิ่งที่ The Boss พูดจนเกิดเป็นสงครามไปทั่วโลกแบบนี้
Ellie จากเกม The Last of Us
อีกหนึ่งต้นเหตุที่เป็นเหมือนจุดเริ่มต้นเรื่องราวทั้งหมดของซีรีส์ ‘The Last of Us’ นั่นคือตัวของ ‘Ellie’ เอลลี่ เด็กสาวที่มีภูมิคุ้มกันโรคเชื้อราซอมบี้หัวเห็ด ที่ตัวของเด็กสาวนั้นถูกซอมบี้กัดใน ‘DLC Left Behind’ แต่ไม่กลายเป็นซอมบี้แบบที่เพื่อนของเธอเป็น หลังจากนั้นเอลลี่ก็เป็นเหมือนกุญแจ ที่จะเป็นต้นทางของการทำยารักษาโลกใบนี้ให้กลับมาเป็นปกติ แต่การเดินทางไปยังโรงพยาบาลที่สามารถผ่าตัดได้นั้นต้องเดินทางข้ามประเทศ ทางกลุ่ม Fireflies จึงจ้าง ‘Joel’ โจเอล มารับงานต่อ (เพราะแกไปฆ่าคนรับงานคนเก่าแล้ว) ให้ส่งตัวเอลลี่ไปถึงที่หมายอย่างปลอดภัย แต่ด้วยความผูกพันของทั้งสอง บวกกับที่โจเอลเองก็เคยเสียลูกสาว จึงกลายเป็นความรักของพ่อลูก ที่สุดท้ายโจเอลก็เลือกจะรักษาหัวใจตัวเองมากกว่าช่วยโลกใบนี้ โดยการปกปิดเรื่องที่เอลลี่มีภูมิคุ้มกันโรคซอมบี้หัวเห็ด จนมาถึงภาคที่ 2 ที่เรื่องราวก็ยังคงสานต่อมาจากสิ่งที่โจเอลทำเอาไว้ได้กลับมาหลอกหลอน และการเป็นเรื่องราวการล้างแค้นไปมาในเกม ที่จะว่ากันจริง ๆ ถ้าวันนั้นใน ‘DLC Left Behind’ ตัวเอลลี่ที่ถูกกัดไม่มีภูมิคุ้มกันหรือเธอชิงฆ่าตัวตายไป เรื่องราวในเกม ‘The Last of Us’ จะไม่เกิดขึ้นมาเลย ทุกคนก็จะใช้ชีวิตกันไปในแบบของตัวเองไม่มีใครตายเพราะการเดินทางหรือแก้แค้นครั้งนี้ คุณคิดแบบนั้นไหม
Heihachi Mishima จากเกม Tekken
เคยได้ยินคำว่าขิงยิ่งแก่ยิ่งเผ็ดบางไหม คำ ๆ นี้ใช้กับตาลุง ‘Heihachi Mishima’ เฮย์ฮาจิ มิชิม่า จากเกมซีรีส์ ‘Tekken’ ได้เลย เพราะถ้าไม่มีลุงแกเรื่องราวในซีรีส์ ‘Tekken’ คงไม่เกิดขึ้น เพราะตัวของเขานั้นเป็นชายที่ละโมบโหยหาพลังอำนาจและความแข็งแกร่ง ทั้งที่ตนเองก็เก่งมากมายอยู่แล้วแต่เขาก็ต้องการพลังที่มากกว่านี้ ซึ่งพลังที่ว่านี้ก็มีในพ่อสามีภรรยาลูกชายและหลานชายที่เกิดมา ซึ่งเฮย์ฮาจิโหยหามันมากขณะที่ฝ่ายซึ่งมีพลังอย่าง ‘Jin’ จิน ที่เป็นหลานชายกลับไม่ต้องการมัน ซึ่งในหลาย ๆ ครั้งของการแข่งขัน ‘King of Iron Fist Tournaments’ ขึ้นมานั้นก็เพื่อหาทางฆ่าลูกชายตัวเอง ซึ่งแทนที่เฮย์ฮาจิจะทำให้ลูกชายรักเขากลับอิจฉาลูกตัวเองที่มีพลัง จนโยนลงหน้าผาในตอนเด็กกลายเป็นการล้างแค้นไปมาของพ่อลูก และในภาคหลัง ๆ ที่เขาจัดการแข่งก็เพื่อจะขโมยพลังจากจิน จนเรื่องราวบานปลายไปถึงการทำสงครามทั่วโลกของพ่อลูกปู่หลานกันไปมาไม่รู้จบ ที่ทั้งหมดนั้นมาจากตาแก่คนนี้คนเดียว
Arceus จากเกม Pokemon
คราวนี้มาดูตัวละครที่ไม่ใช่คนกันบ้างแต่เป็น Pokemon ระดับเทพเจ้าในเกม ‘Pokemon’ อย่าง ‘Arceus’ อาเซอุส ที่ข้อมูลบอกว่าตัวของอาเซอุสนั้นคือ Pokemon ในตำนานที่สร้างมนุษย์และเหล่า Pokemon ไปจนถึงทุกสิ่งทุกอย่างในโลกของ Pokemon ขึ้นมาจากความว่างเปล่า ซึ่งแน่นอนว่าถ้าไม่มี Pokemon เทพเจ้าตนนี้ก็คงไม่มีเรื่องราวการเดินทางของเกม Pokemon ออกมาอย่างแน่นอน และด้วยความที่เขาเป็นผู้สร้างที่มีจิตใจอ่อนโยน(ถ้าไม่มีจิตใจที่ดีคงไม่สร้างสิ่งต่าง ๆ ขึ้นมา) จึงทำให้ถูกหลอกใช้จากคนที่ไม่หวังดีจนอาเซอุสไม่ไว้ใจเหล่ามนุษย์ ซึ่งใครที่สนใจเนื้อหาในส่วนนี้ก็ไปหาดูได้ในฉบับการ์ตูน ในส่วนของเกมนั้นอาเซอุสปรากฎตัวครั้งแรกในเกมภาค ‘Diamond and Pearl’ ที่ความเก่งนั้นคงไม่ต้องพูดถึง เพราเป็น Pokemon ระดับเทพพลังจึงสุดยอดกว่า Pokemon ตัวอื่น ๆ ในเกม
Morcant เกม Dragon Quest Xl
หน้าตาบ่งบอกได้เลยว่าตาลุงคนนี้คือตัวร้ายอย่างไม่ต้องสงสัย และถ้าใครที่ได้เล่นเกม ‘Dragon Quest Xl’ มาแล้วจะรู้เลยว่าพ่อมด ‘Morcant’ มอร์แคน คนนี้คือคนที่ทำให้เกิดเรื่องราวทั้งหมดในเกมนี้ขึ้นมา ซึ่งมันก็โยงใยลากยาวไปอีกหลายร้อยปีไปจนถึงลูกหลาน Roto ในภาค 1 ถึง 3 อีกด้วย โดยเรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อเหล่าผู้กล้าที่นำโดย ‘Erdwin’ เออร์ดวิน นักรบในตำนานที่ถูกเลือกโดย Yggdrasil ให้ปราบราชาปีศาจ Dark One แต่ก่อนที่ผู้กล้าจะสังหารราชาปีศาจ Dark One ตอนนั้นมอร์แคนก็ได้หักหลังผู้กล้า โดยการแทงเขาข้างหลังจนเสียชีวิต หลังจากนั้นเขาก็รับพลังปีศาจมาเป็นของตน ซึ่งถ้าตอนนั้นมอร์แคนไม่ฆ่าเออร์ดวินเรื่องราวก็คงจะจบลงด้วยดี คงจะไม่มีการเดินทางข้ามเวลาไปเปลี่ยนมิติคู่ขนาน จนกลายเป็นเรื่องราวบานปลายในอีกหลายร้อยปีต่อมาใน ‘Dragon Quest Xl’ เรียกว่าแค่การกระทำของคน ๆ เดียวก็เปลี่ยนชะตากรรมคนอีกหลายร้อยคนในอนาคตได้เลยทีเดียว
Valtiel จากเกม Silent Hill
ถ้าพูดถึงเรื่องราวในเกม ‘Silent Hill’ ใครที่เคยเล่นเกมนี้มาแล้วจะทราบดีว่าเมืองนี้มันมีพลังในตัวของมันเอง และมันจะเปลี่ยนจิตใจของคนที่มันต้องการให้เป็นโลกที่บิดเบี้ยวเต็มไปด้วยปีศาจ ที่ก็เกิดจากความคิดความรู้สึกทางลบที่คน ๆ นั้นเป็นให้ออกมามีตัวตน ซึ่งพลังทั้งหมดนั้นมันไม่ได้มาจากเมือง Silent Hill แต่พลังที่ว่านั้นมาจากพระเจ้าที่ชื่อ Valtiel ที่ถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่ของทูตสวรรค์ที่ใกล้ชิดพระเจ้า ตามตำนานในซีรีส์ ‘Silent Hill’ บอกว่า Valtiel เป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่พระเจ้าทรงสร้างขึ้นเพื่อนำผู้คนให้เชื่อฟัง ซึ่งเมือง Silent Hill ที่เราได้เล่นในเกมไปจนถึงมิติโลกสนิมที่เต็มไปด้วยปีศาจนั้น ล้วนแล้วแต่เกิดมาจากพลังของ Valtiel ที่ชี้นำผู้คนที่หลงทางมีความโหยหาและต้องการบางสิ่งให้มาที่เมืองนี้ หรือบางครั้งก็เกิดจากพวกลัทธิ the Order ที่พยายามปลุกพระเจ้า Lobsel Vith หรือ Yellow God ขึ้นมาผ่านร่างหญิงสาวที่เป็นเรื่องราวในภาค Origins กับภาค 1 และ 3 ซึ่งก็ได้พลังมาจาก Valtiel ในการทำพิธี ที่ทั้งหมดทั้งมวลนั้นถ้าไม่มี Valtiel เพียงองค์เดียวก็จะไม่มีเมืองห่าผี ‘Silent Hill’ เกิดขึ้น เมือง Silent Hill คงเป็นเมืองปกติทั่วไปและต่อให้ยังมีลัทธิ the Order ก็คงไม่มีอะไรเกิดขึ้นเพราะขาดขุมพลังที่ว่ามานั่นเอง
Norman Osborn จากเกม Marvels Spider-Man Miles Morales
ปิดท้ายกับตัวละครอีกหนึ่งคนที่เป็นเหมือนต้นเหตุของเรื่องราวต่าง ๆ ในเกม ‘Marvels Spider-Man’ กับตัวละครที่ชื่อว่า ‘Norman Osborn’ นอร์แมน ออสบอร์น ชายผู้ที่ทำทุกอย่างทุ่มเททุกทางเพื่อช่วยลูกชายของเขา ‘Harry Osborn’ แฮร์รี่ ออสบอร์น ที่กำลังป่วยด้วยการสร้างยารักษาเขา แต่การสร้างยาขึ้นมานั้นต้องมีตัวทดลองและการกระทำที่ชั่วร้ายมากมาย เพื่อให้ผลงานวิจัยออกมาได้อย่างที่ต้องการ แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นเขาก็มีส่วนดีเพราะแมงมุมในห้องทดลองที่ ‘Mary Jane’ แมรี เจน แอบเข้าไป เธอได้ติดเอาแมงมุมตัวหนึ่งมาด้วย และมันได้กัดชายหนุ่มเข้าจนทำให้เขากลายเป็นผู้มีพลังแมงมุมในชื่อ Spider-Man Miles Morales ซึ่งถ้าไม่มีนอร์แมนคนนี้ก็คงไม่เกิดเรื่องร้ายในเกม ‘Marvels Spider-Man’ และ ‘Marvels Spider-Man Miles Morales’ และในอนาคตเขาก็จะกลายเป็นตัวร้ายในชื่อ Green Goblin ซึ่งถ้าไม่มีชายคนนี้เรื่องราวความวุ่นวายต่าง ๆ ในเกม ‘Marvels Spider-Man’ ก็จะไม่เกิดขึ้น ผู้คนต่าง ๆ ก็จะไม่ตายรวมทั้งป้าเมย์ที่เสียชีวิตเพราะไวรัสของนอร์แมน เรียกว่าชายคนเดียวสามารถสร้างความวุ่นวายได้อย่างใหญ่หลวงจริง ๆ
ก็จบกันไปแล้วกับการรวบรวมเรื่องราวเนื้อหา ถ้าไม่มีตัวละครนี้เรื่องราวในวิดีโอเกมจะไม่เกิดขึ้น หวังว่าจะถูกใจกันไม่มากก็น้อย ที่กว่าจะเป็นบทความนี้ต้องค้นหาเรื่องราวจากเกมต่าง ๆ แล้วย้อนดูว่ามีเรื่องราวอะไรที่น่าสนใจจนเอามาพูดถึงในบทความได้ เพราะไม่ใช่ทุกเกมที่จะตัดตัวละครเพียงตัวเดียวแล้วเรื่องไม่เกิดขึ้นแบบเป็นลูกโซ่ได้ ซึ่งถ้าใครมีตัวละครในเกมที่ถ้าตัดตัวละครตัวนี้ออกไปเรื่องราวจะไม่เกิดขึ้นอีกก็บอกกันมาได้ ส่วนคราวหน้าจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไรก็ติดตามกันได้ที่นี่ที่เดียว
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส