เมื่อพูดถึงเกมที่สร้างจากภาพยนตร์หรือตัวภาพยนตร์ที่ถูกสร้างเป็นเกมนั้น เชื่อว่าหลายคนคงจะเคยเห็นมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง ซึ่งส่วนมากภาพยนตร์หรือวิดีโอเกมที่ต่างถูกเอามาทำทั้งสองแบบนั้น มักจะมีเนื้อเรื่องหรือสิ่งต่าง ๆ ที่ไม่เหมือนกับต้นฉบับ อาจจะด้วยเทคนิคการสร้างเกมกับภาพยนตร์ที่ต่างกัน จึงทำให้ผู้ผลิตทั้งสองแบบไม่สามารถทำในสิ่งที่คนเล่นเกมต้องการได้ แต่ถึงแบบนั้นการสร้างเรื่องราวที่เหมือนหรือใกล้เคียงในเกมก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ แค่มันไม่ค่อยจะเกิดขึ้นเท่านั้น และถ้าเราย้อนกลับมาดูเกมที่มีเนื้อเรื่องดี ๆ น่าสนใจที่สามารถเอามาสร้างเป็นภาพยนตร์หรือซีรีส์คนแสดงได้อีกมากมาย เรามาดูกันดีกว่าว่ามีเกมอะไรที่น่าสนใจจนสามารถเอามาสร้างเป็นภาพยนตร์ได้ โดยเราจะขอตัดเรื่องความเป็นไปได้ในการสร้างแบบต่าง ๆ อย่างงบประมาณในการสร้างหรือลิขสิทธิ์เกมตัวละครออกไป แต่จะขอเน้นไปที่เนื้อเรื่องเป็นหลักว่าถ้าเอาเกมเหล่านั้นมาสร้างเป็นภาพยนตร์จะเป็นอย่างไร อ่านกันสนุก ๆ ไม่ต้องจริงจัง จะมีเรื่องอะไรบ้างนั้นมาดูกันเลย
Marvel vs. Capcom
เริ่มต้นเกมแรกกับความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นในโลกของภาพยนตร์นั้น เรียกว่าแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย กับการที่เราจะได้เห็นตัวละครซุปเปอร์ฮีโรฝั่ง ‘Marvel Comics’ มาต่อสู้กันกับตัวละครเกมฝั่ง ‘Capcom’ แต่ถ้ามันเกิดขึ้นได้จริง ๆ คงจะน่าสนใจมาก ๆ เริ่มจากฝั่ง ‘Marvel Comics’ ที่เรียกนักแสดงที่เล่นเป็นตัวละครนั้น ๆ มาแบบครบชุดทั้ง ‘Iron Man’ ที่ได้โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ (Robert Downey Jr.) หรือ ‘Captain America’ คริส อีแวนส์ (Chris Evans) มาเล่นด้วยนะจะเรียกแฟน ๆ ได้มากมายขนาดไหน ขณะที่ฝ่าย ‘Capcom’ ที่ต้องออกแบบใหม่ทั้งหมดก็เอาดาราหรือหานักแสดงที่เข้ากับตัวละครในเกมมาแสดง แล้วก็แต่งชุดตามในเกมไปเลยเพราะตัวละครหลาย ๆ คนของเกมฝั่ง ‘Capcom’ ก็มีชุดไม่ได้แปลกไปจากชุดปกติ บวกกับกราฟิก CG ในยุคนี้ที่สมจริงแบบสุด ๆ การทำฉากต่อสู้ก็คงจะทำได้อลังการบ้านระเบิดเมืองถล่มแน่นอน ในส่วนเนื้อเรื่องก็เป็นประมาณโลกของทั้งสองฝั่งมาชนกันด้วยการกระทำของตัวร้าย จนฮีโรทั้งสองฝ่ายเข้าใจผิดจนมาสู้กัน และกระจายบทตัวละครไปให้เท่า ๆ กันทั้งสองฝ่ายให้แฟน ๆ ทั้งสองค่ายพอใจ แค่คิดก็สนุกแล้วถ้ามันเกิดขึ้นจริง ๆ นะ
Half-Life
มันน่าจะทำตั้งนานแล้วไม่ใช้หรอ นั่นคือเสียงบ่นที่เจือปนไปด้วยความโกรธเมื่อพูดถึงเกมระดับตำนานอย่าง ‘Half-Life’ ที่หลายคนต่างเลิกตั้งความหวังเรื่องของภาคที่ 3 ของซีรีส์ไปแล้ว แต่สิ่งที่เราจะพูดถึงคือเรื่องของการเอาเกมนี้มาสร้างเป็นภาพยนตร์ ที่ไม่ว่าจะดูมุมไหนเนื้อเรื่องของ ‘Half-Life’ ก็เหมาะสำหรับการเอามาสร้างเป็นภาพยนตร์ ทั้งเรื่องของบทบาทตัวละครเนื้อหาในเกมสัตว์ประหลาด ที่สามารถเอามาดัดแปลงได้อย่างมากมาย ทั้งองค์กรที่จับสัตว์ประหลาดต่างมิติมาดัดแปลงเพื่อใช้ในการทหาร ไปจนถึงสิ่งมีชีวิตที่หลุดออกมาไล่ฆ่าคนจนกอร์ดอน ฟรีแมน (Gordon Freeman) ต้องหาทางยับยั้งเรื่องราวนี้ ซึ่งเมื่อเราไปหาข้อมูลในเว็บไซต์ ‘IMDB’ ก็พบว่าโครงการที่จะสร้างภาพยนตร์จากเกมนี้มีมามานานแล้วตั้งแต่ปี 2013 จากปากของเกบ นิวเอลล์ (Gabe Newell) เจ้าของ ‘Steam’ ที่ออกมายืนยันเรื่องนี้ แต่จนถึงตอนนี้เราก็ยังไม่เห็นภาพยนตร์ออกมาเลย จนล่าสุดก็มีข่าวเพิ่มมาอีกว่า ‘Half-Life’ จะถูกฉายปลายปี 2021 แต่จนถึงตอนนี้เรายังไม่รู้ข้อมูลเกี่ยวกับนักแสดงหรืออะไรเลย ซึ่งน่าเสียดายมาก ๆ ที่เกมเนื้อเรื่องดี ๆ แบบนี้ยังถูกดองไม่ได้สร้างเป็นภาพยนตร์เสียที
Batman Arkham Knight
เมื่อพูดถึงเกมแนวซุปเปอร์ฮีโรในวิดีโอเกม ที่ทั้งเล่นสนุกเนื้อเรื่องดีระบบการเล่นยอดเยี่ยม หลายคนคงจะคิดถึงเกมในซีรีส์ ‘Batman Arkham’ อย่างแน่นอน เพราะตั้งแต่ที่เกมภาคแรกถูกสร้างออกมาเราก็ได้เห็นการเดินทางของ ‘Batman’ ที่ต้องเจอตัวร้ายต่าง ๆ มากมาย แต่ภาคที่เรียกว่าดีและเหมาะที่จะทำเป็นภาพยนตร์ที่สุดก็น่าจะเป็น ‘Batman Arkham Knight’ ที่เป็นภาคสุดท้ายของซีรีส์ ‘Batman Arkham’ ที่ในคราวนี้ ‘Batman’ ของเราจะได้เจอศัตรูที่เรียกว่าเป็นคู่ปรับที่สมน้ำสมเนื้ออย่าง ‘Arkham Knight’ ตัวร้ายที่สวมชุดเกราะคล้าย ‘Batman’ แถมยังรู้การเคลื่อนไหวและสิ่งต่าง ๆ ที่ ‘Batman’ จะทำจนหมด กับการช่วยเหลือชาวเมืองจากการวางยาเมืองด้วยระเบิดแห่งความกลัว จนทำให้เมือง Gotham มีแต่ผู้ก่อการร้ายจน ‘Batman’ ต้องออกมาจัดการ นอกจากนี้เรายังได้เห็นตัวละครอย่าง ‘Catwoman’, Robin’ และ ‘Nightwing’ เรียกว่ามาครบชุดเลย แถมตัวเรื่องก็ไม่ต้องอ้างอิงจากภาคก่อน ๆ จะเริ่มต้นจากภาคนี้ไปเลยก็ได้ แล้วดัดแปลงนั่นนิดนี่หน่อยก็สามารถกลายเป็นภาพยนตร์ ‘Batman’ ที่สร้างจากเกมที่แฟน ๆ ต้องการได้ไม่ยาก ส่วนนักแสดงนั้นก็คงไม่ต้องเป็นห่วง เพราะในทุก ๆ ภาคของซีรีส์นี้ก็ไม่เคยมีครั้งไหนที่แฟน ๆ จะผิดหวังในตัวนักแสดงที่รับบท ‘Batman’ เลย ดังนั้นจะเป็นใครก็ได้ขอแค่ยึดเนื้อเรื่องจากเกมมาให้มากที่สุดก็พอ
Days Gone
มาที่เกมแนวซอมบี้(แต่ผู้พัฒนาเกมบอกไม่ใช่ซอมบี้) อย่างเกมเอาชีวิตรอดในโลกที่ล่มสลายในเกม ‘Days Gone’ ที่ถ้าคุณคิดภาพว่าซอมบี้ในเกมนี้ไม่ออกว่าเป็นอย่างไร ก็ให้คิดถึงภาพยนตร์เรื่อง ‘World War Z’ ที่ซอมบี้วิ่งมาเป็นฝูงมด ซึ่งในเกมนี้เราก็จะได้เห็นอะไรแบบนั้น แถมเรายังเป็นคนกำจัดพวกมันด้วยตัวคนเดียวกับการใช้ปืนกับดักการปาระเบิดรวมถึงทุกอย่างที่มีในการปราบพวกมัน แถมตัวเกมยังมีเนื้อเรื่องที่น่าสนใจเกี่ยวกับตัวพระเอกเองที่ต้องตามหาภรรยาที่แยกทางกันในช่วงที่เชื้อระบาด รวมถึงความขัดแย้งในชุมชนผู้รอดชีวิตและการหาคำตอบที่มาของเชื้อไวรัสว่ามาจากไหน เพียงเท่านี้ก็ทำให้คนที่เป็นแฟนภาพยนตร์ซอมบี้ดีใจจนอยากจะดูแล้ว และถ้าเราจะบอกคุณว่าซอมบี้ภาคนี้มันจะอยู่ร่วมกันเป็นชุมชน มีการสร้างรังมีการนอนหาอาหาร แถมยังมีซอมบี้สัตว์ที่ดุร้ายกับผู้คนที่บ้าคลั่งเพราะโลกที่บิดเบี้ยวรวมไปอีก ใครที่เล่นเกมมาแล้วจะทราบดีว่าเกมนี้เนื้อเรื่องดีขนาดไหน และถ้าภาพยนตร์ยึดเนื้อหาตามเนื้อหาในเกมด้วยจะยิ่งเพิ่มความสนุกและน่าสนใจให้มากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า แค่คิดก็อยากดูเลยทีเดียว
Star Wars Jedi Fallen Order
ต้องเรียกว่ามีครบทุกอย่างให้พร้อมอยู่แล้ว สำหรับสงครามแห่งดวงดาวอย่างเกม ‘Star Wars Jedi Fallen Order’ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อเรื่องที่อยู่ระหว่างภาพยนตร์ ‘Star Wars’ ภาค 3 ไป 4 แถมยังเชื่อมโยงไปยังภาค ‘Rogue One A Star Wars Story’ และภาคอื่น ๆ ได้อีกมากมาย รวมถึงนักแสดงที่ตัวเกมนั้นก็อ้างอิงมาจากนักแสดงที่มีตัวตนจริง ๆ อยู่แล้ว ก็แค่ให้พวกเขาเหล่านั้นมารับบทเดิมแบบในเกมอีกครั้ง เพียงเท่านี้แฟน ๆ ที่ไม่ได้เล่นเกมก็จะได้รู้เรื่องราวอื่นว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างหลังเหตุการณ์คำสั่งที่ 66 ใน ‘Star Wars 3’ กับการเล่าเรื่องราวของอดีตลูกศิษย์เจไดที่พยายามปิดกั้นตัวเองจากการตามล่า จนกลายเป็นการช่วยเหลือจักรวาลจากฝ่ายจักรวรรดิเอ็มไพร์ ซึ่งแน่นอนว่าในเกมนี้เราจะได้เห็นดาร์ธ เวเดอร์ (Darth Vader) ในภาพยนตร์อีกด้วย ยิ่งเป็นการยืนยันความสำเร็จอีกทางหนึ่ง ส่วนแฟนที่เล่นเกมนี้ไปแล้วก็ได้จิกหมอนกันมากขึ้นไปอีก เมื่อเห็นฉบับภาพยนตร์ที่ใช้ตัวละครเดียวกันกับในเกม นี่ยังไม่นับการขายของเล่นจากตัวละครในภาพยนตร์และอื่น ๆ อีก เรียกว่ามีแต่ได้กับได้ถ้ามันเกิดขึ้นจริง
Home Sweet Home
คราวนี้มาดูเกมผีไทยกันบ้างกับเกม ‘Home Sweet Home’ ที่ถ้าใครซึ่งเคยเล่นหรือรู้เรื่องราวในเกมอยู่แล้ว คงจะคิดแบบเดียวกันว่าถ้าเกมนี้ถูกเอามาสร้างเป็นภาพยนตร์จะน่าสนใจขนาดไหน เพราะเปิดเรื่องมาเราก็จะได้เล่นเป็นติมที่ตื่นมาในที่แปลก ๆ ก่อนจะถูกผีนักศึกษาไล่ล่าแบบงง ๆ กับเรื่องราวที่เล่าแบบง่าย ๆ แต่ลึกซึ้งในแง่ของหนังผีไทย ที่ในเกมจะค่อย ๆ บอกเราว่าเกิดอะไรขึ้นกับผีนักศึกษาก่อนจะมาเป็นผีแบบนี้ ที่ตลอดทั้งเรื่องเราจะถูกส่งไปยังสถานที่ต่าง ๆ เพื่อหนีผีและหาคำตอบของเรื่องราวไปพร้อม ๆ กันกับคนเล่น และนอกจากผีนักศึกษาที่ชื่อเบลแล้วก็ยังมีผีเปรต ผีกระสือ ผีนางรำ กับเรื่องราวที่พอเฉลยออกมาแล้วทุกคนต่างพากันอึ้งและยกนิ้วให้กับการวางเรื่องราวที่สนุกน่าติดตาม ที่เราอยากให้ทางผู้สร้างภาพยนตร์บ้านเอามาสร้าง แล้วยึดเนื้อหาหลัก ๆ กับรูปแบบของเกมมาทั้งหมด รับรองว่าทั้งคนที่เล่นเกมและไม่ได้เล่นเกมต้องชอบอย่างแน่นอน และขอเพิ่มเติมถ้าจะทำผีนางรำคราวนี้ขอแบบน่ากลัวไปเลย ส่วนนักแสดงจะเป็นใครก็ได้ เพราะเนื้อหาจริง ๆ จุดเด่นของเกมนี้คือเหล่าผีและการเอาตัวรอดกับการไขปริศนาที่คนดูต้องร่วมหาคำตอบ ว่าทำไมบ้านของติมถึงกลายเป็นประตูมิติไปยังที่อื่น แล้วเจนภรรยาของติมหายไปไหน นิวรณ์คืออะไรแค่คิดก็สนุกแล้ว
Home Sweet Home Survive
สำหรับคนที่ไม่เคยเล่นหรือรู้จักเกม ‘Home Sweet Home Survive’ คงจะคิดว่าเกมนี้คือเกมเดียวกันกับเกม ‘Home Sweet Home’ ซึ่งต้องบอกว่าใช่และไม่ใช่ เพราะด้วยเนื้อหากับเรื่องราวที่เล่าในเกมนี้นั้นต่างกันอย่างสิ้นเชิง เพราะใน ‘Home Sweet Home Survive’ จะเป็นการเล่าถึงตัวละครที่อยู่บนรถเมล์ฟรีสาย 82 ที่เกิดอุบัติเหตุตกสะพาน จนทุกคนหลุดไปอยู่ในนิวรณ์ที่เต็มไปด้วยเหล่าผีมากมายที่คอยไล่ล่าทุกคน ตัวเรื่องนั้นจะเป็นคนละแบบกับ ‘Home Sweet Home’ ที่คราวนี้จะมีตัวละครมากขึ้นแถมยังมีตัวละครที่เป็นชาวต่างชาติและผีแบบต่าง ๆ ให้เราได้เห็น ถ้าแต่งเนื้อเรื่องดี ๆ ก็น่าจะเป็นการเล่าผ่านตัวละครต่าง ๆ ที่ก่อนจะขึ้นรถเมล์ฟรี ว่าพวกเขาหรือเธอคือใครทำอะไรมาจนถูกส่งมายังมิตินี้ ก่อนจะช่วยกันหาทางออกไปจากที่นี่ ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีคนตายและตายแบบในเกมที่ถูกผีฆ่าที่แค่คิดก็น่าดูขึ้นมาทันที โดยเราก็หวังว่ามันจะเกิดขึ้นจริงในอนาคต
ARAYA
ยังคงอยู่กับเกมผีไทยแต่คราวนี้จะเป็นเกมเก่าหน่อย กับเกมหนีผีที่ตัวเกมออกมาพร้อมกับ ‘Home Sweet Home’ กับเกม ‘ARAYA’ เกมที่เราจะได้รับบทเป็น 3 ตัวละคร 3 เรื่องราวที่มายังโรงพยาบาล ซึ่งทุกคนนั้นก็อยู่ในช่วงเวลาที่ต่างกันแต่ก็มีเรื่องราวที่เกี่ยวกัน ที่นั่นคือความสนุกและน่าสนใจของเกมนี้ เรื่องราวจะเริ่มจากมาริสาตัวเอกของเกมที่ได้รับข้อความจากอารยาให้มาหาที่โรงพยาบาล จนเจอกับความหลอนของเหล่าผี บุญเด็กอ้วนที่รับคำท้าจากเพื่อน ๆ ให้มาโรงพยาบาลร้างคนเดียว และรามยามเฝ้าเขตโรงพยาบาลร้างที่มาเดินตรวจยามดึกจนเจอกับผี ถ้าภาพยนตร์เอามาสร้างและเล่าเรื่องทั้ง 3 คนให้เป็นแบบทั้ง 3 เรื่องที่เล่าไปทีละคน แล้วพอมาถึงเรื่องที่ 4 ก็เอาทุกคนมารวมกันเพื่อแก้ไขปริศนาก็คงน่าสนใจไม่น้อย และที่ขาดไม่ได้คือการเอาผีความหลอนแบบในเกมมาใช้ รับรองว่าต้องสนุกหลอนถูกใจสายหนังผีแน่นอน ส่วนใครที่ไม่เคยเล่นเกมนี้มีบน ‘PC’ ยังไงก็ไปหาซื้อมาเล่นกันดู ตัวเกมสนุกน่ากลัวไม่แพ้ ‘Home Sweet Home’ เลยทีเดียว แถมยังให้อารมณ์การเล่นที่ต่างกันอีกด้วยเล่นแล้วไม่ผิดหวังแน่นอน
Horizon Zero Dawn
หลุดจากหนังผีไทย ๆ มาเป็นแนวยุคอนาคตออกไปทางแฟนตาซีกันบ้าง กับเกม ‘Horizon Zero Dawn’ เกมที่เราจะได้รับบทเป็นสาวน้อยเอลอย (Aloy) ที่ต้องออกเดินทางเพื่อตามหาความจริงเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ จากเดิมที่มนุษย์เคยเป็นผู้ปกครองโลก แต่ตอนนี้เรากลับถูกเหล่าสัตว์ลูกผสมเครื่องจักรแบบต่าง ๆ ยึดครอง โดยตัวเนื้อเรื่องของเกมนั้นก็มีการเล่าเรื่องในหลายมุมมองของผู้คนชมเผ่าต่าง ๆ ที่เอลอยไปเจอ และที่จะเป็นจุดเด่นที่คนไม่ได้เล่นเกมต้องสนใจ นั่นคือเหล่าสัตว์ลูกผสมเครื่องจักรที่เราจะได้เห็นในเกม ที่ต้องใส่แบบจัดเต็มตามที่ในเกมมีในเกม ทั้งแบบคอยาวที่เอลอยปีนขึ้นไปเพื่อเปิดแผนที่ แบบกินพืชที่เอลอยเอามาขี่ แบบกินเนื้อที่ดุร้ายไปจนถึงสัตว์ประหลาดขนาดใหญ่ ที่แน่นอนว่าในเรื่องต้องมีฉากต่อสู้แบบเดียวกับในเกม รับรองว่าคนที่เล่นเกมต้องพอใจ รวมถึงคนที่ไม่เคยเล่นเกมก็จะได้เห็นสิ่งใหม่ ๆ ที่ต่างจากเดิมในโลกภาพยนตร์ เพราะเราแทบไม่เคยเห็นภาพยนตร์โลกอนาคตล่มสลายที่สัตว์ต่าง ๆ กลายเป็นเครื่องจักรแต่มนุษย์กลับวิวัฒนาการถอยหลังไปเป็นคนป่าแบบนี้มาก่อน ถ้ามีคนทำคงจะน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
Cyberpunk 2077
เมื่อพูดถึงเกม ‘Cyberpunk 2077’ ในรูปแบบภาพยนตร์ สิ่งแรกที่หลายคนคิดถึงและต้องมีเป็นอย่างแรกก็คือ เคอานู รีฟส์ (Keanu Reeves) ในบทจอห์นนี่ ซิลเวอร์แฮนด์ (Johnny Silverhand) ที่เรียกว่าถ้าไม่มีเขาคนนี้ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ไม่ควรสร้างออกมาเป็นภาพยนตร์ได้เลยทีเดียว โดยเรื่องราวของเกมนี้จะให้เรารับบทเป็นวี (V) คนที่พยายามจะขึ้นมาเป็นใหญ่ในโลกที่เต็มไปด้วยอาชญากรรม ที่มีทั้งมิตรภาพความรักการหักหลังที่ถ้าเอาเนื้อเรื่องมาดัดแปลงเนื้อหาและเล่าแบบโลกยุคอนาคตที่มีฉากแอ็กชันเยอะ ๆ ฉากยิงกันสนั่นลั่นทุ่งแบบยุคอนาคต รับรองว่าว่าออกมาดีอย่างแน่นอน และถ้าภาพยนตร์ทำออกมาสนุกก็อาจจะเป็นการกู้ชื่อเสียงของเกมนี้ขึ้นมาได้บ้าง
Death Standing
เคยมีคนกล่าวเอาไว้ว่าเกมที่สร้างออกมาเหมือนกำลังชมภาพยนตร์อย่าง ‘Death Standing’ เมื่อถูกเอามาสร้างเป็นภาพยนตร์จะขาดความน่าสนใจ แต่ถ้าเรามองในมุมกลับกันว่าถ้าเราเอาผู้สร้างเกมนี้อย่างฮิเดโอะ โคจิมะ (Hideo Kojima) ที่ฝากผลงานจากเกมในซีรีส์ ‘Metal Gear’ มาสร้างภาพยนตร์จากเกมที่ตัวเองสร้างคงน่าสนใจไม่น้อย และถ้าใครที่เคยดูเบื้องหลังการสร้างเกม ‘Death Standing’ จะรู้เลยว่าวิธีทำเกมของโคจิมะนั้น จะใช้รูปแบบเดียวกับการทำภาพยนตร์ ดังนั้นถ้าเราให้ผู้สร้างเกมมากำกับภาพยนตร์เราคงได้เห็นสิ่งต่าง ๆ มากมาย ที่ผู้สร้างเกมอยากเล่าแต่ไม่ได้ใส่ลงไปในเกมอยู่บนภาพยนตร์อย่างแน่นอน ส่วนใครที่ไม่เคยเล่นเกมนี้จะให้เรารับบทเป็นนักส่งของในตำนานในโลกที่ล่มสลาย เพราะฝนเร่งเวลาที่สิ่งมีชีวิตเมื่อถูกฝนจะเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว รวมถึงเหล่าคนตายที่หลุดมาจากต่างมิติมาทำร้ายผู้คน เราที่เป็นตัวเอกต้องเดินทางส่งของและเชื่อมระบบต่าง ๆ ให้ทุกพื้นที่ให้สามารถสื่อสารกันได้ พร้อมกับหาทางช่วยพี่สาวต่างแม่ที่ถูกผู้ก่อการร้ายจับไป และแน่นอนว่าถ้าตัวเกมได้สร้างเป็นภาพยนตร์ก็ควรจะต้องนำนักแสดงหลัก ๆ ในเกมกลับมาให้ครบ ทั้งนอร์แมน รีดัส (Norman Reedus) แมดส์ มิคเคลสัน (Mads Mikkelsen) เลอา แซดู (Léa Seydoux) ถ้าเป็นได้อย่างนั้นทั้งแฟนเกมและคนชมภาพยนตร์คงจะสนุกไปพร้อม ๆ กันอย่างแน่นอน
Call of Duty Black Ops Cold War Zombies
ถ้าพูดถึงซอมบี้ในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 เชื่อว่าหลายคนคงจะเคยดูกันไปแล้วในหลาย ๆ เรื่อง แต่ก็ยังไม่มีภาพยนตร์ซอมบี้แนวสงครามโลกเรื่องไหนที่ใส่สุดจนถูกใจแฟน ๆ เพราะส่วนมากจะเน้นไปที่การทดลองทางการทหาร จนทำให้กลุ่มทหารที่ไปเจอต้องเอาชีวิตรอด แต่ในเกมซีรีส์ ‘Call of Duty Black Ops Cold War Zombies’ จะต่างออกไป เพราะเราจะได้เล่นเป็นหน่วยทหารสุดเก่งที่ตั้งใจจงใจมาบุกรังซอมบี้เพื่อทำภารกิจต่าง ๆ ซึ่งภายในนั้นเราจะได้เจอซอมบี้ที่ถูกดัดแปลงเพื่อใช้ในการทหาร ที่ให้อารมณ์ต่อสู้ดิ้นรนเอาตัวรอดและสยองขวัญกว่าภาพยนตร์ซอมบี้แนวสงครามโลกทั่วไป แถมเนื้อเรื่องก็สามารถสร้างออกมาได้หลายแบบไม่ต้องมายึดติดว่าต้องมีแบบนั้นใช้เนื้อหาแบบนี้ แค่แปะชื่อ ‘Call of Duty’ และใช้นักแสดงที่หน้าจากเกมภาคหลักมาร่วมในการลุยซอมบี้ด้วย พร้อมกับใส่ฉากแอ็กชันสนุก ๆ ลงไป รับรองว่าต้องถูกใจทั้งแฟนเกมและแฟนหนังซอมบี้อย่างแน่นอน
Dead Space
ปิดท้ายกับเกมที่ให้อารมณ์ตื่นเต้นสยองขวัญ เหมือนสมัยที่เราเคยดูภาพยนตร์ ‘Alien’ ในอดีต กับเกมสยองขวัญอวกาศอย่าง ‘Dead Space’ ที่ตัวเกมจะเล่าถึงการตามหายานที่ขาดการติดต่อไปเมื่อหลายเดือนก่อน ที่เมื่อเจอยานภายในนั้นก็มีแต่ซากศพและสัตว์ประหลาดน่ากลัว โดยสัตว์ประหลาดพวกนี้จะฆ่ามนุษย์ให้ตายก่อนจะยึดศพนั้นมาดัดแปลงร่าง จนกลายเป็นปีศาจมาไล่ฆ่าเรา ขณะที่ตัวเอกอย่างไอแซค คลาร์ก (Isaac Clarke) ต้องพยายามหาทางช่วยภรรยาที่หายตัวไปบนยาน พร้อมทั้งตามหาความจริงของสิ่งที่เกิดขึ้นและหาทางหนีออกมาจากยานนั้น ใครที่เคยเล่นจะรู้เลยตัวเกมหลอนสยองขวัญขนาดไหน และถ้าทำสัตว์ประหลาดตามแบบในเกม บวกกับความมืดและฉากการเปลี่ยนร่างเมื่อสัตว์ประหลาดยึดร่างศพจนกลายพันธุ์แบบเต็ม ๆ ตา ผสมกับฉากฆ่าสัตว์ประหลาดกับการตายโหด ๆ อย่างในเกม รับรองว่าแฟนหนังสยองขวัญต้องชื่นชอบอย่างแน่นอน
ก็จบกันไปแล้วกับ 13 เกมที่มีเนื้อเรื่องเหมาะแก่การเอามาทำเป็นภาพยนตร์ ซึ่งทั้งหมดที่เรากล่าวมานั้นเป็นเพียงแค่ความคาดหวังและต้องการในฐานะแฟนเกมที่ชื่นชอบการชมภาพยนตร์ โดยเราก็หวังว่าวันหนึ่งจะมีทีมงานสร้างภาพยนตร์หยิบเกมเหล่านี้มาสร้างเป็นภาพยนตร์ และยังคงกลิ่นอายเอกลักษณ์ความเป็นเกมนั้น ๆ เอาไว้จนครบ ที่แม้แต่คนที่ไม่ได้เล่นเกมมาดูก็สามารถสนุกและชื่นชอบไปด้วยกันได้ และในอนาคตถ้ามีเกมไหนในบทความนี้ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์เราจะรีบมารายงานให้ทราบทันที ยังไงก็ติดตามข่าวสารกันได้ที่เว็บไซต์แบไต๋รับรองไม่พลาดทุกข่าวสารวงการบันเทิงและไอทีอย่างแน่นอน
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส