สำหรับค่าย นินเทนโด แล้วเด็กรุ่นใหม่อาจจะมองว่าเป็นค่ายเกมสำหรับเด็กที่เล่นได้ทั้งครอบครัว แต่ในยุค 80s ถึงกลางยุค 90s แล้วนินเทนโดถือเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก ที่ว่ากันว่าทำกำไรได้มากกว่าบริษัท์ยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นอย่างโตโยต้าเสียอีก แต่หลังจากผ่านมาหลายยุคสมัยปู่นินอาจไม่ได้ทำรายได้มากมายเหมือนเดิม แต่อีกสิ่งหนึ่งที่แฟนเกมรู้กันคือนินเทนโด เป็นค่ายที่ตายยากและสามารถสร้างปาฏิหาริย์กลับมาขายดีได้หลายครั้ง และหนึ่งในนั้นคือ Wii คอนโซลไอเดียแปลกแห่งยุค 2000s

โดยก่อนการมาของ Wii ต้องเล่าย้อนไปถึงตอนที่ปู่นินเสียแชมป์ให้กับ Sony กับ PS1 ที่ทำให้ Nintendo 64 ตกมาเป็นอันดับ 2 และยังผิดหวังซ้ำกับ Game Cube ที่ออกมาชนกับ PS2 และคอนโซลของปู่นินทำยอดขายตกต่ำลงอย่างมาก เรียกว่าน้อยกว่า XBox รุ่นแรกด้วยซ้ำ ทำให้นินเทนโดตกลงมารั้งอันดับท้ายของวงการเกม และในยุคนั้นมีข่าวถึงขนาดว่าในช่วงท้ายของการวางขาย ร้านเกมในญี่ปุ่นไม่ยอมวางขาย Game Cube ในร้านเลยด้วยซ้ำ ทำให้มีเหล่าสื่อและแฟนบอยในยุคนั้นดูถูกว่า เครื่องเกมยุคถัดไปหากล้มเหลวอีก Nintendo จะเลิกขายเครื่องเกมไปทำซอฟต์แวร์อย่างเดียวตามรอยค่าย SEGA ไปแน่ ถึงขนาดสื่อในไทยเองก็ไม่เอาชื่อนินเทนโดมาอยู่ในสงครามคอนโซลที่บอกว่ามีเพียง PS3 และ XBox360 เท่านั้น

การเปิดตัวพร้อมกับการปฏิวัติ
ในตอนที่เปิดตัว Wii มีชื่อว่า Revolution ที่หมายถึงการปฏิวัติการเล่นเกมใหม่ทั้งหมด โดยมีการเปิดตัวในงาน E3 ปี 2005 ซึ่งในตอนแรกมีเพียงตัวเครื่องไม่ได้มีจอยเกม และคุณ ซาโตรุ อิวาตะ ประธานนินเทนโดในตอนนั้นได้ออกมาบอกว่า Revolution จะเป็นเครื่องเกมปฏิวัติการเล่น และจะมีขนาดเล็กมีความหนาเท่ากับกล่องใส่แผ่น DVD สามกล่องเท่านั้น อย่างไรก็ตามในงาน E3 ปี 2005 ไม่มีการเปิดข้อมูลสเปกออกมา ทำให้ไม่ค่อยเป็นที่สนใจมากเท่ากับ PS3 และ Xbox360 อย่างไรก็ตามถือว่าเป็นการส่งสัญญาณว่าปู่นินยังไม่ยอมแพ้กับตลาดเกมโฮมคอนโซล

ต่อมาในปี 2006 ก่อนงาน E3 ได้มีการเปิดตัวอย่าง Wii กับรูปแบบจอย Wii Mote ที่ใช้ระบบจับการเคลื่อนไหวเพื่อบังคับตัวละครในเกม ที่มีความแตกต่างจากรูปแบบการบังคับเดิม ๆ ที่ใช้ปุ่มกดและทำให้ทุกสายตาต่างจับจ้องไปที่คอนโซลตัวใหม่จากนินเทนโดหมด และทำให้งาน E3 ปี 2006 ผู้ที่เข้าร่วมงานต่างรีบวิ่งเข้าไปงานแสดงในส่วนของนินเทนโด เพื่อทดลองเล่น Wii จนคิวยาวจนล้น และเป็นที่ฮือฮาไปทั่วโลกแม้แต่ในไทยที่ในตอนนั้นหลังจากเครื่อง Wii วางขายมีการจัดกิจกรรมโชว์เครื่องเกมรุ่นใหม่ในยุคนั้นทั้ง PS3 , Xbox360 และ Wii แน่นอนว่าคอนโซลของนินเทนโดมีผู้สนใจมากที่สุด เรียกว่าแค่สัมผัสแรกจอย Wii Mote ก็เข้าไปอยู่ในใจแฟนเกมทั่วโลกแล้ว

เปิดตัวแรง ขายหมดขาดตลาดข้ามปี
เครื่องเกม Wii วางขายในเดือน พฤศจิกายน 2006 ในอเมริกา และ เดือนธันวาคมในปีเดียวกันในญี่ปุ่นและยุโรป แน่นอนว่ากระแสในงาน E3 ดีมากขนาดนี้แถมด้วยราคาขายที่ไม่แพงเมื่อเทียบกับ PS3 ทำให้ในตอนที่เปิดตัว Wii ขายดีจนขาดตลาดในทันที และมาแรงขนาดขาดตลาดกันข้ามปีกันเลย ในยุคนั้นจำได้ว่ามีเพื่อนในอเมริกาฝากซื้อเครื่องที่ประเทศไทยกันเลย แถมราคาที่พ่อค้าเอามาขายเกร็งกำไรก็สูงไม่ต่างจาก PS5 ในตอนนี้เลย โดยยอดขายรวมของ Wii มากกว่า 101 ล้านเครื่อง เป็นโฮมคอนโซลต่อทีวีของนินเทนโดที่ขายดีที่สุดตลอดกาล ที่ในตอนนี้ก็ยังไม่มีใครแซงได้ (แต่ Nintendo Switch อาจแซงได้ในอนาคต)

สเปกไม่แรงโดนดูถูกตอนแรก
ในตอนที่ยังไม่วางขายแม้กระแสจะมาแรง แต่ก็มีหลายคนที่ไม่มั่นใจว่ามันจะขายดี โดยเฉพาะผู้พัฒนาเกมค่ายอื่น เพราะในตอนนั้นกระแสภาพความละเอียดสูง HD มาแรงและ Wii ไม่รองรับทำให้มีสตูดิโอสร้างเกมอื่นเลยดูถูกว่า Wii มันก็แค่ Game Cube อัปเกรด เพราะสเปก Wii แรงกว่า Game Cube เล็กน้อยเท่านั้น แต่ภายหลังผู้สร้างเกมก็ออกมาขอโทษกับสื่อไปหลังจาก Wii ประสบความสำเร็จ ซึ่งความจริงแล้วอย่าว่าแต่ค่ายอื่นเลยแม้แต่ปู่นินเองก็ไม่มั่นใจ ในตอนที่พัฒนา Wii ทีมงานมีความกังวลว่ามันจะไม่สามารถเล่นบางเกมได้ เพราะจะบังคับด้วย Wii Mote ทำได้ลำบากและผู้เล่นอาจจะไม่อยากปรับตัวกับการเล่นแบบใหม่ แต่ยอดขายของ Wii ก็แสดงให้เห็นว่าแฟนเกมทั่วโลกยอมรับ ต้องขอบคุณอดีตประธานนินเทนโดคุณ ซาโตรุ อิวาตะ ผู้ล่วงลับที่คิดไอเดีย Wii Mote ที่เกิดมาจากรีโมตทีวี และผลักดันจนสามารถผลิตวางขายได้

เจาะตลาดใหม่ไม่เน้นคอเกมด้วยกราฟิกแบบเดียวกับ NDS
เนื่องจากตลาดเกมเปลี่ยนไป ปู่นินไม่สามารถครองใจแฟนเกมรุ่นใหม่ระดับฮารด์คอร์ได้ และทำให้ผู้สร้างเมินทำเกมเทพ ๆ ภาพสวย ๆ ลงคอนโซลนินเทนโดในยุคนั้น ทำให้ปู่นินต้องมองหาตลาดใหม่ และคำตอบก็ไม่ไกลก็คือความสำเร็จของ NDS คอนโซลพกพาที่สเปกไม่แรงเมื่อเทียบกับคู่แข่งกับ PSP แต่ NDS กลับขายดีกว่ามาก และด้วยลูกเล่นหน้าจอสัมผัสและเกมที่เน้นไอเดียมากกว่าภาพสวย ทำให้เกิดตลาดใหม่ที่ไม่เน้นคอเกมระดับฮาร์ดคอร์ แต่เน้นแฟนใหม่ที่ไม่เคยเล่นเกมมาก่อนเช่น เด็ก ๆ หรือผู้สูงอายุ ทำให้ Wii ใช้การตลาดแบบเดียวกับ NDS บวกกับในยุคนั้นเกมบนสมาร์ตโฟนยังไม่โดดเด่นเท่ายุคนี้ ทำให้นินเทนโดหันไปทุ่มเทกับการผลิตเกมที่เล่นได้ง่าย เน้นลูกเล่นมากกว่ากราฟิก แน่นอนว่า Wii ก็ประสบความสำเร็จตาม NDS ไป

เกมเรือธง Wii Sports
ส่วนเกมที่ขายดีบน Wii คงหนีไม่พ้น Wii Sports เกมจำลองการเล่นกีฬา ที่เป็นเกมแถมมากับเครื่องเลย มีเพียงในญี่ปุ่นเท่านั้นที่ไม่แถมมาด้วยต้องซื้อแยก โดยทำยอดขายได้มากกว่า 82 ล้านชุด (นับรวมแผ่นที่แถมกับเครื่อง) แน่นอนว่าจุดเด่นของ Wii Sports คือการใช้จอย Wii Mote จับการเคลื่อนไหวจำลองการเล่นกีฬาที่ใส่เข้ามา 4 ประเภทที่มีทั้ง เทนนิส ที่ผู้เล่นสามารถทำท่าทางเหมือนหวดแร็กเก็ตที่สมจริง หรือมวยที่ใช้รวมกับ นันชัก แล้วทำท่าทางเหมือนต่อย ตามด้วยตีกอล์ฟที่ใช้ Wii Mote แทนไม้ตีที่เรียบง่าย ปิดท้ายกับ โบว์ลิ่ง ที่ทำท่าเหมือนโยนลูกที่สามารถกำหนดทิศทางและแรงในการโยนได้ด้วย เรียกว่าการที่เข้าถึงง่าย แม้กราฟิกจะไม่ได้สวยงามแต่ใครได้เห็น Wii Sports แทบจะหลงรักในทันที และเป็นหนึ่งในเกมที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในตอนที่วางขาย แม้แต่ในงาน Oscar ยังมีการแอบแซวด้วยการเอา Wii Sports ไปเล่นโชว์ด้วย

นอกจากลูกเล่น Wii Mote แล้วเครื่อง Wii มีความโดดเด่นที่สามารถเล่น Game Cube แล้ว และยังสามารถเสียบจอยได้บนเครื่องเลยไม่ต้องซื้ออุปกรณ์เสริม และยังมีการสร้าง Mii ที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นสร้างตัวละคร Avatar ตัวแทนผู้เล่น และแน่นอนว่านำตัวละครนี้ไปใช้งานในเกมได้เช่นบน Wii Sports ทำให้เหมือนเราเล่นไปกับคนในครอบครัวหรือเพื่อนฝูงได้จริง ๆ และด้วยความสำเร็จของ Wii ทำให้ค่ายเกมอื่นเดินรอยตามด้วย เช่น PS Move ของ โซนี่ ที่แทบจะถอดแบบกันออกมา ส่วนไมโครซอฟท์ก็พัฒนาระบบจับการเคลื่อนไหวให้สมจริงขึ้นด้วยกล้อง Kinect

เครื่องรุ่นพิเศษ Wii Mini
เครื่องเกม Wii มีอายุในตลาดยาวนาน และไม่ได้มีรุ่นอัปเกรดสเปกออกมาเลย แม้ว่ากราฟิกในยุคนั้นจะเป็น HD กันหมดแล้วก็ตาม แต่ในปี 2012 ในยุคที่ WiiU ออกวางขายแล้ว ปู่นินได้สร้างความประหลาดใจด้วยการออกเครื่องเกม Wii Mini ออกมาวางขายแต่ไม่ใช่รุ่นเพิ่มสเปกหรือลูกเล่น แต่เป็นรุ่นประหยัดที่ตัดเอาระบบออนไลน์ออก แล้วขายในราคาถูกเพียงแค่ 99 เหรียญ หรือ 3,000 บาทเท่านั้น และรูปร่างของ Wii Mini มีหน้าตาเปลี่ยนไปเป็นกล่องสี่เหลี่ยมวางนอนแล้วใช้การใส่แผ่นเกมแบบฝาปิดแบบ PS1 แทน

เครื่องเกม Wii ถือว่าเป็นวัฒนธรรมแห่งยุค 2000s และได้ไปโผล่อยู่ในหนังหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็น การ์ตูน The Simpsons ที่โผล่ออกมาหลายตอน หรือล่าสุดกับซีรีส์ WandaVision ที่ในตอนที่แสดงถึงยุค 2000s ตัวละครในเรื่องมีการเล่น Wii ด้วย เรียกว่ามันเป็นหนึ่งในคอนโซลที่ทำให้นินเทนโด กลับมาเป็นอันดับ 1 อีกครั้ง ขายดีกว่า PS3 และ Xbox360 ซึ่งความโด่งดังของ Wii ในตอนนั้นพอ ๆ กับ Nintendo Switch ในตอนนี้ได้เลย และเป็นหนึ่งในสิ่งที่ยืนยันว่าปู่นินจะไม่ยอมแพ้ในตลาดคอนโซลและจะพัฒนาสิ่งแปลกใหม่มาให้แฟนเกมทั่วโลกได้เห็นกันอีกในอนาคตแน่นอน
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส