เมื่อพูดถึงการเดินทางข้ามเวลา เชื่อว่านักเล่นเกมหลายคนคงจะไม่รู้สึกอะไรกับเรื่องราวแบบนี้ เพราะมีหลายเกมมาก ๆ ที่หยิบเรื่องการเดินทางข้ามเวลามาใช้ในเกมของตัวเอง ยิ่งในยุคที่เนื้อเรื่องเกมสำคัญพอ ๆ กับกราฟิกและระบบการเล่น เรื่องราวการย้อนเวลาก็ยิ่งถูกเอามาใช้มากขึ้น เพราะเนื้อหาตรงนี้สามารถเอามาดัดแปลงใช้ได้กับหลาย ๆ แนวเกม ซึ่งเอาจริง ๆ เรื่องการการใช้เนื้อเรื่องเกี่ยวกับการเดินทางข้ามเวลามันมีมานานแล้ว แต่จะมีใครรู้บ้างว่าเกมแรกที่มีการใช้เรื่องราวการข้ามเวลาจริง ๆ คือเกมอะไร และนอกจากเกมดัง ๆ ที่เรารู้จักยังมีอีกหลายเกมที่ก็หยิบยกเรื่องนี้มาใช้แต่เราอาจจะไม่รู้อยู่ด้วย วันนี้เราเลยไปรวบรวมเกมต่าง ๆ ตั้งแต่อดีตที่เกี่ยวกับการเดินทางข้ามเวลามานำเสนอ โดยเราจะตัดเกมใหญ่ ๆ ดัง ๆ ที่หลายคนรู้จักอยู่แล้วออกไป คัดมาเฉพาะเกมที่เคยดังในอดีตหรือเกมเก่าที่น่าสนใจซึ่งเกี่ยวกับการย้อนเวลามานำเสนอ จะมีเกมอะไรที่น่าสนใจบ้างนั้นมาดูกันเลย
มีเกมอะไรบ้าง
Time Traveler
เริ่มต้นเกมแรกที่พูดถึงการเดินทางข้ามเวลาครั้งแรก ๆ ในวิดีโอเกม กับเกมที่ชื่อ ‘Time Traveler’ ที่จะเรียกว่าเกมก็พูดได้ไม่เต็มปากนัก(แต่ข้อมูลจัดให้อยู่ในหมวดหมู่ของวิดีโอเกม) เพราะมันคือเกมที่เราต้องอ่านเนื้อเรื่องผ่านตัวหนังสือ แล้วเลือกเส้นทางว่าจะเลือกทำอะไร ซึ่งสิ่งที่เราเลือกจะเปลี่ยนไปจนทำให้มีเนื้อเรื่องหลายแบบ ตัวเกมวางจำหน่ายในปี 1980 บนเครื่อง ‘Apple II’ และ ‘Atari-8bit’ ถ้าใครคิดภาพไม่ออกก็ให้นึกถึงเกม ‘The Walking Dead’ หรือพวก ‘Until Dawn’ แต่เราต้องอ่านตัวหนังสือเหมือนนิยาย โดยเนื้อหานั้นจะกล่าวถึงตัวเรา(ผู้เล่น) ที่จะได้เดินทางไปยังช่วงเวลาต่าง ๆ ในอดีตเพื่อตามหาวงแหวนทั้ง 14 วง ซึ่งแต่ละวงนั้นก็จะให้พลังความสามารถและทางเลือกแก่ผู้เล่นในทุกครั้งที่เลือก จึงทำให้เราตัวเกมมีเส้นทางมากมายให้เราได้เลือกไป จนสามารถเอามาเล่นซ้ำได้หลายรอบเพื่อดูว่าเรื่องราวจะไปทางไหน กับฉากจบของเกมที่มีหลายแบบตามการกระทำของเรา ที่แม้จะเป็นเพียงตัวหนังสือที่ทำได้แค่อ่าน แต่นี่ก็คือเกมแรก ๆ ที่มีการใช้เรื่องการเดินทางข้ามเวลาในวิดีโอเกมที่หลายคนไม่ทราบ
Back to the Future
ถ้าพูดถึงเกมที่มีการย้อนเวลาจะไม่พูดถึงเกมที่สร้างจากภาพยนตร์ในชื่อเดียวกันอย่าง ‘Back to the Future’ ไปได้อย่างไร เพราะตัวภาพยนตร์เรื่องนี้คือตัวปลุกกระแสเรื่องเกี่ยวกับการเดินทางข้ามเวลาทั้งในโลกภาพยนตร์และวิดีโอเกม ที่อ้างอิงถึงการเปลี่ยนแปลงอดีตที่จะส่งผลถึงอนาคต ตัวภาพยนตร์ฉายไปเมื่อปี 1985 ที่เล่าถึงการเดินทางข้ามเวลาของ มาร์ตี้ แม็กฟลาย (Martin McFly) ที่ได้นั่งรถย้อนเวลาไปในอดีตสมัยที่พ่อกับแม่ของตัวเองยังสาว แล้วดันไปทำให้แม่มาชอบตัวเองแทนพ่อจนทำให้อนาคตเปลี่ยนแปลง เขาจึงต้องเปลี่ยนแปลงอดีตให้กลับมาเหมือนเดิม แต่พอเปลี่ยนเรียบร้อยก็มีเรื่องราวเกิดขึ้นตามมาอีก โดยเรื่องราวทั้งสามภาคของภาพยนตร์จะใช้เวลาห่างกันไม่กี่นาที หรือต้องพูดว่ามันคือภาพยนตร์เรื่องยาวที่ถูกหั่นเป็น 3 ตอนถึงจะถูก โดยตัวเกมที่สร้างจากภาพยนตร์เรื่องนี้ก็มีมากมาย แต่เกมแรกที่ถูกสร้างขึ้นมาคือเกม ‘Back to The Future Video Game’ ที่วางจำหน่ายในปี 1985 บนเครื่อง ‘ZX Spectrum’, ‘Commodore 64’ และ ‘Amstrad CPC’ เป็นเกมมุมมองด้านข้างที่เราต้องให้พ่อกับแม่ในอดีตรักกัน โดยอ้างอิงเรื่องราวในภาพยนตร์ที่เราต้องเดินหาพ่อแม่และให้ทั้งคู่ไปเที่ยวด้วยกันผ่านสิ่งต่าง ๆ ที่มีให้เลือก และต้องคอยหลบตัวร้ายที่จะมาขัดขวางด้วย ซึ่งเกมนี้คือเกมแรกของภาพยนตร์ ‘Back to the Future’ ที่ถูกสร้างขึ้นมาก่อนจะมีภาคอื่น ๆ ตามมามากมาย
Onimusha 3 Demon Siege
มาที่ในยุคถัด ๆ มาที่เอาเรื่องราวการเดินทางข้ามเวลามาใช้ได้อย่างน่าสนใจกันบ้าง โดยเริ่มจากเกมบนเครื่อง ‘PlayStation 2’ กันก่อนกับเกมที่หลายคนน่าจะไม่ค่อยรู้จักกัน แต่ในช่วงปี 2001 เกมนี้เป็นกระแสให้พูดถึงมาก ๆ เพราะตัวเกมนั้นคือภาคที่ 3 ของซีรีส์อสูรสังหารอย่าง ‘Onimusha 3’ ที่ตัวเกมนั้นกลับมาใช้ตัวเอกคนเดิมจากในภาคแรกอย่าง ซามาโนสุเกะ (Samanosuke) ที่สานต่อเรื่องราวจากภาคแรกกับการต่อสู้กับกองทัพปีศาจของ โนบุนางะ โอดะ (Nobunaga Oda) แต่คราวนี้ตัวเกมได้เพิ่มตัวละครมาอีกหนึ่งคนนั่นคือ ฌาคส์ บล็องก์ (Jacques Blanc) ตำรวจฝรั่งเศสที่ถูกย้อนเวลามายังยุคญี่ปุ่นโบราณที่สลับตัวกับซามาโนสึเกะที่ถูกส่งมายังปารีสฝรั่งเศสในปี 2001 ตัวเกมใช้เรื่องการเดินทางข้ามเวลาได้อย่างน่าสนใจ เพราะเนื้อเรื่องของทั้งคู่จะเกี่ยวโยงกันไปมาจนเราอยากรู้ว่าเรื่องจะจบอย่างไร ตัวเกมเล่นสนุกกับแอ็กชันที่มีอาวุธให้เลือกใช้มากมาย จนหลายคนชื่นชอบและอยากให้มีภาคต่อของ 2 คนนี้ออกมาหรือเอาเกมมา Remake อีกครั้ง ใครที่อยากเห็นซามูไรไปไล่ฟันปีศาจที่หอไอเฟลหรือตำรวจฝรั่งเศสไปยืนคุยกับคนญี่ปุ่นในยุคโบราณก็ต้องเกมนี้เลย เพราะจากจากซีรีส์นี้แล้วก็ไม่เคยเห็นเกมไหนทำเนื้อเรื่องแบบนี้อีกเลย
Ape Escape
ถ้าพูดถึงเกมเก่าที่ควรเอามาสร้างภาคต่อหรือเอามา Remake ในยุคนี้ หนึ่งในนั้นควรมีเกมจับลิงอย่างซีรีส์ ‘Ape Escape’ รวมอยู่ด้วย เพราะความสนุกเฮฮาของเกมนี้มันคือความลงตัวที่นักเล่นเกมยุคนี้ไม่รู้จัก กับเนื้อหาง่าย ๆ เพียงแค่เราต้องรับหน้าที่ในการไล่จับลิงตัวป่วนตามสถานที่ต่าง ๆ ให้หมด ซึ่งความสนุกของเกมนี้ก็คือการไล่จับลิงที่พวกมันจะซ่อนตามที่ต่าง ๆ หรือทำตัวตลก ๆ ให้เราได้ขำตลอดการเล่น และแน่นอนว่าเมื่อเกมนี้มาอยู่ในบทความนี้ก็ต้องเกี่ยวกับการย้อนเวลา เมื่อหัวหน้าลิงที่ชื่อ สเปคเตอร์ (Spectre) ได้ทำการสร้างหมวกให้ลิงพวกนี้ฉลาดขึ้นเพื่อสร้างความวุ่นวายในมิติเวลาต่าง ๆ ด้วยไทม์แมชชีน จนมิติเวลาปั่นป่วน ศาสตราจารย์ผู้สร้างสเปคเตอร์จึงขอร้องให้ทาเครุ (Kakeru) ใช้เครื่องมือพิเศษไปจับลิงทั้งหมดกลับมา และช่วยเพื่อนสนิทที่ถูกจับตัวไปด้วย ซึ่งเราจะได้เดินทางไปช่วงเวลาต่าง ๆ ตั้งแต่ยุคไดโนเสาร์ยันยุคกลางในประเทศต่างเลยทีเดียว ตัวเกมเล่นสนุกเพลินมาก ๆ ใครที่สนใจก็ไปหามาเล่นกันได้ตัวเกมภาคแรกจะลงบน ‘PlayStation 1’ ส่วนภาค 2 กับ 3 จะลงบน ‘PlayStation 2’ แล้วคุณจะรู้ว่าการจับลิงไม่ง่ายอย่างที่คิด
Chrono Trigger
ถ้าพูดถึงเกมที่หยิบเรื่องการย้อนเวลามาเล่นได้สนุกน่าติดตาม แถมยังน่าสนใจเหมือนภาพยนตร์เรื่อง ‘Back to the Future’ ฉบับแฟนตาซี ก็ต้องคิดถึงเกมเก่าอย่าง ‘Chrono Trigger’ ที่ตัวเกมเริ่มต้นแบบเรียบง่ายกับงานเทศกาลประจำเมือง ที่หนึ่งในงานนั้นมีการแสดงเครื่องย้ายมวลสาร ที่คนซึ่งมาร่วมทดลองคือเจ้าหญิงที่แอบมาเที่ยวงาน จนเธอถูกเครื่องย้ายมวลสารส่งไปยังอดีตทำให้เรื่องราวในอดีตเปลี่ยนแปลง เพราะเจ้าหญิงในปัจจุบันหน้าตาเหมือนเจ้าหญิงที่เป็นบรรพบุรุษของตนเองที่ถูกปีศาจจับไป จนพระราชาคิดว่าเจ้าหญิงกลับมาแล้วจึงไม่ไปช่วย ผลที่ตามมาคือเจ้าหญิงบรรพบุรุษถูกปีศาจฆ่าตายทำให้อนาคตเปลี่ยนแปลง เมื่อล่มสลายปีศาจครองเมืองที่ตัวเอกอยู่ จนเมื่อแก้ไขทุกอย่างเรียบร้อยก็จะมีเรื่องราวที่ถูกเปลี่ยนแปลงตามอีก จนกลายเป็นการเดินทางไปทั้งอดีตอนาคตอีกหลายครั้งเพื่อแก้ทุกอย่างให้กลับมาเหมือนเดิม ตัวเกมแม้จะเป็นเกมเก่าแต่เอามาเล่นกี่ครั้งก็ยังสนุก ใครที่ชอบเกมที่มีกลิ่นอาย ‘Final Fantasy’ กับ ‘Dragon Quest’ ไม่ควรพลาดบอกเลยว่าเนื้อเรื่องระบบการเล่นสนุกจนคุณวางไม่ลงเลยทีเดียว
Plants vs. Zombies 2
หลังจากที่ภาคแรกประสบความสำเร็จไปได้ด้วยดี เกม ‘Plants vs. Zombies’ จึงทำภาคที่ 2 ออกมาต่อทันที แถมต่อเนื้อเรื่องก็ต่อจากเกมภาคแรกที่ เพนนี่ (Penny) ได้ปราบเหล่าซอมบี้ลงได้ด้วยพลังของพืชในส่วนของเขา ตัวของเพนนี่และเพื่อนบ้านของเขา เครซี่ เดฟ (Crazy Dave) ได้สร้างเครื่องไทม์แมชชีนขึ้นมาเพื่อจะได้กินทาโก้ของเขาได้เรื่อย ๆ แบบไม่มีวันหมด ก่อนที่เรื่องราวจะบานปลายเพราะทาโก้นั้นได้หลงไปตามมิติต่าง ๆ โดยมี ‘Dr. Zomboss’ อยู่เบื้องหลัง จนเรื่องราวบานบ้าบอก็ปลายเป็นการปลุกซอมบี้ในยุคต่าง ๆ ขึ้นมาสร้างความวุ่นวาย เพนนี่กับเดฟจึงต้องจัดการเหล่าซอมบี้อีกครั้ง ที่คราวนี้มีต้นไม้และเหล่าซอมบี้แปลก ๆ เพิ่มมาอีกมากมาย ที่หยิบเอาเรื่องราวของการย้อนเวลามาเล่นได้บ้าบอเฮฮามาก ๆ เพราะเราจะได้เห็นซอมบี้แบบต่าง ๆ ที่ต่างไปจากเดิม แถมหลาย ๆ ตัวก็มีความสามารถพิเศษอีกด้วย โดยภาคนี้จัดเป็นหนึ่งในเกมที่สนุกสุดของซีรีส์อีกด้วย ใครอยากหาเกมเล่นคั่นเวลาไม่ควรพลาด
Tales of Phantasia
เมื่อพูดถึงเกมที่เป็นต้นแบบเกมแนว ‘Action Role-Playing Game’ ที่เราได้เล่นในตอนนี้ ก็ต้องยกให้เกม ‘Tales of Phantasia’ ที่เป็นเกมแรก ๆ ที่เปลี่ยนตัวเองจากเกมแนว RPG ที่เดินหาเนื้อเรื่องเหมือนเกมภาษาทั่วไป แต่เมื่อเกมตัดเข้าสู่ฉากต่อสู้เกมก็จะเปลี่ยนมาเป็นเกมแอ็กชันมุมมองด้านข้าง ที่เราจะได้ควบคุมตัวละครต่าง ๆ เข้าไปต่อสู้กับศัตรูในแบบเกมต่อสู้ พร้อมกับตัวละครอื่น ๆ ที่มาช่วยสู้ เรียกว่าแปลกใหม่สนุกและน่าสนใจมาก ๆ ในยุคนั้นจนทำให้ซีรีส์ ‘Tales of’ ถูกสร้างออกมามากมายหลายต่อหลายภาค และในภาคแรกนั้นก็มีการพูดถึงการเดินทางข้ามเวลาไปมาเพื่อเปลี่ยนอดีตของตัวร้าย จนพวกตัวเอกต้องเดินทางไปทั้งอดีตอนาคตเพื่อไปแก้ไขให้ทุกอย่างกลับมาเหมือนเดิม ใครที่อยากเล่นเกม ‘Tales of Phantasia’ ก็สามารถหาเล่นได้ทั้งบนฉบับ ‘Super Famicom’ กับฉบับ ‘PlayStation 1’ ส่วนภาคล่าสุดของซีรีส์ ‘Tales of’ นั้นก็จะมีภาคใหม่ในชื่อ ‘Tales of Arise’ ให้เล่นในปีนี้บน ‘PlayStation 4’ และ 5 ใครที่สนใจก็รอเล่นภาคใหม่ไปเลยเพราะกราฟิกสวยกว่า แถมทุกภาคก็มีเนื้อเรื่องซับซ้อนน่าติดตามกับลายเส้นตัวละครที่ออกแบบได้น่ารัก เล่นแล้วคุณจะติดใจจนกลายเป็นแฟนซีรีส์นี้ไปโดยไม่รู้ตัว
Clock Tower 3
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อซีรีส์เกมสยองขวัญในตำนานยุค 90 อย่าง ‘Clock Tower’ มาอยู่ในมือค่ายเกมเจ้าพ่อเกมสยองขวัญอย่าง ‘Capcom’ แฟน ๆ ในตอนนั้นต่างคาดหวังว่าเกม ‘Clock Tower 3’ ที่ ‘Capcom’ สร้างจะต้องออกมาน่ากลัวสยองขวัญเหมือนต้นฉบับที่ทำออกมาอย่างแน่นอน แต่เมื่อเกมออกมาทุกคนต่างก็เกาหัวด้วยความสงสัย จนมีวลีที่คนในวงการเกมพูดต่อกันว่า “Capom ยังไงก็คือ Capcom” ที่หมายถึงถ้าเกมซีรีส์ไหนมาถึงมือ ‘Capcom’ ก็เตรียมตัวกลายเป็นเกมแอ็กชันได้เลย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือเกม ‘Clock Tower 3’ เกมนี้ที่ในต้นฉบับนั้นเราจะได้เล่นเป็นสาวน้อยที่ไร้ทางสู้ ที่ต้องหนีการตามล่าของเจ้าฆาตกรโรคจิต ซึ่งใน ‘Clock Tower 3’ ก็เปิดตัวมาแบบนั้นในช่วงแรก ก่อนที่ในช่วงหลังจะกลายเป็นเกมแนวสาวน้อยเวทมนตร์ที่แอ็กชันลุยแหลก ขาดความน่ากลัวแบบไม่เหลือชิ้นดี แต่เกมนี้ก็ยังมีเนื้อเรื่องที่น่าสนใจตรงที่เราจะได้รับบทเป็นอลิซซ่า แอชครอฟท์ (Alyssa Ashcroft) สาวน้อยธรรมดาที่ถูกฆาตกรโรคจิตไล่ล่า เมื่อเธอกลับมาหาแม่จนมารู้ตัวอีกทีอลิซซ่าก็ถูกส่งมาที่กรุงลอนดอนในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อหาคำตอบของฆาตกรลึกลับที่เกี่ยวกับตระกูลของเธอ นับเป็นการเล่าเรื่องที่ดีในช่วงแรกก่อนจะมาออกทะเลในช่วงหลัง จนแฟน ๆ ไม่ขอนับเกมภาคนี้ให้อยู่ในซีรีส์ ‘Clock Tower’ เลยทีเดียว
The Legend of Zelda Majora’s Mask
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณมีเวลาสามวันก่อนที่ดวงจันทร์จะตกลงสู่โลกจนทุกชีวิตดับสลาย ซึ่งแน่นอนว่าเวลาเพียงเท่านี้ไม่เพียงพอที่จะให้เราไปหาทางแก้ปริศนา หรือหาหนทางแก้ไขไม่ให้เกิดขึ้น การเดินทางย้อนเวลาจึงเริ่มขึ้นในเกม ‘The Legend of Zelda Majora’s Mask’ ที่เป็นภาคต่อของเกมระกับตำนานอย่าง ‘The Legend of Zelda Ocarina of Time’ ที่เราจะได้รับบทเป็นผู้กล้าชุดเขียว ลิงค์ (Link) ที่ต้องมาช่วยโลก โดยในภาคนี้ตัวของลิงค์จะได้ความสามารถใหม่นั่นคือการสวมหน้ากาก เพื่อเปลี่ยนร่างตนเองให้เป็นตัวละครสายพันธุ์ต่าง ๆ ในเกมเพื่อใช้ในการแก้ไขปริศนา ซึ่งเราสามารถย้อนเวลาไปช่วงก่อนเกิดเหตุได้สามวันเพื่อแก้ไขปริศนา เพื่อแก้ตรงนี้เสร็จก็จะต้องย้อนเวลากลับมาเพื่อไปแก้ไขจุดต่อไป โดยเกมนี้จะเล่นกับเวลาในเกมที่วิ่งไปเรื่อย ๆ ไม่หยุด ถ้ามัวแต่อืดอาดเวลาในเกมผ่านไปครบสามวันเกมก็จะจบลงทันที นับเป็นความกดดันที่เล่นสนุกเพลินมาก ๆ ใครที่สนใจอยากเล่นก็สามารถหามาเล่นได้บนเครื่อง ‘Nintendo 3DS’
Crash Bandicoot Warped
มาต่อกันที่เกมแอ็กชันอีกหนึ่งเกมที่เกี่ยวกับการย้อนเวลาไปในอดีต กับเจ้าหนูจอมป่วนหน้าตายียวนในเกม ‘Crash Bandicoot Warped’ ภาคที่ 3 ของซีรีส์เกมแอ็กชันสุดสนุกที่ครั้งนี้แคส (Crash) และเพื่อน ๆ ต้องเดินทางผ่านเครื่อง ‘Time Twisting Machine’ ไปยังช่วงเวลาต่าง ๆ ในอดีต เพื่อรวมรวมคริสตัลก่อนที่ คอร์เทกซ์ (Cortex) ผู้ชั่วร้ายจะใช้มันเพื่อครองโลก โดยตัวเกมในภาคนี้ก็ยังคงเป็นเกมแอ็กชัน 3D ที่เราต้องวิ่งไปข้างหน้าเหมือนภาคอื่น ๆ ซึ่งในภาคนี้เราก็จะได้เล่นเป็นโคโค่ (Coco) น้องสาวของแคสอีกครั้ง ตัวเกมได้พัฒนาตัวเกมให้เล่นสนุกและยากขึ้นจนหลายคนยกนิ้วให้ถึงความสนุกปนโหดของเกมภาคนี้ ใครอยากเล่นก็ไปหา ‘Crash Bandicoot N. Sane Trilogy’ ที่ลงบน ‘PlayStation 4’ มาเล่นกันได้
Dragon Quest VII
ถ้าพูดถึงเกมในซีรีส์ ‘Dragon Quest’ ใครที่เป็นแฟนซีรีส์นี้จะทราบดีว่า ตัวเกมหลาย ๆ ภาคของตำนานตามหามังกรนี้จะมีการพูดถึงการย้อนเวลาอยู่หลายภาค เริ่มตั้งแต่ ‘Dragon Quest V’ ในช่วงต้นเกมที่ได้เล่นเป็นตัวเอกตอนเด็กเราจะเห็นตัวละครที่แต่งตัวคล้ายเราแต่เป็นผู้ใหญ่เดินมาในฉาก ก่อนที่เขาจะขอลูกแก้วแห่งแสงที่เราได้มา ซึ่งเมื่อเรามาเล่นจนถึงตอนโตก็จะทราบว่านั่นคือตัวเราที่เดินทางย้อนเวลามาหาตัวเองในตอนเด็ก จนมาถึงภาคที่ใช้เรื่องราวเกี่ยวกับการย้อนเวลาเป็นหลักมากกว่าภาคอื่น ๆ นั่นคือ ‘Dragon Quest Vll’ ที่ตัวเกมเริ่มมาแบบเรียบง่าย ที่เล่าเกี่ยวกับเกาะโดดเดี่ยวบนโลกกับเรื่องราวของเด็กชายลูกชาวประมงกับเจ้าชายที่ไปเจอแผ่นหินโบราณ จนทำให้เด็ก ๆ ย้อนเวลาไปในอดีตในดินแดนต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือดินแดนนั้นที่ถูกปีศาจทำร้าย ตัวเนื้อเรื่องเริ่มต้นแบบเรียบง่ายก่อนจะค่อย ๆ ซับซ้อนและน่าสนใจขึ้นเรื่อย ๆ บอกเลยว่ายิ่งเล่นยิ่งเพลิน ใครสนใจอยากเล่นก็ไปหาเครื่อง ‘Nintendo 3DS’ มาเล่นได้เลย
Dino Crisis 2
เมื่อพูดถึงการย้อนเวลาแล้วจะไม่พูดถึงเรื่องราวของไดโนเสาร์ บทความนี้ก็คงจะขาดความสมบูรณ์ไปทันที เพราะไดโนเสาร์กับเรื่องราวการย้อนเวลาเป็นอะไรที่คู่กันมาก ๆ และเกมที่เอาเรื่องราวของไดโนเสาร์มาเล่นได้อย่างน่าสนใจก็ต้องเป็นเกมซีรีส์ ‘Dino Crisis’ ซึ่งในภาคแรกนั้นจะเป็นแค่การดึงไดโนเสาร์มายังโลกปัจจุบัน จนมันสร้างความวุ่นวายที่ดูแล้วก็ไม่ค่อยแปลกอะไร แต่ในภาค 2 ของ ‘Dino Crisis’ นั้นเนื้อเรื่องจะต่างออกไป เพราะคราวนี้ด้วยความผิดพลาดของการทดลองจึงทำเมืองทั้งเมืองกลับถูกส่งไปยังยุคไดโนเสาร์ ร้อนถึง เรจิน่า (Regina) เจ้าหน่วยสืบราชการลับและหน่วยข่าวกรองของกองทัพสหรัฐฯ ที่เคยรอดชีวิตจากเหตุการณ์ในภาคแรกต้องมาช่วยเหลือชาวเมือง Edward ให้กลับมายังปัจจุบันอย่างปลอดภัย ตัวเกมภาคนี้จะเป็นแอ็กชันยิงแหลกแจกกระสุน ที่ต่างกับภาคแรกที่เป็นแนวเอาชีวิตรอด แถมมีสองตัวละครสองเรื่องราวให้เล่น ตัวเกมวางจำหน่ายบน ‘PlayStation 1’ และ ‘PC’ ใครอยากหาเกมแอ็กชันสนุก ๆ ต้องลอง
Mario & Luigi Partners in Time
ปิดท้ายกับเรื่องราวของสองพี่น้องมาริโอ้ (Mario) และเพื่อน ๆ ที่คราวนี้ต้องเดินทางย้อนเวลามาในช่วงที่ตนเองยังเป็นเด็ก เพราะความผิดพลาดจากการทดลองเครื่องย้อนเวลาที่ส่งเจ้าหญิงพีช (Princess Peach) ไปในอดีตและไม่ได้กลับมา ร้อนถึงมาริโอ้และเพื่อน ๆ ที่ต้องไปช่วยเจ้าหญิงที่เป็นยุคสมัยที่ทุกคนยังเด็ก ที่ตอนนั้นอาณาจักรเห็ดถูกพวก ‘Shroobs’ รุกรานและจับเจ้าหญิงตอนโตไป จนอาจจะทำให้มิติเวลาปั่นป่วนจนทุกคนต้องหาทางทำให้ทุกอย่างกลับคืนมา โดยมาริโอ้ต้องร่วมมือกับตัวเองตอนเด็กในการแก้ไขเรื่องนี้ ตัวเกมในภาคนี้จะเป็นแนว RPG ที่มีการตัดฉากต่อสู้ต่างกับภาคอื่น ๆ แต่เนื้อเรื่องบรรยากาศที่ยังคงเป็นมาริโอ้แบบไม่มีผิดเพี้ยน ใครที่อยากลองเล่นเกมซีรีส์เกม ‘Mario’ แบบอื่นบ้างเกมนี้เหมาะมาก ๆ และคุณจะรู้ว่าการย้อนเวลาครั้งนี้สนุกเฮฮากว่าที่คิด
เป็นอย่างไรกันบ้างกับเรื่องราวของเกมที่เกี่ยวกับการย้อนเวลาไปในอดีตหวังว่าจะชอบกัน โดยเราได้หยิบเกมอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากเกมดัง ๆ ที่มีการย้อนเวลาอย่างซีรีส์ ‘Assassin’s Creed’, ‘Dragon Quest Xl’ หรือเกมชื่อดังอื่น ๆ ที่คุณพอจะทราบกันแล้วออกไป และเอาเกมเก่า ๆ ที่น่าสนใจและมีเรื่องราวย้อนเวลามานำเสนอแทน และเราก็พยายามเลือกเกมหลาย ๆ แนวเพื่อให้คนที่สนใจได้มาอ่านจะได้ไปหามาเล่นกันได้ และถ้าใครมีเกมที่เกี่ยวกับการย้อนเวลาอีกก็บอกกันมาได้ ส่วนคราวหน้าจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไรก็ติดตามกันได้ที่นี่ที่เดียว
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส