สำหรับคนที่ไม่ได้อยู่วงการเกมอาจจะไม่ทราบว่าในวงการเกมนั้นจะมีการจำแนกแนวเกมออกไปเป็นแนวต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเกมแนว RPG, Action, Horror, Puzzle, Fighting ที่เป็นแนวหลักแล้วยังสามารถแยกย่อยลงไปได้อีกเช่น ‘Action RPG’ หรือ ‘Survival Horror’ และหนึ่งในการแตกแขนงออกมาจากแนวหลักที่ได้กล่าวมานั้น ยังมีแนวเกมอีกแบบที่สามารถรวมเกมหลายแนว ที่ถ้าเกมนั้นให้อิสระคนเล่นจะทำอะไรไม่ทำอะไรก็ได้ตามใจเรา เกมประเภทนี้จะถูกเรียกว่าเกมแนว ‘Sandbox’
Sandbox หมายถึงกระบะทรายตามสนามเด็ก ที่เราจะเห็นเด็ก ๆ ไปก่อปราสาททรายไปจนถึงเอาทรายตรงนั้นมาเล่นในรูปแบบต่าง ๆ นั่นคือความหมายของแนวเกม ‘Sandbox’ ที่ไม่ได้จำกัดแค่เกมเล็ก ๆ ที่แต่อาจจะหมายถึงเกมเกรด AAA ที่วางขายด้วย เรามาดูกันดีกว่าว่าเกมแนว ‘Sandbox’ คืออะไรและมีเกมอะไรที่น่าสนใจบ้างนั้นมาดูกันเลย
มีเกมอะไรบ้าง!
เกมแนว Sandbox คืออะไร
ก่อนจะเข้าสู่เนื้อหาเกมเรามาทำความรู้จักเกมแนว ‘Sandbox’ กันก่อนว่ามันคืออะไร โดยเริ่มจากชื่อของแนวเกมที่เรียกว่า ‘Sandbox’ มีความหมายที่ตรงตัวเลยก็คือกระบะทรายในสนามเด็กเล่น(รูปประกอบด้านบน) ซึ่งมันสามารถตีความหมายแบบกว้าง ๆ ได้ถึงความอิสระที่ผู้เล่นทรายตรงนั้น ว่าจะทำอะไรก็ได้ตามแต่ที่เราต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างปราสาททรายไปจนถึงการเอาทรายมาเป็นอาหารในการเล่นพ่อแม่ลูก หรือเอามาปาเล่นใส่หน้ากันก็ถือว่าเป็นการเล่น ที่ผู้ใช้กระบะทรายสามารถเอามาเล่นได้ ส่วนความหมายในเกมก็จะหมายถึงเกมที่ให้อิสระกับผู้เล่นที่จะทำอะไรก่อนหลังหรือจะไม่ทำอะไรที่เกมให้มาเลยก็ได้ โดยที่ตัวเกมจะไม่มาบังคับผู้เล่นว่าห้ามทำหรือไม่ควรทำ แต่เกมสามารถให้เรามีอิสระในการเล่นจนกว่าเราจะพอใจแล้วค่อยไปเนื้อเรื่องหลัก หรือจะไม่เล่นเนื้อเรื่องหลักเลยแต่เล่นในแบบของเราก็ทำได้ หรือเกมที่เล่นจบแล้วก็ยังสามารถเล่นต่อไปได้เรื่อย ๆ ไม่มีอะไรมาบังคับ ซึ่งเกมแนว ‘Sandbox’ สามารถเป็นเกมแนวไหนแบบใดก็ได้ไม่จำกัด สรุปง่าย ๆ ถ้าคุณไม่สนใจเนื้อเรื่องแต่อยากอยู่ในโลกของเกม และทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการและเกมก็ให้อิสระคุณให้ได้ทำสิ่งนั้น นั่นก็คือเกมแนว ‘Sandbox’ นั่นเอง
Dragon Quest Builders 2
เริ่มต้นเกมแรกกับเกมที่ถือว่าเป็นแนว ‘Sandbox’ กับความอิสระที่เราสามารถทำสิ่งต่าง ๆ ในโลกของเกม ‘Dragon Quest Builders 2’ ได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็นการออกไปหาวัตถุดิบมาก่อสร้างสิ่งต่าง ๆ ตั้งแต่บ้านห้องน้ำห้องอาหารอาวุธไปจนถึงการปลูกผักทำอาหารเลี้ยงคนในหมู่บ้าน โดยเกมนี้จะบอกเล่าเรื่องราวหลังจากเกม ‘Dragon Quest 2’ ภาคหลักจบไปแล้ว ผู้กล้าสามารถเอาชนะจอมมารได้แต่ก็มีปีศาจที่เหลือรอดหนีออกมา โดยเราจะเป็นลูกหลานของ ‘Builders’ (นักสร้าง) จากภาคแรกที่อยู่กับปีศาจจนเรือแตกมาติดเกาะ เราจึงช่วยกันพัฒนาเกาะของตนเองและไปช่วยเกาะอื่น ๆ ที่เดือดร้อน ตัวเกมจะมาแบบเนื้อเรื่องที่เราต้องไปช่วยเกาะต่าง ๆ และสร้างสิ่งที่ชาวเมืองต้องการ ตัวเกมจะให้อิสระเราที่จะทำอะไรก็ได้จะตามเนื้อเรื่องหรือไม่สนเนื้อเรื่องแล้วพัฒนาแต่เกาะของเราอย่างเดียวก็ได้ แต่ถ้าเล่นตามเนื้อเรื่องเราจะได้การพัฒนาสิ่งของมากขึ้น รวมทั้งคนที่มาขออยู่บนเกาะเราตามเนื้อเรื่อง เราจึงแนะนำให้เล่นเนื้อเรื่องหลักให้จบ หลังจากนั้นเราก็จะมีอิสระสามารถทำได้ทุกอย่าง ไปไหนทำอะไรสร้างตรงไหนเกาะใดก็ได้ บางคนสร้างสามารถสร้างเมืองขนาดใหญ่ได้เลย แถมชาวบ้านที่มาอยู่ก็จะไปใช้ชีวิตจากสิ่งที่เราสร้าง อย่างสร้างร้านอาหารก็จะมีคนไปนั่งกินอาหาร สร้างโรงแรมก็จะมีคนไปพัก เมืองของเราจึงมีชีวิตมากกว่าเกม ‘Minecraft’ ที่เน้นสร้างเมืองแต่ไม่มีคน แถมเรายังไปเที่ยวชมเมืองคนอื่นได้ด้วย ตัวเกมเล่นสนุกเนื้อเรื่องก็ดีใครที่ไม่ใช่แฟน ‘Dragon Quest’ ก็เล่นได้ เนื้อเรื่องถึงจะบอกว่าต่อจากภาคหลักกับภาคก่อนแต่ก็ไม่มีผลอะไรกับเนื้อหาเล่นได้เลยไม่มีงง เล่นแล้วจะติดใจบอกเลย
Grand Theft Auto V
เชื่อว่าหลายคนที่ได้เห็นชื่อเกม ‘Grand Theft Auto V’ หรือ ‘GTA 5’ คงต้องสงสัยแน่ ๆ ว่าเกมนี้จะถูกจัดเป็นแนว ‘Sandbox’ ด้วยหรอ ซึ่งสำหรับคนที่ไม่เคยเล่นหรือรู้จักแค่ว่าเกมนี้คือเกมขโมยรถยิงคนปล้นธนาคาร ซึ่งเอาจริง ๆ ตัวเกมหลักก็มีเท่านี้จริง ๆ แต่ถ้าใครที่เคยเล่นเกมซีรีส์นี้มาแล้วจะทราบดีว่าตัวเกมนั้นให้อิสระกับเรามากมาย โดยเฉพาะภาคล่าสุดอย่าง ‘GTA 5’ ที่เพิ่มความอิสระให้เรามากขึ้นกว่าทุกภาคที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่นชมเมืองดูผู้คนที่มีชีวิตชีวาไม่ใช่แค่ AI ที่เดินวนไปมาแบบเกมอื่น หรือจะขับรถเล่นไล่ยิงคนไปจนถึงการปล้นร้านสะดวกซื้อ ล่าท้าผีตามรอยมนุษย์ต่างดาวหรือจะไปไล่อัดคนเล่นตามท้องถนนก็สามารถทำได้ โดยที่เราไม่ต้องสนใจทำภารกิจที่เกมให้เลย แถมยังสามารถเปลี่ยนตัวละครไปมาระหว่างเล่นได้ถึงสี่คน(รวมตัวละครออนไลน์ด้วย) และถ้าคุณเข้าสู่โหมดออนไลน์ตัวเกมก็จะให้อิสระกับคุณมากกว่าเกมหลัก เพราะโหมดการเล่นนี้จะให้อิสระคุณไม่ว่าจะเป็นการซื้อบ้านซื้อรถตั้งแต่จักรยานไปจนถึงรถหุ้มเกราะ หรือถ้าอยากจะเป็นเจ้าของกิจการผับบาร์หรือเป็นนายทุนพ่อค้ายารายใหญ่ก็สามารถเป็นได้ แถมคุณไม่จำเป็นต้องเล่นจบเกมแค่ผ่านเนื้อเรื่องเปิดตัวมาก็เข้าสู่โหมดออนไลน์ได้เลย หรือถ้าคุณไม่อยากทำทุกอย่างที่กล่าวมา เกมก็มีโหมดแข่งรถ โหมด Battle Royale ให้ไล่ยิงกันอีกด้วย ตัวเกมมีอะไรทำมากมายจนคุณคิดไม่ถึงเลยทีเดียว
Garry’s Mod
บทความนี้จะขาดความสมบูรณ์ไปในทันทีถ้าขาดเกม ‘Sandbox’ ของแท้ ที่เรียกว่าเป็นต้นแบบของเกมแนวนี้ได้เลย กับเกมที่ชื่อว่า ‘Garry’s Mod’ เกมที่ให้อิสระกับเราในการทำทุกอย่าง ที่ทั้งเป็นไปได้และเป็นไปไม่ได้เท่าที่เราคิดออกให้เกิดขึ้นจริงบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ โดยตัวเกมนั้นจะมีวัตถุดิบตัวละครสิ่งของระบบการเคลื่อนไหวการอ้างอิงแสงเงาการตกกระทบของสิ่งของไปจนถึงฉากต่าง ๆ มาให้เรา เพื่อสร้างเกมภาพยนตร์ไปจนถึงการปรับแต่งทำอะไรในนี้ก็ได้ จนเราไม่รู้จะบอกว่าคุณสามารถทำอะไรไม่ได้ เพราะเกมนี้เราสามารถทำได้หมดทุกอย่างตามที่คุณต้องการ เมื่อทำออกมาแล้วก็สามารถเอาสิ่งที่ทำไปให้คนอื่นดูหรือเล่นได้ด้วย เรียกว่าเกมนี้ตรงกับความหมายกับคำว่า ‘Sandbox’ ที่สุด ใครสนใจก็ลองไปหามาเล่นดู ตัวเกมมีทั้งแบบฟรีและแบบเสียเงินให้คุณได้ทำสิ่งที่ต้องการ
Just Die Already
ถ้าพูดชื่อเกม ‘Just Die Already’ เชื่อว่าหลายคนอาจจะไม่ค่อยรู้จัก แต่ถ้าจะบอกว่าเกมนี้มาจากทีมพัฒนาเดียวกับที่สร้างเกมแพะบ้าอย่าง ‘Goat Simulator’ แถมตัวเกมยังมีรูปแบบที่คล้ายกัน แต่เปลี่ยนจากแพะบ้าหน้าตากวน ๆ มาเป็นตายายที่หลุดมาจากสถานรับเลี้ยงคนชรา เพื่อมาสร้างความวุ่นวายให้กับผู้คนแบบเดียวกับที่แพะบ้าทำ แต่เกม ‘Just Die Already’ จะมีกราฟิกที่สวยกว่าแถมฉากยังมีมิติผู้คนเดินไปมาไม่ได้ยืนเฉย ๆ แบบในเกม ‘Goat Simulator’ และเห็นว่าเป็นเกมแนว ‘Sandbox’ ที่ให้อิสระขนาดนี้ตัวเกมก็มีภารกิจให้เราทำเพื่อได้ของในการแกล้งคนที่มากขึ้น หรือถ้าคุณไม่สนใจภารกิจจะเล่นแค่แกล้งคนอื่นหรือเดินชมเมืองก็สามารถทำได้ แถมยังมีโหมดออนไลน์ให้เล่นพร้อมกับเพื่อน ๆ อีกสี่คนมาช่วยกันป่วนเมือง ตัวเกมวางจำหน่ายบนเครื่อง ‘PlayStation 4’, ‘Xbox One’, ‘Nintendo Switch’ และ ‘PC’ ใครเบื่อเกมแพะบ้าก็มาเล่นเป็นคุณตาคุณยายเกมนี้ได้เลย
Cyberpunk 2077
มาต่อที่เกมแนวโลกอนาคตมุมมองบุคคลที่ 1 ที่แฟน ๆ ทั่วโลกที่ต่างคาดหวังในช่วงที่เกมจะวางจำหน่าย จนเมื่อเกมออกมาทุกคนต่างพากันผิดหวังกับสิ่งที่เกมนี้ทำกับผู้เล่น แถมเมื่อเกมออกมาแล้วแฟน ๆ ต่างก็ถกเถียงกันว่าเกม ‘Cyberpunk 2077’ จะจัดอยู่ในเกม ‘Sandbox’ ได้ไหม เพราะด้วยความไม่สมบูรณ์แบบของตัวเกม ที่ทำให้หลายคนรู้สึกหงุดหงิดเวลาเล่น รวมถึงความไม่อิสระในการเลือกกระทำหลาย ๆ อย่างจึงทำให้หลายคนไม่นับเกม ‘Cyberpunk 2077’ เป็นเกมแนว ‘Sandbox’ แต่ฝ่ายค้านก็บอกว่าถ้าตัวเกมถูกสร้างมาอย่างสมบูรณ์ตามที่ค่ายเกมบอกมาทุกอย่าง เราก็จะมีอิสระในการทำสิ่งต่าง ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นการเดิมชมเมืองแกล้งผู้คนหรือเลือกไปทำอะไรหลาย ๆ อย่างโดยที่ไม่ต้องสนใจเนื้อเรื่องก็สามารถทำได้ แต่ในตอนนี้สิ่งที่ผู้พัฒนาบอกยังทำได้ไม่ถึงครึ่ง แต่ถ้าถามว่าเกมนี้มีอิสระแบบ ‘GTA’ ไหมก็ต้องบอกว่าใช่ และเราก็สามารถไปไหนทำอะไรก็ได้เหมือนกัน แม้จะยังไม่ค่อยมีอะไรให้ทำก็ตาม ดังนั้นเราจึงขอนับเกมนี้ไปอยู่ในหมวดหมู่ของเกม ‘Sandbox’ แม้เกมตอนนี้จะไม่สมบูรณ์ก็ตาม ส่วนใครที่ยังไม่เคยเล่นแนะนำให้รอไปก่อนให้เกมสมบูรณ์กว่านี้แล้วค่อยไปหาซื้อมาเล่นตอนลดราคา
The Sims
ถ้าพูดถึงเกมแนว ‘Sandbox’ เกมแรก ๆ ที่หลายคนนึกถึงต้องเป็นซีรีส์ ‘The Sims’ อย่างไม่ต้องสงสัย เพราะเกมในซีรีส์นี้คือหนึ่งในเกมแนว ‘Sandbox’ ของแท้ที่ให้อิสระกับผู้เล่นแบบไม่มีอะไรมาบังคับให้เราว่าต้องทำอะไรยังไง เราแค่เล่นในแบบที่เราต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกเพศอายุ ที่ในภาคล่าสุดเราสามารถเป็นตัวเราได้มากขึ้นถ้าคุณเป็นเพศที่สาม สำหรับคนที่ไม่รู้จักเกมในซีรีส์ ‘The Sims’ จะให้เรารับบทเป็นตัวคุณที่ไปอยู่ในเกม เพื่อใช้ชีวิตในแบบต่าง ๆ ที่คุณอยากเป็น ไม่ว่าจะทำงานเรียนคบเพื่อนมีแฟนแต่งงานมีลูกไปจนถึงเรื่องราวแฟนตาซีก็มีให้เราได้เลือกไปอยู่ ตัวเกมให้อิสระผู้เล่นแบบไม่มีบังคับ ใครที่เบื่อชีวิตจริงแล้วอยากไปผ่อนคลายกับอะไรที่สนุก ๆ แบบไม่ต้องคิดอะไรมาก เกมซีรีส์ ‘The Sims’ คือเกมที่เราอยากแนะนำ
Don’t Starve
ต้องบอกเลยว่าเกมแนว ‘Sandbox’ นั้นสามารถไปอยู่ได้ทุกแนวเกมในตลาด เพราะขนาดเกมแนว ‘Survival’ อย่าง ‘Don’t Starve’ ก็ถูกรวมมาอยู่ในเกมแนวนี้ด้วย สำหรับคนที่ไม่เคยเล่นตัวเกมจะให้เรารับบทเป็น วิลสัน (Wilson) นักวิทยาศาสตร์อิสระที่หลงมาอยู่ต่างมิติซึ่งเต็มไปด้วยสัตว์ประหลาด ตัวของวิลสันต้องพยายามมีชีวิตรอดในโลกนี้ด้วยการหาอาหารที่พักอาวุธรวมถึงการสร้างสิ่งต่าง ๆ เพื่อใช้ในการดิ้นรนเอาชีวิตรอด ตัวเกมจะมาในรูปแบบ ‘Open World’ แบบสุ่มที่เราแทบไม่รู้เลยว่าวันนี้จะเกิดอะไรขึ้น ตรงนี้ที่เราเคยไปแล้วมาวันนี้มันก็จะเปลี่ยนไป จึงทำให้เราต้องคิดว่าต้องทำอะไรตรงไหนอย่างไร เป้าหมายของเกมนี้ไม่มีอะไรเลยนอกจากการมีชีวิตให้นานที่สุด เราจึงสามารถเล่นเกมนี้ได้เรื่อย ๆ จะทำอะไรไม่ทำอะไรก็ได้ทุกอย่างตัวเราเป็นผู้กำหนด แต่ตัวเกมก็จะบังคับอ้อม ๆ ให้ทำหลาย ๆ อย่างเช่นอาหารที่บูดเน่าได้ บ้านที่พังอาวุธที่เสื่อมสภาพหรือหลาย ๆ อย่างที่ผลักดันเราให้ต้องออกไปข้างนอก ตัวเกมเล่นได้เรื่อย ๆ แต่สนุกทุกวินาทีในการเอาชีวิต ใครอยากหาเกมตื่นเต้นทุกย่างก้าวที่ออกจากบ้านต้องเกมนี้เลย
Red Dead Redemption 2
ถ้าเกม ‘Grand Theft Auto V’ คือเกมแนว ‘Sandbox’ เกม ‘Red Dead Redemption 2’ ก็ต้องอยู่ในแนวเกมนี้ด้วยเช่นกัน เพราะเกมนี้ก็มีทุกอย่างเหมือนกับ ‘GTA 5’ ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นความอิสระที่เราจะทำอะไรไม่ทำอะไรก็ได้ รวมถึงโหมดการเล่นออนไลน์ที่ให้อิสระและตัวเลือกมากมายให้เราได้เล่น จะต่างกันเพียงแค่เกมนี้จะอยู่ในยุคคาวบอยที่ไม่ค่อยมีบ้านคนหรือเมือง แต่จะเน้นป่าและทุ่งหญ้าภูเขาเป็นส่วนมาก แต่เกมก็ทดแทนด้วยโหมดการเล่นมากมายที่ต่างกับ ‘GTA 5’ ไม่ว่าจะเป็นการพนันในแบบคาวบอย การเล่นโยนเกือกม้าการเอามีดจิ้มระหว่างนิ้ว หรือจะเป็นการล่าสัตว์เอาหนังไปขายตกปลารวมถึงการเป็นนักล่าค่าหัว ที่เราจะทำทั้งหมดนี้โดยไม่เล่นเนื้อเรื่องหลักก็ทำได้ ใครที่เบื่อเกมซีรีส์ ‘GTA’ มาเล่นเกมนี้แทนได้ หรือถ้าคุณไม่อยากซื้อเกมหลักจะซื้อเฉพาะโหมดออนไลน์อย่างเดียวก็ได้ ตัวเกมมีกราฟิกที่สวยงามนับเป็นเกม ‘Sandbox’ ที่เราอยากแนะนำให้คุณหามาเล่นกัน
No Man’s Sky
ครั้งแรกที่เกม ‘No Man’s Sky’ วางจำหน่าย หลายคนต่างก็คาดหวังความสนุกกับการเดินทางไปยังดวงดาวต่าง ๆ ในอวกาศที่มีเป็นพัน ๆ ดวงในเกม แต่เมื่อเกมออกมาตัวเกมกลับทำไม่ได้เหมือนที่เคยพูดเอาไว้ จนถูกแฟน ๆ ทั่วโลกรุมด่าวันเวลาผ่านไปทางค่ายเกมก็ไม่ยอมแพ้ได้พัฒนาตัวเกมมาเรื่อย ๆ จนตอนนี้ตัวเกม ‘No Man’s Sky’ สามารถทำได้ตามที่บอกเอาไว้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นระบบออนไลน์ที่เราจะได้เจอผู้เล่นคนอื่นที่บังเอิญมาเจอกันบนดาวแล้วร่วมเดินทางไปด้วยกันได้ ตัวเกมจะเน้นที่ความอิสระในการสำรวจไปตามดาวต่าง ๆ ซึ่งมีสิ่งมีชีวิตต่างดาวที่ใช้ภาษาและมีวัฒนธรรมเป็นของตัวเองที่เราต้องไปศึกษาเรียนรู้ ตัวเกมจะให้อิสระเราได้ในไปดาวดวงไหนทำอะไรก็ได้ หรือจะไม่ไปดาวดวงไหนแต่เลือกจะสำรวจดาวดวงเดียวเพื่อสร้างฐานอยู่ที่ดาวนี้เลยก็ทำได้ นับเป็นเกมแนว ‘Sandbox’ ที่เล่นได้แบบไม่มีวันจบจนกว่าคุณจะเบื่อไปเอง เพราะในเกมนี้มีดวงดาวให้เราไปสำรวจนับล้านดวง(ทีมพัฒนาโม้มาแบบนั้น) ใครที่อยากหาเกมเล่นได้ยาว ๆ แบบยาวจริง ๆ ต้องเกมนี้เลย
Animal Crossing
หรือถ้าคุณเป็นสายสบาย ๆ ไม่รีบร้อนไม่ต้องดินรนเอาชีวิตรอดหรือเดินทางไปไหนไกล ๆ เราก็มีเกมแนว ‘Sandbox’ ที่น่าสนใจอย่าง ‘Animal Crossing’ มานำเสนอ โดยเกมนี้จะให้เรารับบทเป็นตัวเราเองที่จะต้องไปอยู่ในสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งแต่ละภาคจะให้เราไปอยู่ในสถานที่ซึ่งต่างกันไป อย่างภาคล่าสุดอย่าง ‘Animal Crossing New Horizons’ ก็จะให้เราไปอยู่บนเกาะที่สามารถทำอะไรก็ได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็นการแต่งบ้านทำสวนเดินเล่นตกปลาจับแมลงหรือพัฒนาเกาะตามแต่ที่เราต้องการ ตัวเกมมีภารกิจให้เราได้ทำแต่เราจะทำตอนไหนหรือไม่ทำก็ได้ตามแต่ที่เราต้องการ ตัวเกมมีโหมดออนไลน์ให้เล่นกับเพื่อน ๆ ที่จะเชิญพวกเขามาที่เกาะของเราหรือเราไปเที่ยวเกาะคนอื่นก็ได้ ส่วนใครที่ไม่มีเครื่อง ‘Nintendo Switch’ ก็มีภาคมือถืออย่าง ‘Animal Crossing Pocket Camp’ ให้โหลดไปเล่น ตัวเกมจำลองมาจากภาคหลักครบชุด อาจจะขาดบางระบบที่มีในภาคใหม่ไปบ้างแต่เล่นแล้วสนุกถูกใจแน่นอน
Minecraft
ปิดท้ายกับเกมแนว ‘Sandbox’ ตัวพ่อของวงการเกม ที่ถ้าไม่เอาเกม ‘Minecraft’ มาพูดถึงบทความคงขาดความสมบูรณ์ไปในทันที เพราะเกมนี้คือหัวใจหลักของเกมแนว ‘Sandbox’ ที่ให้อิสระกับผู้เล่นที่จะทำอะไรก็ได้ตามที่ต้องการ คล้ายกับเกม ‘Dragon Quest Builders’ ที่เราได้อธิบายไป ที่เกมนั้นก็เอาระบบของเกม ‘Minecraft’ มาใช้ ซึ่งสำหรับคนที่ไม่ทราบตัวเกม ‘Minecraft’ จะมีโหมดต่าง ๆ ให้เลือกเล่นมากมาย ทั้งแบบเล่นตามเนื้อเรื่องโหมดเอาชีวิตรอด ไปจนถึงโหมดที่ให้อิสระเราในการสร้างสิ่งต่าง ๆ หรือจะเดินไปเรื่อย ๆ ในโลกของ ‘Minecraft’ ได้แบบไม่รู้จบก็ทำได้ จนหลายคนพยายามจะหาจุดสิ้นสุดของเกมนี้ที่ก็ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน ใครที่ชอบความเรียบง่ายแต่ใส่ความคิดจินตนาการที่สมกับเป็นเกม ‘Sandbox’ ก็ไม่ควรพลาด ตัวเกมมีแทบทุกเครื่องในตลาดแถมเล่นได้ทั้งเด็กเล็กจนไปถึงผู้ใหญ่ และคุณจะรู้ว่าเกมง่าย ๆ เกมนี้สนุกขนาดไหน
ก็จบกันไปแล้วกับเกมแนว ‘Sandbox’ แบบต่าง ๆ ที่เราเอามานำเสนอหวังว่าจะถูกใจกัน เพราะจุดเด่นของเกมแนวนี้คือความให้อิสระกับผู้เล่น ที่สามารถทำอะไรก็ได้โดยที่ไม่ต้องสนใจเนื้อเรื่องหลักว่าจะเป็นอย่างไร หรือถ้าคุณแค่อยากไปเดินเล่นใช้ชีวิตแบบสบาย ๆ ไม่ต้องสนใจเนื้อหาของเกมก็ทำได้ เหมือนกระบะทรายในสนามเด็กเล่นที่เราได้บอกไป และถ้าบทความนี้ขาดเกมแนว ‘Sandbox’ เกมไหนไปก็ขออภัยมาด้วย ส่วนคราวหน้าจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไรในวงการเกมก็ติดตามกันได้ที่นี่ที่เดียว
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส