หลังจากที่ทาง Sony Update Beta ล่าสุดให้ใส่ SSD เข้าไปในช่องภายในได้แล้วมาก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ทาง Sony ได้ประกาศไว้ตั้งแต่แรกซึ่งก็ต้องเป็น SSD ที่ผ่านขั้นต่ำที่ทาง Sony ปล่อยออกมาเท่านั้น
ซึ่งก็แน่นอนเลยว่าแฟน ๆ ของทั้งทาง Microsoft และ Sony ก็ได้มีการเปรียบเทียบกันในการอัปเกรดหน่วยความจำภายในระหว่างทั้ง 2 เครื่อง ซึ่ง Tom Warren บรรณาธิการของเว็บใหญ่อย่าง The Verge ก็ได้มีการจุดประเด็นโดยการโพสต์ VDO วิธีการเพิ่มหน่วยความจำของทั้ง 2 เครื่องออกมาจนมีคนเข้าไปเถียงกัน งั้นเราไปดูข้อแตกต่างในการอัปเกรดหน่วยความจำของ Xbox Series X/S กับ PlayStation 5 กันเลย
Xbox Series X/S
Xbox นั้นจะเป็นการอัปเกรดแบบ External Upgrade หรือการเพิ่มหน่วยความจำภายนอก ในตอนนี้ยังมีตัวเลือกให้เลือกอยู่อย่างเดียวคือ Storage Expansion Card จาก Seagate โดยมีแค่ขนาด 1TB เท่านั้น ตัวการ์ดมาพร้อมกับประกัน 3 ปี ในด้านความเร็วอ่านและเขียนนั้นทาง Microsoft และ Seagate ไม่ได้ระบุออกมาชัดเจนบนหน้าเว็บ ความเร็วอ่านในการทดสอบอยู่ที่ 2,400 MB/s และในการทดสอบความเร็วในการโหลดเกมของตัวการ์ดไม่ได้มีความแตกต่างกับในตัวเครื่องเลย โดยราคาจะอยู่ที่ 219.99 USD หรือประมาณ 7,280 บาท
ข้อดี
- ตัว Expansion Card ของ Xbox นั้นใช่งานได้ง่ายเพียงแค่นำเอาตัวการ์ดไปเสียบหลังเครื่องก็พร้อมใช้งานแล้ว
- เนื่องจากตัวการ์ดออกแบบมาเพื่อเครื่อง Xbox โดยตรงจึงทำให้ผู้ใช้ทั่วไปเลือกซื้อได้ง่าย
- ดีไซน์มาให้พกพาไปที่อื่นได้สะดวก เช่นถ้าเราต้องการพกเกมของเราไปหาเพื่อนที่มีเครื่อง Xbox เหมือนกันเราสามารถถอดตัวการ์ดแล้วพกไปได้เลย
- ในตอนนี้ราคาถูกกว่า
ข้อเสีย
- เนื่องจากตัวการ์ดออกแบบมาเพื่อ Xbox โดยเฉพาะ จึงไม่สามารถนำไปใช้กับอย่างอื่นได้
- ในตอนนี้ยังไม่มีตัวเลือกทั้งแบรนด์และขนาดความจำให้ผู้ใช้เลือกเลย มีแต่ของ Seagate ขนาด 1 TB ขนาดเดียว
- เนื่องจากออกแบบมาเพื่อเครื่อง Xbox อย่างเดียวในอนาคตถ้าราคาของ SSD ปรับตัวลงทางบริษัทมีสิทธิ์ที่จะไม่ปรับราคาลงตาม
- ประกันแค่ 3 ปี ซึ่งน้อยกว่า SSD ปกติแบรนด์อื่น ๆ หรือแม้แต่ NVMe SSD ของทาง Seagate เองก็ตาม
PlayStation 5
ในด้านของ PlayStation 5 จะเป็น Internal Upgrade หรือ การเพิ่มหน่วยความจำภายใน สามารถใส่ SSD แบบ Nvme M.2 ที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ได้เลย แต่สเปคต้องถึงขั้นต่ำที่ทาง Sony ตั้งไว้ โดยสามารถใช้แบรนด์ไหนก็ได้ความจำใส่ได้ตั้งแต่ 250 GB – 4 TB โดยผมจะยกตัวอย่างเป็น SSD จาก Western Digital อย่าง WD Black SN850 ขนาด 1 TB ที่มี Heatsink แถมมาด้วยมาเป็นตัวเทียบ โดย SSD ตัวนี้มีความเร็วอ่านอยู่ที่ 7,000 Mb/s เขียนอยู่ที่ 5,300 MB/s มีประกัน 5 ปี ราคาอยู่ที่ 249.99 USD หรือ 8,270 บาท
ข้อดี
- มีตัวเลือกหลากหลาย สามารถเลือกทั้งแบรนด์และขนาดความจำได้อย่างอิสระ
- ถ้าไม่ต้องการใช้กับเครื่อง PS5 แล้วสามารถนำออกมาใส่กับเครื่องคอมพิวเตอร์ได้
- ในอนาคตหาก SSD มีการปรับราคาลงผู้ใช้งานจะได้เห็นราคาของ SSD ที่สามารถนำมาใส่กับ PS5 ลดลงแน่นอน
- ประกัน 5 ปีซึ่งนานกว่าของ Xbox Expassion Card
ข้อเสีย
- ราคายังคงแพงกว่าของทาง Xbox อยู่
- การติดตั้งมีขั้นตอนซับซ้อนกว่าของทาง Xbox
- ในการเลือกซื้อ ผู้ใช้งานจะต้องเช็กเองว่า SSD ตัวไหนใช้ได้กับเครื่อง PS5
- พกพาไปมาได้ยาก
- ต้องหา SSD ที่มี Heatsink ด้วยตามที่ทาง Sony แนะนำ
สรุป
ทั้ง 2 แบรนด์กับวิธีที่เลือกนั้นก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันไป Xbox นั้นออกแบบมาเพื่อประสบการณ์ใช้งานที่ง่ายที่สุด ในส่วนของ PS5 นั้นคำนึงถึงตัวเลือกของผู้ใช้งานมากกว่า ซึ่งก็ไม่ได้ผิดทั้งคู่และขึ้นอยู่กับผู้ใช้แล้วว่าวิธีของบริษัทไหนที่เหมาะกับคนคนนั้นมากกว่ากัน