เอาจริง ๆ เกมแนว MMORPG ก็มีมาเรื่อย ๆ ในวงการนะครับ เพียงแต่จะแปลกและแหวกฉีกขนบไปได้ขนาดไหนก็คงแล้วแต่เกม แต่ถ้าผู้เขียนบอกว่า Riders of Icarus คือเกมที่พลิกระบบคอมแบทของเกมแนวนี้ ผ่านการนำเสนอระบบต่อสู้กลางอากาศบนหลังอานของสัตว์อสูรมีปีกที่ผู้เล่นเป็นคนเลือกจับได้เองกับมือละ? พอจะกระตุ้นต่อมความเป็นเกมเมอร์สายฟาร์มวิธเฟรนด์ได้ไหม!?
ถ้าได้ งั้นผู้เขียนขอนำเสนอหัวข้อ “5 เหตุผล ทำไม Riders of Icarus ถึงเป็นเกม MMORPG ที่น่าสนใจ!?” มานำเสนอกัน ถ้าพร้อมแล้ว ตามมาได้เลยครับ
1. ระบบคลาสและการสร้างตัวละครที่มีให้เลือกเยอะมาก!
ถ้าพูดถึง MMORPG แน่นอนว่าอีกหนึ่งสิ่งที่เกมเมอร์อย่างเรา ๆ ให้ความสำคัญไม่แพ้เรื่องอื่น คือระบบสร้างตัวละครและคลาสการเล่น ซึ่ง Riders of Icarus มีให้เลือกถึง 8 คลาส และแต่ละคลาสจะมีความยากง่ายและรูปแบบการเล่นที่แตกต่างกันออกไปอย่างชัดเจน ได้แก่
- Berserker: คลาสที่ทำดาเมจได้สูงทั้งเป้าหมายเดี่ยวและหมเหมาะสำหรับผู้เล่นสายบู๊ล้างผลาญูเพราะมีค่าสเตตัสที่พอจะรับมือรับเท้าจากการถูกโจมตีได้ในระดับหนึ่ง
- Guardian: เน้นการนำความถึกทนมาใช้ให้เป็นประโยชน์ในรูปแบบของการเล่นกับปาร์ตี้ โดยหลากหลายท่าจะเน้นไปที่การโจมตีเป้าหมายเดี่ยว
- Assassin: คลาสที่มีความว่องไวดาเมจแรงและต่อคอมโบได้เยอะที่สุดในบรรดาทุกคลาสของเกม แต่จะมีจุดอ่อนเป็นค่าพลังชีวิตที่น้อย ต้องอาศัยเทคนิคการบังคับของผู้เล่นในการหลบหลีกและเอาตัวรอดจากศัตรู
- Priest: คลาสที่เด่นชัดด้านการสนับสนุนเพียงหนึ่งเดียวของเกม (เพราะไม่มีคลาสไหนในเกมที่ฮีลและใส่บัฟให้เพื่อนได้) เหมาะสำหรับผู้เล่นที่ชอบการปาร์ตี้กับผู้เล่นคนอื่น ๆ เพราะลำพังสกิลต่าง ๆ ของคลาสนี้ไม่เกื้อหนุนต่อการเล่นคนเดียว
- Wizard: คลาสที่สร้างความเสียหายได้มหาศาลด้วยเวทย์มนต์หลากหลายธาตุทั้งแบบเดี่ยวและหมู่ แต่จะมีข้อเสียหลัก ๆ คือค่าพลังชีวิตที่ต่ำ แพ้ทางศัตรูประเภทที่เข้าถึงตัวเร็ว หรือแมปการเล่นที่แคบและมีศัตรูจับตัวกันเป็นกลุ่ม
- Ranger: นักธนู คลาสที่จำเป็นต้องมีแทบจะทุกเกม เพราะมันเท่ยังไงละ! (หยอก ๆ) มีจุดเด่นเป็นการโจมตีประเภทกายภาพจากระยะไกลได้ทั้งเดี่ยวและหมู่ มีสกิลการหลบหลีกและเอาตัวรอดที่เยอะ แต่ผู้เล่นจะเป็นคนกำหนดความเชี่ยวชาญในส่วนนี้เองผ่านการควบคุม
- Trickster: คลาสที่มีสีสันในการเล่นที่สุดตัวหนึ่งของเกมทั้งรูปธรรมที่ท่วงท่าและอนิเมชันของแต่ละสกิลจะเป็นนำตุ๊กตา ดอกไม้ ต้นหญ้า มาใช้ในการโจมตี ก่อกวน และสร้างดีบัฟใส่ศัตรู ส่วนในเชิงนามธรรม คือ รูปแบบของสกิลที่มีวิธีการใช้หลากหลายไม่ตายตัวสมชื่อคลาสอย่าง “จอมกลลวง”
- Magician: นักมายากลที่ใช้พลังเวทย์ในการสร้างความโกลาหลใส่ศัตรู โดยมีจุดเด่นเป็นรูปแบบการร่ายสกิลที่คาดเดาทางยากว่าจะออกมาทางไหนหรือเมื่อไหร่
ส่วนเรื่องถัดมาก็คืออิสระในการสร้างตัวละคร ที่ก็ต้องบอกว่า Riders of Icarus ถือว่ามีให้ปรับแต่งเยอะใช้ได้เลย ทั้ง Preset ที่ตัวเกมเตรียมไว้ให้และในระดับการปรับแต่งอย่างละเอียด ไม่ว่าจะ ขนาด, ความกว้าง, ความยาว, ความลึกของแต่ละอวัยวะบนหน้าก็สามารถดีไซน์ให้ออกมาเหมือนกับผู้เล่นเองได้แบบเป๊ะ ๆ (หรือจะแฟนตาซีไปเลยอันนี้ก็ทำได้นะเออ)
2. ระบบบังคับการต่อสู้เหมาะกับเกมเมอร์ทุกประเภท
ถ้าเป็นเกม MMORPG สมัยก่อนมันก็จะมีแค่กดคลิกใส่ศัตรูแล้วตัวละครเราก็เดินเข้าไปตีออกท่าออกทางเฉย ๆ ใช่ไหมครับ? แต่ Riders of Icarus มีทางเลือกให้ผู้เล่นมากกว่านั้น โดยเราสามารถเลือกรูปแบบการบังคับการต่อสู้ได้ ได้ 2 แบบ ตามความถนัดของผู้เล่นได้ แบบแรก คือ Standard Mode หรือการบังตับแบบคลาสิกของเกมแนว MMORPG คลิกตี คลิกเดิน
และ Action Mode ที่จะเป็นการบังคับในรูปแบบของเกมแอ็กชันเปลี่ยนการเคลื่อนที่เป็นการกดปุ่ม WASD และใช้การโจมตีด้วยการเล็งผ่าน Crosshair คือการบังคับแบบนี้ถ้าเล่นเป็นนักเวทย์อาจจะเป็นการเพิ่มความท้าทาย แต่ถ้าเล่นกับคลาสที่โจมตีแบบกายภาพ เช่น Berserker, Assassin, Guardian และ Ranger จะออกรสที่สุดครับ (เชื่อเถอะ!)
3. ต่อสู้และเคลื่อนที่กลางอากาศด้วยสัตว์ขี่!
นี่คือจุดเด่นของ Riders of Icarus เลยละครับ กับระบบขี่สัตว์เลี้ยงที่มีตั้งแต่รูปแบบพื้นฐานคือประเภทภาคพื้นดินที่ช่วยให้การเดินทางให้เร็วขึ้น ไปจนถึงการใช้ขี่กลางอากาศเพื่อทั้งเคลื่อนที่และต่อสู้! ซึ่งผู้เล่นอย่างเรานี่แหล่ะที่จะเป็นคนเลือกได้เองว่าสัตว์เลี้ยงตัวไหนจะได้มาเป็นคู่ซี้ของเราผ่านการจับ ซึ่งยิ่งเล่นไปไกล ๆ เหล่าสัตว์ทั้งหลายที่สามารถจับได้จะยิ่งมีความสามารถที่น่าสนใจและเก่งขึ้นเรื่อย ๆ มีประโยชน์ต่อการเล่นในหลากหลายด้าน
คราวนี้เรามาพูดถึงระบบการเดินทางบนภาคอากาศกันบ้าง ในเกมนี้หลายพื้นที่จากแมปจะถูกดีไซน์มาเพื่อรองรับสัตว์เลี้ยงที่บินกลางอากาศได้ แต่ถึงอย่างนั้นตัวเกมก็ไม่ได้มีข้อจำกัดของการเดินทางแบบปกติ เพียงแต่ตัวเกมดีไซน์มาให้เรารู้สึกกว่าการเดินทางบนอากาศเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า (เยอะ) ในหลายจังหวะของตัวเกมเราจะรู้เลยว่านอกเหนือจากภาพเท่ ๆ ที่เราขึ้สัตว์อสูรที่โผล่บินกลางอากาศด้วยปีกแล้ว มันยังมีประโยชน์ต่อการเล่นมาก ๆ
และในแง่ของการเป็นหนึ่งเดียวกับการเล่น เรามาพูดถึงระบบการต่อสู้กลางอากาศกันบ้าง บอกเลยว่าเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับเกม MMORPG มาก แต่ในขณะเดียวกันก็มีระบบการต่อสู้ที่ชวนให้ไม่เบื่อมารองรับการเล่น และหากยิ่งเล่นไปในระดับสูง ๆ เราจะได้เจอภาพสงครามที่ผู้เล่นกว่า 20 ชีวิตต้องช่วยกันล้มบอสกลางอากาศด้วยนะ เท่มาก! (ฟาร์มแป้บจะได้ไปถึงตรงนั้นไว ๆ)
4. ระบบ Achievement ที่ทำให้อยากเล่นต่อยาว ๆ
โดยปกติแล้วในหลาย ๆ เกม ระบบ Achievement มักจะเป็นแค่การมอบไอคอนถ้วยรางวัลให้เมื่อผู้เล่นผ่านเงื่อนไขรองต่าง ๆ ในเกม เช่น ตีมอนครบ 100 ตัว 1,000 ตัว 10,000 ตัวอะไรแบบนั้น ซึ่งคุณค่าของมันมากสุดก็แค่เอาไว้โชว์ไว้ขิงถูกไหม?
แต่ใน Riders of Icarus ระบบ Achievement จะเป็นอีกหนึ่งแรงจูงใจในการเล่น เพราะทุก ๆ เงื่อนไขที่เราเคลียร์ได้ ผู้เล่นจะได้รางวัลตอบแทนกลับมา ที่ก็ไม่ใช่ของไก่กาเลย แต่เป็น Ellun หนึ่งในหน่วยค่าเงินในเกมที่นำไปใช้ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะใช้ในการชุปชีวิตจากจุดที่ตายได้เลย ไม่ต้องเสียเวลากลับไปเกิดจุดวาร์ป, นำไปซื้อของในไอเทมมอลล์ได้ หรือแม้แต่การขยายช่องเก็บของ
แถมเงื่อนไขของแต่ละ Achievement ก็ไม่ได้ซับซ้อนหรือเก็บยากเก็บเย็นอะไร หลาย ๆ การกระทำระหว่างที่เล่น เช่น เก็บเลเวล จับมอนสเตอร์ หรือแม้แต่การตาย ก็เข้าเงื่อนไข Achievment ซึ่งพอเป็นเช่นนั้นระบบนี้จะเป็นเหมือนกับอีกหนึ่งแรงจูงใจในการเล่นนอกเหนือจากการไต่ระดับเลเวลให้สูงขึ้นเรื่อย ๆ ที่ทำให้ผู้เล่นรู้สึกไม่เสียเวลาฟรี ๆ กับภาพจำของ Achievement จากเกมอื่น ๆ
ระบบดันเจี้ยนและ PVP สุดท้าทาย!
ในเมื่อเกมแนวนี้ต้องมีเพื่อนเล่น งั้นคอนเทนต์ต่าง ๆ ในเกมก็ต้องรองรับเรื่องนี้ถูกไหมครับ? อยากจะบอกว่า Riders of Icarus เสิร์ฟให้ตั้งแต่ต้น กลาง และ ท้ายเกม เลย ไม่ว่าจะดันเจี้ยนที่ไล่เรียงระดับความยากขึ้นเรื่อย ๆ จน ผู้เล่นต้องหาปาร์ตี้มาช่วยกันเคลียร์ที่ทีมเวิร์กจากแต่ละคลาสต้องแน่นมาก ๆ ถึงจะผ่านกันไปได้!
Riders of Icarus รองรับภาษาไทยเต็มรูปแบบ 100% ใครต้องการติดตามข่าวสารของตัวเกมก็สามารถเข้าไปได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ https://www.facebook.com/IcarusVFUNTH และเว็บไซต์ https://icarus-sea.valofe.com/