ถ้ามีคนมาบอกให้คุณลองเล่นเกมภาคนี้จากซีรีส์นี้ เพราะมันสนุกน่าสนใจถ้าไม่เล่นคุณจะพลาดของดี หลายคนเมื่อได้ยินหรืออ่านแบบนี้ก็คงจะรู้สึกสนใจเกมเหล่านั้นขึ้นมา แต่ถ้ามีใครบอกคุณว่านี่คือเกมที่คุณควรหามาเล่นก่อนตายคุณจะรู้สึกอย่างไร นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นในหนังสือ ‘1001 Video Games You Must Play Before You Die’ หรือ “1001 วิดีโอเกมที่คุณต้องเล่นก่อนตาย” ที่ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี 2010 ที่เป็นการรวมรายชื่อเกมตั้งแต่ปี 1970 จนถึงปี 2010 ก่อนจะมีการปรับปรุงเนื้อหาเพิ่มเติมและคัดเกมออกในปี 2013 โดยในหนังสือจะแยกย่อยเป็นเกมภาค ๆ เช่นซีรีส์นี้มีภาคที่คุณควรเล่นก่อนตายเท่านี้ไม่ได้รวมทั้งซีรีส์ แต่ในบทความนี้เราจะขอคัดเฉพาะซีรีส์เกมที่ในหนังสือเอามาพูดถึงเยอะที่สุดมานำเสนอ เช่นซีรีส์เกมนี้มีทั้งหมด 8 ภาค(นับแค่ภาคล่าสุดในปี 2013) แต่ในหนังสือได้เอาเกมในซีรีส์นี้มาใส่ถึง 5 ภาคเราจึงขอนับทั้งซีรีส์มาพูดถึง และบอกว่าภาคไหนที่หนังสือแนะนำให้คุณเล่นก่อนตาย พร้อมกับเพิ่มเติมภาคใหม่ที่ในหนังสือยังมาไม่ถึงเข้าไปด้วย เพื่อให้ใครที่สนใจอยากรู้ว่าเกมซีรีส์และภาคที่คุณควรเล่นก่อนตายบ้าง ถ้าพร้อมแล้วก็เตรียมตัวสวมแว่นและกระโดดลงมาในห้องสมุดแห่งข้อมูลวงการเกมกันเลย
Final Fantasy
เริ่มต้นซีรีส์แรกที่หนังสือ ‘1001 Video Games You Must Play Before You Die’ บอกเอาไว้ว่าคุณควรหามาเล่นก่อนตาย นั่นคือซีรีส์ ‘Final Fantasy’ ที่เชื่อว่าหลายคนน่าจะรู้จักเกมซีรีส์นี้เป็นอย่างดี ว่ามีความสนุกและเต็มไปด้วยจินตนาการขนาดไหน โดยในหนังสือได้ยกให้เกม ‘Final Fantasy’ ภาคที่ 4 ถึง 12 เป็นภาคที่คุณควรหามาเล่นก่อนตาย โดยภาคที่ 4 นั้นในหนังสือแนะนำให้เล่นในฉบับบนเครื่อง ‘Nintendo DS’ ที่เป็นฉบับ Remake กราฟิกใหม่ให้สวยงาม และนอกจากเกมภาคหลักทั้งเก้าภาคแล้วก็ยังมีเกม ‘Final Fantasy Crystal Chronicles’ เกมกึ่งออนไลน์ที่เราต้องเล่นเป็นหนึ่งชนเผ่าที่ออกเดินทางตามหาคริสตัลเพื่อช่วยหมู่บ้าน ตัวเกมลงบนเครื่อง ‘GameCube’ แต่ก็มีบน ‘PlayStation 4’ สำหรับคนที่สนใจ อีกเกมคือเกมแนววางแผนการรบที่ดีที่สุดบนเครื่อง ‘PlayStation 1’ กับเกม ‘Final Fantasy Tactics’ ตัวเกมเข้าใจง่ายไม่ซับซ้อนแถมเนื้อเรื่องยังสนุกน่าติดตาม หรือจะเป็นภาคใหม่อย่าง ‘Final Fantasy Tactics A2 Grimoire of the Rift’ ที่มีระบบห้ามกระทำในวันนั้นเช่นห้ามใช้ท่านี้ในวันนี้ ถ้าใช้จะถูกจับขังจนเราใช้ตัวละครนั้นไม่ได้ซึ่งเป็นระบบที่น่าสนใจของภาคนี้ ตัวเกมลงบนเครื่อง ‘Nintendo DS’ ใครไม่เคยเล่น 3 เกมนี้แนะนำเลยของดีมาก ๆ
BioShock
เท่าที่ไล่รายชื่อเกมกว่า 1001 เกมในหนังสือ ‘1001 Video Games You Must Play Before You Die’ ที่ถ้าไม่นับเกมที่ออกมาแค่ภาคเดียวหรือสองภาค ถ้าซีรีส์นั้นมีเกินสามภาคขึ้นไปเราก็จะเห็นแค่เกมภาคแรกกับภาคสองเท่านั้นที่ติดอันดับ แต่เกมในซีรีส์ ‘BioShock’ กลับสามารถทำได้ทั้งหมด เพราะความสนุกที่เชื่อมโยงกันได้อย่างลงตัวของเนื้อเรื่องทั้งสามภาค ที่แม้คุณไม่เคยเล่นภาคไหนมาก่อนก็สามารถเล่นได้รู้เรื่อง เพราะเนื้อหาในแต่ละภาคจะมีปมและเรื่องราวของตัวเอง แต่ถ้าคุณอยากเห็นภาคกว้างของทั้งหมดในเกมนี้คุณก็ต้องเล่นเกมให้ครบสามภาค แถมแต่ละภาคก็มีระบบการเล่นที่ต่างกัน จนทำให้เราไม่รู้สึกว่ามันเป็นแค่เกมภาคต่อที่อ้างอิงระบบเดิมมาใช้เหมือนซีรีส์อื่น และเมื่อเล่นจนจบคุณจะรู้สึกอิ่มเอมกับเนื้อหาที่เกมมีมาให้ บอกเลยว่าสุดติ่งทั้งระบบการเล่นและเนื้อเรื่องสำหรับซีรีส์นี้
Call of Duty
ย้อนกลับไปในปี 2003 เกมยิงมุมมองบุคคลที่ 1 ซึ่งอ้างอิงเนื้อหาในสงครามโลกครั้งที่ 2 มาเป็นแกนหลักอย่าง ‘Call of Duty’ ที่ตัวเกมในตอนนั้นนำเสนอระบบ AI ที่มีความคิดซึ่งช่วยสนับสนุนผู้เล่นในการทำภารกิจ ไม่ใช่แค่เราคนเดียวลุยเดี่ยวอัดทั้งกองทัพและให้ตัวละคร AI คนอื่นมาเป็นแค่ตัวประกอบฉากแบบเกมอื่น ซึ่งบางทีพวกนี้ก็ยิงแม่นและเก่งกว่าเราด้วย จึงทำให้เรามีความรู้สึกอารมณ์ร่วมเหมือนอยู่ในสงครามจริง ๆ โดยในหนังสือ ‘1001 Video Games You Must Play Before You Die’ ก็ได้ยกซีรีส์ ‘Call of Duty’ มาแนะนำให้คุณควรหามาเล่นก่อนตายถึง 4 ภาค นั่นก็คือ ‘Call of Duty’ ภาค 1 และ 2 รวมถึง ‘Call of Duty 4 Modern Warfare’ ภาคที่ขึ้นชื่อว่าดีที่สุดภาคหนึ่งในซีรีส์ที่นักเล่นเกมหลายคนก็น่าจะรู้จักซีรีส์ ‘Call of Duty’ มาจากภาคนี้ นอกจากนี้ก็ยังมีภาค ‘Call of Duty Modern Warfare 2’ พ่วงมาด้วย ซึ่งเราก็แนะนำต่อว่าให้หาทุกภาคหลังจากนี้มาเล่นด้วยเลย บอกเลยว่าซีรีส์นี้ซื้อมาเล่นไม่มีผิดหวัง
Devil May Cry
ด้วยความที่ตัวหนังสือ ‘1001 Video Games You Must Play Before You Die’ มีช่วงเวลาในวงการเกมแค่ปี 2013 จึงทำให้หลายเกมที่มีภาคต่อออกมาและยอดเยี่ยมไม่แพ้ภาคเก่าไม่ได้ถูกบรรจุอยู่ในหนังสือ ดังนั้นเราจึงขอถือวิสาสะลงแถมไปด้วยเลย โดยเริ่มจากเกมซีรีส์ ‘Devil May Cry’ ที่ตัวเกมเปิดตัวออกมาในฐานเกมต้นแบบของ ‘Resident Evil 4’ ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นเกมแอ็กชัน ที่มาพร้อมคำจำกัดความใหม่ในวงการเกมว่า แนวเกม ‘Hack And Slash’ ที่เราสามารถรัวปุ่มสร้างคอมโบอัดศัตรูที่ดาหน้าเข้ามาพร้อมเพลงที่มีจังหวะกระหน่ำสะใจคนเล่น ที่ตัวเกมภาคแรกแม้จะทำออกมาดีแต่สุดท้ายก็มาตกม้าตายในภาคสอง ในหนังสือจึงแนะนำให้คุณเล่น ‘Devil May Cry’ ภาคแรกและกระโดดมาภาค 3 กับ 4 เลย และเราของแถมภาค 5 กับภาค ‘DMC’ ที่เป็นการรีบูตเกม ‘Devil May Cry’ มาตีความใหม่ลงไปด้วย ที่แม้ตัวเกมภาคนี้จะไม่ค่อยถูกใจแฟน ๆ เพราะมันได้ทำลายกลิ่นอาย ‘Devil May Cry’ ที่แฟน ๆ รู้จัก แต่ตัวเกมก็ทำออกมาได้สนุกเนื้อเรื่องดีไม่แพ้ภาคหลัก ดังนั้นเราจึงขอใส่ 2 ภาคนี้ลงไปในรายชื่อเกมที่คุณควรเล่นก่อนตายไปด้วย
Doom
คุณเคยได้ยินวลีที่ว่า ‘Doom Slayer’ (Doomguy) ไม่ได้ติดอยู่ในนรกกับเหล่าปีศาจ แต่เหล่าปีศาจที่น่าสงสารต่างหากที่ติดอยู่ในนรกกับ ‘Doom Slayer’ นั่นคือสิ่งที่แฟน ๆ เกมซีรีส์ ‘Doom’ ทราบดี เพราะเกมนี้เราจะได้รับบทเป็นมนุษย์(ย้ำอีกทีว่าเป็นมนุษย์) ที่ลงไปในนรกเพื่อปราบปีศาจทุกตัว(ย้ำว่าทุกตัว) ในนรกให้หมด โดยทุกภาคนั้นจะอ้างอิงเนื้อเรื่องราวที่คล้าย ๆ กันกับการเปิดประตูนรกจากบนสถานีบนดาวอังคาร และเราต้องเป็นคนลงไปในนรกเพื่อปิดประตู โดนในหนังสือได้หยิบเกมซีรีส์ ‘Doom’ มาทั้งหมดสามภาคนั่นคือ ‘Doom’ ภาคแรกที่แม้จะเก่าแต่เอามาเล่นตอนนี้ก็ยังสนุก ต่อด้วย ‘Doom II Hell on Earth’ ที่สานต่อความสนุกสะใจจากภาคแรก และ ‘Doom 3’ ที่ตัวเกมเปลี่ยนมาเป็นแนวสยองขวัญแต่ก็ยังใช้การยิงแหลกที่ผสมได้อย่างลงตัว แต่ก็มีคนไม่ชอบเพราะมันขาดความเป็น ‘Doom’ ที่เคยมี และแถมอีกสองภาคที่เพิ่งออกมาในปี 2016 กับ ‘Doom’ ภาคใหม่กับ ‘Doom Eternal’ ภาคต่อที่ทำออกมาเพื่อสาวก ที่ถ้าคุณอยากเริ่มเล่นเกมซีรีส์ ‘Doom’ แต่ไม่อยากเล่นภาคเก่าก็มาเริ่มจาก ‘Doom’ ปี 2016 เลยก็ได้เพราะกราฟิกสวยเนื้อเรื่องดีเล่นสนุก บอกเลยว่าคุณควรหามาเล่นก่อนตายจริง ๆ ไม่ได้โม้นะจ๊ะ
Castlevania
คุณเคยงุนงงสับสนกับเรื่องราวในเกมไหม แบบภาคหนึ่งสร้างมาแล้วภาค 2 ก็เป็นการเล่าย้อนไปก่อนภาคแรก พอมาภาค 3 ก็เป็นเรื่องต่อจากภาคแรก และมีเนื้อเรื่องเสริมที่สร้างมาขั้นระหว่างภาค 2 กับ 3 อีก ซึ่งคนที่ไม่ได้ติดตามเรื่องราวคงจะงุนงงกับเนื้อเรื่องแน่นอน อย่างที่ซีรีส์ ‘Kingdom Hearts’ หรือ ‘Metal Gear Solid’ แต่ที่เราว่ามานั้นยังเทียบไม่ได้กับซีรีส์ ‘Castlevania’ ที่มีออกมาหลายสิบภาคแถมทุกภาคยังมีความเชื่อมโยงกันของคนในตระกูล ‘Belmont’ ที่คนนั้นเป็นหลานคนนี้เป็นลูกคนนั้นเป็นเหลนคนนี้ หรือจะเป็นลูกทางฝ่ายตัวร้ายอย่าง แดรกคูลา (Dracula) ที่บางภาคลูกหลายฝั่งนี้ก็เป็นตัวเอกจนทำให้ใครที่ไม่ได้ติดตามซีรีส์นี้มีงงในงงของงงแน่นอน ซึ่งเราจะไม่ขอเจาะลงไปตรงนั้นเพราะมันเยอะจนเอามาพูดตรงนี้คงไม่พอ เอาเป็นว่าเกมที่หนังสือแนะนำให้เราหามาเล่นก่อนตายในซีรีส์ ‘Castlevania’ ก็มีทั้งหมด 3 ภาค เริ่มจาก ‘Castlevania Aria of Sorrow’ ที่วางจำหน่ายบนเครื่อง ‘Game Boy Advance’ ที่แม้จะเป็นเกมบนเครื่องพกพาแต่ความสนุกเกินตัวจริง ๆ ตามมาด้วยภาค ‘Castlevania Dawn of Sorrow’ ที่เป็นตอนต่อที่ลงบนเครื่อง ‘Nintendo DS’ กับอีกเกมที่เป็นภาคปลุกผีให้คนยุคใหม่รู้จักซีรีส์ ‘Castlevania’ หลังจากที่ภาคก่อน ๆ ไม่ค่อยประสบความสำเร็จ กับ ‘Castlevania Symphony of the Night’ ที่บอกเลยว่าภาคนี้ยอดเยี่ยมมาก ๆ ตัวเกมวางลงบน ‘PlayStation1’ ซึ่งน่าเสียดายที่แม้จะมีการปรับปรุงหนังสือในปี 2013 แต่ก็ไม่มีการใส่ภาค ‘Castlevania Lords of Shadow’ ลงไป เพราะภาคนี้ก็เป็นหนึ่งในภาคที่ยอดเยี่ยมที่หลายคนไม่ควรพลาด แค่เนื้อเรื่องจะเป็นการเริ่มต้นใหม่ไม่ต่อกับภาคเก่าเท่านั้น ใครสนใจภาคไหนก็ลองไปหามาเล่นดู
God of War
ถ้าพูดถึงเกมที่คุณควรเล่นก่อนตายแล้วไม่มีเกมซีรีส์ใหญ่อย่าง ‘God of War’ หนังสือเล่มนี้คงจะถูกด่าจากแฟน ๆ อย่างแน่นอน เพราะถ้าใครที่ได้เล่นเกมนี้มาแล้วไม่ว่าจะเป็นภาคหลักภาคแยกภาคเสริมภาคประกอบมาแล้ว จะทราบดีว่าเกมนี้สนุกสะใจขนาดไหน ซึ่งในหนังสือก็ได้ระบุภาคที่คุณต้องเล่นก่อนตายเอาไว้เพียงแค่สามภาคเท่านั้น ทั้งที่เกมซีรีส์นี้บอกเลยว่าสนุกทุกภาค โดยภาคที่หนังสือแนะนำก็มี ‘God of War’ ภาค 1 กับ 2 และภาค ‘God of War Chains of Olympus’ เท่านั้น ไม่ได้เอาภาค 3 ที่ก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้ภาคอื่นมาด้วย ทั้งที่หนังสือก็ปรับปรุงใหม่ในปี 2013 (ตัวเกม God of War 3 วางจำหน่ายปี 2010) และแถมให้กับภาคที่คุณควรหามาเล่นกับ ‘God of War’ ภาคใหม่ที่ลงบนเครื่อง ‘PlayStation 4’ ที่เป็นเนื้อเรื่องต่อจากภาค 3 ที่เป็นการเริ่มระบบการเล่นใหม่ที่สนุกมากขึ้น ใครที่เพิ่งเคยเล่นซีรีส์นี้แนะนำให้เล่นภาคนี้ไปเลยก็ได้ แล้วค่อยย้อนกลับไปเล่นภาคเก่า ๆ
Street Fighter
คราวนี้มาดูเกมต่อสู้กันบ้างที่ในหนังสือก็กล่าวถึงเกมต่อสู้อยู่หลายซีรีส์ แต่ก็ไม่มีเกมซีรีส์ไหนที่สามารถจะมีภาคต่อติดอันดับมากเท่าเกมในซีรีส์ ‘Street Fighter’ ที่มีถึงสี่ภาค โดยเริ่มจากภาคที่ดีที่สุดในซีรีส์ที่ทำให้หลายคนรู้จักเกมนี้ไปทั่วโลกอย่าง ‘Street Fighter II Turbo’ ซึ่งเป็นภาคที่เพิ่มตัวละครลงไปจากเดิมที่เกมมีตัวละครอยู่แค่ 8 คน แต่ในภาค Turbo นั้นได้เพิ่มเป็น 12 คนจึงทำให้รูปแบบการเล่นสนุกและน่าสนใจขึ้นจนแฟน ๆ ทั่วโลกหลงรัก ตามด้วยภาค ‘Street Fighter Alpha 3’ ที่เป็นอีกหนึ่งภาคที่รวมตัวละครในซีรีส์และนอกซีรีส์มารวมตัวกันเยอะที่สุด แถมระบบการเล่นก็สามารถเปลี่ยนได้ตามที่เราถนัด แถมหนึ่งตัวละครยังมีท่าไม้ตายมากกว่าหนึ่งท่า(บางตัว 3 ท่า) ซึ่งดีงามกว่า ‘Street Fighter V’ ที่มีแค่ตัวละท่า นอกจากนี้ก็มี ‘Street Fighter III Third Strike’ ที่นักเล่นเกมต่อสู้สายหลักชื่นชอบ จนแฟน ๆ นักเล่นเกมต่อสู้ต่างยกย่องว่าภาคนี้เป็นภาคที่เล่นสนุกที่สุด และปิดท้ายด้วย ‘Street Fighter IV’ ที่เป็นเหมือนภาคปลุกผีหลังจากที่ ‘Street Fighter III’ ไม่สามารถดึงผู้เล่นได้เพราะระบบที่ยากต่อมือใหม่ ในภาคที่สี่ตัวเกมจึงกลับไปใช้ระบบการเล่นแบบเก่าอย่างภาค Alpha ที่เป็นการปลุกความนิยมให้กลับมาอีกครั้ง ซึ่งถ้าใครอยากเล่นเกมต่อสู้สนุก ๆ ก็เริ่มเล่นจากภาค ‘Street Fighter IV’ นี้เลย ส่วนภาคที่ 5 นั้นมันเป็นระบบออนไลน์เป็นหลักที่เล่นยากจึงไม่แนะนำสำหรับมือใหม่
Metal Gear Solid
ดูเหมือนคนที่จัดทำหนังสือ ‘1001 Video Games You Must Play Before You Die’ จะชื่นชอบซีรีส์ ‘Metal Gear Solid’ มาก ๆ เพราะเมื่อดูจากรายชื่อของเกมที่ถูกเอามาแนะนำให้คุณต้องเล่นก่อนตายก็มีถึง 6 ภาคเลยทีเดียว เริ่มจาก ‘Metal Gear Solid’ ภาคที่สามของซีรีส์แต่คือภาคแรกในซีรีส์ ‘Solid’ ที่ลงบน ‘PlayStation 1’ ที่หลายคนน่าจะรู้จักเกมซีรีส์นี้จากภาคนี้ ตามมาด้วย ‘Metal Gear Solid 2 Sons of Liberty’ ต่อด้วยภาคย้อนอดีตใน ‘Metal Gear Solid 3 Snake Eater’ ก่อนจะข้ามกลับมาเล่าตอนจบที่ต่อจากภาค 2 ในภาค ‘Metal Gear Solid 4 Guns of the Patriots’ นอกจากนี้ก็ยังมีภาคเสริมที่ลงบนเครื่อง ‘Playstation Portable’ (PSP) อย่าง ‘Metal Gear Solid Portable Ops’ และแถมภาค ‘Remake’ เกม ‘Metal Gear Solid’ ภาคแรกในชื่อ ‘Metal Gear Solid The Twin Snakes’ มาด้าวย อ่านมาถึงตรงนี้รับรองว่าใครที่ไม่เคยเล่นหรือติดตามเกมซีรีส์นี้มาก่อนต้องงงอย่างแน่นอน เอาเป็นว่าถ้าคุณอยากเล่นจริง ๆ ก็ไปเล่น ‘Metal Gear Solid V The Phantom Pain’ ไปเลย เพราะตัวเกมยอดเยี่ยมสนุกไม่ผิดหวังแน่นอน แต่อาจจะงงเนื้อเรื่อง ดังนั้นถ้าอยากเล่นเกมนี้ให้สนุกก็ไปดูเนื้อเรื่องภาคเก่ามาก่อน หรือถ้าไม่สนใจเนื้อเรื่องและจะเล่นแบบเอาสนุกอย่างเดียวเกมนี้ก็มีให้คุณตามที่ต้องการ
Dragon Quest
นับว่าน่าแปลกใจมาก ๆ ที่เกมซีรีส์ ‘Dragon Quest’ ที่ไม่ค่อยนิยมในต่างประเทศ(นิยมเฉพาะในญี่ปุ่นเป็นหลัก) จะมาติดอยู่ในหนังสือด้วย(หนังสือเป็นของอเมริกา) เพราะถ้าใครที่เป็นแฟนเกมหรือรู้จักซีรีส์นี้จะทราบดีว่าตัวเกม ‘Dragon Quest’ นั้นไม่เป็นที่นิยมในต่างประเทศเมื่อเทียบกับซีรีส์ ‘Final Fantasy’ แต่ในหนังสือก็มีการพูดถึงเกมนี้ว่าคุณควรหามาเล่นก่อนตายถึงสามภาค นั่นคือ ‘Dragon Quest I’ เกมเปิดตำนานที่ทำให้เรารู้จักเกมซีรีส์นี้เป็นครั้งแรก ตามด้วย ‘Dragon Quest V’ ที่มีเนื้อเนื้อเรื่องที่เข้มข้นจริงจังแถมยังเป็นภาคแรกที่เราสามารถชวนมอนเสตอร์มาเป็นพวก และยังเลือกเจ้าสาวเพื่อให้กำเนิดลูกฝาแฝดที่จะเป็นผู้กล้าในอนาคตอีกด้วย ก่อนจะกระโดดมาที่ภาค ‘Dragon Quest VIII Journey of the Cursed King’ ที่ตัวเกมพยายามเปลี่ยนตัวเองให้เป็นสากลโดยการเพิ่มเสียงพากย์ตัวละครลงไป(ในฉบับญี่ปุ่นไม่มี) และถ้าใครที่อยากเล่นเกมซีรีส์นี้จริง ๆ แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มจากไหนก็แนะนำให้เล่นภาคที่ 11 อย่าง ‘Dragon Quest XI S Echoes of an Elusive Age’ ไปเลย และตอนซื้อก็ดูด้วยว่ามันตัว ‘S’ ไหม เพราะภาค 11 มีแบบปกติและแบบ ‘S’ ที่มีการปรับปรุงเนื้อหากราฟิกที่ดีขึ้น รับรองว่ามือใหม่ที่เพิ่งเริ่มเล่นต้องชอบแน่นอน
Far Cry
เมื่อพูดถึงเกมในซีรีส์ไกลตะโกนอย่าง ‘Far Cry’ ต้องบอกเลยว่าเกมซีรีส์นี้มักมีอะไรให้เราตื่นเต้นและแปลกใจอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นระบบการเล่นที่แม้จะเป็นแบบเดียวกันคือการยึดพื้นที่ยิงศัตรูและเสริมพลังในแบบต่าง ๆ แต่สิ่งที่เกมซีรีส์ ‘Far Cry’ แปลกแตกต่างและโดดเด่นคือการไม่ย่ำอยู่กับที่และพร้อมจะลองใส่ระบบใหม่ ๆ ในเกมตลอด รวมถึงเนื้อเรื่องที่กล้าเล่นกล้าใช้ที่พอเล่นจบหลายคนถึงกับอ้าป้าค้างก็เคยมีมาแล้ว ดังนั้นในทุกภาคของซีรีส์นี้ตั้งแต่ภาคที่หนึ่งจนถึงภาค 3 ที่ในหนังสือเอามาแนะนำมาแล้ว เราก็ขอรวมเอาภาคที่สี่กับห้ารวมภาคยุคหินอย่าง ‘Far Cry Primal’ กับภาคยุคอนาคตที่เป็นภาคต่อจากภาค 5 อย่าง ‘Far Cry New Dawn’ ที่ออกหลังปี 2013 ที่ในหนังสือยังไม่มีไปด้วยเลย หรือถ้าใครอยากเล่นจริง ๆ ก็รอภาคหกไปเลย เพราะภาคนี้จะมีซับภาษาไทยด้วยรับรองสนุกแน่นอน
Grand Theft Auto
เชื่อว่าหลายคนที่ได้อ่านบทความนี้คงไม่รู้สึกแปลกใจที่ได้เห็นเกมซีรีส์ ‘Grand Theft Auto’ หรือ ‘GTA’ ในบทความนี้ เพราะถ้าขาดเกมซีรีส์นี้ไปบทความคงขาดความสมบูรณ์ไปในทันที แต่สิ่งที่น่าแปลกจนเราต้องหยิบมาพูดถึงก็คือรายชื่อภาคที่คุณต้องหามาเล่นก่อนตาย ที่เมื่อไล่ดูแล้วก็มีภาคหนึ่งถึงภาคสี่แล้วก็มีภาค ‘Grand Theft Auto San Andreas’ ภาค ‘Grand Theft Auto Vice City’ และภาค ‘Grand Theft Auto Liberty City Stories’ ที่ก็ดูปกติที่ภาคเหล่านี้คือภาคที่ยอดเยี่ยมในตัวเองอยู่แล้ว แต่ในหนังสือยังแนะนำภาค ‘Grand Theft Auto Chinatown Wars’ เกมภาคแยกที่กลับไปใช้มุมมองด้านบน ที่เห็นเป็นจุด ๆ เม็ดถั่วแบบในภาคแรกกลับมาอีกครั้งเพื่อลงบนเครื่อง ‘Nintendo DS’ ที่ไม่น่ามาอยู่ในนี้ กับอีกสอง DLC ภาคเสริมจากภาคสี่อย่าง ‘Grand Theft Auto IV The Ballad of Gay Tony’ กับ ‘Grand Theft Auto IV The Lost and Damned’ มาอยู่ในนี้ด้วย นับว่าแปลกมาก ๆ (คนเขียนคงชอบภาคสี่แน่ ๆ) แถมยังไม่มี ‘Grand Theft Auto V’ ที่วางจำหน่ายในปี 2013 ด้วย ซึ่งถ้าใครอยากเล่นเกมซีรีส์นี้ครั้งแรกก็มาเล่นภาค 5 บน ‘PlayStation 5’ ไปเลยเพราะภาคหกคงอีกนานกว่าจะมา
Super Mario
ในหนังสือ ‘1001 Video Games You Must Play Before You Die’ นั้นเอาจริง ๆ ก็มีซีรีส์เกมอยู่ไม่กี่รายชื่อ และส่วนมากจะเป็นเกมภาคต่อจากซีรีส์ดัง ๆ มาอยู่ในบทความนี้ และเชื่อหรือไม่ว่าเกมในซีรีส์ที่ใช้ชื่อว่า ‘Mario’ นำหน้าชื่อเกมกับใช้ชื่อ ‘Super Mario’ นั้นรวมกันแล้วมีถึง 21 ภาคเลยทีเดียว ซึ่งทุกภาคที่คุณคิดออกก็มีในรายชื่อหมด แต่ภาคแปลก ๆ ที่หลายคนไม่ค่อยรู้จักอย่าง ‘Super Mario Bros The Lost Levels’ ที่ดูชื่อแล้วหลายคนคงจะแปลกใจว่าคือเกมอะไร แต่ความจริงแล้วมันคือเกม ‘Super Mario Bros 2’ ต้นฉบับภาษาญี่ปุ่นที่ถูกเอามาขายใหม่(ตัวเกม ‘Super Mario Bros 2’ ที่อเมริกาได้เล่นในยุคนั้นคือการดัดแปลงเกม ‘Doki Doki Panic’ มาเปลี่ยนตัวละคร) อีกเกมที่หลายคนไม่คุ้นชื่ออย่าง ‘Super Mario RPG Legend of the Seven Stars’ ที่วางจำหน่ายบนเครื่อง ‘Super Famicom’ ซึ่งเป็นภาคแรก ๆ ที่เกมซีรีส์ ‘Mario’ มาจับเกมภาษา และอีกเกมที่น่าสนใจในซีรีส์นี้คือ ‘Mario vs. Donkey Kong’ ที่เป็นการเอาซีรีส์ในตำนานอย่าง ‘Donkey Kong’ ในยุคเก่ามาปัดฝุ่นสร้างภาคใหม่เพื่อลงบน ‘Nintendo DS’ ใครสนใจภาคไหนแบบใดก็ไปหามาเล่นดูได้
The Legend of Zelda
อีกหนึ่งซีรีส์เกมจากฝั่ง ‘Nintendo’ ที่ในหนังสือ ‘1001 Video Games You Must Play Before You Die’ หยิบยกภาคต่าง ๆ ของเกม ‘The Legend of Zelda’ ที่คุณควรเล่นก่อนตายถึง 12 ภาค ที่ถ้าไม่นับภาคเก่ากับภาคใหม่ ๆ ที่หลายคนรู้จักกันดีอยู่แล้ว เราก็ขอแนะนำเกมซีรีส์ ‘The Legend of Zelda’ บนเครื่องพกพามานำ เริ่มจากเกม ‘The Legend of Zelda Oracle of Seasons and Oracle of Ages’ บนเครื่อง ‘Game Boy Color’ ที่มีรูปแบบการเล่นเหมือนภาคเก่า ที่ถ้าใครไม่อยากไปหาภาคแรก ๆ มาเล่นก็แนะนำภาคนี้เลย แถมตัวเกมยังมีสองภาคที่เชื่อมโยงกันด้วย หรือจะเป็น ‘The Legend of Zelda Phantom Hourglass’ เกมที่เป็น 3D กับการล่องเรือไปที่ต่าง ๆ แทนการเดินแบบภาคก่อน หรือจะเป็นการนั่งรถไฟในภาค ‘The Legend of Zelda Spirit Tracks’ ก็สนุกน่าสนใจไม่แพ้เครื่องหลัก โดยทั้งสองเกมนี้ก็มีให้เล่นบน ‘Nintendo DS’ หรือถ้าคุณต้องการเล่นภาคที่ดีที่สุดในซีรีส์ เราก็ขอแนะนำเกม ‘The Legend of Zelda Ocarina of Time’ บนเครื่อง ‘Nintendo 3DS’ รับรองว่าคุณจะหลงรักซีรีส์นี้ถ้าได้เล่น
Resident Evil
ปิดท้ายกับซีรีส์ที่จะไม่พูดถึงไม่ได้อีกเกมนั่นคือซีรีส์ ‘Resident Evil’ ที่หลายคนน่าจะทราบดีว่าตัวเกมซีรีส์นี้มีภาคหลักภาคย่อยภาคแยกภาคเสริมเยอะมาก ๆ แต่ในหนังสือ ‘1001 Video Games You Must Play Before You Die’ กลับเอามแค่ 6 เกมเท่านั้น นั่นคือภาค ‘Resident Evil Zero’ มาจนถึงภาคที่ห้า และ ‘Resident Evil Code Veronica’ เท่านั้น แต่ไม่มีภาค 6 ที่วางจำหน่ายในปี 2012 ซึ่งภาคนี้ไม่ค่อยจะถูกใจแฟน ๆ เสียเท่าใด และถ้าจะให้เราเพิ่มเติมตอนนี้ก็คงจะเป็น ‘Resident Evil Revelations’ ทั้งสองภาค แถมด้วย ‘Resident Evil 2-3 Remake’ ที่คุณควรเอามาเล่นก่อนตาย นอกนั้นก็จะเป็นภาคใหม่อย่าง ‘Resident Evil 7’ และ ‘Resident Evil Village’ ที่ยอดเยี่ยมทั้งระบบการเล่นและเนื้อหา ที่ถ้าคุณสามารถเล่นเกมมุมมองบุคคลที่ 1 ได้รับรองว่าคุณจะต้องสนุกกับเกมนี้แน่นอน
ก็จบกันไปแล้วกับ 15 ซีรีส์เกมที่คุณควรเล่นก่อนตาย โดยเราอ้างอิงรายชื่อเกมมาจากหนังสือ ‘1001 Video Games You Must Play Before You Die’ มาใช้เป็นฐานในการเขียนบทความ ซึ่งเราได้เลือกซีรีส์ที่ถูกเอามาพูดถึงเยอะที่สุด 15 เกมมาลงเพื่อเป็นการยืนยันว่าซีรีส์เกมนี้สนุกน่าสนใจจริง ๆ จนหนังสือหยิบภาคต่าง ๆ ของเกมซีรีส์นี้มาลง และถ้าคุณเป็นคนที่ชอบเล่นเกมคุณควรไปหาเกมเหล่านี้มาเล่นก่อนตาย จะได้ไม่เสียชาติเกิดที่เป็นนักเล่นเกม(ล้อเล่น) ซึ่งถ้าขาดตกเกมไหนซีรีส์ใดไปก็บอกกันมาได้ ส่วนคราวหน้าจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไรก็ติดตามกันได้ที่นี่ที่เดียว
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส