ย้อนเวลากลับไปเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2003 ได้มีเกม ‘Resident Evil’ ภาคใหม่วางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นในชื่อ ‘Bio Hazard Outbreak’ ที่คราวนี้ตัวเกมจะเป็นแนวเกมออนไลน์ที่สามารถเล่นพร้อมกับคนอื่น ๆ เพื่อช่วยกันเอาชีวิตรอดไปจนถึงสุดทาง ซึ่งความพิเศษของเกมนี้เราจะไม่ใช่คนที่มีความสามารถพิเศษ อย่างทหารหน่วย S.T.A.R.S. หรือสายลับสุดแกร่งที่บุกเดี่ยวฝ่าดงซอมบี้ แต่เราจะเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาที่เอาชีวิตรอดในเมืองแร็กคูน ช่วงเดียวกับที่เกม ‘Resident Evil 2-3’ ดำเนินอยู่ จากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็ผ่านมาถึง 18 ปีแล้ว เรามาย้อนดูเรื่องราวของเกมนี้กันว่าจะมีอะไรน่าสนใจกันบ้าง ส่วนใครที่ยังไม่เคยเล่นจะได้รู้จักเกมนี้ไปพร้อม ๆ กัน แล้วคุณจะรู้ว่าทำเกมนี้ถึงเป็นตำนานที่ถูกใจแฟน ๆ ‘Resident Evil’ ถ้าพร้อมแล้วก็เตรียมกระสุนพกสมุนไพรให้พร้อม แล้วไปลุยดงซอมบี้พร้อมกันเลย
Resident Evil Outbreak เกมออนไลน์เกมแรกในซีรีส์ Resident Evil
เริ่มต้นเรื่องแรกเราต้องย้อนเวลากลับไปสมัยเครื่องเกม ‘PlayStation 2’ ที่ในยุคนั้นยังเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเล่นเกมออนไลน์บนเครื่องเกมคอนโซล ขณะที่บน ‘PC’ ก็ยังเป็นเพียงการเริ่มต้นไม่ต่างกัน แต่ด้วยการมาถึงของเกมออนไลน์อย่าง ‘Phantasy Star Online’ ที่ลงบนเครื่อง ‘Dreamcast’ ในปี 2000 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นให้นักพัฒนาเกมเริ่มสนใจการทำเกมในรูปแบบออนไลน์ นั่นจึงทำให้เราได้เห็นเกมออนไลน์ในซีรีส์ ‘Resident Evil’ หรือ ‘Bio Hazard’ ออกมา โดยในตอนแรกนั้นจะมีแค่ฉบับภาษาญี่ปุ่นก่อนจะวางจำหน่ายในภาษาอังกฤษในวันที่ 31 มีนาคม 2004 ซึ่งก่อนที่เกมจะวางจำหน่ายในช่วงปี 2002 ได้มีข่าวลือออกมาว่า เราจะได้เห็นเกม ‘Biohazard Online’ จน ‘Capcom’ ต้องออกแถลงการณ์ยืนยันว่าเป็นความจริง พร้อมกับอีก 2 เกมที่ใช้ระบบออนไลน์อย่าง ‘Auto Modellista’ และ ‘Monster Hunter’ ซึ่งมีเพียง 2 เกมที่ประสบความสำเร็จด้วยดี จนทำให้เราเห็น ‘Resident Evil Outbreak File 2’ ที่เป็นเหมือนเกมฉบับ 2.0 ที่เพิ่มแผนที่เข้ามาพร้อมแผนที่เก่า ซึ่งแฟน ๆ ต่างก็ชื่นชอบแม้ในบ้านเราในตอนนั้น แม้จะมีน้อยคนที่สามารถต่อออนไลน์เล่นได้ก็ตามแต่ตัวเกมก็เป็นที่จดจำของแฟน ๆ มาจนถึงตอนนี้ ซึ่งตัวเกมปิดบริการในวันที่ 30 ธันวาคม 2007 เป็นการปิดตำนานหนีตายอย่างเป็นทางการของเกมนี้ ที่จนถึงตอนนี้ก็ไม่ภาคต่อออกมา
ระบบการเล่นที่ต่างจาก Resident Evil ภาคอื่นอย่างสิ้นเชิง
มาในส่วนของระบบการเล่นในเกม ‘Resident Evil Outbreak’ ใครที่เคยเล่นเกมนี้มาแล้ว จะทราบดีว่าระบบทุกอย่างในเกมนี้ไม่ได้ใช้สิ่งที่เกม ‘Resident Evil’ มีเลย เพราะเกมนี้เราจะไม่ได้เล่นเป็นทหารหรือหน่วยพิเศษ แต่เป็นชาวบ้านที่มีหลากหลายอาชีพซึ่งบังเอิญต้องมาร่วมมือกันเอาชีวิตรอด เราจึงได้เห็นสิ่งต่าง ๆ ที่ไม่เหมือนในเกมหลัก เริ่มจากระบบอาวุธที่เราสามารถเลือกเอาสิ่งของใกล้ตัวมาเป็นอาวุธตีหรือขว้างได้ ใครคิดภาพไม่ออกให้คิดถึงเกม ‘Dead Rising’ แต่ของที่ใช้เป็นอาวุธจะมีเพียงไม้ถูพื้นกับท่อนเหล็ก และของไม่กี่อย่างเท่านั้นที่ใช้ได้ แถมตัวละครเรายังสามารถก้มคลานหมอบเพื่อหลบใต้เตียงในตู้เสื้อผ้าได้ด้วย ตัวเกมมีระบบความเหนื่อย และเมื่อถูกกัดเราจะติดเชื้ออย่างช้า ๆ ที่ถ้าไม่หาทางรักษาสุดท้ายเราจะกลายเป็นซอมบี้จนกว่าจะจบเกม ซึ่งการจบเกมหรือผ่านฉากนั้นจะทำได้ต่อเมื่อเราทำตามเงื่อนไขในฉากนั้น ๆ ได้สำเร็จ นอกจากนี้ก็จะมีความสามารถพิเศษของแต่ละคน ที่บางคนจะมีปืนตั้งแต่ต้นเกมเพราะเป็นตำรวจ บางคนวิ่งเร็ว บางคนสามารถพกของได้เยอะตามแต่ตัวละครที่เราเลือกมา ซึ่งทุกคนต้องร่วมมือกันในการผ่านด่านอย่างช่วยดันประตู พยุงคนที่บาดเจ็บเดิน ช่วยต่อสู้แก้ไขปริศนา ส่วนระบบพูดคุยในเกมจะมีเพียงคำสั่งพื้นฐานอย่าง มาทางนี้ ช่วยด้วย แทนการแชทคุยกัน เพื่อไม่ให้ทำลายความน่ากลัวของเกม
คุณคือคนแบบไหนเมื่อซอมบี้ระบาดดูได้จากเกมนี้
คราวนี้มาดูการเล่นจริง ๆ กันบ้าง เมื่อเปิดเกมขึ้นมาเราจะต้องเลือกตัวละคร 1 คนจาก 8 ตัวละครที่บังเอิญมาอยู่ใน ‘Jack’s Bar’ ช่วงที่ซอมบี้ระบาด ซึ่งถ้าคุณเล่นคนเดียวตัวละครที่เหลืออีก 4 คนจะถูกบังคับเป็น NPC ที่คุณต้องทำทุกอย่างคนเดียว เพราะเหล่าตัวละครพวกนี้จะวิ่งไปมามั่ว ๆ ต่างกับการเล่นออนไลน์ ที่เราจะได้อารมณ์เอาชีวิตรอดแบบในภาพยนตร์ซอมบี้ที่เราเคยดู ไม่ว่าจะเป็นคนเห็นแก่ตัว ที่เอาแต่ตัวเองรอดเก็บสมุนไพร ยา กระสุนเอาไว้คนเดียวไม่แบ่งใคร คนที่สติแตกวิ่งมั่วทำอะไรไม่ถูก คนที่เสียสละช่วยเหลือทุกคน หรือเป็นพวกที่เอาตัวเองรอดวิ่งนำเดี่ยวไม่สนใจใคร เรียกว่าถ้าเล่นคุณจะเจอแบบนั้นจริง ๆ และเมื่อผ่านฉากแรกไปไปได้ ตัวเกมจะสุ่มฉากที่เราต้องไปเจอ ซึ่งหลายฉากนั้นก็จะเชื่อมโยงกับตัวเกมหลักอีกด้วย
เนื้อเรื่องที่เชื่อมโยงกับเกมภาคหลัก
ต่อเนื่องจากหัวข้อก่อนที่บอกเอาไว้ว่าตัวเกมจะเป็นแบบสุ่ม เพื่อเลือกฉากต่าง ๆ ในเมืองแร็กคูน ไม่ว่าจะเป็นสวนสาธารณะ ป่านอกเมือง สวนสัตว์ ในตัวเมือง นอกจากนี้ก็ยังมีฉากที่เชื่อมโยงกับเนื้อเรื่องหลักอย่างสถานีตำรวจแร็กคูน ที่เมื่อตัวเอกในเกมในภาค 2-3 ไปถึงก็ไม่พบผู้รอดชีวิตแล้ว จะเจอแต่นายตำรวจ มาร์วิน บรานาห์ (Marvin Branagh) ที่บาดเจ็บอยู่คนเดียว นั่นก็เพราะเมื่อเราเล่นฉากโรงพักจบ ตำรวจหญิง ริต้า ฟิลลิปส์ (Rita Phillips) จะเปิดทางลับเพื่อพาเราละผู้รอดชีวิตคนอื่นหนีออกมา โดยมีมาร์วินถ่วงเวลาให้นั่นเอง ซึ่งทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องราวก่อนเกม ‘Resident Evil 2-3’ (ในเกมภาค 3 ตอนที่ จิล (Jill) มาโรงพักมาร์วินสลบอยู่) รวมถึงฉากในห้องทดลองของ ‘Umbrella Corporation’ ที่เหล่าตัวเอกในเกม ‘Resident Evil Outbreak’ จะผ่านไปก่อนแล้ว รวมถึงการเปิดเผยเนื้อเรื่องของเหล่าพนักงาน ที่ใช้ช่วงที่เกิดความวุ่นวายขโมยเชื้อไวรัสและข้อมูลต่าง ๆ ออกมาอีกด้วย นับเป็นการขยายเนื้อเรื่องในหลาย ๆ มุมที่เราไม่เห็นในภาคหลักนั่นเอง
ตัวละครที่เป็นชาวบ้านหลากหลายอาชีพ
และไม่ใช่แค่ฉากที่จะเชื่อมโยงกับเรื่องราวหลักในซีรีส์ ตัวละครหลายคนในเกม ‘Resident Evil Outbreak’ ก็รู้จักและเชื่อมโยงกับตัวละครหลายคนในซีรีส์หลัก ที่เรียกว่าเป็นการเติมเต็มในส่วนที่ขาดหายไปของเกมทั้ง 3 ภาคได้เป็นอย่างดี แถมแต่ละคนก็จะมีพลังความสามารถและอุปกรณ์ที่ต่างกัน เรามาทำความรู้จักแต่ละครกัน
Kevin Ryman
นายตำรวจ เควิน ไรแมน (Kevin Ryman) เขาคือนักแม่นปืนที่สอบตกการสอบเข้าหน่วย ‘S.T.A.R.S.’ เพราะสภาพจิตใจและความคิดของเขาไม่ผ่านการประเมิน ซึ่งหลังจากได้รับจดหมายการประเมินที่ไม่ผ่าน เควินก็มาดื่มย้อมใจใน ‘Jack’s Bar’ ทั้งที่ยังอยู่ในชุดตำรวจ ซึ่งเขาเป็นเพียงคนเดียวที่จะมีปืนให้ตั้งแต่เริ่มเกม และเควินก็มีส่วนร่วมในเนื้อเรื่องของโรงพักอีกด้วย
Alyssa Ashcroft
หนึ่งในตัวละครสำคัญที่จะเปิดเผยในส่วนของการโกงกินที่เกิดขึ้นในเมืองแร็กคูน ผ่านนักข่าวสาว อลิสซ่า แอชครอฟต์ (Alyssa Ashcroft) ซึ่งตัวของอลิสซ่านั้นเป็นเพื่อนกับ เบ็น เบอร์โตลุชชี (Ben Bertolucci) นักข่าวที่ถูกขังอยู่ในคุกของเกมภาค 2 โดยเรื่องราวของเธอนั้นจะเกี่ยวกับ ‘Spencer Memorial Hospital’ (ที่ คาร์ลอส (Carlos) ไปเอายาต้านไวรัสในเกมภาค 3) เธอได้ข้อมูลมาจากเคิร์ตให้ไปตรวจสอบข่าวลือเกี่ยวกับบริษัทยาที่ติดสินบนโรงพยาบาลในการทำการทดลองกับคนไข้ ขณะที่ตัวเธอกำลังนั่งดื่มอยู่ใน ‘Jack’s Bar’
Mark Wilkins
มาร์ค วิลกินส์ (Mark Wilkins) อดีตนายทหารผ่านศึกในสงครามเวียดนาม ที่พาครอบครัวมาอยู่ที่เมืองแร็กคูนและหาเลี้ยงครอบครัวด้วยการเป็น รปภ. (ที่ไม่ใช่ประธานบริษัท) ให้กับบริษัทท้องถิ่นชื่อ ‘Scutum’ ซึ่งเป้าหมายของมาร์คคือการตามหาครอบครัว โดยข้อมูลบอกว่ามาร์คกับครอบครัวสามารถหนีออกมาจากเมืองได้ทัน โดยก่อนเกิดเหตุเพื่อนของมาร์คมีอาการป่วยหลังจากเลิกงาน มาร์คจึงพาเพื่อนมานั่งพักใน ‘Jack’s Bar’ ก่อนที่ซอมบี้จะระบาดในเวลาต่อมา
Cindy Lennox
ซินดี้ เลนน็อกซ์ (Cindy Lennox) เธอคือนางฟ้าพนักงานเสิร์ฟที่ผู้แสนดีขวัญใจผู้คนใน ‘Jack’s Bar’ ที่ตอนเกิดเหตุนั้นซินดี้ก็ทำงานของเธอตามปกติ จนเพื่อนของมาร์คเข้ามาในร้าน เธอจึงช่วยปฐมพยาบาลก่อนที่เพื่อนของมาร์คจะกลายเป็นซอมบี้ ซึ่งซินดี้ก็เป็นคนแนะนำให้ทุกคนหนีผ่านสวนสัตว์ ซึ่งในเกมตัวของซินดี้จะเป็นคนเดียวที่มียารักษาพกติดตัวตั้งแต่เริ่มเกม
George Hamilton
จอร์จ แฮมิลตัน (George Hamilton) คือหนึ่งในตัวละครสำคัญของเกม เพราะตัวของเขานั้นคือศัลยแพทย์ที่เคยศึกษาด้านไวรัสวิทยา ที่ทำงานให้กับ ‘Raccoon General Hospital’ ซึ่งเขาได้พบผู้ป่วยอาการแปลก ๆ จึงเริ่มสืบหาสาเหตุจนพบว่าน้ำดื่มถูกปนเปื้อนด้วยเชื้อ ‘T-Virus’ ที่ทำให้คนกลายเป็นซอมบี้ ซึ่งเกิดจากหน่วย ‘HUNK’ ที่เข้าไปชิง ‘G-Virus’ และถูก วิลเลียม เบอร์กิน (William Birkin) ในร่าง ‘G’ ฆ่าเกือบยกทีม ซึ่งเมื่อจอร์จได้ทราบผลการตรวจที่ ‘Jack’s Bar’ ก็เกิดเหตุซอมบี้บุกมาพอดี
Jim Chapman
จิม แชปแมน (Jim Chapman) ตัวละครประจำฉากรถไฟใต้ดินของเมืองแร็กคูน เพราะตัวของจิมนั้นทำงานเป็นคนขับรถไฟ เขาจึงรู้เส้นทางรถไฟใต้ดินเป็นอย่างดี และวันนั้นเขาก็เพิ่งจะเลิกงานจึงมาดื่มที่ ‘Jack’s Bar’ ซึ่งเขาเป็นคนแนะนำให้ผู้รอดชีวิตหนีไปทางนั้น ก่อนที่จะเจอฝูงหมัดกลายพันธุ์ที่มารุมทำร้าย
David King
เดวิด คิง (David King) ช่างประปาที่มาพร้อมกับกระเป๋าคาดเอว ที่มีอุปกรณ์ช่างต่าง ๆ มากมาย เขาจึงเป็นคนเดียวที่สามารถซ่อมแซมอาวุธที่เสื่อมสภาพได้ ซึ่งในวันที่เกิดเหตุเดวิดเพิ่งเลิกงานเลยมาหาอะไรดื่มใน ‘Jack’s Bar’
Yoko Suzuki
โยโกะ ซูซูกิ (Yoko Suzuki) ตัวละครคนแรกและคนเดียวในซีรีส์ ‘Resident Evil’ ที่เป็นชาวญี่ปุ่น ซึ่งเธอนั้นเป็นเหมือนกุญแจที่ไขเรื่องราวหลาย ๆ อย่างในเกมนี้ เพราะตัวของโยโกะนั้นคือนักวิทยาศาสตร์ที่ทำงานให้กับ ‘Umbrella’ ในฐานะคนที่มีส่วนร่วมในการพัฒนาอาวุธชีวภาพอย่าง ‘Hunter’ และ ‘Tyrant’ ที่ข้อมูลบอกว่าทั้งสองชนิดนั้นมีเซลล์เนื้อเยื่อของเธออยู่ด้วย แต่ตัวของเธอนั้นเริ่มจะไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ ‘Umbrella’ ทำ จึงคิดจะเอาข้อมูลมาเปิดเผยก่อนที่เธอจะหลบหนีใน ‘Jack’s Bar’ แต่ตอนนั้นเธอได้ถูกลบความทรงจำก่อนโดย เกร็ก มูลเลอร์ (Greg Mueller) ที่ต้องการปกปิดความลับของตนเอง ซึ่งตัวของโยโกะจะมีเนื้อเรื่องในห้องวิจัยใต้ดิน และเธอก็เป็นคนเดียวที่สามารถพกของได้มากสุดเพราะมีกระเป๋าเป้นั่นเอง
Resident Evil Resistance เกมที่ให้อารมณ์คล้าย Resident Evil Outbreak ที่ทำได้แค่คล้าย
มาถึงตรงนี้หลายคนคงจะคาดหวังว่าทาง ‘Capcom’ จะหยิบเอาเกม ‘Resident Evil Outbreak’ ทั้ง 2 ภาคมา Remake รึเปล่า คงต้องบอกว่าเป็นไปได้ยากถึงยากมาก ๆ เพราะนอกจากข่าวลือว่าสมัยที่ทาง ‘Capcom’ ถูกมือดีเจาะเข้าไปในระบบ และเปิดเผยรายชื่อเกมที่จะวางจำหน่ายในอนาคตมีเกม ‘Resident Evil Outbreak Remake’ รวมอยู่ด้วย แต่นั่นก็เป็นเพียงข่าวลืมที่ไม่ใช่ความจริง ซึ่งถ้าใครอยากเล่นเกมที่ให้อารมณ์ที่คล้าย (ย้ำว่าคล้าย) กับ ‘Resident Evil Outbreak’ ก็ลองไปหาเกม ‘Resident Evil Resistance’ ที่เป็นเกมแถม (บังคับซื้อ) พร้อมกับเกม ‘Resident Evil 3 Remake’ ที่ให้กลิ่นอายความเป็น ‘Resident Evil Outbreak’ อยู่นิด ๆ เพราะหลาย ๆ ส่วนของเกมนี้ก็ต่อยอดมาจากภาค ‘Outbreak’ แต่ลดขนาดของฉากและเปลี่ยนตัวเกมให้ดูสั้นลง โดยในเกมหลักเราสามารถหลงกับเพื่อน ๆ ที่เล่นอยู่ได้เพราะเกมมีฉากที่ใหญ่มาก แถมภารกิจก็หลากหลายกว่าของ ‘Resistance’ ใครที่สนใจก็ไปซื้อเกมมาเล่นแก้ขัดดู แต่ความสนุกนั้นเทียบกับต้นฉบับที่ทำไว้ไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
Resident Evil Outbreak ที่แฟนเกมทำขึ้นมา
ปิดท้ายกับการชี้เป้าสำหรับคนที่อยากเล่นเกม ‘Resident Evil Outbreak’ ออนไลน์แบบจริงจัง ไม่ใช่การซื้อแผ่นเกมมาแล้วต้องเล่นกับเหล่า NPC ก็ลองไปกดค้นหาชื่อ ‘Resident Evil Outbreak PC’ ดู เพราะมีแฟนเกมได้เอาตัวเกม ‘Resident Evil Outbreak’ ทั้งสองภาคมาดัดแปลงให้เล่นระบบออนไลน์พร้อมกับเพื่อน ๆ ได้ ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็ยังมีคนเล่นอยู่ ส่วนวิธีการเข้าไปเล่นนั้นก็ลองไปศึกษาหาวิธีดู แล้วคุณจะรู้ว่าการเอาตัวรอดในโลกที่เต็มไปด้วยซอมบี้ การพบเจอคน (ผู้เล่นคนอื่น) จริง ๆ มันน่ากลัวและกดดันขนาดไหน เพราะทางทีมพัฒนาไม่ได้เปลี่ยนแปลงตัวเกมใด ๆ จะมีเพียงแค่การใส่ระบบออนไลน์ลงไปเท่านั้น เพื่อให้แฟน ๆ ได้รับรู้ถึงอารมณ์ของเกมเดิม ๆ ให้ได้มากที่สุด ใครที่หาวิธีเจอแล้วก็ไปเจอกันในเมืองแร็กคูน แล้วเรามาหนีตายไปด้วยกัน
ก็จบกันไปแล้วกับการครบรอบ 18 ปีเกมหนีซอมบี้ที่ให้อารมณ์หนีตายที่สุดในซีรีส์ ‘Resident Evil’ กว่าทุกภาคที่ผ่านมา ใครที่สนใจก็ลองไปหาซื้อแผ่นมือสองมาเล่นดู หรือจะเล่นแบบออนไลน์ที่เราได้แนะนำไป ซึ่งใครที่เคยเล่นเกมนี้มาแล้วจะรู้เลยว่าตัวเกมสนุกตื่นเต้นขนาดไหน ส่วนใครที่ยังไม่เคยเล่นก็ขอแนะนำเลย โดยตอนเล่นให้คุณทิ้งทุกอย่างที่เคยรู้และเคยมีในเกมภาคเก่า ๆ ทิ้งไปให้หมด เพราะมันจะใช้ในเกมนี้ไม่ได้เลย แล้วคุณจะรู้ว่าทำไมแฟน ๆ ถึงได้คิดถึงโหยหาเกมภาคนี้กัน และรุมด่า ‘Resident Evil Resistance’ ที่เหมือนเอาเกม ‘Resident Evil Outbreak’ มาเททิ้งก็ไม่ปาน ส่วนใครที่ได้เล่นแล้วรู้สึกยังไงกับเกมก็มาพูดคุยกันได้ ส่วนคราวหน้าจะเป็นเรื่องราวอะไรเกี่ยวกับวงการเกมก็ติดตามกันได้ที่นี่ที่เดียว
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส