หลังจากที่เลื่อนแล้วเลื่อนอีกในที่สุดเราก็ได้ชม ‘Resident Evil Welcome to Raccoon City’ ในโรงภาพยนตร์เสียทีเมื่อวันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งเสียงตอบรับจากคนที่เป็นแฟนเกมนี้ก็มีหลายอารมณ์ตั้งแต่ที่ตัวอย่างปล่อยออกมา ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาทรงผมของตัวละคร ไปจนถึงเนื้อหาที่ในตัวอย่างที่ปล่อยออกมา ซึ่งมีทั้งแบบที่เหมือนและไม่คล้ายในเกมเลยปนกันในตัวอย่าง ซึ่งสำหรับแฟนเกมนี้เราคงไม่ต้องอธิบายอะไรกันมากเพราะคงไปดูกันอยู่แล้ว แต่สำหรับคนที่รู้จัก ‘Resident Evil’ จากภาพยนตร์ 7 ภาคก่อนหน้านี้แต่ไม่เคยเล่นเกม หรืออาจจะรู้จักเกมซีรีส์ ‘Resident Evil’ มาบ้าง วันนี้เรามาทำความรู้จักเรื่องราวของ ‘Resident Evil’ ที่เกี่ยวกับภาพยนตร์กัน โดยจะอ้างอิงเนื้อหาจากข้อมูลในเกมกับเนื้อหาภาพยนตร์ที่ถูกปล่อยออกมาจากสื่อต่าง ๆ เพื่อบอกเล่าปูทางให้คนที่ไม่รู้จักเกมนี้จะได้เข้าใจ และดูภาพยนตร์เรื่องนี้สนุกมากขึ้น จะมีเนื้อหาอะไรที่น่าสนใจบ้างนั้นมาดูไปพร้อมกันเลย
ตัวภาพยนตร์จะเป็นการรวมเรื่องราวจากเกม Resident Evil 1-2 มารวมกันในเรื่องเดียว
เริ่มต้นเรื่องแรกเกี่ยวกับภาพยนตร์ ‘Resident Evil Welcome to Raccoon City’ ที่เราอยากให้คนไม่ได้เล่นเกมได้รู้ก่อนว่า เนื้อหาในภาพยนตร์นั้นจะอ้างอิงเนื้อเรื่องจากเกม ‘Resident Evil’ ภาค 1 และ 2 มาเป็นโครงหลัก แต่ในภาพยนตร์จะเอาทั้งสองเนื้อเรื่องมารวมกันเป็นช่วงเวลาเดียวกันไปเลย (อ้างอิงจากตัวอย่าง) ซึ่งความจริงแล้วเรื่องราวในเกมทั้งสองภาคนั้นจะห่างกันนานหลายเดือน ซึ่งในตัวอย่างภาพยนตร์เราจะเห็นกลุ่มตัวเอกที่นำโดย อัลเบิร์ต เวสเกอร์ (Albert Wesker) พาทุกคนเข้าไปในคฤหาสน์ปริศนากลางป่า จนเจอกับฝูงซอมบี้สัตว์ประหลาดจนต้องหนีตายออกมา ขณะที่เนื้อเรื่องของ แคลร์ เรดฟิลด์ (Claire Redfield) และ ลีออน เอส เคนเนดี (Leon S. Kennedy) จะเป็นสองผู้รอดชีวิตที่บังเอิญมายังเมืองที่ตอนนี้เต็มไปด้วยซอมบี้ไปแล้ว และทั้งคู่ก็พร้อมใจกันหนีไปยังสถานีตำรวจเพื่อหาทางหนีไปจากเมือง ซึ่งในตัวอย่างเรื่องราวของกลุ่มที่ไปในคฤหาสน์ปริศนาค่อนข้างตรงกับในเกม แต่ในส่วนของตัวละครในสถานีตำรวจจะถูกเปลี่ยนแปลงไปหลายส่วน รวมถึงเนื้อหาหลักที่น่าจะเปลี่ยนไปพอสมควร แต่ถ้าใครอยากรู้เรื่องราวโดยรวมของภาพยนตร์ ก็ลองไปหาเกมสองภาคนี้มาเล่นเพื่อปูทางก่อนชมภาพยนตร์ก็ได้ ตัวเกมมีฉบับ Remake ให้ได้เล่นรับรองว่าไม่เก่า และสามารถหาเล่นได้เกือบทุกเครื่องเกมในตลาดตอนนี้
ตัวเรื่องอ้างอิงฉากจาก Resident Evil 1-2 ฉบับ Remake มาเป็นแบบ
ต่อเนื่องจากหัวข้อแรกที่ตัวเนื้อเรื่องของภาพยนตร์ ‘Resident Evil Welcome to Raccoon City’ จะอ้างอิงเนื้อเรื่องมาจากเกมภาคเก่าสมัย ‘PlayStation 1’ มาเป็นโครงหลัก แต่ฉากทั้งหมดในภาพยนตร์นั้นจะอ้างอิงมาจากเกม ‘Resident Evil 1-2’ ฉบับ Remake มาเป็นแบบ ซึ่งต้องอธิบายสำหรับคนที่ไม่ได้เล่นเกมว่า การ Remake หรือการเอาของเก่ามาทำใหม่นั้น จะเป็นการใช้โครงเรื่องดั่งเดิมแต่มีการเปลี่ยนรายละเอียดต่าง ๆ ใหม่เกือบทั้งหมด รวมถึงตัวละครฉากเนื้อหาหลายส่วน ดังนั้นตัวเกม ‘Resident Evil’ ฉบับดั่งเดิมกับฉบับ Remake จะมีโครงเรื่องเดิมแต่เปลี่ยนเนื้อหา แบบที่ในภาพยนตร์นี้ทำ ซึ่งเมื่อดูจากตัวอย่างของภาพยนตร์แล้ว ก็พอจะเดาได้ว่าตัวผู้กำกับได้หยิบองค์ประกอบเนื้อเรื่องมาจากเกมฉบับเก่ามาเป็นโครงเรื่อง ส่วนฉากต่าง ๆ จะอ้างอิงมาจากฉบับ Remake จนกลายเป็นเรื่องราวใหม่ที่ต่างไปจากเดิม ซึ่งคนที่ไม่ได้เล่นเกมก็อาจจะได้เห็นความแปลกใหม่ที่น่าสนใจ ส่วนแฟนเกมก็จะได้เห็นฉากที่คุ้นเคยจากเกมในภาพยนตร์เรื่องนี้ เรียกว่าได้ใจทั้งคนเล่นเกมและคนที่ไม่รู้จักเกมจะได้สนุกไปพร้อม ๆ กัน
แนะนำตัวละครหลักในภาพยนตร์โดยอ้างอิงจากเกม
คราวนี้มาดูเรื่องราวของตัวละครในเกมที่ไปปรากฏตัวในภาพยนตร์ ‘Resident Evil Welcome to Raccoon City’ กันบ้าง โดยเราจะขออ้างอิงตัวละครหลัก และพูดถึงประวัตินิสัยเรื่องราวต่าง ๆ ของตัวละครคนนั้นจากในเกมมาบอกเล่า เพราะในฉบับภาพยนตร์ไม่ได้มีการเปิดเผยรายละเอียดเรื่องราวของตัวละครมากนัก แต่คิดว่าลักษณะต่าง ๆ ของตัวละครน่าจะไม่ต่างกันมาก ยกเว้นหน้าตาทรงผมที่เป็นประเด็นซึ่งเราจะไม่ขอพูดถึงในจุดนี้
Claire Redfield
เริ่มต้นตัวละครแรกที่คาดว่าน่าจะเป็นตัวหลักในภาพยนตร์กับ แคลร์ เรดฟิลด์ หญิงสาวที่เดินทางมายังเมืองแร็กคูนเพื่อตามหาพี่ชายที่อยู่หน่วย S.T.A.R.S. ซึ่งขาดการติดต่อกับครอบครัวไปนานหลายเดือน จนเธอต้องเดินทางมาหาพี่ชายที่นี่ ซึ่งเมื่อมาถึงเมืองเธอก็พบกับฝูงซอมบี้ในร้านอาหาร จนต้องหนีตายออกมพร้อมกับนายตำรวจคนหนึ่งที่บังเอิญผ่านมาพบ จนทั้งคู่พากันหนีเข้าไปในโรงพัก ในส่วนของภาพยนตร์นั้นเราจะทราบว่าแคลร์ได้เดินทางกลับมาหาพี่ชายเหมือนในเกม เพื่อบอกเรื่องร้ายบางอย่างที่จะเกิดขึ้นกับเมืองนี้ ซึ่งการที่เธอใช้อาวุธเป็นนั้นเพราะพ่อของเธอเป็นทหารเก่า ซึ่งแคลร์ก็มีบทบาทเป็นหนึ่งในสองตัวเอกที่เราจะได้เล่นในเกมภาคที่ 2
Leon S. Kennedy
ต้องเรียกว่าเป็นประเด็นที่สุดแล้วสำหรับคนเล่นเกม ที่รับไม่ได้เมื่อเห็นนายตำรวจจบใหม่ที่มาทำงานในเมืองแร็กคูนอย่าง ลีออน เอส เคนเนดี ที่ในเกมนั้นเขาจะเป็นนายตำรวจที่มาทำงานสายกว่าปกติ เพราะเพิ่งอกหักจนเมาค้างทำให้มารายตัวช้า โดยในเกมนั้นลีออนจะเป็นคนจริงจังสุขุมพร้อมลุยปกป้องผู้คน และเขาก็เป็นหนึ่งในสองตัวเอกที่เราสามารถควบคุมได้ในเกมภาค 2 ส่วนในภาพยนตร์จากข้อมูลบอกว่าเขาคือนายตำรวจที่ถูกย้ายมาที่เมืองแร็กคูน พร้อมความไม่เอาไหนแถมยังเฉื่อยชาแต่เมื่อต้องสู้ก็จริงจังพึ่งพาได้ คงต้องรอดูว่าเขาจะดูเก่งเหมือนในเกมไหม
Chris Redfield
ถ้าคู่ตัวละครก่อนหน้านี้โดนแฟน ๆ ต่อว่าเรื่องความไม่เหมือนของตัวละคร คงจะมีเพียง คริส เรดฟิลด์ (Chris Redfield) เพียงคนเดียวในภาพยนตร์ที่คล้ายกับในเกมที่สุด โดยเรื่องราวของเกมนั้น คริสจะเป็นหนึ่งในหน่วย S.T.A.R.S. ที่มาตามหาหน่วยก่อนหน้าที่ขาดการติดต่อไปในป่าแถวเมืองแร็กคูน ในเกมนั้นคริสจะเป็นคนจริงจังกับงานพวกลุยแม้ตรงนั้นจะอันตรายขนาดไหนก็ตาม ซึ่งเขาก็คือหนึ่งในตัวเอกของเกมภาคแรกที่เราได้ควบคุมในเกม ซึ่งภายหลังที่รอดชีวิตมาได้ คริสก็ตามสืบหาต้นตอของ ‘Umbrella Corporation’ จนลืมติดต่อกลับไปที่บ้านจนแคลร์ที่เป็นห่วงเลยมาหาพี่ชาย แต่ในภาพยนตร์ทั้งคู่จะได้พบกัน ซึ่งน่าจะเป็นก่อนหรือหลังไปในคฤหาสน์ ซึ่งในเกมทั้งสองภาคทั้งคู่จะไม่ได้เจอกัน และน่าจะร่วมทางกันในการหนีออกมาจากเมืองนี้ (คาดเดาจากตัวอย่าง)
Albert Wesker
“ทำไมไม่ใส่แว่น” นั่นคือสิ่งที่แฟนเกม ‘Resident Evil’ โวยวายเมื่อเห็นตัวละคร อัลเบิร์ต เวสเกอร์ ในภาพยนตร์ แต่ฝ่ายที่ไม่ใช่คนเล่นเกมอาจจะสงสัยว่ามืดขนาดนี้จะใส่แว่นดำทำไม เพราะนั่นคือจุดขายของตัวละครคนนี้ ที่ไม่ว่าเขาจะปรากฏตัวที่ไหนภาคใดจะเป็นกลางวันกลางคืน เราก็จะเห็นเขาสวมแว่นดำเสมอ แต่ในภาพยนตร์กลับตัดสิ่งสำคัญนี้ออกไป โดยตัวละครเวสเกอร์คนนี้คือตัวร้ายในเกม ที่รู้เห็นเรื่องราวทุกอย่างของ ‘Umbrella Corporation’ และหลอกให้ลูกทีมตัวเอกไปตายที่คฤหาสน์เพื่อทดสอบอาวุธชีวภาพที่หลุดออกมา และเขาก็จบชีวิตในเกมภาคแรก ในส่วนของภาพยนตร์จากที่เห็นจากในตัวอย่าง เขายังคงตำแหน่งเดิมแต่ความสุขุมจริงจังกลับหายไปจากตัวละครนี้ ซึ่งเมื่อดูจากในตัวอย่างเราก็ไม่รู้เลยว่าเขาจะมาในบทของตัวร้ายเหมือนในเกมรึเปล่า หรือภาพยนตร์อาจจะเปลี่ยนเนื้อหาไปเป็นแบบอื่นก็คงต้องรอในภาพยนตร์
Jill Valentine
อีกหนึ่งตัวละครหลักในเกมภาคแรกที่เราสามารถควบคุมเป็นเธอได้ กับสาวสวยหน่วย S.T.A.R.S. อย่าง จิล วาเลนไทน์ (Jill Valentine) เพื่อนร่วมงานของคริสและเวสเกอร์ โดยเธอเป็นหนึ่งในสี่คนที่เข้ามาในคฤหาสน์และรอดชีวิตออกมาได้ โดยตัวของจิลนั้นจะเป็นสาวแกร่งประจำหน่วยที่เต็มไปด้วยผู้ชาย ซึ่งนอกจากการเป็นตัวเอกในเกมภาคแรกแล้ว ในเกมภาคที่ 3 จิลก็กลับมามีบทเป็นตัวเอกอีกครั้ง เพราะตั้งแต่ที่เธอหนีออกมาจากคฤหาสน์ได้ จิลก็ตามสืบเรื่องราวในเมืองแร็กคูนต่อ ขณะที่คริสไปสืบเรื่องราวในต่างประเทศ ขณะที่ซอมบี้บุกเมืองจิลก็เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่หนีออกมาได้ทันก่อนเมืองระเบิด ซึ่งเรื่องราวในเกมภาค 2 กับ 3 นั้นจะเป็นช่วงเวลาเดียวกันแต่อยู่คนละสถานที่ ในส่วนของภาพยนตร์ตัวอย่างนั้นเรายังไม่รู้ว่าเธอจะมีบทบาทขนาดไหนในภาพยนตร์
William Birkin
มาดูตัวต้นเหตุของการแพร่ระบาดของไวรัสครั้งนี้ ที่มาจากนักวิทยาศาสตร์ที่ชื่อ วิลเลียม เบอร์กิน (William Birkin) จากในเกม ‘Resident Evil’ ภาค 2 ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างที่วิลเลียมสามารถคิดค้นเชื้อไวรัสตัวใหม่ได้สำเร็จ จนทำให้ถูกทาง ‘Umbrella Corporation’ มาแย่งไปก่อนที่เขาจะถูกฆ่าและฉีดเชื้อ ‘G-Virus’ เข้าตัวจนกลายเป็นสัตว์ประหลาด และฆ่าหน่วยพิเศษที่มาแย่งไวรัสไปจนทำให้หลอดทดลองแตก เชื้อไวรัสติดไปยังหนูและระบบน้ำประปาในเมืองเหมือนในภาพยนตร์ ที่ข้อมูลบอกว่าทาง ‘Umbrella Corporation’ ได้แอบปนเปื้อนเชื้อไวรัสเข้าไปในระบบน้ำประปาจนทำให้ชาวเมืองติดเชื้อ ซึ่งต้องมารอดูกันว่าวิลเลี่ยมจะเป็นต้นเหตุเหมือนในเกมไหม
อย่าคาดหวังฉากแอ็กชันแบบ Resident Evil ฉบับก่อน
เชื่อว่าหลายคนคงจะติดภาพฉากแอ็กชันในภาพยนตร์ ‘Resident Evil’ จากผลงานชิ้นก่อนที่กำกับโดย พอล ดับบลิว.เอส. แอนเดอร์สัน (Paul W. S. Anderson) จนอาจจะคาดหวังว่าในภาพยนตร์ ‘Resident Evil Welcome to Raccoon City’ คงจะเป็นแบบนั้นด้วย แต่เมื่อดูจากบทสัมภาษณ์ของผู้กำกับอย่าง โยฮันเนส โรเบิร์ตส์ (Johannes Roberts) แล้วเขาบอกว่าจะเคารพต้นฉบับของเกมให้มากที่สุด นั่นหมายความว่าตัวภาพยนตร์จะไม่มีฉากแอ็กชันแบบระเบิดภูเขาเผาตึก เจอฝูงซอมบี้เป็นร้อย ๆ ตัวเดินไปมา หรือเจอสัตว์ประหลาดที่น่ากลัวแบบในภาพยนตร์ เพราะเนื้อแม้ของเกม ‘Resident Evil’ คือเกมสยองขวัญที่แทบไม่มีฉากแอ็กชันอะไร (ไม่นับภาคหลังจากนี้) เราจึงอยากจะบอกให้คนที่เตรียมตัวไปดูเพราะเหตุผลนี้เตรียมใจเอาไว้ แต่ถ้าใครชอบภาพยนตร์ซอมบี้แบบเอาชีวิตรอดหนีตายเรื่องนี้น่าจะเป็นคำตอบมากกว่า
ผลงานผู้กำกับ Johannes Roberts ที่ผ่านมา
สำหรับคนที่ชอบชมภาพยนตร์ นอกจากตัวนักแสดงและเนื้อหาที่ได้เห็นในตัวอย่างแล้ว ชื่อผลงานของผู้กำกับก็สำคัญเช่นกัน เพราะนั่นคือการการันตีในฝีมือของผู้กำกับ จนทำให้คนชมภาพยนตร์สามารถคาดเดาได้ว่าภาพยนตร์จะออกมาในทิศทางไหน ซึ่งผลงานของ โยฮันเนส โรเบิร์ตส์ ที่ผ่านมาในบ้านเราก็มีหนังฉลามชวนอึดอัดใต้น้ำอย่าง ‘47 Meters Down’ ที่เล่าถึงสองสาวพี่น้องที่ลงกรงเที่ยวชมฉลามในน้ำ แต่สลิงที่ยึดกรงขาดจนทำให้ทั้งคู่ติดในกรงกลางดงฉลาม กับ ‘47 Meters Down Uncaged’ ที่เหมือนภาคต่อแต่เป็นการเอาชีวิตรอดในถ้ำใต้น้ำกับฉลามโบราณที่อยู่ในนั้น ตัวหนังลุ้นอึดอัดแต่สนุก หรือจะเป็นเรื่องสร้างชื่อในของเขา กับภาพยนตร์สยองขวัญในชื่อ ‘The Strangers Prey at Night’ ที่เล่าถึงเหล่าคนโรคจิตสวมหน้ากาก ที่หนังออกแนวเสียดสีภาพยนตร์สยองขวัญอื่น ๆ ใครชอบแนวไล่เชือดต้องไม่พลาด ที่ทั้งหมดนี้ก็พอจะการันตีผลงานของผู้กำกับคนนี้ได้ว่าน่าจะออกมาทิศทางไหน
คะแนนจากสื่อที่ดู Resident Evil Welcome to Raccoon City แล้ว
อีกหนึ่งสิ่งที่เป็นตัวยืนยันว่าภาพยนตร์สนุกรึไม่ ก็คือการดูคะแนนวิจารณ์จากสื่อต่าง ๆ ที่น่าเชื่อถือที่ให้คะแนน ที่แม้จะเป็นตัวชี้วัดแบบ 100% ไม่ได้แต่มันก็มากพอที่จะให้เราตัดสินใจในระดับหนึ่งว่าจะไปดูดีไหม โดยเราขออ้างอิงคะแนนจาก ‘IMDB’ และทาง ‘Rotten Tomatoes’ มาเป็นฐานเพื่อให้คนที่ยังไม่ได้ไปดูตัดสินใจง่ายขึ้น เริ่มจากฝั่ง ‘IMDB’ ที่ให้คะแนนรวมที่ 5.2 เต็ม 10 โดยทาง METASCORE จากฝั่งนักวิจารณ์ 21 คนให้คะแนนรวมที่ 44 ขณะที่ฝั่งคนดูที่อ้างอิงจากที่ต่าง ๆ กว่า 292 แห่งให้คะแนน 3.6 พร้อมคำวิจารณ์เชิงลบในแง่ของการดัดแปลงเกมเป็นภาพยนตร์ที่บิดเบือน ตัดเนื้อหาสำคัญของเกมออกไปแล้วเล่าเรื่องราวใหม่ ที่ก็ไม่ได้แปลกใหม่แต่แถมเดาง่าย และการใส่เนื้อเรื่องของเกมสองภาคลงไปยิ่งทำให้เนื้อเรื่องรวนเร่งรีบเกินความจำเป็น แต่ในแง่ของภาพยนตร์ซอมบี้กลับได้รับการชื่นชมว่าทำบรรยากาศได้หลอนน่ากลัว
ทาง ‘Rotten Tomatoes’ ที่ทางฝั่งนักวิจารณ์ให้มะเขือเน่า 30% จาก 80 นักวิจารณ์ที่บอกว่าตัวภาพยนตร์ไม่ค่อยสนุกน่าสนใจ ทั้งในแง่ของภาพยนตร์ที่มาจากเกม และการเป็นหนังซอมบี้ที่ก็สอบไม่ผ่านทั้งคู่ ส่วนทางฝั่งคนดูให้คะแนนน่าดูที่ 66% นั้นเสียงจะเทไปสองด้านสลับไปมา ทั้งฝ่ายที่ชื่นชมว่าตัวภาพยนตร์ตรงกับในเกมมาก ๆ เมื่อเทียบกับ 7 ภาคก่อนหน้านี้ของพอล ดับบลิว.เอส. แอนเดอร์สัน ที่แทบไม่มีอะไรตรงกับในเกมเลย กับอีกฝ่ายที่บอกว่าตัวภาพยนตร์ไม่เหมือนในเกมเลย แถมบทยังมั่วไม่ตรงตามที่คนเล่นเกมหวัง แต่สิ่งที่ทุกคนเห็นตรงกันคือตัวละครที่ไม่เหมือนกับในเกม ทั้งที่ทำให้เหมือนได้ (แต่ไม่ทำ) กับการบอกว่าตัวภาพยนตร์เรื่องนี้ดีกว่าของพอล ดับบลิว.เอส. แอนเดอร์สัน นั่นคือสิ่งที่ต่างชาติที่ดูเรื่องมาแล้วให้คะแนนและคำวิจารณ์ ที่เหลือก็อยู่กับคุณแล้วว่าจะไปดูรึไม่
สรุปเหตุผลสำหรับคนที่ไม่เคยเล่นเกมควรมาดู Resident Evil Welcome to Raccoon City หรือไม่
ปิดท้ายกับการสรุปว่าควรหรือไม่ควรไปดู ‘Resident Evil Welcome to Raccoon City’ ซึ่งต้องแบ่งออกเป็น 3 ฝั่ง โดยมีฝั่งคนที่เล่นเกมนี้รู้จักหรือทราบเนื้อเรื่องของเกมนี้มาบ้างจนรู้ว่าอะไรเป็นอะไร คุณควรไปดูแบบไม่ต้องมีเงื่อนไข เพราะนี่คือภาพยนตร์จากเกมสยองขวัญอันดับต้น ๆ ของวงการเกมที่เราไม่ควรพลาด หลังจากที่หลังหักมาจากภาคก่อนหน้านี้มาแล้ว ส่วนตัวภาพยนตร์จะดีรึแน่นั้นคนเล่นเกมอย่างเราทำใจไว้อยู่แล้ว ส่วนที่ 2 คือฝั่งคนเคยดูและชื่นชอบภาพยนตร์ ‘Resident Evil’ ของพอล ดับบลิว.เอส. แอนเดอร์สัน ที่ต้องย้ำอีกครั้งว่าตัวภาพยนตร์จะไม่ค่อยมีความเป็นแอ็กชันแบบในภาพยนตร์ฉบับก่อน เพราะผู้กำกับอ้างอิงเรื่องราวจากในเกมที่ก็ไม่เน้นแอ็กชัน ดังนั้นถ้าคุณเป็นสายแอ็กชันก็ผ่านไปได้เลย แต่ถ้าคุณเป็นแฟนหนังซอมบี้บอกเลยว่าไม่ควรพลาด กับฝ่ายที่ 3 คนที่ไม่รู้จักเกม ‘Resident Evil’ เลยแต่เคยดูภาพยนตร์ ‘Resident Evil’ ทั้ง 7 ภาคหรืออาจะดูไม่ครบแต่รู้จักภาพยนตร์ ก็บอกเลยว่าคราวนี้ตัวภาพยนตร์จะอ้างอิงต้นฉบับจากเกมมากขึ้นกว่าในฉบับเก่าที่คุณเคยดู นั่นก็หมายถึงความต่างของเรื่องราวเนื้อหาไปจนถึงนักแสดง ที่ต่างกับในฉบับของพอล ดับบลิว.เอส. แอนเดอร์สันมาก จนออกไปทางหนังซอมบี้ในสถานที่ปิดดูมืด ๆ อับ ๆ เต็มไปด้วยอันตรายและความกดดัน ที่ถ้าคุณเป็นสายชมภาพยนตร์แนวสยองขวัญบอกเลยว่าไม่ควรพลาด
ก็จบกันไปแล้วกับการแนะนำให้คนที่ไม่เคยเล่นเกมซีรีส์ ‘Resident Evil’ ได้รู้จักภาพยนตร์ ‘Resident Evil Welcome to Raccoon City’ ให้มากขึ้น โดยเราจะอ้างอิงข้อมูลจากตัวอย่างภาพยนตร์ และสิ่งที่ผู้กำกับบอกตามสื่อต่าง ๆ มาเป็นแนวทางในการตัดสินใจ ว่าจะไปดูภาพยนตร์เรื่องนี้รึไม่ ซึ่งสำหรับแฟนเกมแล้วบอกเลยไม่ควรพลาด เพราะคนเล่นเกมอย่างเราจะคุ้นเคยและชิน จนไม่คาดหวังว่าภาพยนตร์จากเกมจะออกมาดี ก็ต้องมาล้อลุ้นกันว่าคราวนี้ ‘Resident Evil Welcome to Raccoon City’ จะสอบผ่านไหม ส่วนใครที่ดูมาแล้วก็อย่าเพิ่งเปิดเผยเนื้อเรื่องในภาพยนตร์ให้คนอื่นรู้ เพราะมันไม่ได้ทำให้คุณดูดีเลยกับการอวดคนอื่นว่าไปดูมาแล้ว และเอาเนื้อเรื่องที่ดูมาบอกคนที่ยังไม่ได้ดูให้รู้ เอาใจเขามาใส่ใจเรา เพราะถ้าเป็นคุณโดนบ้างคงรู้สึกไม่ดีเหมือนกัน ฝากเอาไว้ให้คิดกับคนที่ชอบทำอะไรแบบนี้ ชมภาพยนตร์ให้สนุกแล้วไปเจอกันในโรงภาพยนตร์
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส