คุณเคยได้ยินคำโบราณที่ว่า “ดีชั่วที่ตัวทำสูงต่ำอยู่ที่ตัว” ไหม คำนี้หมายถึงทุกสิ่งทุกอย่างทั้งความดีความชั่วต่าง ๆ นั้นไม่ได้เกิดจากเคราะห์กรรมในชาติที่แล้ว หรือผีสางกลั่นแกล้งทำให้เกิดขึ้น แต่มันคือสิ่งที่ตัวเราเป็นคนกำหนดและทำมันขึ้นมาไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม ทั้งความดีความชั่วมันจะส่งผลกลับมาหาเราเสมอ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ในต่างประเทศอาจจะไม่มีเรื่องราวของกรรมตามสนอง หรือเชื่อเรื่องกฎแห่งกรรมเหมือนเรา แต่ทางนั้นเขาจะเชื่อว่าทุกอย่างนั้นเราสามารถเลือกที่จะทำหรือไม่ทำได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็ส่งผลมาถึงระบบในวิดีโอเกม ที่เราสามารถเลือกที่จะทำดีหรือชั่วได้โดยที่ตัวเราเป็นคนกำหนด ซึ่งสิ่งที่เราจะทำนั้นจะส่งผลถึงตัวเราในเกมแบบทันตาเห็น และนี่คือเกมที่มีทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว มาดูกันว่าผลของการทำชั่วจะได้อะไรตามมาบ้างมาดูไปพร้อมกันเลย

Red Dead Redemption

Red Dead Redemption

เริ่มต้นเกมแรกที่จะเน้นระบบดีชั่วที่ตัวทำมาก ๆ เกมหนึ่ง ที่ใครซึ่งเคยเล่น ‘Red Dead Redemption’ ทั้งสองภาคมาแล้วจะเข้าใจทันที โดยตัวเกมภาคแรกเราจะรับบทเป็นคนที่ตามล่าอดีตเพื่อนร่วมกลุ่มโจร ที่เคยเป็นดั่งพี่น้องแต่ตอนนี้ต้องมาฆ่ากันเองเพื่อปกป้องครอบครัว ส่วนภาค 2 จะเป็นเรื่องราวก่อนภาคแรกของกลุ่มโจรที่เราต้องตามล่า ว่ามีบุญคุณความแค้นอะไรกันมาจึงต้องมาฆ่ากัน และด้วยความที่เกมเป็นแนว ‘Open World’ เราจึงมีอิสระที่จะทำอะไรก็ได้ ซึ่งเราสามารถเลือกจะเป็นโจรปล้นฆ่าคนแบบที่เราเป็น หรือจะเป็นผู้รักษากฎหมายเป็นคนดีช่วยเหลือผู้คนโดยการจับโจรไม่ฆ่าคนบริสุทธิ์ ซึ่งตัวเกมจะมีผลตอบรับกลับมาตามสิ่งที่เราทำ อย่างการเป็นโจรเราจะถูกหมายหัวจากทางการ ถูกไล่ล่าถูกคนในหมู่บ้านที่เราไปฆ่าคนเกลียดจนถูกไล่ยิงก็มี แต่ถ้าเราเป็นคนดีตัวเกมจะยกย่องเราให้เป็นผู้รักษากฎหมาย ได้ซื้อของในเมืองนั้น ๆ ราคาถูก ได้รับการสนับสนุนจากนายอำเภอในการทำภารกิจ ซึ่งค่าความดีชั่วนั้นเกมจะมีระดับวัดที่เราจะรู้ได้จากสิ่งที่ตัวละครทำกับเรา ที่ถ้าเราทำสิ่งไหนมากเราก็จะได้รับผลนั้น ลองไปหามาเล่นดูแล้วเลือกทั้งทำทั้งสองอย่างดู แล้วคุณจะรู้ว่าการเป็นคนดีกับคนชั่วแบบไหนมันดีกว่ากัน

Red Dead Redemption

Metal Gear Solid 4 Guns of the Patriots

Metal Gear Solid 4 Guns of the Patriots

เมื่อพูดถึงสงครามคงไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้น แต่ด้วยความโลภของมนุษย์สุดท้ายเราก็ฆ่ากันเองจนเกิดสงครามอยู่ดี และเมื่อเราที่เป็นฝ่ายที่ 3 ซึ่งไม่ได้เกี่ยวในสงครามนี้แต่ต้องไปอยู่ในใจกลางตรงนั้น สิ่งที่เราควรทำจึงมี 2 ทางให้เลือก หนึ่งคือฆ่ามันให้หมดทั้งสองฝั่ง เพราะเราไม่ได้อยู่ข้างไหน กับสองเลือกฝั่งที่จะไปอยู่ด้วยและช่วยฝั่งนั้นในการต่อสู้จนชนะ ซึ่งนั่นคือตัวเลือกที่เกม ‘Metal Gear Solid 4 Guns of the Patriots’ มีมาให้คุณก่อนจะโยนตัวเราไปอยู่กลางสงครามที่มีห่ากระสุนปลิวไปทุกที่ เราที่สามารถเลือกได้ว่าจะฆ่าทั้งหมดหรือเลือกจะเข้าร่วมกับชาวบ้าน (เราเลือกฝ่ายเข้าร่วมไม่ได้เพราะอีกฝ่ายคือศัตรูของเรา) จะมีผลตามมาตามการเลือกฆ่าของเรา อย่างถ้าเลือกฆ่าหมดสุดท้ายทั้งฝ่ายชาวบ้านและศัตรูก็จะหันมายิงปืนใส่คุณ ซึ่งทำให้มีศัตรูเพิ่มโดยไม่จำเป็น กับการช่วยชาวบ้านสู้เราจะได้รับการสนับสนุนทางด้านกระสุนและช่วยสู้ในบางฉาก ที่ทุกอย่างจะตรงข้ามกับแบบแรกชัดเจน  ลองไปหามาเล่นแล้วลองทำทั้งสองแบบ แล้วคุณจะรู้ว่าตัวเกมยากและง่ายขึ้นจนผิดกันเลยทีเดียว

Metal Gear Solid 4 Guns of the Patriots

inFAMOUS

inFAMOUS

นอกจากการเลือกดีชั่วที่ส่งผลถึงตัวเกมที่เราจะได้เจอแล้ว การเลือกระบบดีชั่วนั้นก็ส่งผลถึงระบบการเล่นที่เราจะได้รับด้วย โดยในเกมซีรีส์ ‘inFAMOUS’ จะเอาระบบการทำความดีช่วยเหลือผู้คนในฐานะฮีโรผู้มีพลังพิเศษ หรือจะเป็นวายร้ายที่ฆ่าคนสร้างความเดือดร้อน ตัวเกมจะให้เราเลือกสิ่งที่กระทำว่าจะเป็นทางไหน โดยผลกรรมที่ตามมาคือรูปแบบพลังของเราที่จะต่างกัน โดยฝ่ายสว่างจะเป็นพลังรูปแบบสนับสนุนเน้นการป้องกัน กับการโจมตีที่ไม่เน้นเอาชีวิตผู้คน ขณะที่พลังสายมือจะเน้นการทำลายล้างที่รุนแรง สามารถฆ่าผู้คนและเน้นพื้นที่ทำลายเป็นวงกว้าง ซึ่งแน่นอนว่าอย่างหลังมันน่าสนุกและดีกว่า และในบางภาคเราสามารถเลือกจะย้ายฝั่งได้ว่าจะเป็นสายไหน แต่เมื่อเปลี่ยนสายแล้วพลังอีกสายจะไม่ตามมาด้วย เหมือนเป็นคำถามผู้เล่นทางอ้อมว่า ถ้าคุณมีพลังพิเศษแบบนี้คุณจะเลือกอยู่ฝั่งไหน ซึ่งตัวคุณเท่านั้นที่รู้ตัวเองดี

inFAMOUS

Death Stranding

Death Stranding

หนึ่งในจุดเด่นของเกมที่ ฮิเดโอะ โคจิมะ (Hideo Kojima) ทำมาเสมอนั่นคือการลงโทษผู้เล่นที่ฆ่าคนในเกม ยกตัวอย่างเกม ‘Metal Gear Solid 3 Snake Eater’ และ ‘Metal Gear Solid V The Phantom Pain’ ที่ตัวเกมจะมีตัวเลือกคือปืนยาสลบหรือทำให้ตัวละครเหล่านั้นสลบโดยที่ไม่ฆ่า แต่ถ้าเราเลือกที่จะฆ่าตัวละคร ‘NPC’ เหล่านั้นมาก ๆ เกมจะส่งผลตามมา อย่างภาค 3 ของ ‘Metal Gear Solid’ ในฉากที่ต้องต่อสู้กับ ‘The Sorrow’ เราจะได้เห็นเหล่าวิญญาณที่เราเคยฆ่าไปแล้วเดินผ่านเราไป  โดยทุกศพนั้นจะร้องโหยหวนกับสภาพศพที่น่ากลัว บ่งบอกถึงสิ่งที่เราฆ่าคนที่ผ่านมา หรือจะเป็นภาคที่ 5 ซึ่งถ้าเราฆ่าตัวละครในเกมเยอะ เหล็กบนหัวของตัวละครในเกมจะค่อย ๆ ยาวขึ้น รวมถึงคราบเลือดที่ติดตามตัวซึ่งอาบน้ำก็ล้างไม่ออก เป็นการบ่งบอกว่าคุณนั้นโหดเหี้ยมขนาดไหน จนมาถึงเกม ‘Death Stranding’ (เข้าประเด็นเสียที) ที่เกมก็ยังคงระบบฆ่าหรือไม่มาด้วย แต่สิ่งที่ตามมาในการฆ่าคนของเกมนี้จะโหดกว่า ตรงที่ถ้าเราฆ่าคนแล้วจะต้องเอาศพเหล่านี้ไปเผา เพราะถ้าไม่เผาวิญญาณคนตายจะมาสิงร่างจนทำให้เกิดระเบิดขนาดใหญ่จนเป็นหลุม ซึ่งถ้ามันระเบิดธรรมดาก็ไม่เป็นไร แต่การระเบิดบางครั้งมันปิดทางจนเราไปไม่ได้ สิ่งที่เราทำได้คือการโหลดมาเล่นใหม่ แต่ถ้าตัวเกมบันทึกเกมตอนนั้นไปแล้วผลที่ตามมาคือต้องเล่นใหม่สถานเดียว นั่นคือการลงโทษในสิ่งที่คุณทำในเกมนี้ สิ่งจะโทษใครไม่ได้เพราะเลือกทำเองก็ต้องรับผลที่ตามมาเอง

Death Stranding

Fallout New Vegas

Fallout New Vegas

‘Fallout New Vegas’ คืออีกหนึ่งเกมที่หยิบยกระบบดีชั่วจากการกระทำอย่างที่ซีรีส์ ‘Red Dead Redemption’ เอามาใช้ แต่สิ่งที่อยู่ในเกมนี้จะส่งผลค่าชื่อเสียงที่มีเฉพาะบางชุมชนหรือบางสถานที่ มากกว่าจะเป็นทั่วทั้งเกม ซึ่งค่าชื่อเสียงดีชั่วที่เราเลือกทำนั้นก็จะมาจากการเลือกคำตอบที่มีมาให้ด้วย โดยความพิเศษของเกมนี้คือตัวเลือกที่เราตอบจะส่งผลถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมา เช่นการตอบแบบเน้นใช้ความรุนแรงผลที่ตามมาก็คือความไม่พอใจของตัวละคร หรือเลือกคำตอบผิดบริบทก็จะมีผลตามมาเช่นกัน ดังนั้นใครที่ต้องการเล่นเกมนี้ต้องอ่านให้ดี ๆ ไม่ใช่กด ๆ เพื่อข้ามไป เพราะความสนุกของการเลือกคำตอบ ที่มันจะส่งผลโดยรวมไม่ต่างกับคำที่กล่าวว่า “คำพูดนั้นสามารถฆ่าคนได้” และสิ่งที่เราเลือกนั้นก็สามารถฆ่าเราได้เช่นกัน ส่วนใครที่ไม่เคยเล่นเราจะได้รับบทเป็นตัวละครที่ต้องออกเดินทางแก้แค้นคนที่ทำร้ายเรา ในโลกอนาคตล่มสลายเพราะสงครามนิวเคลียร์จนเกิดสัตว์ประหลาดกลายพันธุ์มนุษย์ ส่วนคนรอดชีวิตก็ปรับตัวตั้งถิ่นฐานและมีสังคมเป็นของตนเอง เราที่เลือกตอบหรือกระทำสิ่งต่าง ๆ ก็ต้องดูสภาพแวดล้อมบริบทเรื่องราวเนื้อหาก่อนจะตอบออกไป เพื่อให้สิ่งที่ตามมาดีที่สุด หรือมันจะมาจากการฆ่าไม่ฆ่าตัวละครเหล่านั้นด้วย เรียกว่าซับซ้อนกว่าของ ‘Red Dead Redemption’ พอควร ที่ถ้าใครอ่านออกจะสนุกกับเนื้อหากว่าคนที่กดข้ามมากมายนัก

Fallout New Vegas

Dragon Quest 1  

Dragon Quest 1

หลังจากที่ดูตัวเลือกดีชั่วจากการกระทำที่ส่งผลกับระบบเกมมาเยอะแล้ว คราวนี้มาดูการเลือดดีชั่วที่ส่งผลถึงตอนจบกันบ้าง เริ่มจากเกม ‘Dragon Quest’ ภาคแรก เกมที่จะให้เรารับบทเป็นผู้กล้าเพื่อออกไปช่วยเจ้าหญิงที่ถูกราชามังกรจับไป เราจึงต้องรวบรวมของวิเศษเพื่อสร้างสะพานสายรุ้งในการข้ามไปยังปราสาทจอมมาร จนเมื่อมาถึงปรายทางราชามังกรที่รอเราอยู่จะยื่นข้อเสนอว่า “เก่งมากผู้กล้าที่มาถึงที่นี่ได้ แต่ข้ามีข้อเสนอถ้าเจ้าเลือกจะเป็นพวก ข้าจะแบ่งโลกให้เจ้าปกครองครึ่งหนึ่ง เจ้าจะสนใจรึไม่” นั่นคือคำถามวัดใจว่าเราจะเลือกอยู่ฝ่ายไหน ซึ่งถ้าตอนนั้นเราเลือกตอบตกลง เกมจะจบลงทันทีและเราต้องไปเล่นเกม ‘Dragon Quest Builders 1’ ที่เป็นโลกคู่ขนาน ที่ถ้าตอนนั้นผู้กล้าเลือกตอบตกลงจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ซึ่งบอกเลยว่ามันคือโลกที่ย้ำแย่ผู้คนเดือดร้อน ตัวของผู้กล้าถูกจิตใจอันชั่วร้ายจนกลายเป็นปีศาจ แต่ถ้าเราเลือกตอบไม่ เกมก็จะตัดฉากเข้าสู่การต่อสู้และเราจะแต่งงานกับเจ้าหญิงมีลูกหลานออกมาสืบต่อไป เรียกว่าเลือกผิดชีวิตคนทั้งโลกเปลี่ยนทันที

Dragon Quest 1

BioShock

BioShock

ในบรรดาตัวเลือกดีชั่วทั้งหมดที่เรายกตัวอย่างมาในบทความนี้ สิ่งที่เราต้องเลือกในเกม ‘BioShock’ ภาคแรกดูจะโหดกดดันมากที่สุด เพราะสิ่งที่เราต้องเลือกกระทำนั้นคือการฆ่าเด็กน้อยที่ไร้เดียงสา ซึ่งสำหรับคนที่ไม่เคยเล่นเกมนี้ เราจะได้รับบทเป็นชายดวงซวยที่นั่งเครื่องบินมาตกกลางทะเล และได้ไปเจอนครใต้น้ำขนาดใหญ่ เราที่เผลอลงมาจึงต้องหาทางหนีออกไปจากที่นี่ เพราะในนครใต้น้ำนี้เต็มไปด้วยคนโรคจิตและตัวประหลาดมากมาย แต่หนึ่งในนั้นก็คือเหล่าสาวน้อยที่เรียกว่า ‘Little Sisters’ ซึ่งก็คือเด็กธรรมดาที่ถูกจับมา เพื่อใช้งานในการเก็บสารคัดหลั่งจากศพของคนที่นี่ เราที่เจอเด็กเหล่านี้จะมี 2 ทางเลือกคือฆ่าเด็กน้อยพวกนี้แล้วเอาสารคัดหลั่งนั้นมาเป็นของเรา หรือเลือกที่จะไว้ชีวิตเด็กน้อยโดยที่ไม่ได้อะไรตอบแทน (ได้แต่ไม่คุ้มเท่ากับการฆ่า) นับเป็นตัวเลือกที่ยาก เพราะสิ่งที่เราเลือกจะส่งผลถึงตอนจบด้วยว่าจะจบลงแบบดีหรือแย่ แต่การเอาชีวิตรอดในนครใต้น้ำก็ไม่ใช่ง่าย ๆ การเป็นคนดีอาจจะไม่ง่ายอย่างที่เราคิด ใครที่เคยเล่นมาแล้วคงรู้ตัวเองว่าได้เลือกทางไหนลงไป

BioShock

Far Cry 4

Far Cry 4

ปิดท้ายกับตัวเลือกที่ไม่ต้องเลือกว่าจะทำเรื่องดีหรือไม่ดี เราแค่เลือกว่าจะเดินไปทางไหนก็พอกับเกม ‘Far Cry 4’ ที่เราจะได้รับบทเป็นลูกชายยอดกตัญญูที่ทำตามคำสั่งเสียของแม่ ให้เอาเถ้ากระดูมาไว้ที่บ้านเกิด ซึ่งที่นั่นก็มีผู้นำเผด็จการ พุกาม มิน (Pagan Min) ปกครอง  ซึ่งตัวของพุกาม มินคนนี้ก็เคยหลงรักแม่ของเรา เมื่อเขารู้ว่าเราจะมาที่นี่พี่แกก็เตรียมต้อนรับเราอย่างดีด้วยการจัดโต๊ะอาหาร ก่อนจะเกิดเรื่องราวบางอย่าง พุกาม มินก็บอกเราว่าให้รอในห้องอาหารเดี๋ยวตนเองจะพาไปสุสานเพื่อเอากระดูกแม่ไปไว้ในสุสานประจำตระกูล ซึ่งแน่นอนว่าเราที่เห็นความโหดของพี่แกมาแล้วคงจะยืนรอให้เขามาฆ่าหรอ เมื่อได้โอกาสเราก็ควบคุมตัวละครให้หนีออกมาทันที จนกลายเป็นเรื่องราวในเกม ที่ในตอนจบเราก็ได้เอากระดูกแม่ไปวางที่สุสานได้จริง ๆ แล้วแบบนี้มันมีทางเลือกดีชั่วตรงไหน ก็ต้องบอกว่ามีตั้งแต่เริ่มเกมเลย และมันคือตอนจบที่แท้จริงของเกม ที่หลังจากพุกาม มินบอกให้เรารอในห้องนั้นซึ่งถ้าเรารอไปไม่นานพุกาม มินจะกลับมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม และพาเราเอากระดูกแม่ไปวางที่สุสานก่อนพาเรากลับบ้านไม่ต้องฆ่าใครไม่ต้องเสียเลือดเนื้อ เป็นทางเลือกที่เราสามารถทำได้ตั้งแต่ต้นเกม แต่ทำแบบนั้นเราจะซื้อเกมมาทำไมกัน มันต้องสู้ซิสู้เพื่อประเทศให้รอดพ้นจากเผด็จการ ซึ่งไม่ว่าเราจะเลือกทางไหนในเกม สุดท้ายก็จะมีเผด็จการคนใหม่ที่โหดไม่แพ้พุการ มินเกิดมาต่อไปอยู่ดี  ลองกลับไปคิดดูว่าแบบไหนคือทางที่ถูกของเกมนี้

Far Cry 4

เป็นอย่างไรกันบ้างกับเรื่องราวของระบบเกมดีชั่วที่ตัวทำสูงต่ำอยู่ที่ทำตัว ที่เราหยิบยกมานำเสนอหวังว่าจะถูกใจกัน ซึ่งใครที่เคยเล่นเกมไหนในบทความนี้มาแล้ว และได้เห็นผลกรรมดีร้ายที่ตนทำในเกมแล้วรู้สึก หรือส่งผลกระทบอย่างไรในเกมก็มาเล่าประสบการณ์ให้อ่านกันได้  ส่วนใครที่ไม่เคยเล่นเกมเหล่านี้ก็ขอให้ลองเล่นกันดู บอกเลยว่าสิ่งที่เราเลือกจะส่งผลทันตา ไม่ต่างกับชีวิตจริงของเราตอนนี้เลยทีเดียว ขอให้สนุกกับการเล่นเกมแล้วพบกันใหม่บทความหน้า

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส