วันเวลาช่างผ่านไปอย่างรวดเร็วในความรู้สึกของใครหลายคน จากวันวานที่เรากำลังนั่งเล่น ‘PlayStation 2’ ตัวอ้วนดำอยู่กับเพื่อนบนหน้าจอทีวีจอแบนทรงหนาในบ้าน ผ่านมา 22 ปีตัวเราก็ยังคงนั่งเล่นเกมอยู่ในบ้านหลังเดิม แต่เปลี่ยนจากทีวีจอแบนทรงหนามาเป็นจอทีวี LCD ขนาดใหญ่พร้อมเกม ‘PlayStation 5’ และกำลังนั่งเล่นกับเพื่อนคนเดิมที่กำลังออนไลน์อยู่ที่อื่น โดยตัวของคุณที่แม้จะกำลังสนุกกับเกมยุคใหม่ของ ‘PlayStation 5’ แต่หางตาก็ยังคงเห็น ‘PlayStation 2’ เพื่อนเก่าที่นั่งอยู่ในตู้เก็บของ จนคุณอยากไปหยิบเพื่อนเก่าเครื่องนี้ออกมาปัดฝุ่นหาแผ่นเกมมาเล่น และนี่คือ 10 เกมระดับตำนานบน ‘PlayStation 2’ ที่หลายคนยังจดจำไม่รู้ลืมจนถึงตอนนี้
Grand Theft Auto San Andreas ยอดขาย 17.33 ล้านชุด
เริ่มต้นด้วยเกมแรกที่มียอดขายสูงที่สุดบนเครื่อง ‘PlayStation 2’ กับเกมที่ลูกเด็กเล็กแดงในยุคนั้นต่างต้องเคยผ่านตาผ่านมือมาแล้ว กับเกม ‘Grand Theft Auto San Andreas’ เกมระดับตำนานที่ให้อิสระเราจะทำอะไรก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นการขับรถเที่ยวในโลกขนาดใหญ่ การไล่ยิงคนจนถูกตำรวจหมายหัว ไปแข่งกีฬา จีบสาว แข่งรถ ตามหา ‘Easter Egg’ ทำตามภารกิจที่เกมมีให้ ไปจนถึงการสร้างตัวละครที่ถ้าอยากได้คนหุ่นอ้วนก็กินเยอะ ๆ อยากได้คนหุ่นล่ำก็ไปออกกำลังกายมาก ๆ อยากได้ท่ายิงท่าต่อสู้ก็ไปฝึกฝน เรียกว่ามีอะไรทำมากมาย ที่จนถึงตอนนี้แม้ตัวเกมจะถูกเอามาทำใหม่ในชื่อยาว ๆ ว่า ‘Grand Theft Auto The Trilogy The Definitive Edition’ ที่เป็นการปรับภาพระบบการเล่นให้สวยงามน่าเล่นขนาดไหนก็ตาม แต่หลายคนก็ยังคงชื่นชอบกราฟิกแบบเดิม ๆ ของ ‘PlayStation 2’ ที่จนถึงตอนนี้จะหยิบมาเล่นก็ยังคงสนุกอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง
Gran Turismo 3 A-Spec ยอดขาย 14.89 ล้านชุด
มาต่อกันที่เกมซึ่งมียอดขายเป็นอันดับ 2 ของเครื่อง ‘PlayStation 2’ กับเกมแข่งรถระดับตำนานที่มาถึงภาคที่ 3 บนเครื่องนี้ ที่หลายคนน่าจะเคยผ่านมือกันมาแล้วอย่าง ‘Gran Turismo 3 A-Spec’ เกมจำลองการขับรถที่เรียกว่าสมจริงที่สุด ทั้งการควบคุมการปรับแต่งรถไปจนถึงรถแข่งที่มีอยู่จริงในตลาด รวมถึงสนามแข่งที่ก็ใช้ของจริงจากทั่วโลกมาใส่ในเกมได้อย่างลงตัว ซึ่งในยุค ‘PlayStation 2’ เมื่อพูดถึงเกมแข่งรถแบบนี้สิ่งที่หลายคนอยากได้มากที่สุดในตอนนั้น ก็คือ ‘Controller’ แบบพวงมาลัยรถ ที่ถ้าเอามาเล่นคู่กับเกมนี้มันจะกลายเป็นความสมบูรณ์แบบที่หาได้ยากยิ่ง ประหนึ่งเรากำลังขับรถจริงเลยทีเดียว แต่ ‘Controller’ แบบธรรมดาที่แม้จะให้ความรู้สึกที่ไม่เท่ากัน แต่ด้วยความสนุกของเกมที่ละเอียดสมจริงก็ทำให้หลายคนชื่นชอบ และจดจำเกมภาคนี้ให้เป็นหนึ่งเกมในดวงใจบน ‘PlayStation 2’ ซึ่งถ้าใครไม่อยากเล่นเกมภาคเก่าหรือหาซื้อแผ่นซื้อเครื่องไม่ได้ ก็ไปซื้อ ‘Gran Turismo 7’ มาเล่นแทนกันได้ ตัวเกมวางจำหน่ายแล้วบน ‘PlayStation 4-5’ แล้วคุณจะรู้ว่าทำไมคนยุคนั้นถึงอยากได้ ‘Controller’ แบบพวงมาลัยมาเล่นที่บ้าน
Metal Gear Solid 2 Sons of Liberty ยอดขาย 7.03 ล้านชุด
ย้อนเวลากลับไปเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2001 วงการเกมในตอนนั้นเรียกว่าเดือดระอุสุด ๆ ขนาดที่ว่านิตยสารเกมทั่วโลกต่างพร้อมใจกันลงข่าวสารรูปภาพข้อมูลของเกม ‘Metal Gear Solid 2 Sons of Liberty’ เกมสายลับระดับตำนานภาคต่อของเกม ‘Metal Gear Solid’ ภาคแรกที่ลงบน ‘PlayStation 1’ ที่เปลี่ยนจากแนวสายลับในกราฟิกแบน ๆ มาเป็นกราฟิกแบบ 3D ที่มีมิติ แถมเนื้อเรื่องก็ลึกซึ้งน่าติดตามจนแฟนใหม่ถึงกับเกาหัวเพราะงงว่าใครเป็นใคร ซึ่งมาในภาค 2 ของซีรีส์ตัวเกมก็พัฒนาไปอีกหลายขั้นแบบก้าวกระโดด จากภาคก่อนที่เราแทบมองหน้าตัวละครไม่ชัด มาคราวนี้เราแทบจะเห็นสิวบนหน้าตัวละครเลยทีเดียว นอกจากนี้ตัวเกมยังมีระบบซ่อนศพการเล็งยิงแบบมุมมองบุคคลที่ 1 ที่เราสามารถเล็งเป้าได้แล้ว และการทำร้ายจิตใจคนเล่นเกมทั่วโลก ด้วยการเปลี่ยนตัวละครไปเป็นตัวละครใหม่ ซึ่งในตัวอย่างก่อนเกมจะวางจำหน่ายก็ไม่เคยพูดถึงตัวละครนี้เลย นอกจากนี้ตัวเกมก็ยังมีระบบตัวเปียกที่สร้างรอยบนพื้นและเสียงฝีเท้าในฉาก ไปจนถึงเนื้อเรื่องที่ยังคงสานต่อจากภาคเก่า ที่ในบ้านเราส่วนมากจะกดข้ามในช่วงเนื้อเรื่องกัน เพราะเกมจะเล่าเรื่องกันยาวมาก ๆ ซึ่งจนถึงตอนนี้หลายคนก็อยากให้ทาง ‘Konami’ เอาเกมภาคนี้กลับมาทำใหม่ แต่คงเป็นไปได้ยากหรืออาจจะเป็นไปไม่ได้เลย เพราะขนาดภาคใหม่ยังไม่ทำแล้วจะทำภาคเก่าไปเพื่ออะไร นั่นคงเป็นสิ่งที่ ‘Konami’ คิดในตอนนี้
Kingdom Hearts ยอดขาย 5.9 ล้านชุด
คราวนี้มาดูเกมใหม่ที่เปิดตัวครั้งแรกบน ‘PlayStation 2’ กันบ้าง กับเกมแอ็กชันสีสันสดใสเต็มไปด้วยจินตนาการในโลกและตัวละครของ ‘Disney’ ที่เอามารวมกับตัวละครของ ‘Final Fantasy’ ได้อย่างลงตัวในเกม ‘Kingdom Hearts’ กับเรื่องราวที่เริ่มต้นง่าย ๆ ของเด็กชายผู้ถือดาบรูปกุญแจ ที่มีชะตากรรมต้องไปปกป้องดินแดนต่าง ๆ ในโลกของการ์ตูน ‘Disney’ ที่เห็นเด็ก ๆ ใส ๆ น่ารัก ๆ แบบนี้เนื้อเรื่องในเกมค่อนข้างจริงจังซับซ้อนและโหดกว่าที่เห็นเยอะมาก ใครที่เคยเล่นจะทราบดี ซึ่งครั้งแรกเมื่อเกมนี้วางจำหน่ายเสียงก็แตกออกไปสองทาง นั่นคือตัวเกมน่าสนุกกราฟิกสวยน่าเล่น กับอีกฝ่ายที่บอกว่าตัวเกมดูเหมาะสำหรับเด็กคงไม่มีอะไรน่าสนใจ แต่พอลองเล่นทุกคนต่างก็เปลี่ยนความคิดไปทันที ใครที่สนใจอยากเล่นต้องทำใจเรื่องการตามเนื้อหา เพราะแม้ภาคหลักจะมีเพียง 3 ภาค แต่ภาคแยกภาคเสริมภาคประกอบภาคไม่เป็นทางการ ไปจนถึงภาคที่ไม่รู้จะออกไปทำไมออกมาอีกมากมาย แถมทุกภาคยังเชื่อมกันด้วยที่ถ้าคุณขาดการเล่นภาคไหนไปคุณจะไม่รู้เรื่องแน่นอน ซึ่งถ้าให้สรุปเรื่องราวของเกมนี้คงใช้ทั้งบทความเล่าเป็นชั่วโมงก็ไม่จบเลยทีเดียว แต่ถ้าคุณชอบ ‘Disney’ และต้องการความสนุกของเกมแอ็กชันก็ลองไปหามาเล่นดู ใครมีแผ่นก็ลองหามาเล่นบน ‘PlayStation 2’ เพื่อรำลึกอดีตกันได้
EyeToy Play ยอดขาย 4 ล้านชุด
‘EyeToy Play’ เห็นเงียบ ๆ แต่กินเรียบกับเกมม้ามืดที่ชาว ‘PlayStation 2’ บ้านเราในตอนนั้นน่าจะซื้อแผ่นแท้กันเยอะเป็นอันดับต้น ๆ เลยก็ว่าได้ เพราะกระแสของนิตยสารเกมในบ้านเราตอนนั้นพูดถึงเกมนี้เยอะมาก ๆ ซึ่งถ้าใครอยากเล่นเกมนี้ต้องมีกล้องที่แถมมากับตัวเกมจึงจะเล่นได้ โดยตัวเกมจะให้ตัวเราเข้าไปอยู่ในเกมต่าง ๆ เพื่อเล่นทำคะแนนกับเพื่อน ๆ ทั้งเกมเช็ดกระจก เกมชกมวย และอีกมากมายที่เล่นได้สนุกทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เอามาเล่นตอนนี้ก็ยังคงสนุกไม่อย่างนั้นตัวเกมคงขายไม่ได้ถึง 4 ล้านชุดแน่นอน
God of War ยอดขาย 4.61 ล้านชุด
ถ้าใครยังจำได้สมัยที่เกม ‘God of War’ ภาคแรกวางจำหน่ายบน ‘PlayStation 2’ ได้ กระแสเกมนี้ในบ้านเราก็ไม่ได้โด่งดังจนหลายคนพูดถึง แต่ด้วยความสนุกแปลกแหวกแนวกับเกมแอ็กชันที่ยิ่งใหญ่ กับความหาญกล้าของทีมงานที่เอาตัวละครโล้นซ่าไปอัดทวยเทพและยักษ์ที่ตัวใหญ่กว่าตึก บวกกับกระแสต่างประเทศที่ชื่นชอบกัน จนทำให้นักเล่นเกมในบ้านเราสนใจหยิบมาเล่น ซึ่งเมื่อลองเล่นก็ไม่ผิดหวังกับความสนุกของเรื่องราวชายหัวโล้นที่เปิดตัวมาแบบงง ๆ ว่าทำไมพี่แกถึงฆ่าตัวตาย ก่อนที่เกมจะตัดฉากมาที่บนเรือและอัดศัตรูไปเรื่อย ๆ ที่หลายคนน่าจะเล่นจบเกมไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าอะไรเป็นอะไร แต่ที่เรารู้ในตอนนั้นคือความยิ่งใหญ่ของฉาก ยิ่งตอนที่เห็นยักษ์ไททันแบกหินในเกม (รูปประกอบด้านล่าง) ทุกคนต่างอ้าปากค้างในความสวยที่เครื่อง ‘PlayStation 2’ สามารถรีดกราฟิกได้สวยงามยิ่งใหญ่แบบนี้ออกมาได้ ใครที่เคยเล่นในยุคนั้นน่าจะจำช่วงเวลาที่เล่นเกมนี้ได้ดี มาจนถึงตอนนี้ความรู้สึกนั้นอาจจะหายไปบ้าง แต่ความยิ่งใหญ่ของ ‘God of War’ ก็ยังคงอยู่มาจนถึงตอนนี้
Final Fantasy X ยอดขาย 8.5 ล้าน
ถ้าเกม ‘Metal Gear Solid 2 Sons of Liberty’ ตอนนั้นทำวงการเกมบ้านเราเดือดระอุมาแล้ว เกม ‘Final Fantasy X’ ก็เหมือนภูเขาไฟระเบิด เพราะแม้แต่ข่าวทีวีในบ้านเราสมัยนั้นยังรายงานข่าวการวางจำหน่ายเกมนี้เลย ที่เป็นแบบนี้เพราะนี่คือเกม ‘Final Fantasy’ ภาคแรกในซีรีส์ที่ลงบน ‘PlayStation 2’ ซึ่งมาพร้อมกับกราฟิกอันยิ่งใหญ่อลังการงานสร้าง แถมยังเป็นครั้งแรก ๆ ในซีรีส์ที่เกมมีเสียงพากย์ นี่ยังไม่นับระบบเรียกสัตว์อสูรที่สามารถยืนข้างเราตอนสู้เหมือนเป็นตัวละครเพื่อนร่วมทีม เลยทำให้ทุกคนต่างยากเล่นและจับจองเครื่อง ‘PlayStation 2’ จนเครื่องแทบขาดตลาด เรียกว่าเปิดเกมมาก็ทำเอาแฟนเกมซีรีส์นี้ขนลุกตั้งชันเลยทีเดียว ตัวเกมแม้จะถูกรันบนเครื่อง ‘PlayStation 2’ ที่เอามาเล่นตอนนี้ก็ยังคงสนุกไม่เปลี่ยนไปจากอดีต ใครที่ไม่เคยเล่นแนะนำเลย ตัวเกมไม่ซับซ้อนเล่นง่ายเนื้อเรื่องดีกราฟิกสวย เป็นเกมดีที่เราอยากแนะนำให้หามาเล่น
Dragon Quest VIII Journey of the Cursed King ยอดขาย 4.88 ล้านชุด
นับเป็นก้าวแรกที่สำคัญมาก ๆ สำหรับซีรีส์ ‘Dragon Quest’ กับการได้สิทธิ์ชื่อเกมนี้มาใช้อย่างเป็นทางการหลังจากที่ต้องทนใช้ชื่อ ‘Dragon Warrior’ อยู่นานหลายภาค จนมาถึงภาค 8 อย่าง ‘Dragon Quest VIII Journey of the Cursed King’ ทางทีมงานก็ไม่ได้แค่เปลี่ยนภาษาจากญี่ปุ่นมาเป็นภาษาอังกฤษแบบเกมอื่น ๆ ในยุคนั้น แต่ทางค่ายเกมได้เพิ่มเสียงพากย์ให้กับตัวละครในเกมนี้ ร่วมถึงการเพิ่มเติมระบบใหม่ ๆ ที่เกมฉบับภาษาญี่ปุ่นไม่มีลงไป เพื่อเอาใจชาวตะวันตกที่รู้จักชื่อ ‘Final Fantasy’ มากกว่า ซึ่งการเพิ่มเติมครั้งนี้ก็ได้ผล เพราะยอดขายเกมภาคนี้ก็สูงถึง 4.88 ล้านชุดเป็นการยืนยันความสำเร็จได้เป็นอย่างดี ตัวเกมให้อารมณ์ที่ต่างกับ ‘Final Fantasy’ ที่จะเน้นเรื่องราวเรียบง่ายก่อนจะค่อย ๆ ทวีความสนุกตื่นเต้นที่เป็นเอกลักษณ์ของเกมซีรีส์นี้ ลองเปิดใจดูแล้วคุณจะหลงรักซีรีส์นี้เหมือนใครหลาย ๆ คน
Tekken 5 ยอดขาย 6 ล้านชุด
อีกหนึ่งซีรีส์เกมที่อยู่คู่กับ ‘PlayStation’ มาอย่างยาวนานตั้งแต่ภาคแรก จนมาถึงภาคที่ 5 ของซีรีส์หมัดเหล็ก ที่ภาคนี้ก็ยังคงความสนุกตื่นเต้นกับระบบการเล่นที่เพิ่มมาจากภาค 4 ที่เรียกว่าตอนนั้นทุกคนต่างก็ตื่นเต้น เมื่อได้เห็นกราฟิกที่สวยงามของเหล่านักสู้ที่ดีกว่าในภาค 3 ที่แม้ตัวเกมภาค 3 จะเล่นสนุกแต่กราฟิกก็ถือว่าไม่สวยถูกใจแฟน ๆ แต่พอมาในภาค 4 ตัวเกมได้ลงบนเครื่อง ‘PlayStation 2’ ที่มีขุมพลังมากขึ้น จนทำให้รู้สึกเหมือนเล่นเกมตู้อยู่เลย ส่วนในภาคที่ 5 ที่เรียกว่าดีงามกว่าภาค 4 เพราะมีตัวละครชุดใหม่ที่น่าสนใจกว่าเดิมมาร่วมต่อสู้ แถมฉากในเกมก็ยังกว้างขึ้น ท่วงท่าโมเดลตัวละครก็ละเอียดงามตากว่าเดิม จึงไม่แปลกที่ ‘Tekken 5’ จะมียอดขายกว่า 6 ล้านชุดบน ‘PlayStation 2’
Ratchet & Clank ยอดขาย 3.71 ล้านชุด
ปิดท้ายกับซีรีส์เกมที่ตอนนี้ยังคงมีภาคใหม่วางจำหน่ายบน ‘PlayStation 5’ กับคู่หูคู่ลุยในเกม ‘Ratchet & Clank’ ที่เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่บน ‘PlayStation 2’ เกมแอ็กชันสุดสนุก ที่เราจะได้ต่อสู้ในดวงดาวต่าง ๆ ผ่านกราฟิกที่สดใสสวยงาม แถมยังมีระบบการเล่นที่เรียบง่ายเด็กเล่นดีผู้ใหญ่เล่นได้ ซึ่งถ้าคุณยังไม่มีเครื่อง ‘PlayStation 5’ ก็ลองไปหยิบเกม ‘Ratchet & Clank’ บนเครื่อง ‘PlayStation 2’ มาปัดฝุ่นเปิดเล่นดู รับรองว่าความสนุกในวันวานของคุณต้องกลับมาอย่างแน่นอน ส่วนใครที่ยังไม่มีเครื่อง ‘PlayStation 2’ แต่อยากเล่นเกมสนุก ๆ ซีรีส์นี้คือหนึ่งในเกมที่คุณไม่ควรพลาด
ก็จบกันไปแล้วกับการรำลึกครบรอบ 22 ปี ‘PlayStation 2’ น่าสนใจที่หลายคนอาจจะคิดถึง ซึ่งหลายเกมในบทความนี้ก็ยังคงความนิยม และสามารถหาเล่นได้บนเครื่องเกมอื่น ๆ แต่เชื่อว่าหลายคนก็ยังคงชื่นชอบกราฟิกเหลี่ยม ๆ ระบบการเล่นเดิม ๆ สมัย ‘PlayStation 2’ อยู่ ยิ่งใครที่มีเครื่องซึ่งยังใช้งานได้อยู่ ก็ควรหยิบเกมเหล่านี้มาเล่นบ้าง เพราะเครื่องเกมเก่าถ้าถูกเก็บไว้นาน ๆ ก็อาจจะเสื่อมสภาพได้ นาน ๆ ทีได้เปิดให้ไฟมาเลี้ยงแผงวงจร หยิบเกมเก่า ๆ เอามาเล่นกับเพื่อน ๆ หรือลูกหลานเพื่อย้อนอดีตความทรงจำก็ดีไม่น้อยเลยทีเดียว ส่วนใครที่มีเกม ‘PlayStation 2’ ในดวงใจเกมไหนอีกก็เอามาเล่ากันได้ ส่วนคราวหน้าจะเป็นเรื่องราวอะไรในวงการเกมก็ติดตามกันได้ที่นี่ที่เดียว
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส