Our score
7.5Dark Deity
จุดเด่น
- เกมเพลย์รวดเร็ว สนุกลงตัว
- ระบบอัปเกรดตัวละครที่เรียบง่ายหลากหลาย
- กราฟิกแนวย้อนยุคที่ดูดี
จุดสังเกต
- เกมสั้นไปหน่อยเมื่อเทียบกับราคาขาย
- ระบบท่าไม้ตายไม่หลากหลาย
- เมนูชวนสับสนในบางจุด
เชื่อว่าหากพูดถึงเกมวางแผนการรบระดับตำนานที่มีการสร้างภาคต่อมาจนถึงปัจจุบันแล้ว ต้องมีรายชื่อของ Fire Emblem แน่นอน เพราะเป็นซีรีส์ที่มีการสร้างมายาวนานกว่า 30 ปีแล้วโดยภาคแรกออกบน Famicom ในปี 1990 และภาคล่าสุดเพิ่งจะออกบน Nintendo Switch ไปไม่นานนี้
ซึ่งแปลว่าไม่ว่าจะผ่านเวลามานานแค่ไหนเกมแนววางแผนก็ได้รับความนิยมตลอด โดยก่อนหน้านี้เพิ่งจะมีการวางขาย Triangle Strategy ที่เหมือนการกลับมาเกิดใหม่ของ Final Fantasy Tactics ส่วนเกมที่จะมาแนะนำในวันนี้คือ Dark Deity ที่เคยวางขายบน PC มาแล้วในปี 2021 และเพิ่งจะออกวางขายบน Nintendo Switch ไปในช่วงต้นปี 2022 นี้ ที่ผู้สร้างก็ยอมรับตรง ๆ ว่ามันได้รับแรงบันดาลใจจาก Fire Emblem แบบจัดเต็ม
โดยเรื่องราวใน Dark Deity จะเกิดขึ้นในอาณาจักร Delian ที่ปกครองโดยราชา Varic ซึ่งกำลังอยู่ในภาวะสงครามและทำให้ต้องเกณฑ์ไพร่พลมาร่วมรบ ไม่เว้นแต่นักเรียนในโรงเรียนนายทหาร Brookstead โดยเราจะได้รับบทเป็น Irving, Garrick, Maren, และ Alden ที่ถูกเกณฑ์มาเข้าร่วมสงครามที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง และความชั่วร้ายที่เกี่ยวกับฃสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์โบราณที่รู้จักกันในชื่อ Eternal Aspects
กราฟิกย้อนยุคสู่สมัย 16Bit
เนื่องจากผู้สร้างตั้งใจให้มันมาแนวย้อนยุค ทำให้ภาพใน Dark Deity มาแนวทางเดียวกับ Fire Emblem ที่วางขายสมัย Super Famicom ที่มาแบบ 16Bit ดอทพิกเซลในฉากหลัก แต่ตัวละครและในคัตซีนที่เป็นภาพนิ่ง จะเป็นภาพวาดที่มีความคมชัดสูงระดับ HD เรียกว่าเป็นการผสมผสานกราฟิกยุคเก่าและยุคใหม่ได้ลงตัวมาก ส่วนฉากหลัก ๆ ที่เป็นสนามรบจะเป็นแบบ 2 มิติมุมมองด้านบนแบ่งออกเป็นช่อง ๆ ที่ดูได้ง่ายมาก
ส่วนกราฟิกของฉากต่อสู้ก็จะเป็นดอทพิกเซลที่เป็นการตัดเข้าฉากต่อสู้ แม้จะนำเสนอแบบไม่เต็มฉากเป็นเพียงกรอบสี่เหลียมขึ้นมาเป็นฉากที่เห็นตัวละคร แต่ก็มีความคล้ายกับต้นฉบับ Fire Emblem ภาคแรก ๆ อยู่มากส่วนเพลงประกอบไม่ได้มาย้อนยุคแบบ 16Bit มีการใส่ระบบเสียงของเกมยุคใหม่และมีการแต่งเพลงธีมแนวออร์เคสตราที่มีทั้้งเพลงที่ไพเราะและตื่นเต้นเข้ากับแนวทางของการเล่นได้ดี
รูปแบบการเล่นแนววางแผนแบบคลาสสิก
เชื่อว่าแฟน ๆ เกมวางแผนโดยเฉพาะ Fire Emblem เห็นก็รู้ทันทีว่ามันคือรูปแบบเดียวกัน ที่เราต้องบังคับกองทัพของเราต่อสู้ในสนามรบแบบ 2 มิติ และใช้ระบบเทิร์นเบสใส่คำสั่งแล้วผลัดกันโจมตีโดยจะโจมตีแบบตาใครตามัน และใช้การรอเวลาทำให้มันอาจจะดูเชยไปบ้าง แต่เนื่องจากความเรียบง่ายและมีบางส่วนเดินตามรอยเกมคลาสสิกของปู่นินทำให้มันยังคงเล่นได้สนุก
โดยในฉากจะแบ่งออกเป็นกองทัพของเราและศัตรูที่แบ่งออกเป็นสีทำให้มองได้ง่ายไม่สับสน และเราจะต้องบังคับตัวละครเดินไปโจมตี โดยจะแบ่งออกเป็นช่อง ๆ ส่วนการโจมตีจะมีไม่ได้หลายรูปแบบแต่ก็มีตามพื้นฐาน เช่นใช่ดาบจะต้องเข้าไปใกล้ ส่วนใช้ธนูหรือพลังเวทมนตร์จะสามารถยิงระยะไกลได้ ซึ่งการเล่นก็เข้าใจง่ายมากเพราะท่าไม้ตายถูกย่นย่อมาให้เลือกเพียงไม่กี่รูปแบบทำให้ไม่ต้องคิดมาก ทำให้เรามีเวลาวางแผนได้มากกว่าเดิม ส่วนการเติมพลังก็มีทั้งใช้เวทมนตร์และยาเติมพลังได้
การเล่นรวดเร็วระบบอัปเกรดที่ง่ายดาย
อีกจุดเด่นคือความเร็วในการเล่นที่ปรกติแล้วเกมแนวนี้ในยุคอดีตจะมีเกมเพลย์ที่ค่อนข้างช้ามาก และยังต้องรอเทิร์นของศัตรูอีก แต่ปัญหานี้ไม่มีใน Dark Deity เพราะผู้สร้างได้อัปเกรดความเร็วในการเล่นให้สูง และยังกดข้ามการต่อสู้ได้ด้วย ทำให้การเล่นจบลงอย่างรวดเร็วมาก ซึ่งเหมาะกับการเล่นในยุคใหม่ที่ผู้เล่นไม่ต้องการรออะไรนาน ๆ มาก ยิ่งมาบวกกับระบบการเล่นที่เรียบง่ายท่าไม้ตายมีไม่กี่อย่างด้วยแล้วทำให้มันถือว่าเล่นได้เพลิน ๆ แบบไหลลื่นสุด ๆ แต่ก็มีข้อเสียเพราะตัวเกมไม่ได้ยาวนักทำให้เล่นไม่นานก็จบหมด
ส่วนอีกจุดที่ดีงามคือระบบอัปเกรดตัวละครที่เข้าใจง่ายเช่นกัน เพราะมันย่อเหลือไม่กี่รูปแบบเช่นการใส่ไอเทมกับตัวละคร ที่มีทั้งเครื่องป้องกันและยาเติมพลัง รวมทั้งอัปเกรดเลเวลแล้วเพิ่มระดับอาชีพของตัวละครที่จะเพิ่มความสามารถใหม่ ๆ ซึ่งแต่ละตัวละครและสายอาชีพจะมีความหลากหลายเช่นนักรบที่มีพลังโจมตีรุนแรงแต่มีระยะการเดินไม่มาก หรือนักรบที่ขี่ม้าที่จะมีระยะเดินได้ไกลกว่า ส่วนนักธนูและจอมเวทย์ ที่จะโจมตีระยะไกลได้
อย่างไรก็ตามมันก็ไม่ได้เรียบง่ายไปจนน่าเบื่อ เพราะหากเลือกระดับยากก็จะมีความโหดพอสมควรศัตรูมีความฉลาดในการโจมตีจุดอ่อนของทัพเรา ส่วนฉากอุปสรรคให้มาให้พอประมาณและยังมีความหลากหลายเช่นภารกิจช่วยตัวประกัน และมีจุดวาร์ปที่เราต้องสังเกตให้ดีว่าจะพาเราวาร์ปไปยังจุดไหนและควรจะวางแผนวางกลยุทธ์การเล่นอย่างไรซึ่งถือว่าทำให้เกมสนุกกว่าที่คาดไว้พอสมควร
เกม Dark Deity ถือว่าเป็นการสร้างโดยอิงความคลาสสิกของ Fire Emblem แบบยุคอดีต 16Bit ที่เชื่อวาแฟน ๆ ต้องชอบอยู่แล้ว อีกทั้งผู้สร้างใส่ความเรียบง่ายในการเล่น รวมทั้งมีความรวดเร็วเสียดายที่ตัวเกมสั้นไปหน่อยเล่นไม่นานก็จบ และราคาขายบน Nintendo Switch ที่แพงไปนิดทำให้ต้องชอบเกมแนววางแผนจริง ๆ ถึงจะคุ้มค่า รวมทั้งระบบเมนูที่บางจุดดูสับสนและดูเชยไปหน่อย แต่โดยรวมแล้วมันก็มีดีพอตัวใครชอบเกมแนววางแผนการรบแบบคลาสสิกจะลองหามาเล่นก็ถือว่าคุ้มค่าอยู่
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส