Our score
7.0Chrono Cross The Radical Dreamers Edition
จุดเด่น
- เกมเพลย์ในตำนานที่มีโหมดปรับให้ทันสมัยขึ้น
- กราฟิกปรับให้ดูดีขึ้น (เล็กน้อย)
จุดสังเกต
- เฟรมเรตตกกระจายในบางจุด
- สิ่งที่เพิ่มเข้ามาน้อยไปหน่อย
หนึ่งในสิ่งที่ค่ายเกมทุกวันนี้ชอบทำก็คือการนำของเก่ามาขายใหม่แบบปรับนิดหน่อย หรือที่เรียกว่าการรีมาสเตอร์ และหนึ่งในค่ายที่นิยมสร้างก็คือ Square Enix ที่ก่อนหน้านี้มีการขุดเอาซีรีส์ RPG เก่าแก่มาปัดฝุ่นขายใหม่หลายเกมมาก ทั้ง Final Fantasy หรือ Romancing SaGa
ล่าสุดมีการเอาหนึ่งในตำนานของวงการ RPG อย่าง Chrono Cross มารีมาสเตอร์ใหม่โดยใส่ชื่อต่อท้ายว่า The Radical Dreamers Edition วางขายอีกครั้งบน PS4 , Xbox One , Nintendo Switch และ PC ถือว่าสร้างความประหลาดใจอยู่ไม่น้อย เพราะมันไม่ได้มีกระแสให้พูดถึงมากนัก แต่หากใครเกิดทันเล่นคงจะพอจำความสนุกและความแปลกของตัวเกมได้
ต้นฉบับของ Chrono Cross วางขายบน PS1 ในปี 1999 ในโซนญี่ปุ่นก่อน และมีการวางขายในเวอร์ชันภาษาอังกฤษในปี 2000 โดยเรื่องราวจะอยู่ในโลกเดียวกับ Chrono Trigger เกมในตำนานที่วางขายบน Super Famicom แม้จะไม่ได้สนุกเทียบเท่าแต่ก็มีความแปลกและแตกต่าง ส่วนเรื่องราวใน Chrono Cross จะเริ่มที่หนุ่มน้อย Serge ที่ต้องออกผจญภัยในโลกมิติคู่ขนานที่พร้อมกับเรื่องราวซับซ้อนเกินคาดเดารวมทั้งตัวร้ายสุดโหดที่แม้แต่ผู้กล้าในตำนานยังสู้ไม่ได้
กราฟิกปรับนิดหน่อยแต่เฟรมเรตร่วงกระจาย
เป็นที่รู้กันว่าการรีมาสเตอร์จะเป็นสิ่งที่ค่ายเกมชอบ เพราะมันไม่ต้องลงทุนมากมายเพียงแค่ปรับภาพนิดหน่อยเท่านั้น ดังนั้น Chrono Cross The Radical Dreamers Edition มีการลงทุนไม่มากนักเพียงแค่สร้างโมเดลตัวละครให้คมชัดขึ้น และฉากที่เป็นภาพนิ่งที่เหมือนภาพวาดสีน้ำก็ปรับให้คมชัดขึ้น แต่เสียดายที่คัตซีนไม่ได้ปรับให้เป็น HD ยกของเดิมมาทั้งดุ้นทำให้น่าผิดหวังไปบ้าง แต่โดยรวมทั้งหมดมันก็คือของเดิม พูดให้เข้าใจง่าย ๆ มันก็ประมาณ Final Fantasy 8 รีมาสเตอร์ที่ออกวางขายก่อนหน้านี้ แต่ใครไม่ชอบก็สามารถเลือกกราฟิกแบบเดิมได้ด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตามมันมีสิ่งที่น่าผิดหวังที่ไม่ควรจะมี เพราะเฟรมเรตในเกมนั้นร่วงลงจนน่าใจหาย ไม่ว่าจะเล่นบนคอนโซลอย่าง PS5 หรือ PC ในบางฉากจะไม่ลื่นไหลเท่าที่ควร และดูแย่กว่าต้นฉบับบน PS1 ด้วยซ้ำซึ่งคาดว่าทีมงานสร้างอาจจะปล่อยตัวอัปเดตมาแก้ไขเร็ว ๆ นี้ ส่วนเพลงประกอบถือเป็นส่วนที่ดีงามของเกม เพราะมีการนำของเดิมที่แต่งโดย ยาสุโนริ มิตสุดะ (Yasunori Mitsuda) นำมาปรับแต่งเสียงใหม่ให้ทันสมัยมากขึ้นซึ่งของเดิมถือว่าดีอยู่แล้วมาปรับใหม่ยิ่งทำให้มันเข้ากับการเล่นในยุคนี้แบบไม่เสียของ
รูปแบบการเล่น RPG ที่มีจุดเด่นที่ระบบธาตุ
เกมเพลย์ของ Chrono Cross ฉบับรีมาสเตอร์ก็เหมือนเดิม ที่มาแนว RPG แบบเทิร์นเบสที่ต้องใส่คำสั่งโจมตีที่เข้าใจง่ายและไม่มีระบบเวลาจริงทำให้ผู้เล่นได้คิดวางแผนก่อนกดคำสั่ง และมีการตัดเข้าฉากต่อสู้แต่จะเห็นศัตรูบนฉากไม่ได้ใช้แบบสุ่มทำให้เดินหลบได้หากไม่อยากเจอ โดยในฉากต่อสู้เราจะจัดทีมได้ 3 ตัวมาลงสนามต่อสู้กับศัตรูได้ โดยรวมส่วนนี้เข้าใจง่ายหากคุณเคยเล่นเกม JRPG ในยุค 90S มาแล้ว
ส่วนความโดดเด่นของ Chrono Cross ที่ทำให้มันแตกต่างจากเกมอื่นในยุคนั้นคือระบบ “ธาตุ” เพื่อนำมาใช้ในการต่อสู้รวมทั้งเติมค่าพลัง เรียกว่าเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของการเล่น โดยจะมีแบ่งเป็นธาตุที่เข้าใจง่ายเช่น ไฟหรือน้ำ และจะมีท่าไม้ตายกำหนดตามธาตุเช่นลูกไฟพลังความร้อน หรือกระสุนน้ำ และยังมีพลังแปลก ๆ ที่ส่งผลกระทบกับการต่อสู้อย่างมาก และแน่นอนว่าศัตรูในเกมจะมีการแพ้ทางด้วย ซึ่งหากเราสามารถใช้ให้ถูกที่ถูกเวลาแล้วจะกำจัดศัตรูได้ไม่ยาก
โดยผู้เล่นสามารถใส่ธาตุตามช่องที่เกมกำหนดไว้ได้ ที่ในตอนแรกจะใส่ได้ไม่กี่ประเภทแต่พออัปเกรดตัวละครไปเรื่อย ๆ แล้วจะใช้ได้หลายช่องมาก และสามารถสานต่อกันเป็นความต่อเนื่องเป็นคอมโบในการต่อสู้ได้ ส่วนธาตุจะหาได้ทั่วไปทั้งในฉากที่เก็บได้ในหีบสมบัติหรือหาซื้อในเมืองก็ได้ และนอกจากใช้โจมตีศัตรูโดยตรงแล้วระบบธาตุยังมาพร้อมกับ Field Effect ที่จะส่งผลกับพื้นที่การต่อสู้และจะทำให้เราได้เปรียบในการเล่นหากใช้งานเป็น แต่ศัตรูก็สามารถใช้โหมดนี้กับเราได้เช่นกัน ส่วนนี้ทำให้ Chrono Cross สนุกและแตกต่างจากเกมอื่นในยุคนั้น เรียกว่าหากเราตั้งค่าธาตุได้ถูกต้องและเรียงมาอย่างดีก็อาจจะเอาชนะบอสสุดโหดได้อย่างง่ายดายเลย
ทะลุมิติสู่โลกคู่ขนาน
ใน Chrono Trigger จะเป็นการท่องเวลา แต่ใน Chrono Cross จะเป็นการข้ามมิติไปสู่โลกคู่ขนานที่ตัวละครหลักต้องกลับไปมาระหว่าง 2 โลก ที่เมื่อทำบางสิ่งกับอีกมิติมันจะส่งผลกระทบมาสู่อีกมิติด้วย เช่นเมื่อเราทำการเปลี่ยนภูมิประเทศของฉากในอีกโลกหนึ่งจะส่งผลให้เกิดป่าไม้ในอีกมิติหนึ่งได้ที่เป็นจุดเด่นที่ทำให้การเล่าเรื่องราวมีความโดดเด่น และตัวละครในแต่ละมิติจะมีความแตกต่างกันด้วย
และจุดนี้เองทำให้ Chrono Cross มีเรื่องราวแยกย่อยเยอะมาก รวมทั้งมีตัวละครที่ใช้งานได้จำนวนมากมายอย่างไม่น่าเชื่อ แม้ว่างานออกแบบจะยังสู้ Chrono Trigger ไม่ได้แต่จำนวนและความหลากหลายของเนื้อเรื่องถือว่าทำให้เกมยังคงน่าติดตามอยู่ และส่วนทีแปลกใหม่ในยุคนั้นคือการที่เราสามารถหนีจากการต่อสู้กับบอสได้ถือว่าผู้สร้างพยายามคิดอะไรให้แตกต่างอยู่
ส่วนในภาครีมาสเตอร์นั้นมีการใส่ Radical Dreamers เกมภาคเสริมบน Super Famicom ที่ออกในปี 1996 แต่ไม่เคยออกภาคภาษาอังกฤษมาก่อน (แต่มีภาค Fansub ที่แฟนเกมแปลจากญี่ปุ่นเป็นภาษาอังกฤษเล่นกันเอง) ซึ่งเป็นการผจญภัยที่เราจะได้อ่านข้อความที่มีภาพประกอบเข้ามาเป็นส่วนเสริมให้เนื้อเรื่องในเกมมีความสานต่อกับ Chrono Trigger มาให้อ่านกันด้วย
ของใหม่โหมดที่ช่วยให้ง่ายขึ้น
แน่นอนว่าการเอาของเก่ายุค 90S มาขายใหม่แบบรีมาสเตอร์ของ Square Enix ต้องมีการเพิ่มของใหม่ที่ช่วยให้คอเกมยุคนี้เล่นได้ง่ายขึ้นใส่เข้ามาด้วย Chrono Cross The Radical Dreamers Edition ก็มีการใส่มาทั้งโหมดไม่พบเจอศัตรูเลย และการต่อสู้แบบอัตโนมัติรวมทั้งโหมดที่ทำให้เราไม่โดนศัตรูโจมตีในตอนที่ต่อสู้ และแน่นอนโหมดเร่งความเร็วก็ต้องมาเพราะต้นฉบับเกมเพลย์ถือว่าอืดอาดมากเมื่อเทียบกับมาตรฐานในยุคนี้ ถือว่าเป็นของที่ต้องมีไม่ได้โดดเด่น และช่วยให้แฟน ๆ รุ่นใหม่สนุกไปกับของเก่าที่มีอายุมากกว่า 20 ปีได้อย่างไม่ติดขัด
บอกตรง ๆ ว่า Chrono Cross The Radical Dreamers Edition อาจจะไม่ได้ทำให้คนที่คาดหวังไว้สูงต้องสมหวัง เพราะมันยังอยู่ในกรอบของการรีมาสเตอร์ที่ Square Enix ใช้รูปแบบนี้มานานแล้ว และไม่ได้ใส่ของใหม่เข้าไปมากมายนัก แต่พอจะมีให้บ้างเช่นกราฟิกปรับนิดหน่อยแต่เฟรมเรตยังเป็นปัญหา ส่วนโหมดพิเศษก็ใส่มาให้ตามมาตรฐาน แต่หากคุณเคยเล่นต้นฉบับแล้วอยากหวนคืนไปสู่วัยเด็กที่เรานั่งเล่นบน PS1 แล้วมันก็ถือว่าน่าหามาไว้ติดเครื่องอยู่เพราะเมื่อเทียบกับราคาที่ไม่ได้สูงอะไรมากมายก็ถือว่าคุ้มค่าอยู่
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส