Our score
7.5Dungeons of Dreadrock
จุดเด่น
- การแก้ปริศนาซับซ้อนคิดหลายตลบ
- มีความท้าทายสูง
จุดสังเกต
- ช่วงแรกเกมน่าเบื่อไปหน่อย
- กราฟิกเชยไปสำหรับมาตรฐานยุคนี้
สำหรับคอเกมที่เน้นการสำรวจและแก้ปริศนาลงตะลุยไปในดันเจี้ยน หลายคนคงจะนึกถึงตำนาน Zelda ของ Nintendo ที่มีการวางขายมาหลายภาค และเนื่องจากมันได้รับความนิยมสูงมากทำให้มีผู้สร้างหลายคนพยายามเดินตามรอยมาตลอด
และเกม Dungeons of Dreadrock ก็เป็นหนึ่งในนั้น เพราะมันเป็นเกมที่ไม่เน้นการต่อสู้ แต่เน้นหนักไปที่การแก้ปริศนาเป็นหลัก โดยมันเป็นเกมเล็ก ๆ ที่สร้างจากทีมงานอินดี้ ที่ออกวางขายบนคอนโซล และ PC รวมมีให้เล่นบนสมาร์ตโฟนด้วย แม้ว่าภายนอกมันอาจจะไม่น่าเล่นและเหมือนกับของแจกฟรี แต่พอได้สัมผัสแล้วมันถือว่าทำออกมาได้ดีกว่าที่คาดมาก
เรื่องราวในเกมจะเราจะได้รับบทเป็นของเด็กหนุ่มที่ต้องออกเดินทางไปค้นหาพี่ชายที่ถูกเลือกให้ไปปราบราชาแห่งหุบเขา ที่ต้องเดินทางไปผจญภัยใน Dead King’s Gate เพื่อตะลุยไปในดันเจี้ยนที่ซับซ้อน ที่มาพร้อมกับมอนสเตอร์น่ากลัวมากมาย รวมทั้งกับดักสุดโหดที่หมายปลิดชีพผู้เล่น รวมทั้งมีการเล่าเรื่องที่ดูแปลกเพราะเป็นการ์ตูนที่ดูน่ารัก แต่แอบมีความรุนแรงเล็ก ๆ เพราะเมื่อตัวละครโดนโจมตีจะมีเลือดสาดกระจาย
กราฟิกแบบ Zelda ภาคคลาสสิก
ภาพในเกมมาแนวย้อนยุคไปสมัย 16Bit สมัยยุค 90S เหมือนกับเกม Zelda บน Super Famicom ที่ดูเป็นการ์ตูนหัวโตตัวเล็ก ตัวละครหลักดูไกล ๆ เหมือนกับ Link จาก Zelda แบบตั้งใจ แต่อย่างที่บอกไปแล้วว่ามันมีความแอบโหดเพราะมีทั้งเลือดสาด และฉากซากศพ แม้ว่าความรุนแรงจะไม่ได้น่ากลัวมากนักแต่ก็ไม่เหมาะกับเด็กแน่นอน
ส่วนเพลงประกอบอาจจะดูกลาง ๆ ไม่ได้ดีแบบมีธีมที่โดดเด่นติดหู แต่ก็ไม่ได้แย่เพราะมันไม่ได้กลืนไปกับฉาก อาจเป็นเพราะรูปแบบการเล่นเน้นหนักไปกับการแก้ปริศนามากกว่าต่อสู้ทำให้เพลงจะไม่ได้ชวนตื่นเต้น เพราะตัวละครไม่ได้เก่งกาจอะไร ทำให้ดนตรีเน้นเสริมสร้างบรรยากาศที่ชวนให้สำรวจมากกว่าแอ็กชัน ส่วนเสียงพากย์ของตัวละครก็ไม่มีแต่ก็เข้าใจแนวทางของเกมที่ไม่มีทุนสร้างสูงมากมาย แต่ก็มีเสียงบรรยายในส่วนของการบอกใบ้ที่ช่วยบอกว่าต้องแก้ปริศนาอย่างไรตลอดการเล่น
เกมเพลย์เน้นสำรวจในฉากไม่เน้นแอ็กชัน
รูปแบบการเล่นใน Dungeons of Dreadrock เราจะบังคับตัวละครเดินสำรวจในฉากที่จำกัดเป็นห้องเล็ก ๆ ที่เป็นชั้นของดันเจี้ยนที่จะต้องลงลึกไปเรื่อย ๆ แต่ประเด็นแรกที่ทำให้ผู้เล่นรู้สึกแปลกและไม่ค่อยคุ้นเคยคือการเดินที่จะเป็นช่อง ๆ และกดบังคับแล้วจะค่อย ๆ เดินเป็นก้าวไปไม่ได้เดินสำรวจแบบเกมแอ็กชันทั่วไป เหมือนผู้สร้างอยากให้มันเน้นหนักไปกับการแก้ปริศนา รวมทั้งการหลอกล่อศัตรูให้ไปตามจุดที่ต้องการ การเดินเป็นช่องทำให้กะจังหวะได้ง่ายกว่ามาก
ส่วนตัวละครหลักในเกมจะอ่อนแอมากโดนโจมตีครั้งเดียวก็ตายแล้ว ละอาวุธหลักก็เป็นเพียงมีดที่โจมตีระยะสั้นมาก และใช้กับบางตัวไม่ได้ผลทำให้การเล่นเราต้องระมัดระวังอย่างมาก ซึ่งหากตายแล้วต้องกลับมาเล่นใหม่ทั้งหมด รวมถือหากเราแก้ปริศนาบางจุดพลาดไปแล้วก็จะกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ต้องเริ่มเล่นใหม่ทั้งหมดฉาก และผู้สร้างก็ใส่ปุ่มรีเซตไว้บนปุ่มพื้นฐานในการเล่นด้วย เพราะว่าต้องใช้ตลอดการเล่น
ปริศนาที่ต้องคิดหลายขั้นตอนมาก
หลายคนอาจจะคิดว่า Dungeons of Dreadrock มันก็เหมือนเกมแนวตะลุยดันเจี้ยนทั่วไป ที่แค่เดินสำรวจต่อสู้และแก้ปริศนาเท่านั้น แต่พอได้เล่นแล้วบอกได้เลยว่ามันมีความซับซ้อนพอตัว ผู้สร้างมีอะไรให้ประหลาดใจตลอดการเล่น เพราะในฉากแม้ไม่ได้กว้างอะไร แต่การเปิดทางไปต่อถือว่าเป็นความท้าทายมาก ๆ เพราะไม่ใช่แค่เดินไปกำจัดศัตรูหรือค้นหากุญแจเท่านั้น เราต้องคอยสังเกตว่ามีจุดผิดปรกติในฉากที่สามารถสำรวจได้ตลอดการเล่น
เท่านี้ยังไม่พอการต่อสู้กับศัตรูหลายครั้งก็ไม่สามารถทำได้โดยตรง เพราะบางตัวแข็งแกร่งเกินกว่าเราจะโจมตีตรง ๆ ได้ต้องใช้วิธีการหลอกล่อให้มันไปจนกับดักในฉาก หรือใช้ปืนยิงลูกไฟจัดการ รวมทั้งศัตรูบางตัวเช่นซอมบี้จะต่อสู้กันเองกับศัตรูตัวอื่นด้วย หรือบางฉากเราต้องหลอกล่อให้ศัตรูปาอาวุธใส่แล้วให้ไปหยิบมานำไปใช้เป็นอาวุธและยังเก็บไว้แก้ปริศนาได้ รวมทั้งยังมีจุดวาร์ปที่ทำให้ปริศนายิ่งซับซ้อนและต้องคอยระวังศัตรูที่อาจจะวาร์ปมาหาเราแบบไม่ทันตั้งตัวด้วย
แถมในกำแพงของฉากจะไม่ได้มีไว้ประดับบางครั้งมีไอเทมที่ไว้ช่วยเปิดทางซ่อนอยู่ด้วย นอกจากนี้ยังมีบางปริศนาที่ต้องวางสิ่งของหรือกดปุ่มให้ตรงกับที่เกมกำหนดประตูถึงจะเปิด ซึ่งหากไม่อยากอ่านคำบอกใบ้ที่เกมใส่ไว้ให้ก็ต้องคอยสังเกตสิ่งที่ดูแปลกในฉาก ซึ่งผู้สร้างได้ใส่คำใบ้ไว้ในงานออกแบบฉากอยู่แล้ว ถือว่าเป็นหนึ่งในเกมที่มีงานออกแบบปริศนาได้ดีแม้ว่ามันอาจจะไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคน เพราะต้องเป็นคนช่างสังเกตและตีความถึงจะหาทางผ่านไปต่อได้
โดยรวมแล้วการมาของ Dungeons of Dreadrock ถือว่าเป็นทำออกมาได้ดีกว่าที่คาดไว้มาก แต่บอกไว้ก่อนว่าสัมผัสแรกของมันอาจจะไม่ได้ทำให้ประทับใจนัก แนะนำให้เล่นผ่านไปสัก 2-3 ด่านก่อนแล้วถึงจะเข้าใจความสนุกที่ผู้สร้างใส่เข้าไปได้ และเมื่อลงลึกไปในดันเจี้ยนเรื่อย ๆ แล้วจะยิ่งสนุกกับการแก้ปริศนาที่ซับซ้อนเกินคาดเดา ใครชอบแนวทางที่เน้นสำรวจมากกว่าแอ็กชันมันเป็นหนึ่งในคำตอบที่ไม่อยากให้มองข้ามไป
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส