รีวิวเกม Capcom Fighting Collection รวมฮิตเกมต่อสู้ในตำนานยุค 90S
Our score
6.5

Capcom Fighting Collection

จุดเด่น

  1. รวมฮิต 10 เกมในชุดเดียว
  2. เพิ่มโหมดออนไลน์ และปรับความยากได้

จุดสังเกต

  1. มีเกม Darkstalkers มากไปหน่อยทำให้ขาดความหลากหลาย

ในยุค 90S เกมแนวต่อสู้หรือไฟท์ติ้งได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะเกมที่มาจากค่าย Capcom ที่นอกจาก Street Fighter แล้วยังมาพร้อมกับอีกหลายซีรีส์ที่วางขายมาต่อเนื่อง แม้ว่าบางเกมจะไม่ได้สานต่อมาในยุคนี้ก็ตาม

และล่าสุด Capcom ได้จับเอา 10 เกมแนวต่อสู้ยอดนิยมที่วางขายในยุค 90S มายำรวมกันขายใหม่อีกครั้งในชื่อ Capcom Fighting Collection ออกบนคอนโซล Playstation 4, Playstation 5, Xbox Series, Nintendo Switch และ PC ถือว่าไม่ได้น่าแปลกใจอะไรนักเพราะในอดีตทางค่าย Capcom ก็เคยทำมาหลายรอบแล้ว

โดยรายชื่อของเกมทั้งหมดส่วนใหญ่มาจากยุค 90S ที่ขนมาทั้ง Darkstalkers หรือชื่อ Vampire Hunter ในญี่ปุ่นที่ขนมาเยอะเป็นพิเศษ และยังมี Pocket Fighter ที่มีทั้งแบบต่อบล็อกเรียงเพชรและเวอร์ชันต่อสู้ และยังใส่ Street Fighter II มาให้ 1 เกมและยังใส่ซีรีส์ที่ถูกลืมไปแล้วอย่าง Cyberbots และ Red Earth มาให้เล่นในชุดเดียวด้วย และทุกเกมจะเป็นเวอร์ชันอาเขตที่ถือว่าสมบูรณ์แบบที่สุดแล้ว นอกจากนี้สำหรับมือใหม่ยังมาพร้อมกับการกดปุ่มเดียวก็จะสามารถปล่อยท่าไม้ตายได้ในทันทีด้วยทำให้มือใหม่เล่นได้ง่ายขึ้น แถมด้วยโหมดออนไลน์ทำให้เราเล่นเกมคลาสสิกกับเพื่อนได้ทั่วโลก

กราฟิกเหมือนเดิมไม่ได้ปรับเปลี่ยน

อย่างที่บอกไปว่ามันคือการรวมฮิตมาขายใหม่ ไม่ได้เป็นการรีเมกหรือรีมาสเตอร์ ทำให้กราฟิกมันเหมือนเดิม และในยุคนั้นทาง Capcom ใช้กราฟิกแบบพิกเซลมาสร้างภาพในเกม ทำให้มันอาจจะดูเชยไปหน่อยในยุคนี้ แต่หากเข้าใจแนวทางของผู้สร้าง (และทำใจรับได้) ถือว่ามันก็มาแนวย้อนยุคที่เคยดูดีมากเมื่อเกือบ 30 ปีก่อน เช่นเดียวกับเสียงประกอบก็เอาของเดิมมาหมดเช่นกัน แต่ก็ดีงามตามยุคสมัย (รีวิวนี้จะแบ่งเป็นตามซีรีส์เกม)

Darkstalkers

หนึ่งในตำนานของ Capcom ที่เป็นการสานต่อความสำเร็จ และมีไอเดียการนำผีและปีศาจทั่วโลกมาเป็นเกมต่อสู้ โดยภาคแรกที่ออกคือ Darkstalkers: The Night Warriors หรือชื่อ Vampire Hunter ในญี่ปุ่น โดยถือว่าผสานความหลุดโลกกับแนวต่อสู้ได้ลงตัว และเป็นต้นแบบให้หลายเกมในทุกวันนี้ ที่นอกจากผีดูดเลือดแล้วยังมาพร้อมกับ มัมมี่, ผีซามูไร มาร่วมลงสนามต่อสู้

และดูเหมือนว่าการรวมฮิตครั้งนี้ Capcom จะเน้นไปที่ซีรีส์นี้เป็นพิเศษ เพราะมีการเพิ่มภาค Night Warriors: Darkstalkers’ Revenge ที่เสริมด้วยตัวละครใหม่เทพ ๆ ทั้งผีสาว Lei-Lei ที่มาจากเมืองจีน และเกมเพลย์ที่อัปเกรดขึ้น ต่อด้วยภาค Vampire Savior: The Lord of Vampire ภาคที่ 3 ของซีรีส์ ที่วางขายในปี 1997 ที่เสริมฉากใหม่และเกมเพลย์ที่ลื่นไหลกว่าเดิม ส่วนเสริมที่ใส่มาอีก 2 เกมคือ Vampire Hunter 2: Darkstalkers’ Revenge และ Vampire Savior 2: The Lord of Vampire ภาคสุดท้ายของซีรีส์ ที่ออกเฉพาะอยู่ญี่ปุ่นเท่านั้น ซึ่งรวมแล้ว Darkstalkers มีมาให้เล่นมากถึง 5 เกมใครชอบซีรีส์นี้ถือว่าคุ้มมาก แต่ถ้าใครไม่ชอบจะรู้สึกว่ามันมีเยอะไปหน่อย

Pocket Fighter

ซีรีส์แยกย่อยของเกมต่อสู้จากค่าย Capcom ที่เอาตัวละครจาก Street Fighter และ Darkstalkers มาลงสนามต่อสู้และมาในแนวเรียงเพชรด้วย โดยภาคแรกวางขายในปี 1996 ในชื่อ Super Puzzle Fighter II Turbo ที่มาแนวเรียงเพชรแล้วทำให้หายไปด้วยบล็อกพิเศษ และยังนำเสนอด้วยภาพตัวละครที่หากเราต่อบล็อกให้หายไปได้ตัวละครในฉากหลังจะโจมตีกันเป็นคอมโบ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งภาคที่เชื่อว่าเด็กยุค 90S ต้องเคยเล่นเพราะมันเคยออกบน PS1 ด้วย

ต่อด้วย Super Gem Fighter Mini Mix ที่วางขายในปี 1997 ที่เปลี่ยนแนวมาเป็นเกมต่อสู้ 2 มิติแบบเกมทั่วไปแล้ว และจะนำตัวละครจาก Street Fighter และ Darkstalkers มาต่อสู้กันแต่จะเสริมตัวจากภาค Red Earth เข้ามาด้วย ความโดดเด่นที่นอกจากรูปแบบการเล่นจะเข้าใจง่าย คือการสานต่อคอมโบแล้วจะมีเพชรกระเด็นออกมาให้เก็บเพื่อสะสมค่าพลังไว้ปล่อยท่าไม้ตายเทพ ๆ ได้ และยังมาพร้อมกับความฮาหลุดโลกของตัวละครที่ถูกย่อขนาดเป็น SD หัวโตตัวเล็กด้วย ถือเป็นอีกภาคที่สนุกและเล่นได้เพลิน ๆ

มาพร้อมซีรีส์เกมที่ถูกลืมและ Street 2

นอกจากนี้ในเกม Capcom Fighting Collection ยังมีซีรีส์เกมอื่นใส่เข้ามาด้วย และที่ต้องไม่พลาดคือ Cyberbots: Full Metal Madness ที่มาแนวต่อสู้ 2 มิติที่มีความโดดเด่นมากเพราะเราจะได้บังคับหุ่นยักษ์มาสู้กัน และยังมาพร้อมกับลูกเล่นเปลี่ยนชิ้นส่วนแขนที่จะส่งผลกับท่าไม้ตาย และยังเลือกหุ่นรบได้หลายตัวแถมด้วยท่าไม้ตายที่อลังการงานสร้างทำให้มันเป็นอีกซีรีส์ที่โดดเด่นแต่ไม่มีการสร้างภาคต่อออกมาของค่าย Capcom

อีกเกมที่น่าสนใจมาก ๆ คือ Red Earth ที่เปิดตัวในปี 1996 ถือว่าเป็นการสร้างสิ่งใหม่ของ Capcom ที่เอาเกมต่อสู้รวมร่างกับ RPG ที่จะเลือกตัวละครแล้วลงสนามต่อสู้กับปีศาจร้ายในโลกแฟนตาซี ไม่ได้เป็นการเอาผู้กล้าที่เลือกได้มาสู้กันเอง ผู้เล่นต้องออกผจญภัยไปทั่วโลกแฟนตาซีเพื่อต่อสู้กับปีศาจผ่านรูปแบบการเล่นแบบเกมต่อสู้ 2 มิติที่มีระบบเลเวลให้เก็บด้วย แม้ว่าซีรีส์ Red Earth จะไม่ดังมากแต่ก็เป็นการคิดต่างของค่าย Capcom ที่สนุกและแปลกใหม่

ปิดท้ายกับ Hyper Street Fighter II: The Anniversary Edition ที่แม้จะออกในปี 2003 แต่ก็เป็นการเอาต้นฉบับ Street Fighter II ที่ออกในยุค 90S มาขายใหม่อีกรอบ โดยนอกจากตัวละครจะมาแบบครบ ๆ แล้วภาคนี้ยังเสริมด้วยการรวมเอาลูกเล่นของภาคย่อยของ Street Fighter II มารวมกันในส่วนของท่าซูเปอร์คอมโบที่เลือกได้ตั้งแต่ต้นฉบับภาคแรกยันภาค Super X และยังมาพร้อมกับ Akuma ด้วยถือว่ามีไว้ให้ครบ 10 เกมเพราะเชื่อว่าคอเกมน่าจะมีซีรีส์ Street Fighter II ติดเครื่องหลายเวอร์ชันแล้ว

สำหรับแฟนเกมต่อสู้แล้ว Capcom Fighting Collection เป็นของที่มีไว้ก็ไม่เสียดายเงิน เพราะมีการรวมเอาหลายซีรีส์ที่ถูกลืมไปแล้วยำรวมอยู่ในชุดเดียว แม้ว่าจะเน้นหนักไปที่ซีรีส์ Darkstalkers มากเป็นพิเศษ แต่น่าเสียดายที่การกลับมารวมฮิตนี้ไม่ได้ลงทุนมากนัก และไม่ได้ปรับกราฟิกให้ดูดีขึ้นด้วย ทำให้มันเหมาะกับคนที่ชอบแนวต่อสู้จริง ๆ เท่านั้น

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส