รีวิวเกม Bright Memory Infinite เกมยิงฉบับไฮบริด
Our score
7.5

Bright Memory: Infinite

จุดเด่น

  1. เกมเพลย์รวดเร็ว
  2. ระบบอาวุธหลากหลาย

จุดสังเกต

  1. เกมสั้นไปหน่อย
  2. ไม่มีระบบออนไลน์

หนึ่งในแนวทางการสร้างเกมที่หลายค่ายนิยมสร้างคือเกมยิงมุมมองบุคคลที่ 1 หรือที่เรียกย่อ ๆ ว่า FPS เพราะมันเป็นแนวยอดนิยมจากแฟน ๆ ทั่วโลก แม้แต่บนสมาร์ตโฟนเองก็แนว FPS ออกมาหลายเกมมาก และบางเกมมีการพอร์ตลงคอนโซลภายหลังด้วย

และหนึ่งในนั้นคือ Bright Memory: Infinite ผลงานของค่ายอินดี้จากประเทศจีนที่เริ่มต้นจากทีมสร้างเพียงคนเดียว แต่ก็ได้สานต่อจนเป็นทีมใหญ่ ที่ก่อนหน้านี้มีการออกตอนแรกบนสมาร์ตโฟนมาก่อน อย่างไรก็ตามไม่ได้มีการสร้างตอนที่ 2 ออกมา แต่มีการสานต่อสร้างให้สมบูรณ์แบบและได้ออกวางขายบนคอนโซลทั้ง Playstaion 5, Xbox Series X/S, PC รวมทั้ง Nintendo Switch ด้วย และจะวางขายแบบดาวน์โหลดเท่านั้น

เรื่องราวในเกมจะมาแนวโลกอนาคตที่เกิดขึ้นในปี 2036 ตัวเอกเป็นสาวสวยนาม Shelia จากองค์กรวิจัยวิทยาศาสตร์เหนือธรรมชาติ (SRO) ที่ต้องออกไปค้นหาความจริงเกี่ยวกับหลุมดำที่โผล่ออกมากลางท้องฟ้าทั่วโลก และมีการผูกเรื่องกับสิ่งเหนือธรรมชาติกับวิทยาศาสตร์ได้ลงตัวดี การเดินเรื่องก็รวดเร็วแต่ติดที่เกมไม่ได้ยาวนักทำให้ยังไม่อินเท่าที่ควร และคัตซีนที่เล่าเรื่องทำได้ธรรมดาและสั้นไปหน่อย

กราฟิกดูดีแต่บน Switch มีข้อเสีย

แม้ว่าจะเป็นเกมฟอร์มเล็กแต่ก็มีการลงทุนในการสร้างกราฟิก เพราะใน Bright Memory: Infinite ได้ลงทุนใช้ Unreal Engine 4 มาสร้างภาพที่หากมองว่ามันเคยออกบนสมาร์ตโฟนมาก่อนถือว่ามันเป็นหนึ่งในเกมที่มีกราฟิกดูดีมาก แต่หากมองในเวอร์ชันคอนโซลแล้วถือว่าธรรมดาไปหน่อย โดยเฉพาะบน Nintendo Switch ที่ยังพบข้อบกพร่องอยู่หลายจุด เช่นอาการภาพกระตุกหรือพื้นผิวที่ลดรายละเอียดลงเมื่อเทียบกับเครื่องอื่น และยังโหลดนานพอสมควร

แต่งานออกแบบโดยรวมถือว่าทำให้เรามองข้ามปัญหาไปได้บ้าง เพราะมันผสมผสานความทันสมัยแบบเกมยิงทั่วไป กับความคลาสสิกแบบจีนโบราณได้ลงตัวดี เหมือนกับได้ชมหนัง Sci-fi ที่มีธีมข้ามมิติ ส่วนเพลงประกอบก็ใส่ดนตรีจีนเข้ามาในบางส่วนด้วย แต่ธีมหลักยังคงเหมือนกับเกมยิงทั่วไปถือว่ายำรวมได้ลงตัวแบบแปลก ๆ ดีแน่นอนว่ามีการใส่เสียงพากย์คุณภาพดีตามมาตรฐานเข้าไป ถือว่าทำได้ดีตามฟอร์มของเกม

เกมยิงแบบผสมผสาน

หากคุณชอบเกมยิงที่เล่นได้เร็วไม่น่าเบื่อ Bright Memory: Infinite ถือว่าทำได้ดีพอตัว เพราะเกมเพลย์จัดเต็มด้วยความเร็ว มีระบบพื้นฐานเหมือนกับ FPS ทั่วไปทั้งระบบเล็งยิงและการสลับเปลี่ยนอาวุธที่ทำได้รวดเร็ว เกมเพลย์จะเน้นเป็นเส้นตรงและมีการบอกว่าต้องไปตรงจุดไหนตลอด ทำให้การเล่นลื่นไหลไม่ติดขัด แน่นอนว่าการเติมพลังจะใช้แบบเดียวกับเกมยิงทั่วไปที่ค่าพลังจะค่อย ๆ ฟื้นคืนได้เอง

หันมามองที่ระบบอาวุธหลักที่เป็นปืนที่ก็ไม่ได้โดดเด่นอะไร ที่มีปืนลูกซองที่ไว้ใช้ยิงระยะไกล้ หรือปืนกลไว้กราดยิงแต่ปินบางประเภทจะมีกระสุน 2 ประเภทมาให้ใช้งาน ทำให้ใช้งานได้หลายรูปแบบมากขึ้น และนอกจากปืนแล้วยังมาพร้อมดาบที่ใช้โจมตีระยะประชิดรวมทั้งยังใช้ป้องกันการโจมตีหรือสะท้อนกระสุนได้ และยังมาพร้อมท่าพิเศษที่ปล่อยพลังจากดาบได้ด้วย และเราสามารถผสมผสานทั้งปืนและดาบได้รวดเร็วมาก ถือเป็นจุดเด่นที่ทำให้พอจะทำให้มันแตกต่างจากเกมอื่นได้บ้าง

นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับท่าพิเศษที่ช่วยทั้งการต่อสู้และการผ่านฉาก เพราะตัวเอกของเราสามารถใช้พลัง EMP เพื่อผลักศัตรูให้กระเด็น หรือดึงศัตรูเข้ามาใกล้แล้วหน่วงเวลาเพื่อโจมตีได้ ที่สามารถช่วยในการต่อสู้ได้มากเพราะศัตรูในเกมแม้จะไม่ได้หลากหลายแต่ก็มีตัวโหด ๆ ที่อัดเราตายได้ง่าย ๆ และยังมีนักรบโบราณที่ใช้อาวุธระยะประชิดที่มาจากต่างมิติที่โจมตีได้รุนแรงมาก ทำให้ผู้เล่นต้องผสมสานทั้งอาวุธและพลังพิเศษถึงจะผ่านไปได้ และเราสามารถอัปเกรดได้ทั้งอาวุธและท่าพิเศษ ที่การเพิ่มค่าพลังจะทำได้ผ่านการเก็บตราหยกรูปสิงโตที่ซ่อนอยู่ในฉาก

รูปแบบการเล่นที่หลากหลาย

นอกจากการจะโดดเด่นที่ระบบอาวุธแล้วตัวละครหลักอย่าง Shelia ยังมาพร้อมกับความสามารถที่เหมือนนินจาที่สามารถปีนป่าย, กระโดด 2 จังหวะ, สไลด์ตัวเพื่อหลบหลีก และใช้ลวดสลิงเพื่อเคลื่อนที่ไปด้วยความเร็วสูงได้ รวมทั้งการวิ่งไต่กำแพงที่เมื่อมาผสมผสานกันแล้วจะทำให้เกมเพลย์มีทั้งความหลากหลายและรวดเร็วกว่าเกมยิงทั่วไปพอตัว แม้จะได้สดใหม่แบบเต็ม 100 เพราะเคยมีการใช้รูปแบบนี้ในเกมอื่นมาบ้างแล้ว

และนอกจากส่วนของเกมยิงยังเสริมด้วยส่วนของฉากที่เราต้องลอบเร้นไม่สามารถต่อสู้ได้ตรง ๆ แบบเกมสายลับและยังมีฉากที่ต้องหาทางไปต่อแบบแก้ปริศนาด้วย แม้จะไม่ได้ซับซ้อนแต่ก็ช่วยเบรคฉากแอ็กชันให้ผู้เล่นได้หายใจหายคอกันบ้าง แต่เกมเพลย์แบบนี้มันก็เป็นจุดอ่อนเพราะด้วยมุมกล้องที่มองผ่านตาผู้เล่นทำให้อาจจะเกิดอาการมึนหัวระหว่างเล่นได้ และอีกจุดอ่อนคือมันไม่มีระบบออนไลน์ให้เล่นแต่ก็พอเข้าใจได้ว่าผู้สร้างไม่ได้มีทุนสร้างที่เพียงพอที่จะยัดใส่โหมดออนไลน์ได้

Bright Memory: Infinite อาจจะไม่ใช่เกมยิงที่สมบูรณ์แบบหากมองมาตรฐานของเกมฟอร์มดี เพราะเกมเพลย์ยังไม่ลื่นไหลเท่าที่ควรแถมไม่มีระบบออนไลน์ แต่หากมองว่ามันสร้างโดยค่ายอินดี้ที่ไม่ได้มีทุนสร้างมากนัก ถือว่าทำออกมาได้ดีพอตัวพอจะมีอะไรให้ประทับใจบ้าง แต่ราคาขายบน Nintendo Switch ถือว่าแพงไปนิด แต่ถ้าคุณอยากลองเล่นก็ไปโหลดได้เลย แต่ส่วนตัวแนะนำให้รอลดราคาน่าจะดีกว่า

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส