รีวิวเกม Rockman Battle & Fighters ตำนานเกม Rockman ที่ถูกลืม

Our score

5.5

Rockman Battle & Fighters

จุดเด่น

รวมตัวละครจาก Rockman เยอะมาก
เกมเพลย์เข้าใจง่าย

จุดสังเกต

ยังเป็นภาษาญี่ปุ่นไม่มีการแปล
ตัดบางโหมดทิ้งไป

เรียกว่ามาแบบไม่ให้แฟน ๆ ได้ตั้งตัวสำหรับ Mega Battle & Fighters หรือชื่อญี่ปุ่นคือ Rockman Battle & Fighters ที่ประกาศวางขายบน Nintendo Switch แต่เชื่อว่าอาจจะมีแฟนหุ่นสีฟ้าอาจจะไม่รู้จักชื่อเกมนี้มาก่อนด้วยซ้ำ เพราะต้นฉบับไม่ได้ออกบนคอนโซลที่ประสบความสำเร็จนัก (ออกบน Neo Geo Pocket Color) และออกมาในยุคที่คนแห่ไปเล่นเกมยิงหรือ RPG มากกว่า (ในรีวิวนี้ของเรียกว่า Rockman ตามต้นฉบับ)

แม้ว่ามันจะใช่ชื่อว่า Megaman Battle & Fighters แต่เมื่อกดเข้าไปเล่นจะพบว่าตัวเกมจะใช้ชื่อ Rockman Battle & Fighters เพราะมันไม่เคยออกวางขายในโซนอเมริกามาก่อน และออกบนเครื่องพกพา Neo Geo Pocket Color ในปี 2000 ที่เป็นการนำ Rockman: The Power Battle และ Rockman 2: The Power Fighters ฉบับเกมตู้มาเป็นต้นแบบแต่ลดคุณภาพลงเพราะนำมาลงคอนโซลแบบพกพา

และที่น่าแปลกใจคือในการเอามาขายครั้งนี้กลับไม่มีการแปลเป็นภาษาอังกฤษทั้ง ๆ ที่ชื่อเกมเป็น Megaman แต่พอกดเข้ามาเล่นตัวเกมหลักกลับเป็นภาษาญี่ปุ่นล้วน ๆ เรียกว่าไม่ลงทุนเลย แถมยังตัดโหมด Co-op และระบบแลกเปลี่ยนของผ่านสายเคเบิลที่ต้นฉบับมีออกไปด้วย ถือว่าใครจะหามาเล่นก็ต้องรักซีรีส์นี้จริง ๆ แน่นอนว่าเรื่องราวก็เรียบง่ายตามแนวทางเกมตู้ ที่จะไม่ซับซ้อนเพราะแค่ออกไปต่อสู้กับ Dr. Wily เพื่อกอบกู้โลกเหมือนกับต้นฉบับ

กราฟิกสุดเชยแต่กลับเข้ากับแนวเกม

เนื่องจากเป็นการย้ายลงคอนโซลพกพาที่แสดงภาพได้ระดับ 8Bit ทำให้ภาพมันดูด้อยกว่าต้นฉบับเกมอาเขตมาก แต่เมื่อมาอยู่บนหน้าจอแบบพกพาถือว่าพอรับได้ เพราะมันเหมือนเอา Rockman สมัย 8Bit มาทำเป็นแนวต่อสู้กับบอสอย่างเดียว ทำให้กราฟิกแบบนี้กลายเป็นการย้อนยุคกันไปแบบไม่ได้ตั้งใจ และสีสันงานออกแบบอาจจะดูแตกต่างจากสมัย Famicom แต่สำหรับแฟนรุ่นเก่าแล้วเหมือนได้กลับไปเจอเพื่อนเก่าสมัยยังเด็ก

แน่นอนว่าคัตซีนในเกมมาแบบ 8Bit ที่เป็นภาพนิ่งที่ดูน่ารัก แต่เนื่องจากมันไม่ได้แปลเป็นภาษาอังกฤษทำให้แฟนเกมนอกญี่ปุ่นไม่เข้าใจเรื่องราวทั้งหมด แต่บอกใบ้ว่าฉากจบของบางตัวละครจะมีการเชื่อมต่อกับภาค Rockman X ด้วย แต่ที่แฟนเกมรุ่นเก่าน่าจะชอบมากคือเพลงประกอบ ที่ผู้สร้างได้รวมเอาเพลงคลาสสิกของซีรีส์ Rockman เข้ามารวมกันแทบทุกภาค แม้ว่ามันจะมาแบบ 8Bit แต่ก็เข้ากับแนวทางของเกมและกราฟิกได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ

เกมเพลย์เน้นสู้กับบอส

รูปแบบการเล่นใน Rockman Battle & Fighters จะไม่เหมือนเกม Rockman ทั่วไปเพราะมันจะตัดเอาส่วนของฉากตะลุยด่านทิ้งไป และเหลือไว้เพียงการต่อสู้กับบอสเท่านั้น ที่นำเสนอด้วยมุมมอง 2 มิติแบบต้นฉบับ ที่เป็นแนวทางของซีรีส์ The Power Battle ที่เป็นเกมตู้ ทำให้การเล่นเรียบง่ายมากแค่เลือกฉากสู้กับบอสเท่านั้น และเราสามารถเลือกบอสที่จะสู้ได้ตามภาคที่จะใส่ตั้งแต่ภาค 1-7 ในภาค Rockman: The Power Battle ส่วน Rockman 2: The Power Fighters จะเป็นการเลือกตามภารกิจแทน

ด้วยเกมเพลย์แบบ 2 มิติมุมมองด้านข้างเน้นแอ็กชันเต็มตัว ทำให้การควบคุมบังคับทำได้ง่ายดายไม่ซับซ้อน ตัวละครหลักจะใส่มาทั้ง Rockman (Mega Man), Blues (Proto Man), Forte (Bass), และยักษ์ใหญ่จากภาค 8 อย่าง Duo อย่างไรก็ตามแม้ทุกตัวละครจะมีความแตกต่างกัน แต่ความสามารถจะคล้ายกันมากยกเว้น Duo ที่จะมีท่าพื้นฐานเป็นการต่อยที่ใช้ระยะประชิด นอกนั้นจะคล้ายกันหมดที่ผู้เล่นจะใช้พลังยิงกระสุนและชาร์จพลังยิงรวมทั้งสไลด์เพื่อหลบหลีกได้

โหมดไม่มากแต่ตัวละครเยอะ

ความโดดเด่นของ Rockman Battle & Fighters คือการรวมเอาตัวละครหุ่นที่เป็นบอสของซีรีส์ Rockman ที่ขนมามากถึง 40 ตัวไล่ตั้งแต่ Rockman ภาค 1 ถึงภาค 7 ถือว่าเยอะมาก และตามรูปแบบของเกมที่เมื่อเอาชนะบอสได้แล้วจะได้รับพลังของมันมา ที่ในภาคนี้ก็มีแต่การใช้พลังได้จะมีเงื่อนไขเพิ่มเล็กน้อย เช่นการเก็บไอเทมก่อน และการใช้อาวุธของหุ่นตัวอื่นจะใช้ได้จำกัดเพราะมีค่าพลังกำหนด แน่นอนว่าเราสามารถเอาไปใช้กับการต่อสู้กับบอสตัวอื่นได้ และแต่ละตัวจะมีการแพ้ทางกันด้วย

ข้อดีสุด ๆ คือบอสแต่ละตัวเวลาเราไปต่อสู้จะมีการลงทุนสร้างรูปแบบการโจมตีใหม่ที่แตกต่างจากต้นฉบับ และถือว่าออกแบบการโจมตีได้ดีมาก ทำให้มีความแตกต่างและสนุกกว่าเดิม แต่มันก็มีข้อเสียคือความสมดุลของการเล่นที่แตกต่างจากภาคหลักทั่วไปมาก อาวุธใหม่ที่ได้จากบอสเวลาเราเอามาใช้กลับดูด้อย และต่อให้เจอตัวแพ้ทางก็ไม่ได้ช่วยให้เล่นง่ายขึ้น แม้จะมีการเรียกตัวละครช่วยได้เช่นน้องหมา Rush แต่ก็จะใช้ได้จำกัดและไม่ค่อยมีประโยชน์มากนัก เรียกว่าเราสามารถใช้ปืนปรกติที่มีตั้งแต่ต้นเล่นไปจนจบเกมได้เลย

สำหรับแฟนเกมแล้ว Rockman Battle & Fighters ถือว่าเล่นได้สนุกแบบไม่เสียดายเงิน เพราะราคาขายไม่แพง แต่สำหรับคอเกมทั่วไปแล้วมันธรรมดามาก แถมยังไม่ได้แปลเป็นภาษาอังกฤษยังคงเป็นภาษาญี่ปุ่นทั้งหมด และยังตัดเอาโหมดเล่นกับเพื่อนทิ้งไปด้วย ถือว่าไม่ลงทุนอะไรเลยกับการย้ายมาลง Nintendo Switch แต่หากคุณอยากเล่นเกม Rockman แบบเดิม ๆ มันก็พอจะมีความสนุกให้สัมผัสอยู่ แต่มันก็เหมาะสำหรับแฟนตัวจริงเท่านั้น

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส