รีวิวเกม JoJo's Bizarre Adventure All-Star Battle R โจโจ้ฉบับอัปเกรด

Our score

8.0

JoJo's Bizarre Adventure All-Star Battle R

จุดเด่น

เกมเพลย์สนุกเหมือนเดิม และมีโหมดใหม่
มีตัวละครให้เลือกเยอะมาก

จุดสังเกต

ไม่ใช่ภาคใหม่แค่อัปเกรดของเดิม
ราคาเกมค่อนข้างแพง

ในวงการการ์ตูน JoJo’s Bizarre Adventure เป็นหนึ่งในตำนาน ที่มีการสร้างภาคต่อมาตลอด 30 ปี และยังมีการสร้างออกมาเป็นเกมมาตั้งแต่ยุค 90S และมีการสร้างออกมาหลายแนวไม่ว่าจะเป็น RPG หรือแอ็กชัน ที่เชื่อว่าแฟน Jojo ต้องเคยเล่นมาบ้าง

และหนึ่งในเกมที่สร้างจากการ์ตูน JoJo ที่โด่งดังที่สุดคือภาค JoJo’s Bizarre Adventure All-Star Battle ที่เปิดตัวในปี 2013 บน PS3 ที่มาแนวต่อสู้ที่มีฉากแบบมุมมองด้านข้าง ที่มาพร้อมกับงานออกแบบที่โดดเด่นเกมเพลย์ก็ทำได้ลื่นไหล แน่นอนว่ามันประสบความสำเร็จพอตัวเพราะสามารถถ่ายทอดความเป็น JoJo มาเป็นเกมได้ลงตัวมาก ทำให้มีการสร้างนำมาอัปเกรดและเติมตัวอักษร R ต่อท้ายชื่อเกม และออกวางขายบน PS4, PS5, Xbox One, Xbox Series X/S, Nintendo Switch และ PC

เนื้อเรื่องใน JoJo’s Bizarre Adventure All-Star Battle R ในส่วนของโหมด All Star Battle จะเป็นการนำเรื่องราวในการ์ตูน JoJo ไล่ตั้งแต่ภาค Phantom Blood ไปจนถึง JoJolion เรียกว่าครบทุกภาคและยังเรียงร้อยออกมาได้ยอดเยี่ยม มีการอ้างอิงถึงเวอร์ชันหนังสือการ์ตูน และยังมาพร้อมกับเรื่องราวบางส่วนที่แตกต่างด้วย ใครเป็นแฟนตัวจริงรับประกันว่าต้องชอบมาก แต่หาคุณไม่ได้ชื่นชอบ JoJo อาจจะรู้สึกเฉย ๆ

กราฟิกแบบการ์ตูนแต่ไม่ได้อัปเกรด

ภาพในเกมเป็นการยกเอาต้นฉบับที่วางขายบน PS3 มาขายใหม่แบบไม่ได้ปรับอะไร แต่ของเดิมก็ทำออกมาได้ดีแล้ว เป็นกราฟิกที่สามารถจำลองลายเส้นจากการ์ตูน JoJo ได้สมบูรณ์แบบไม่มีที่ให้ติ และการนำมาขายใหม่ยังเพิ่มตัวละครใหม่เข้าไปอีกเป็น 50 ตัว และยังใช้ได้ตั้งแต่เริ่มต้นด้วย ถือว่าของเดิมทำได้ดีอยู่แล้วไม่ต้องไปเพิ่มอะไรมากมายก็ดูดีแม้จะผ่านมาหลายปี

ส่วนเพลงประกอบแน่นอนว่าต้องยกเอามาจากการ์ตูนในบางส่วน และมีการใส่เพลงธีมที่เข้ากับแนวต่อสู้รวมทั้งเสียงพากย์ก็มีมาให้ครบ และยังมีอ้างอิงหลายสิ่งเข้ามามากมายแต่มันก็ถือว่าเป็นข้อเสียเพราะหากเราไม่ใช่แฟนตัวจริงแล้วก็คงไม่รู้ว่าผู้สร้างใส่อะไรมาเอาใจบ้าง และมีการรวมฮิตเอาเพลงประกอบมาให้ฟังด้วย แต่ต้องปลดล็อกก่อนถึงจะเอามาฟังได้

รูปแบบการเล่นไม่เปลี่ยนแต่ยังไม่เชย

เนื่องจากมันเอาของเก่ามาขายใหม่ทำให้เกมเพลย์ของ JoJo’s Bizarre Adventure All-Star Battle R ยังคงเหมือนกับภาคเดิม ที่เป็นเกมต่อสู้ที่ใช้มุมมอง 2 มิติจากด้านข้าง ที่เป็นการผสมผสานความเป็น Street Fighter กับ Tekken ได้ลงตัว และยังนำความเป็นการ์ตูน JoJo ใส่เข้ามาตลอดการเล่น ไม่ว่าจะเป็นเนื้อเรื่องก่อนเข้าฉาก หรือระหว่างการเล่นก็ยัดใส่เข้ามาได้ลงตัว

ในส่วนของการปล่อยท่าไม้ตายที่ถือว่าเป็นหัวใจหลักในการเล่น จะมีความคล้ายกับ Street Fighter เพราะต้องกดปุ่มทิศทางไปพร้อมกับการโจมตี แต่จะมีการใส่การทำคอมโบเข้ามาด้วย และยังสามารถเบี่ยงตัวหลบการโจมตีในฉากได้ที่ส่วนนี้จะคล้ายกับ Tekken แต่ทุกอย่างจะย่นย่อลงมาให้กดไม่ยากนักตามแนวทางของเกมต่อสู้ยุคใหม่ เช่นท่าไม้ตายสุดยอดที่ต้องสะสมค่าพลังจะใช้การกดปุ่มแบบเดียวกันหมด

นอกจากนี้ยังสามารถใช้พลังของ Stands มาร่วมสู้ได้ที่จะมาทั้งแบบเป็นท่าไม้ตาย และเรียกออกมาช่วยสู้ได้ ส่วนตัวละครในเกมที่ขนมาให้ใช้มากถึง 50 ตัวละครถือว่าอัปเกรดจากภาคต้นฉบับที่มี 41 ตัว และทุกตัวละครจะมีความสามารถแตกต่างกัน รวมทั้งขนาดด้วยเพราะมีตัวละครที่เป็นน้องหมาตัวจิ๋วแต่เป็นผู้ใช้ Stands มาให้เลือกใช้งานด้วย

มีโหมดใหม่มาให้เล่น

ในภาค JoJo’s Bizarre Adventure All-Star Battle R จะมีการเปลี่ยนแปลงในโหมดการเล่น เพราะโหมดเนื้อเรื่อง และแคมเปญจะถูกรวมเข้าด้วยกันเป็นโหมดใหม่ในชื่อ All Star Battle ที่เหมือนจะเป็นการนำเรื่องราวในการ์ตูนทุกภาคมารวมกันให้เล่น แต่ในฉากนี้เราจะเลือกตัวละครเองไม่ได้โดยตรงเพราะจะเดินเรื่องตามฉบับการ์ตูน แต่จะมีเรื่องราวที่แตกต่างแบบเดียวกับซีรีส์ What-if ของ Marvel และเมื่อเราชนะการต่อสู้ได้จะได้รับเหรียญทองมาเพื่อปลดล็อกภาพประกอบงาม ๆ รวมทั้งชุดใหม่ของตัวละครและยังมีไอเทมพิเศษอื่นด้วย

ส่วนโหมดอาเขต เหมือนกับเกมต่อสู้ทั่วไปที่จะเลือกตัวละครมาต่อสู้ แต่จะมีโหมดที่เล่นไปเรื่อย ๆ กับเล่นตามเรื่องราวที่กำหนดแต่จะไม่เกี่ยวกับในการ์ตูนและในโหมดนี้จะสามารถเลือกตัวละครผู้ช่วยออกมาอัดศัตรูได้ แต่จะไม่ได้สลับกันเล่นเพียงแต่มาช่วยต่อสู้เท่านั้น แน่นอนว่าต้องมีโหมดออนไลน์มาให้เล่นกัน ที่ความโดดเด่นคือมีภารกิจออนไลน์ที่ต้องทำเรื่องราวตามที่เกมกำหนดที่อ้างอิงเรื่องราวจากการ์ตูนด้วย ถือว่ามีอะไรแตกต่างให้เล่นกันพอสมควร

แม้ว่าการกลับมาอีกครั้งใน JoJo’s Bizarre Adventure All-Star Battle R จะเป็นการเอาของเก่ามาปรับเพิ่มไม่ได้เป็นการสร้างใหม่ทั้งหมด แต่ความสนุกก็ถือว่าทำได้ดีอยู่แล้ว เพราะเป็นเกมต่อสู้ที่สนุกและยังจำลองเอาความเป็นการ์ตูน JoJo ได้สมบูรณ์แบบ เสียดายเล็กน้อยที่กราฟิกน่าจะทำได้ดีกว่านี้สักหน่อยเพราะมันเหมือนเดิมแทบไม่เปลี่ยน แต่สำหรับแฟนตัวจริงแล้วคุ้มค่าที่จะหามาเล่นแน่นอน

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส