Our score
7.0HAAK
จุดเด่น
- รูปแบบการเล่นผสมผสานได้ลงตัว
- ระบบต่อสู้ที่ปรับแต่งได้หลากหลาย
จุดสังเกต
- เฟรมเรตตกภาพกระตุกบางฉาก
- ไม่ค่อยมีอะไรแปลกใหม่นัก
หลายคนอาจจะเริ่มเบื่อเกมแนว Metroidvania กันบ้างแล้ว เพราะมีออกมานับร้อย ๆ เกมแต่เนื่องจากมันได้รับความนิยม และมีต้นแบบเป็นตำนานของวงการเกมทั้งซีรีส์ Metroid และ Castlevania ทำให้ไม่แปลกใจที่ค่ายอินดี้จะนิยมเอามาสร้างเพราะใช้ทุนไม่มากและหากทำได้ดีก็หมายถึงผลตอบรับเป็นเงินก้อนโต
และล่าสุดมีการเปิดตัวเกมชื่อแปลกอย่าง HAAK ที่เป็นผลงานของค่าย Blingame ผู้ผลิตเกมหน้าใหม่วางขายบน Nintendo Switch แต่มันไม่ใช่เกมใหม่เพราะมันเคยวางขายมาแล้วบน PC แล้วในปี 2020 แต่ด้วยกราฟิกที่ดูแปลกตาและการมาขายใหม่อีกครั้งบนคอนโซลของปู่นินทำให้มันน่าสนใจเพราะ แนว Metroidvania ได้รับความนิยมอย่างมากบน Switch
เรื่องราวในเกม HAAK จะเกิดขึ้นในดินแดน Eschatological โลกที่ล่มสลายกลายเป็นดินแดนที่รกร้าง และเต็มไปด้วยอันตราย ที่มีทั้งสัตว์กลายพันธุ์หรือหุ่นยนต์ที่ไล่ล่าเรา ถือว่าเรื่องราวมีความมืดมนพอสมควร และงานออกแบบรวมทั้งการเล่าเรื่องเหมือนการ์ตูนอินดี้ที่ไม่ได้สวยงามนัก บางตัวละครเหมือนหลุดมาจากหนังสยอง และผู้เล่นที่อยากเข้าใจเรื่องราวก็ต้องขยันอ่านสักหน่อย เพราะแทบจะมีมาให้อ่านตลอดเกม
กราฟิกย้อนยุคที่ดูแปลกตา
แน่นอนสำหรับเกมจากค่ายเล็ก ๆ ต้องมาแนวทางกราฟิกย้อนยุคที่เกมนี้ก็ยังใช้รูปแบบเดียวกัน ที่ภาพจะเหมือนหลุดมาจากยุค 90S บนคอนโซล 16Bit แต่มันไม่ได้ดูเชยเพราะหากมองกราฟิกดี ๆ จะพบว่าการเคลื่อนไหวในเกมมีรายละเอียดมากกว่า นอกจากนี้งานออกแบบยังเน้นแสงเงามีการใช้สีไม่มากทำให้มันดูอินดี้มากกว่าเกมย้อนยุคทั่วไป
อย่างไรก็ตามการมาวางขายบน Nintendo Switch เฟรมเรตไม่ลื่นไหลเท่าที่ควร โดยเฉพาะฉากไล่ล่าที่ต้องใช้ความเร็วสูงและมีศัตรูในฉากจำนวนมาก ผู้เล่นจะพบว่าภาพจะเกิดอาการกระตุกไม่ลื่นไหลเท่าที่ควร บางครั้งต้องปิดเกมแล้วเข้าใหม่ถึงจะหายทำให้น่าผิดหวังพอสมควร ส่วนเพลงประกอบถือว่าทำออกมาเรียบไปหน่อยเน้นเพลงธีมเรียบ ๆ เข้ากับฉากหลังที่เป็นโลกที่ล่มสลาย ที่อาจจะชวนหลับในบางฉาก
รูปแบบการเล่นเน้นสำรวจ
อย่างที่บอกไปแล้วว่า HAAK มาแนว Metroidvania แบบ 2 มิติมุมมองด้านข้างที่ผู้เล่นจะได้สำรวจฉาก และต่อสู้กับศัตรูรวมทั้งหลบหลีกกับดัก เพื่อเปิดทางไปฉากต่อไปที่ค่อนข้างซับซ้อนพอตัว แต่ผู้สร้างก็ไม่ได้ใจร้ายเพราะมีการใส่คำบอกใบ้รวมทั้งบอกตำแหน่งที่ต้องไปทำภารกิจหรือจุดที่ไอเทมสำคัญอยู่บนแผนที่ แต่ก็ไม่ได้บอกตรง ๆ เรายังต้องหาเส้นทางไปเอง
ฉากในเกมจะแบ่งออกเป็นส่วน ๆ เหมือนเป็นด่านแต่เราจะสามารถกลับไปฉากเก่าได้ และยังมีจุดวาร์ปมาให้ใช้งานทำให้ไม่ต้องเดินทางกันยาวนาน นอกจากนี้ความสนุกของเกมยังไม่ได้มาแค่เน้นการสำรวจ ยังมาพร้อมกับการต่อสู้เพราะศัตรูมีความโหดพอตัว และยังมาพร้อมกับฉากไล่ล่าที่ผู้เล่นต้องหลบหนีไม่สามารถต่อสู้ได้ เพราะฉากที่กำลังถล่มลงมา แม้ว่ามันอาจจะไม่สดใหม่แต่ทำได้ออกมาดีพอตัว
แอ็กชันที่รวดเร็วและต้องใช้ฝีมือ
แอ็กชันใน HAAK ก็ทำได้ดีพอตัว เพราะมีรูปแบบการเล่นที่แม้จะไม่มากแต่จะเน้นการใช้ฝีมือที่ผู้เล่นต้องสลับเปลี่ยนอาวุธและความสามารถมาใช้งานตลอดการเล่น ส่วนอาวุธหลักของเกมจะเป็น Energy Hook ที่จะมีความสามารถในการเปลี่ยนรูปร่างเป็นอาวุธที่หลากหลายไม่ว่าจะการโจมตีระยะประชิด หรือใช้เป็นปืนยิงลวดสลิงไว้ทั้งห้อยโหนไปยังที่สูงและยังโจมตีศัตรูได้ด้วย
นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับอาวุธเสริมเช่นพลังโจมตีทำลายกำแพง หรือท่าพิเศษที่มีทั้งการพุ่งตัวกลางอากาศ ที่จะค่อย ๆ อัปเกรดออกมาให้ใช้งานตลอดการเล่น และเมื่อได้รับพลังใหม่ก็จะเอาไปปลดล็อกเดินทางไปฉากใหม่ได้ ส่วนระบบเติมพลังจะใช้รูปแบบการเก็บค่าพลังไว้ก่อนและเมื่อเก็บจนเต็มจะกดใช้เพื่อเพิ่ม HP ได้แต่จะใช้ได้จำกัด ปิดท้ายกับการอัปเกรดตัวละครที่ต้องเก็บเงินมาเพิ่มค่าพลังในส่วนต่าง ๆ แต่ค่อนข้างหาเงินได้ยากมาก เพราะเงินในเกมนี้จะซ่อนอยู่ในฉากเราต้องออกค้นหาไม่ได้มาจากศัตรู
บอสในเกมก็มีทั้งประเภทที่ทรงพลังและมีการโจมตีที่รุนแรง แต่ก็ยังมีบอสขนาดเล็กแต่มีความเร็วสูง เราต้องจับจังหวะการโจมตีของมันได้แล้วต้องหาช่องว่างสวนกลับ อย่างไรก็ตามมันก็ไม่ง่ายนัก เพราะนอกจากต้องเลือกใช้อาวุธให้ถูกต้องแล้วยังต้องใช้ท่าที่เรามีทั้งหมดในการต่อสู้ แต่มันเป็นหนึ่งในจุดเด่นที่ทำให้ HAAK สนุกไม่น่าเบื่อ
โดยรวมแล้ว HAAK ก็เหมือนกับเกมแนว Metroidvania 2 มิติทั่วไปเพราะมันไม่ได้แตกต่างหรือโดดเด่นมากนัก ทุกอย่างยังคงอยู่ในมาตรฐาน แต่ก็ไม่ได้ดูแย่ยิ่งเมื่อเทียบกับฟอร์มทีมงานสร้างแล้วถือว่าทำได้ดีเกินคาดเลยด้วยซ้ำ ใครอยากเล่นเกมแนวสำรวจฉากที่มีความคลาสสิกในตัว และยังมีความยากที่ทำให้เราหัวร้อนได้แนะนำว่าไปหามาเล่นได้เลย
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส