Our score
7.5รีวิวเกม Souldiers กองทัพอัศวินตะลุยดันเจี้ยน
จุดเด่น
- ฉากซับซ้อนที่มีขนาดกว้างมาก
- ระบบแอ็กชันที่หลากหลาย
จุดสังเกต
- บน Switch พบอาการภาพกระตุกและโหลดนานมาก
- ไม่ได้แปลกใหม่หรือแตกต่างจากเกมแนวนี้มากนัก
ในยุคนี้หากคุณชอบเกมแนวย้อนยุค 2 มิติเน้นสำรวจฉากแก้ปริศนา ถือว่าเป็นยุคทองของคุณ เพราะมีการสร้างออกมาให้เล่นตลอด และยังคิดลูกเล่นใหม่มาผสมผสานเข้าไปกับรูปแบบการเล่นเดิม ๆ จนเกิดเป็นเกมน่าเล่นออกมาต่อเนื่อง
และ Souldiers เกมที่นำมารีวิวในวันนี้คือหนึ่งในเกมเน้นสำรวจที่น่าสนใจ โดยมันเป็นผลงานจากค่ายเล็ก ๆ อย่าง RetroForge ที่นำแอ็กชัน 2 มิติมุมมองด้านข้าง มาผสมผสานกับการสำรวจฉากที่คล้ายกับแนว Metroidvania มายำรวมกันได้ลงตัว และยังใส่ความโหดของเกมเพลย์จนเกือบจะเป็น Dark Souls ฉบับ 2 มิติที่ชวนหัวร้อนกันได้พอประมาณ โดยเกมจะวางขายบน Nintendo Switch, PlayStation 4, Xbox One, PC, Xbox Series และ PlayStation 5
เรื่องราวในเกมจะถือว่าเรียบแต่มีการลงทุนทำการ์ตูนคัตซีนเป็นการ์ตูนมาให้ชม เนื้อเรื่องเราจะไดรับบทเป็นกองทหารอัศวินยุคกลางแห่งกองกำลัง Zargian ที่ต้องไปทำภารกิจเพื่อต่อสู้กับอาณาจักร Dadelm แต่เกิดเหตุไม่คาดฝันเพราะระหว่างสำรวจถ้ำได้เกิดแผ่นดินไหวทำให้เหล่าทหารถูกขังไว้ในดันเจี้ยนขนาดใหญ่และพบว่ามันเชื่อมต่อกับดินแดนที่ลึกลับ โชคยังดีที่เหล่าทหารได้รับการช่วยเหลือจากเทพ valkyrie เพื่อนำทางและออกไปทำภารกิจต่อสู้เพื่อปกป้องดินแดนอีกครั้ง
กราฟิกแบบพิกเซล 16Bit
สิ่งที่ต้องชมอย่างแรกคือการจำลองภาพแบบ 2 มิติที่ใช้แบบพิกเซลสร้างตัวละครและฉาก เพราะมันทำได้เหมือนกับของเก่าสมัย 16Bit จริง ๆ แต่ได้เสริมเอาลูกเล่นแสงสีของกราฟิกยุคใหม่เข้าไปให้ดูแปลกตา การเคลื่อนไหวของตัวละครยังใช้รูปแบบเดียวเกมในอดีนที่ไม่ได้ลื่นนักเพื่อคงความคลาสสิก ส่วนตัวละครในเกมจะมาแบบ SD หัวโตตัวเล็กที่ดูน่ารักซึ่งขัดกับความยากในเกมพอสมควร
แต่ที่น่าผิดหวังคือความลื่นไหลสำหรับเวอร์ชัน Nintendo Switch ที่ยังไม่ลื่นเท่าที่ควร แถมยังโหลดนานมากเวลาเปลี่ยนฉาก ทั้ง ๆ ที่กราฟิกไม่ได้ดูดีมากแต่กลับโหลดนานจนแทบหลับ ใครอยากเล่นแบบลื่น ๆ แนะนำไปเล่นบนเครื่องอื่นน่าจะดีกว่า หันมามองที่เพลงประกอบถือว่าสอบผ่านแต่ก็ไม่ได้โดดเด่นนัก อย่างไรก็ตามมันไม่ได้ใช้เพลงแบบสมัย 16Bit เป็นซาวด์ดนตรียุคใหม่ แต่ก็ทำออกมาได้เข้ากับเกมอย่างดีแม้ไม่มีเพลงติดหูนัก
เกมเพลย์เน้นสำรวจ
เมื่อเริ่มเกม Souldiers เราจะได้เลือกตัวละครก่อนที่จะแบ่งตามอาชีพที่มี นักรบที่เน้นโจมตีระยะประชิด, นักธนูไว้ยิงไกล และจอมเวทจะเน้นใช้พลังเวทโจมตีรุนแรง ซึ่งทุกตัวละครจะมีข้อดีข้อด้อยแตกต่างกันดังนั้นหากจะใช้อาชีพไหนก็ต้องเลือกให้ดีก่อน และมันทำให้เกมเพลย์แตกต่างกันมากแต่ผู้สร้างก็ออกแบบด่านมารองรับได้ดี ทุกตัวละครสามารถเล่นได้หมด
เมื่อเข้าเกมจะพบว่ามันคือแอ็กชัน 2 มิติมุมมองด้านข้างที่เข้าใจง่าย ผู้เล่นจะบังคับอัศวินตะลุยไปในฉากที่ซับซ้อนและมีภูมิประเทศที่หลากหลายแม้ว่ามันจะอยู่ในดันเจี้ยนเดียว ซึ่งการเล่นก็ง่าย ๆ เพราะเราต้องแก้ปริศนาเพื่อเปิดทางไปต่อทั้งหากลไกเพื่อเปิดประตู หรือค้นหาไอเทมพิเศษแล้วเอามาใช้เปิดทางเช่นระเบิดที่คล้ายกับซีรีส์ Zelda แต่จะใช้ได้จำกัดต้องเก็บค่าพลังจากศัตรูทำให้การเรียกใช้งานไอเทมพิเศษต้องคิดให้ดีก่อน
งานออกแบบฉากถือว่าทำได้ดีงามพอสมควร เพราะมีทั้งความกว้างและยาวรวมทั้งมีความซับซ้อนมาก และยังต้องเดินทางกลับไปด่านเก่าเพื่อเปิดเส้นทางใหม่ แน่นอนว่าต้องมีจุดวาร์ปอยู่ด้วยไม่งั้นคงเดินกันนานเกินไปจนเบื่อแน่ ข้อดีคือเราสามารถเดินสำรวจได้อิสระจะไปไหนก่อนก็ได้แต่ในบางจุดต้องเก็บความสามารถหรือไอเทมที่กำหนดก่อนถึงจะไปได้
แอ็กชันที่มีความท้าทายพอตัว
นอกจากรูปแบบการสำรวจจะทำออกมาได้ดีแล้ว ในส่วนของแอ็กชันก็จัดเต็มเช่นกันเพราะเกมมีท่าไม้ตายพิเศษมาให้ใช้มากมาย ที่จะค่อย ๆ อัปเกรดออกมาให้ใช้งาน และนอกจากเอาไว้โจมตีแล้วยังไว้แก้ปริศนาได้ด้วยเช่นพลังดาบไฟที่เอาไว้จุดคบเพลิงเพื่อให้ฉากสว่างขึ้นได้ และยังมีท่าไม้ตายสุดโหดที่มีพลังรุนแรง แต่จะใช้ได้จำกัดต้องเก็บค่าพลังกันใหม่ นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบเลเวลมาให้เราเก็บกันด้วย ส่วนการฟาร์มของเก็บเลเวลก็ทำได้ไม่ยากเพราะมีจุด Save ไว้เติมพลังอยู่หลายจุดในดันเจี้ยน
จุดเด่นที่แฟนเกมยุคใหม่น่าจะชอบคือความยากในเกมที่ใส่เข้ามาพอตัว ศัตรูโจมตีได้หลายรูปแบบและมีความรุนแรง และในฉากยังมีกับดักโหด ๆ ที่ซ่อนอยู่ที่หากเดินไม่ระวังแล้วก็จะพลาดตายได้ง่าย ๆ บอสในเกมก็มีการโจมตีหลายแบบ แต่หากจับจุดได้ก็สู้ได้แต่เนื่องจากมันโจมตีแรงมากทำให้เราต้องระวังตลอด แถมยาเติมพลังก็มีแต่จำกัดมากทำให้การท่องไปในดันเจี้ยนต้องมีหัวร้อนกันบ้าง แต่มือใหม่ก็ไม่ต้องห่วงเพราะมีโหมดง่ายมาให้เล่นแต่ก็ไม่ได้ง่ายแบบสุด ๆ ยังพอมีความโหดให้สัมผัสบ้าง
สรุปแล้วใครชอบแนวสำรวจฉากเกม Souldiers ถือว่าตอบสนองความต้องการได้ในระดับน่าพอใจ แม้ว่ามันจะไม่ได้แตกต่างจากแอ็กชันเน้นสำรวจเกมอื่นมากนัก แต่ก็พอจะมีความโหดท้าทายผู้เล่นได้หัวร้อนพอประมาณ แต่ข้อเสียเล็ก ๆ คือบางฉากอาจจะมีมุมอับที่ทำให้เราพลาดตายได้ง่าย ๆ รวมทั้งบน Nintendo Switch ที่โหลดนานและภาพไม่ลื่นไหลมีการระตุก นอกนั้นถือว่ามันเป็นอีกเกมที่ผสมความเป็นแอ็กชันกับ Metroidvania ได้ลงตัว
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส