รีวิวเกม The DioField Chronicle เกมแนว RTS จากค่าย Square Enix
Our score
8.0

The Diofield Chronicle

จุดเด่น

  1. เกมเพลย์แนว RTS ที่รวดเร็วเข้าใจง่าย
  2. ระบบไม่ยุ่งยากและตั้งค่าได้เยอะ

จุดสังเกต

  1. ภาพในเกมธรรมดาไปหน่อย

หนึ่งในแนวทางการสร้างเกมที่เคยได้รับความนิยมอย่างมากในอดีตคือแนว Real-time strategy หรือเรียกย่อ ๆ ว่า RTS ที่มาแนวสั่งการกองทัพวางแผนการรบแบบเวลาจริง ที่มีเกมดังระดับตำนานทั้ง StarCraft หรือ Warcraft แม้ว่าทุกวันนี้อาจไม่ได้รับความนิยมเท่ายุคก่อน แต่หากทำออกมาดีมันก็ยังน่าเล่นอยู่

เกมล่าสุดที่มารีวิวให้ชมมาจากค่าย Square Enix ที่หยิบเอาแนว RTS มาสร้างเป็นซีรีส์ใหม่ในชื่อ The DioField Chronicle ที่เปิดตัวอย่างเงียบ ๆ เพราะหลังจากปล่อยเดโมให้เล่นก็ได้รับเสียงตอบรับไม่ค่อยดีนัก แต่ด้วยชื่อของค่ายและตัวละครที่ออกแบบโดยทีมงานสร้าง Final Fantasy XII ทำให้มันพอจะน่าสนใจ โดยเกมวางขายบน PS4, PS5, Xbox One, Xbox Series X/S, Nintendo Switch และ PC

เรื่องราวใน The Diofield Chronicle เกิดขึ้นในทวีปที่กำลังเกิดสงครามระหว่างอาณาจักร Alletain กับจักรวรรดิ Trovelt-Schoevian และ Rowetale Alliance ตัวละครหลักจะเป็นกลุ่มทหารรับจ้าง “Blue Foxes” ที่ทำงานกับ Alletain เรื่องราวในเกมจะเล่าผ่านคัตซีนคุณภาพดีที่มีทั้งการกำกับภาพและเสียงพากย์ และแบบภาพนิ่งมาผสมผสานกันทำให้ดูไม่เชยจนเกินไป ฉากหลังมาแนวยุคกลางแบบแฟนตาซีที่มีความคล้ายกับซีรีส์ Fire Emblem ของปู่นินอยู่บ้าง

กราฟิกธรรมดาไปหน่อย

ปรกติแล้วเกมฟอร์มดีจาก Square Enix จะเน้นกราฟิกสวยงาม แต่ในเกมนี้กลับทำออกมาได้ธรรมดามาก ๆ แม้ว่าจะใช้ Unreal ในการสร้างกราฟิกก็ตาม แต่รายละเอียดของฉากก็ไม่ได้ดูดีนัก ลูกเล่นของฉากทั้งแสงสีก็เรียบ ๆ แถมตัวละครแม้จะได้ทีมงานออกแบบระดับเทพมาร่วมงาน แต่โมเดลตัวละครดูแข็ง ๆ ไม่สมจริงแถมรายละเอียดยังขาดไปหลายส่วน เหมือนเกมสมัย PS3 มากกว่า รวมทั้งเฟรมเรตเมื่อเล่นบน Switch ก็มีอาการกระตุกไม่ลื่นไหลถือว่าน่าผิดหวังพอสมควรสำหรับคนที่หวังจะเห็นภาพสวย ๆ

เพลงประกอบในเกมถือว่ามาแปลกแตกต่างจากซีรีส์อื่น เพราะทาง Square Enix ใช้ทีมงานนอกมาแต่งเพลง และยังได้มือทองที่เคยแต่งดนตรีในเกม Gear Of War และยังได้คนแต่งเพลงประกอบซีรีส์ Game of Thrones มาร่วมงานซึ่งถือว่าทำได้ดีพอตัวมีดนตรีที่เข้ากับกราฟิกและแนวทางการเล่น แต่สิ่งที่ The Diofield Chronicle ขาดไปคือเพลงธีมหลักที่ติดหู แต่โดยรวมก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรฟังได้เพลิน ๆ

เกมเพลย์เน้นความรวดเร็วไม่ต้องรอ

อย่างที่บอกไปคือว่ามันคือแนววางแผนการรบ Real-time strategy ที่เข้าใจง่ายมาแต่เลือกตัวละครที่ต้องการใช้งาน แล้วลากไปต่อสู้กับศัตรู โดยจะสามารถเลือกหลายตัวละครได้พร้อมกันและที่ต้องชมทีมงานมากคือมีการ ปรับให้เข้ากับการใช้จอยเกมเล่นได้ลงตัว เราสามารถสั่งการกองทหารของเราได้อย่างรวดเร็ว และเรายังสามารถกดดูแผนที่ใหญ่โดยรวมเพื่อวางแผนได้ทันที ทำให้หากมองถึงการบังคับแล้วทำได้ดีเข้าใจง่าย

แน่นอนว่ามันใช้ระบบเวลาจริงทำให้ไม่มีเวลาให้คิดมากนัก เพราะระหว่างตัวละครเราเคลื่อนที่ศัตรูก็เดินมาหาเราด้วยเช่นกัน เหมือนกับการทำสงครามจริง ๆ ไม่ได้ผลัดกันเดินคนละตา ทำให้ทุกอย่างต้องรีบที่เป็นจุดเด่นของเกมแนว RTS แต่ในการเลือกใช้ท่าไม้ตายพิเศษนอกจากการโจมตีปรกติจะมีการหยุดเกมเพลย์ไว้ทำให้พอจะมีเวลาคิดอยู่รวมทั้งการใช้ยาเติมพลังด้วย ส่วนระบบโจมตีจะมีทั้งอาวุธระยะประชิดอย่างดาบหรือขวาน และอาวุธยิงไกลเช่นยิงพลังเวทมนตร์หรือธนูมาให้ใช้งานด้วย

ระบบเข้าใจไม่ยาก

ในตอนแรกคิดว่าเกมอาจจะยุ่งยากเพราะต้องบังคับตัวละครมากมาย แต่พอได้เล่นจริง ๆ แล้วทุกอย่างถูกทำให้เข้าถึงได้ง่ายมาก ไล่ตั้งแต่ฉากที่ไม่ได้กว้างนักมีการอธิบายอย่างละเอียดว่าต้องทำภารกิจอะไรในฉากและมันก็ไม่ได้ซับซ้อนนัก ผู้เล่นสามารถเลือกแล้วสั่งหลายตัวละครได้พร้อมกันแบบง่ายดาย และอย่างที่บอกไปว่าการปรับให้ใช้ปุ่มกดถือว่าช่วยให้การเล่นลื่นไหลไม่มีสะดุด

อีกส่วนที่สำคัญคือระบบอัปเกรดตัวละคร ที่ไม่ได้ซับซ้อนแต่ก็ทำได้หลายอย่างที่มีทั้งการระบบใส่อาวุธและเครื่องป้องกันเช่นชุดเกราะ และยังมาพร้อมกับระบบเลเวลที่ต้องมีอยู่แล้วบวกกับการเพิ่มค่าสกิลที่ใช้การเดินสายการพัฒนาตัวละครที่เหมือนกับเกมอื่นทั่วไปไม่ได้แปลกใหม่แต่ก็เข้าใจง่าย ส่วนจุดเด่นของ The Diofield Chronicle ท่าไม้ตายเรียกอสูรที่มีพลังทำลายล้างสูงแต่จะใช้ได้จำกัดต้องเก็บค่าพลังก่อน ที่มีตัวในตำนานของซีรีส์ Final Fantasy อย่าง Bahamut และยังอัปเกรดได้ด้วยแต่มันใช้ต่อเนื่องไม่ได้ทำให้ต้องวางแผนการใช้ให้ดี เพราะมันอาจเป็นตัวตัดสินแพ้ชนะได้เลย

เกมปรับให้รวดเร็วและมีความท้าทาย

จุดที่แฟนเกมรุ่นใหม่ต้องชอบคือการย่อทุกอย่างให้เข้ากับเกมเพลย์ยุคใหม่ที่เน้นความรวดเร็ว เพราะในฉากฐานทัพของที่ปรกติแล้วจะบังคับตัวละครเดินไปทำภารกิจในฉากที่เหมือนปราสาท ซึ่งหากต้องเดินสำรวจมันอาจทำให้เกมเดินเรื่องช้า ผู้สร้างเลยได้ใส่ระบบเลือกจุดที่ต้องการจะไปบนแผนที่ได้เลยไม่ต้องเดินให้เสียเวลา และยังมีการบอกว่าต้องไปรับภารกิจที่จุดไหน ถือว่าช่วยให้การเล่นรวดเร็วมาก

ส่วนความยากถือว่ามีมาท้าทายผู้เล่นพอสมควร เพราะหากสั่งการมั่ว ๆ ไม่วางแผนให้ดีก่อนรับประกันว่าตายหมู่แน่ อีกทั้งภารกิจในเกมก็ใส่มาหลายรูปแบบไม่ใช้แค่กำจัดศัตรูให้หมดฉาก ยังมีภารกิจคุ้มกันรถม้าไปให้ถึงเป้าหมาย หรือฉากที่ต้องแยกทีมไปทำภารกิจทำให้ต้องวางแผนให้ดีก่อนจะสั่งการ ศัตรูก็ใส่มาทั้งทหารธรรมดา และยังมีพวกที่ไม่ใช่มนุษย์เช่นยักษ์ หรือหมาป่า ทำให้มีอะไรให้เราหัวร้อนตลอด แต่สำหรับมือใหม่ก็มีโหมดง่ายใส่เข้ามาให้เลือกด้วย

เกม The Diofield Chronicle ถือว่าเป็นความพยายามของ Square Enix ในการสร้างซีรีส์เกมแนว Real-time strategy เป็นของตัวเอง แม้ว่าความสนุกอาจจะยังไม่สุด และกราฟิกในเกมก็ยังดูเชยไปหน่อย แต่เกมเพลย์โดยรวมถือว่าสอบผ่านมีอะไรให้เราสนุกไปพร้อมกับการวางแผนการรบตลอดการเล่น ใครชอบแนว RTS มันก็เป็นทางเลือกที่ไม่ทำให้ผิดหวังถ้าไม่คาดหวังไว้มากเกินไป

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส