Our score
6.5Various Daylife
จุดเด่น
- เกมเดินเรื่องเร็ว
- ระบบเข้าใจง่าย มีอะไรให้ทำเยอะ
จุดสังเกต
- เกมขาดความอิสระ
- กราฟิกธรรมดาเกินไปสำหรับเกมคอนโซล
สำหรับค่าย Square Enix ที่ถนัดสร้างเกมแนว RPG มาตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา และนอกจากซีรีส์หลักอย่าง Final Fantasy และ Dragon Quest แล้วยังมีการแยกย่อยออกมาเป็นซีรีส์แนว RPG มากมายจนนับไม่หมดที่มีทั้งเดินตามรอยเดิมและคิดรูปแบบใหม่ที่แตกต่าง
และหนึ่งในความพยายามนั้นคือ Various Daylife เกมแนว RPG ซีรีส์ใหม่ที่เป็นหนึ่งในผลงานของทีมงานผู้สร้างเกมดังอย่าง Bravely Default, Octopath Traveler และ Triangle Strategy และได้วางขายบน Apple Arcade ไปพักใหญ่แล้ว และเพิ่งจะวางขายบนคอนโซล PlayStation 4, Nintendo Switch และ PC ในเดือนตุลาคมปี 2022
เรื่องราวใน Various Daylife จะเกิดขึ้นหลังจากมีการค้นพบทวีปใหม่นาม Antoecia และผู้คนเริ่มมาตั้งถิ่นฐานในเมือง Erebia ตัวละครหลักจะเป็นประชากรที่ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองที่เริ่มมีผู้คนมากมายทำให้เกิดปัญหาประชากรล้นเมือง ทำให้เราต้องออกรับภารกิจสำรวจดินแดนใหม่ที่เต็มไปด้วยสิ่งที่คาดไม่ถึง ส่วนการเล่าเรื่องอาจจะดูธรรมดาไปหน่อยเพราะเน้นเล่าผ่านการพูดคุยของตัวละครคล้ายกับซีรีส์ Bravely Default
กราฟิกเหมือนเกมมือถือ
ที่น่าผิดหวังสำหรับการมาลงบนคอนโซลและ PC คือภาพใน Various Daylife ที่ดูขาดรายละเอียด แน่นอนเพราะว่ามันเคยออกบน Apple Arcade มาก่อนแถมไม่ได้ปรับให้ดูดีขึ้น ทำให้แฟนเกมที่ชอบกราฟิกงาม ๆ ของเกม RPG ของค่าย Square Enix ต้องผิดหวัง เพราะมันเหมือนกับการเล่นกราฟิกคุณภาพระดับสมาร์ตโฟนบนจอที่ใหญ่ขึ้นเท่านั้น
งานออกแบบก็ถอดมาจาก Bravely Default เช่นกันทำให้ดูเหมือนเป็นเกมทุนต่ำ เช่นเดียวกับเพลงประกอบที่ดูเรียบ ๆ ไม่มีอะไรให้จดจำ ผ่านหูซ้ายทะลุหูขวา ทำให้การนำเสนอชวนหลับมากกว่าน่าติดตาม แต่ข้อดีคือเราสามารถกดปุ่ม เพื่อเร่งให้การเล่าเรื่องที่น่าเบื่อจบลงเร็ว ๆ ได้ที่เชื่อว่าแฟนเกมทุกคนต้องกดข้ามแน่
เกมเพลย์เน้นทำภารกิจ
รูปแบบการเล่นหลัก ๆ ของ Various Daylife จะเริ่มที่เมือง Erebia ที่ผู้เล่นก็เหมือนประชากรทั่วไปที่ต้องออกไปหางานทำเพื่อเก็บเงิน และต้องสานสายสัมพันธ์กับตัวละครอื่นและสำรวจเมืองเพื่อทำเนื้อเรื่อง ส่วนภารกิจหลัก ๆ ของเกมคือการเดินสำรวจโลกกว้างพร้อมกับต่อสู้กับศัตรู และกำจัดบอสสุดโหดเพื่อเปิดทางไปสู่ดินแดนใหม่ในรูปแบบเกม RPG
หากมองแค่นี้มันจะดูน่าสนใจยิ่งมันมาแนว RPG จากค่าย Square Enix แล้วเชื่อว่าหลายคนคิดไปไกลว่ามันคือ Final Fantasy หรือ Bravely Default แต่พอได้เล่นจริงแล้วมันไม่ได้เป็นอย่างที่คาดหวังไว้ เพราะเหมือนว่าผู้สร้างอยากคิดให้แตกต่างจากเดิม และสร้างแนวใหม่เพราะประเด็นแรกฉากในเกมทั้งหมดจะใช้มุมกล้องแบบ 2 มิติมุมมองด้านข้าง ที่มีการจำกัดในมุมมองในการเล่นอย่างมาก
จุดเด่นคือเดินเรื่องเร็ว
นอกจากเกมจะเป็น 2 มิติแล้วฉากในเมืองยังมีจุดให้สำรวจไม่มากนัก แม้จะมีเส้นทางแยกให้เดินแต่ก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไร ประเด็นหลักคือการหางานทำที่จะมีทั้งงานที่ต้องออกไปต่อสู้ หรือมีทั้งงานบริการและมีงานที่ต้องใช้สมองด้วย แต่ที่น่าผิดหวังคือการทำงานจะมีแค่การเลือกเมนูแล้วรอผลลัพธ์ว่าจะสำเร็จได้เงินและค่าประสบการณ์ หรือล้มเหลวแบบไม่ได้อะไรเลยและเสียเวลาเปล่าเท่านั้น ไม่ได้มีภาพการทำงานอะไรมาให้ชมด้วยซ้ำ
และนอกจากทำงาน เรายังทำสำรวจเมืองทำกิจกรรมเช่นทำเนื้อเรื่องรวมทั้งสานสายสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมทีม เช่นการกินอาหารสังสรรค์ แต่มันก็เล่าเรื่องแบบเรียบ ๆ เน้นการอ่านมากกว่า นอกจากนี้ในเมืองยังมาพร้อมกับเรื่องราวมากมายที่เราต้องค้นหาเพราะจะส่งผลต่อการเดินเรื่อง และยังต้องคอยเช็ควันสำคัญบนปฏิทินเพื่อดูกิจกรรมที่ต้องทำ และยังมีเวลากลางวันกลางคืนมีความแตกต่างกันด้วย
ฉากขาดความอิสระในการสำรวจ
แน่นอนว่าหากมันมีแค่นี้คงจะน่าเบื่อเพราะมันจะเหมือนเกม The Sim แต่ยังมีอีกส่วนที่อาจจะทำให้มันน่าตื่นเต้นกับการสำรวจโลกและต้องต่อสู้กับมอนสเตอร์ในดินแดนใหม่ที่ยังไม่ได้สำรวจ แต่พอเข้าฉากโลกกว้างกลับไม่ได้เป็นอย่างที่คาด เพราะมันยังคงเป็น 2 มิติมุมมองจากด้านข้าง แถมในการเดินทางผู้เล่นไม่สามารถบังคับอะไรได้เลย เพราะตัวละครจะเดินแบบอัตโนมัติจากซ้ายไปขาวเท่านั้น
แต่เมื่อเจอศัตรูจะตัดมาเป็น RPG ใส่คำสั่งแบบเทิร์นเบส ที่เข้าใจง่ายเน้นการโจมตีและใช้ท่าพิเศษ โดยมีมุมมองคล้ายกับซีรีส์ Dragon Quest ที่เรียบง่ายและไม่มีจุดเด่นเลย ยังดีที่การตั้งค่าทำได้เยอะพอสมควร เพราะมีระบบอาชีพมาให้เลือกใช้งานและเปลี่ยนมากกว่า 20 รูปแบบที่ผู้เล่นสามารถเปลี่ยนได้ตลอดเวลา ซึ่งแต่ละอาชีพจะมีความโดดเด่นและจำเป็นในการเล่น และการอัปเกรดตัวละครก็ใช้ระบบเลเวลและซื้ออาวุธเครื่องป้องกันเหมือนเกม RPG ทั่วไป
หากเราไม่ได้คาดหวังอะไรมากแล้วเกม Various Daylife ก็พอจะมีความสนุกให้เล่นอยู่ ความดีงามอยู่ที่ระบบที่เข้าใจง่าย ฉากที่ไม่มีอะไรให้สำรวจเยอะให้ปวดหัวแต่มันก็ทำให้การเล่นบนคอนโซลดูขาดความอิสระเกินไป และเมื่อเทียบกับชื่อค่ายเกมและทีมงานสร้างแล้วมันค่อนข้างน่าผิดหวังพอสมควร ใครชอบแนว RPG จะหามาเล่นก็พอจะหาความสนุกได้เพราะอย่างน้อยมันก็เดินเรื่องรวดเร็วเข้ากับยุคสมัยที่คนไม่ชอบรออะไรนาน
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส