หนึ่งในเกมเดโมที่ไปเปิดให้เล่นในงาน Thailand Game Show 2022 ครั้งล่าสุด คือ Sonic Frontiers หนึ่งในเกมในตำนานที่กลับมาอีกครั้งในรูปแบบที่แปลกกว่าเดิม เพราะผู้สร้างบอกตั้งแต่ต้นว่ามันจะมาแนว Open World แบบจัดเต็มครั้งแรกของซีรีส์เม่นสายฟ้า

และสัมผัสแรกกราฟิกที่เล่นบนคอนโซลสุดแรงอย่าง PS5 ทำออกมาได้ดีในระดับน่าพอใจ แถมยังมีโหมดที่ปรับให้เฟรมเรตอยู่ในระดับ 60FPS ได้ด้วย ทำให้การวิ่งของ Sonic ให้ดูดีกว่าเดิมมาก ๆ ฉากในเกมออกแบบมาดีพอประมาณ แน่นอนว่าแม้จะยังดูโล่ง ๆ อยู่บ้าง แต่อย่างน้อยต้นหญ้าก็จัดเต็ม ทำให้ภาพอยู่ในระดับดี แต่น่าลุ้นว่าบน Nintendo Switch จะยังทำออกมาได้ระดับนี้หรือไม่

ส่วนเกมเพลย์ในตัวเดโมที่ทาง SEGA มาเปิดตัวให้เล่นครั้งแรกในงาน TGS2022 เป็นการโชว์เกมเพลย์ที่ทำออกมาผสมผสานระหว่างความสดใหม่ที่หลัก ๆ จะเป็นแอ็กชัน 3 มิติที่จะมีโลกกว้าง ๆ ให้สำรวจแบบ Open World ที่ในเดโมไม่ได้มีอะไรมาให้สำรวจมากนัก แต่ฉากก็กว้างพอดูเพราะยังพอมีทางแยกให้ไปเก็บไอเทมที่มีทั้งบนพื้นดิน และมีฉากที่เราจะได้ท่องไปบนฉากลอยฟ้า

แต่ที่เหมือนเดิมคือตัว Sonic ของเราจะใช้ค่าพลังเป็นการเก็บวงแหวนที่เมื่อโดนโจมตีแหวนจะแตกกระจายออกมา และใช้การพุ่งตัวเพื่อโจมตีเหมือนเดิม แต่จะเสริมด้วยการอัปเกรดท่าไม้ตายใหม่ ๆ แต่ในเดโมจะมีให้อัปเกรดแค่ 1 อย่าง แต่ยังมีหลายท่ารอให้เราปลดล็อกอีกเพียบ เชื่อว่าน่าจะสร้างความแปลกใหม่ไม่แพ้ฉากในเกมแน่

ฉากในเกมจะแบ่งออกแบบ 2 รูปแบบคือด่านหลักที่มีความกว้างพอสมควร เรามีอิสระที่จะวิ่งไปได้ทั่วแถมยังวิ่งได้เร็วสูงสมกับเป็น Sonic ด้วย แต่ผู้สร้างจะจำกัดด้วยการทำอุปสรรคเช่นสะพานที่ขาดอยู่ ที่ผู้เล่นต้องทำภารกิจตามเงื่อนไขก่อนถึงจะปลดล็อกได้ เช่นการหาไอเทมให้ครบมาเพื่อเปิดทางไปก่อน และการที่จะได้ไอเทมมาก็ต้องต่อสู้กับบอสในฉากก่อน ที่บอสในเดโมก็ทำออกมาเข้ากับแนวทางของซีรีส์ Sonic ที่ไม่ได้แปลกใหม่อะไรนัก

นอกจากนี้อีกรูปแบบของเกมเพลย์คือฉาก วิ่งเป็นเส้นตรงด้วยความเร็วสูงที่เป็นรูปแบบหลักของซีรีส์ Sonic อยู่แล้ว ที่ผู้เล่นต้องวิ่งให้ผ่านแล้วจะปลดล็อกไอเทมไปปลดล็อกฉากหลักใหม่ได้ แม้ในส่วนนี้อาจจะดูธรรมดาแต่งานออกแบบฉากทำออกมาได้ดีกว่าภาคก่อน และมีความไวสูงพอสมควรทำให้เราพลาดตายได้ง่าย ๆ แต่ใครเลยเล่นซีรีส์ Sonic มาก่อนคงจะผ่านได้ไม่ยาก เพราะมันมีรูปแบบนี้มาให้เล่นทุกภาค

เสียดายที่เดโมสั้นไปหน่อยเล่นไม่นานก็จบ แต่ก็เปิดให้เห็นรูปแบบเกมเพลย์ใหม่ที่ผู้สร้างพยายามให้แตกต่างจากภาคก่อน มาผสมผสานกับความเป็นเกม Sonic แบบเดิม ๆ ที่อาจจะยังไม่ลงตัวนักเพราะมีการแยกฉาก 2 รูปแบบชัดเจนไม่ได้ผสมหลอมรวมกัน แต่เชื่อว่าตัวเต็ม ๆ ของเกมที่จะวางขายในวันที่ 8 พฤศจิกายน นี้ต้องออกมาดูดีกว่านี้แน่นอน

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส