[รีวิวเกม] Bayonetta 3 สาวแว่นทะลุมัลติเวิร์ส
Our score
9.0

Bayonetta 3

จุดเด่น

  1. เกมเพลย์สนุกลื่นไหลแอ็กชันดีงาม
  2. ระบบใหม่เสริมให้เกมสนุกมากขึ้น
  3. กราฟิกดูดีสำหรับเกมบน Switch

จุดสังเกต

  1. ตัวละครใหม่ยังไม่โดดเด่นเท่าที่ควร
  2. ปัญหามุมกล้องในบางจุด

สาวแว่น Bayonetta ถือเป็นซีรีส์ที่แม้จะไม่เก่าแก่มาก แต่ก็ถือเป็นเกมที่ประสบความสำเร็จพอตัว ด้วยเกมเพลย์ที่มาแนวแอ็กชัน hack and slash หรือแนวโจมตีแล้วหลบหลีกด้วยความเร็วสูงจุดเด่นอยู่ที่ตัวละครหลักที่นอกจากจะเต็มไปด้วยเสน่ห์ยังมาพร้อมการเรียกสัตว์อสูรออกมาโจมตีศัตรูด้วย

เกม Bayonetta ภาคแรกออกบน PS3, XBox360 ที่เป็นผลงานของค่าย PlatinumGames จัดจำหน่ายโดย SEGA แต่หลังจากนั้น Nintendo ได้ออกทุนสร้างให้ภาค 2 จนออกเฉพาะคอนโซล WiiU และได้พอร์ตลง Switch ในภายหลัง ทำให้แฟนค่ายอื่นผิดหวังเพราะไม่มีโอกาสได้เล่นบนเครื่องเกมอื่นเลย และด้วยความสำเร็จของภาค 2 ทำให้ปู่นินยังคงออกเงินสร้างภาค 3 มาลงบน Nintendo Switch ต่อเนื่อง แน่นอนว่าแฟนบอยค่ายอื่นก็ยังหมดโอกาสเล่นเหมือนเดิม

เรื่องราวในภาคนี้ยังคงเป็นจุดเด่นอย่างมาก เพราะมันมาแปลกกว่าทุกภาค ส่วนตัวแล้วถือว่าทำได้แปลกและโดดเด่นมาก เพราะมันมาแนวทางมัลติเวิร์สทะลุมิติที่มีบางส่วนคล้ายกับ Doctor Strange in the Multiverse of Madness แน่นอนว่าเราจะได้เล่นเป็น Bayonetta จากหลายจักรวาล ที่มีหน้าตาและความสามารถแตกต่างกัน ทำให้มันมีความหลากหลายแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน

และยังมาพร้อมตัวละครใหม่อย่างสาวผมสั้นนาม Viola ที่ใช้ดาบซามูไรที่แปลงร่างเป็นอสูรแมวยักษ์มาให้เล่นด้วย แน่นอนว่าฉากหลังของภาคนี้จะดูหลุดโลกเกินคาดเดารวมทั้งเนื้อเนื่องที่มีสิ่งที่เซอร์ไพรส์ชนิดคาดไม่ถึงอยู่เพียบ ส่วนศัตรูใหม่ในภาคนี้ไม่ได้เป็นเทพหรือปีศาจ แต่เป็น Homunculi อาวุธชีวะภาพที่มนุษย์สร้างขึ้นมา ที่มีพลังทำลายล้างสูงและน่ากลัวกว่าทุกสิ่งที่สาวแว่นเคยเจอมาทั้งหมด ทำให้เราต้องจับมือกับเพื่อนร่วมทีมก่อนที่ทุกจักรวาลจะถูกทำลายล้าง

กราฟิกดูดีเท่าที่ Switch ทำได้

ใครคิดว่าภาค 3 จะไม่สามารถทำกราฟิกได้ดีกว่าภาค 2 แล้วก็บอกเลยว่าคิดผิด แม้ว่าสเปกของ Nintendo Switch จะไม่ได้แรงมากแต่ค่าย PlatinumGames ก็ได้ใช้เทคนิคด้านกราฟิกหลายรูปแบบเพื่อให้สิ่งที่แสดงผลตรงหน้าเราดูดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยเฉพาะการออกแบบตัวละครที่จัดเต็มใส่รายละเอียดทั้งชุดรวมทั้งใบหน้าที่ดูดีมาก แถมความลื่นไหลก็มีมาให้พอตัวแม้จะมีอาการเฟรมเรตตกอยู่บ้างแต่ก็ไมได้แย่จนน่ารำคาญ

อีกจุดเด่นที่ทำได้ดีตั้งแต่ภาคแรก คือเพลงและเสียงประกอบที่ยังคงมีคุณภาพสูงมาก มีเพลงที่แต่งให้เข้ากับฉากที่มาแบบหลากหลายเพราะภาคนี้จะได้ท่องไปหลายมัลติเวิร์ส แน่นอนว่าต้องมีการใส่เพลงดังที่มาแนว Pop Jazz มาปรับให้ทันสมัยและเข้ากับเกมเพลย์ที่เป็นแอ็กชันความเร็วสูงที่ภาคนี้ได้เลือกเอาเพลง Moonlight Serenade ที่ยังคงติดหูเหมือนเดิม ส่วนเสียงพากย์ที่มีดราม่าก่อนหน้านี้บอกตรง ๆ ว่าก็แทบไม่ได้ต่างจากเดิม เพราะนักพากย์คนใหม่ถือเป็นมืออาชีพที่ผ่านงานให้เสียงเกมมานับสิบปีทำให้มันคงดีเหมือนกับภาคก่อน

เกมเพลย์ดีงามยิ่งกว่าเดิม

อย่างที่รู้กันว่า Bayonetta เป็นแอ็กชัน hack and slash ที่ภาคนี้ยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน เรายังคงได้บังคับตัวละครโจมตีศัตรูและทำคอมโบต่อเนื่อง ส่วนการโจมตีพื้นฐานก็เรียบง่ายเพราะมีแค่ใช้ปืนยิง, ต่อย และเตะ เท่านั้น แต่มันสามารถสานต่อเป็นการโจมตีที่รุนแรงได้ส่วนนี้ทำได้ดีเหมือนเดิมแต่ก็ไม่ได้ฉีกและแตกต่างจากเกมแนวนี้นัก แต่ก็ไม่ได้ด้อยกว่าใครก็แล้วกัน

แต่ความโดดเด่นของซีรีส์สาวแว่นคือท่า Witch Time ที่เมื่อเราหลบหลีกการโจมตีของศัตรูได้ตรงจังหวะ จะมีการหน่วงเวลาทำให้เราสามารถสวนกลับได้ต่อเนื่องและรุนแรง ถือเป็นจุดเด่นของซีรีส์มาตั้งแต่ภาคแรก แน่นอนว่ามันก็มีการใส่มาแต่ดูเหมือนว่าทีมงานจะปรับความสมดุลให้กดได้ยากขึ้นเล็กน้อย ส่วนนี้บอกไว้ก่อนว่าผู้เล่นต้องเรียนรู้ให้ดีเพราะจำเป็นต่อการเล่นไปจนจบ

สิ่งใหม่เสริมให้ยิ่งใหญ่กว่าเดิม

ระบบใหม่ในภาค 3 ถือว่าผู้สร้างได้เสริมเข้ามาพอประมาณ ที่แฟนต้องชอบคืออสูรที่ Bayonetta เรียกออกมาใช้งาน เพราะนอกจากจะเพิ่มตัวใหม่ ๆ เข้าไปแล้วยังมาพร้อมกับระบบเรียกมาใช้งานแบบใหม่ ที่ในภาคนี้ผู้เล่นสามารถเรียกอสูรออกมาตอนไหนก็ได้ และเมื่อเรียกออกมาแล้วการบังคับมันโจมตีจะใช้ระบบการกดปุ่มตามจังหวะที่จะแทนการโจมตีระยะประชิดหรือยิงไกล แต่จะใช้ได้จำกัดมีค่าพลัง MP กำหนด นอกจากนี้ผู้เล่นก็ต้องระวังหากสาวแว่นโดนโจมตีแล้วอสูรที่เรียกออกมาจะหายไปต้องเรียกมาใหม่

อีกจุดที่ทำให้หลากหลายคือจำนวนอสูรที่มีมาให้ใช้งานหลายตัว และผู้เล่นสามารถเลือกได้ตามใจชอบด้วย ที่แต่ละตัวจะมีความโดดเด่นไม่เหมือนกันเช่นมังกรที่ทรงพลัง หรือปีศาจแมงมุมที่โจมตีได้หลายรูปแบบ และนอกจากการโจมตีแล้วยังเอาไว้แก้ปริศนาได้ด้วย เพราะมีอสูรที่ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตแต่เป็นรถไฟที่นอกจากต่อสู้แล้วยังเอาไว้เปิดทางไปต่อ และกำจัดศัตรูได้พร้อมกันหลายตัวในครั้งเดียว

ฉากออกแบบได้ดีกว่าเดิม

อีกส่วนที่ต้องชมคือการต่อสู้กับบอสที่ในแต่ละด่านจะมีความแตกต่างกัน เพราะเนื่องจากมันอยู่คนละจักรวาลกันทำให้มีงานออกแบบที่ไม่เหมือนกัน และจุดเด่นคือผู้สร้างยัดเอาบอสรองใส่รัว ๆ แบบไม่ให้พักหายใจกัน บางตัวคิดว่าเป็นบอสใหญ่ประจำด่านแต่ความจริงมันมีตัวใหญ่ยักษ์กว่านั้นหลายเท่า และบางตัวมาในรูปแบบที่ไม่น่าเชื่อด้วยแต่บอกไม่ได้เดียวจะสปอยล์ อีกทั้งฉากในเกมมีความกว้างพอตัวมีทางแยกย่อยที่มีฉากพิเศษที่ต้องทำภารกิจตามกำหนดเช่นต่อสู้กับศัตรูที่หากทำผ่านก็จะได้ไอเทมพิเศษ ถือว่าทำให้เรากลับมาเล่นได้หลายรอบที่ไม่ค่อยได้เห็นในรูปแบบเกมแอ็กชันลุยด่าน

ปรับแต่งตัวละครได้เยอะมาก

อีกระบบที่แฟนเกมต้องชอบคือการปรับเปลี่ยนอาวุธที่จะได้มาพร้อมกับการได้อสูรตัวใหม่ ที่เราเลือกใส่ได้ทั้งปืน และอาวุธระยะประชิด ที่มีความโดดเด่นแตกต่างกันและสามารถสลับเปลี่ยนได้ 2 รูปแบบทำให้ผู้เล่นสามารถเลือกให้เข้ากับศัตรูที่มีมาหลากรูปแบบ เพราะอยู่ในมิติที่แตกต่างกัน และไม่ใช่แค่ไว้โจมตีเท่านั้นเมื่อเปลี่ยนอาวุธเราจะมีความสามารถพิเศษของอสูรตัวนั้นติดตัวมาด้วยเช่นการใช้อาวุธเปลี่ยนเป็นล้อสเก็ตให้สาวแว่นเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว และเมื่อรวมกับพลังแมงมุมแล้วจะห้อยโหนได้ราวกับ Spider-man

นอกจากนี้เรายังปรับแต่งใส่เครื่องประดับเสริมที่ช่วยเพิ่มค่าพลัง และยังมีการเก็บไอเทมพิเศษมาอัปเกรดค่าพลังชีวิตได้ ที่การได้มาของไอเทมจะมีทั้งเก็บตามฉาก และซื้อจากพ่อค้าหน้าเดิมส่วนที่เพิ่มเข้ามาคือการเปิดโอกาสให้ผู้เล่นเปลี่ยนสีของตัวละครได้ตามใจชอบ และแน่นอนว่าต้องมียาเติมพลังตามปรกติด้วย และผู้เล่นต้องปรับตั้งค่าให้ดีก่อนจะออกต่อสู้เพราะตัวเกมไม่ง่ายนัก ศัตรูมีรูปแบบการโจมตีที่เราคาดไม่ถึงทำให้เราพลาดตายได้ง่าย ๆ แต่สำหรับมือใหม่ก็มีโหมดง่ายมาให้เล่นด้วยที่ง่ายชนิดเล่นยังไงก็จบ

ตัวละครใหม่สุดแนวที่เป็นจุดอ่อน

สิ่งที่อาจจะน่าผิดหวังนอกจากมุมกล้องที่มีมุมอับแล้วคือตัวละครใหม่ Viola เพราะตอนแรกคิดว่าจะมาแนวสาวหล่อสุดแกร่งแต่พอได้เล่นกลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น นอกจากนี้ Viola จะมีรูปแบบการโจมตีไม่เยอะเท่า Bayonetta ที่หลัก ๆ เธอจะเรียกอสูรแมวจากดาบได้ ส่วนท่าอื่นอาจจะบอกในรีวิวทั้งหมดไม่ได้เพราะเดียวจะสปอยล์ แต่การที่มาไม่เท่ากับสาวแว่น และเกมแบ่งการเล่น 2 ตัวละครออกชัดเจนทำให้จังหวะการเล่าเรื่องมีจังหวะสะดุด

เพราะในบางฉากเมื่อ Bayonetta ได้ท่าไม้ตายหรือได้อสูรตัวใหม่เชื่อว่าผู้เล่นทุกคนต้องดีใจเพราะจะได้เอามาใช้งาน แต่ฉากต่อมาเกมกลับเปลี่ยนไปให้เล่นเป็น Viola ทำให้ผู้เล่นอารมณ์ค้างไป แล้วพอผ่านมาฉากที่เล่นเป็นสาวแว่นก็ลืมไปแล้วว่าได้ท่าใหม่มา อีกส่วนที่ดูแปลกคือการเล่นเป็น Jeanne ในฉากแบบ 2 มิติมุมมองด้านข้างที่เราต้องหาทางออกจากฉากแบบมีเวลาจำกัดที่ทำออกมาสนุกพอใช้แต่ดูธรรมดาไปหน่อยไม่ได้ช่วยเสริมให้เกมน่าเล่นเท่าที่ควร แต่โดยรวมเกมมีความยาวพอสมควรเมื่อเทียบกับแนวแอ็กชัน และยังกลับมาเล่นด่านซ้ำเพื่อเก็บไอเทมที่ซ่อนอยู่ให้ครบได้อีกถือว่าคุ้มค่ามาก

การกลับมาครั้งที่ 3 ของสาวแว่นในเกม Bayonetta 3 ถือว่าผู้สร้างพยายามคิดอะไรใหม่ยัดใส่เอาไปในรูปแบบเกมที่หลายคนคิดว่ามันไม่สามารถใส่อะไรเพิ่มได้แล้ว และผลออกมาคือมันทำออกมาได้ดีเกินคาดเพราะในส่วนของแอ็กชันก็ทำได้ดีกว่าภาค 2 ส่วนเสริมอย่างการเรียกอสูรก็ทำได้ดี กราฟิกก็มีการพัฒนาเสียดายที่ตัวละครใหม่กลับทำให้เกมสะดุดเล็กน้อย และปัญหามุมกล้องในบางจุดที่ยังคงมี นอกนั้นมันคือเกมแอ็กชัน hack and slash ระดับแถวหน้าของวงการที่ไม่อยากให้พลาดไป

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส