Our score
8.7[รีวิวเกม] Desta: The Memories Between เล่นดอดจ์บอล Turn-Based แบบ Roguelike จาก Netflix
จุดเด่น
- เกมแคชวลขว้างบอลแบบ Turn-Based เล่นง่าย กติกาไม่ซับซ้อน
- เนื้อหาลุ่มลึก ตัวละครมีมิติ
- ภาพสวย ฉากและด่านออกแบบได้ดี
- เล่นได้เรื่อย ๆ ท้าทายการคิดการตัดสินใจ
จุดสังเกต
- หากแพ้จะต้องกลับมาเล่นใหม่
- มีเนื้อหาเกี่ยวกับปัญหาจิตใจ และการสูญเสีย อาจไม่เหมาะกับคนที่กำลังมีภาวะอ่อนไหวทางจิตใจ
Desta: The Memories Between ผจญความฝัน ค้นหาเรื่องราวที่ขาดหาย ด้วยเกมดอดจ์บอล
Desta: The Memories Between เวอร์ชันของ Netflix เป็นเกมที่เปิดให้เล่นมาสักระยะแล้ว แต่ผู้เขียนโหลดทิ้งไว้แล้วเพิ่งมีโอกาสได้เล่น จึงพบว่านี่คือเกมแนว Strategic Turn-Based RPG ที่มีการเล่นแบบ Roguelike ที่น่าสนใจไม่น้อย ด้วยคอนเซ็ปต์แพ้แล้วต้องเริ่มใหม่ ทำให้เกมนี้ค่อนข้างท้าทายและกระตุ้นทักษะการคิดวิเคราะห์ไม่ใช่น้อย มาดูกันเลย
เนื้อหาดำดิ่งลงไปในจิตใจ กับความขุ่นข้องจากเรื่องราวที่ผ่านมา
เกมแนวเรื่องราวที่ Netflix เลือก มักมีเนื้อหาที่ลึกซึ้งน่าสนใจเสมอ เกมนี้ก็เช่นกัน ด้วยการที่เปิดเรื่องมาเราจะรับบทเป็น Desta ตัวละคร Non-Binary (ที่ไม่ระบุชัดว่าตัวเองเป็นเพศชายหรือหญิง) ที่มีปมฝังใจและความขุ่นข้องกับเรื่องราวในอดีต ประกอบกับความสัมพันธ์กับแม่ที่ไม่ดีเท่าไร และดูเหมือนทุกอย่างหม่นมัวลงตั้งแต่หลังที่พ่อของเธอเสียชีวิต พ่อที่ดูเหมือนจะเป็นคนเดียวที่เธอชื่นชม เขาเป็นเหมือนกาวคอยเชื่อมประสานทุก ๆ อย่างในครอบครัว ระหว่างเธอกับแม่และพี่น้อง และไม่ว่าเธอจะพบเจอกับปัญหาอะไร พ่อมักจะใช้เกมขว้างบอลเล่นกับเธอ พูดคุยกับเธอ เพื่อช่วยกันจัดการปัญหาอยู่เสมอ เกมนี้จึงจะเป็นการนอนหลับฝันเพื่อเล่นเกมขว้างบอลหรือดอดจ์บอลในการปลดล็อกปมในจิตใจของตัวละคร Desta
เนื้อเรื่องเกมนี้ค่อนข้างหนักหน่วงกับปัญหาทางจิตใจเลยทีเดียว ทั้งปัญหาความสัมพันธ์ ปัญหาด้านการแสดงออกของตัวตนและอัตลักษณ์ทางเพศสภาพ รวมไปถึงการสูญเสียผู้ที่เป็นที่รัก แม้เกมจะเป็นแนวขว้างบอลเล่นเพลิน ๆ งานภาพและสีสันออกจะพาสเทล แต่ไดนามิกของเกมและเนื้อหาจะค่อนไปทางหม่นนิด ๆ ประกอบกับการคุมโทนสีม่วงที่แสดงถึงความความโศกเศร้า การปิดกั้น และความขุ่นมัวบางอย่าง ทำให้เกมนี้ต้องการผู้เล่นที่พร้อมจะสำรวจเนื้อหาสะท้อนใจที่ค่อนข้างหนักนิดหน่อย (แต่เกมเพลย์สนุกเล่นเพลินนะ ขอย้ำอีกที)
เกมแบบ Roguelike เมื่อการแพ้คือการเริ่มใหม่
สำหรับวิธีเล่นเกมนี้จะเป็นในลักษณะแบบเกม Roguelike คือเล่นเอาชนะให้ผ่านเป็นด่าน ๆ หลังเอาชนะแต่ละด่าน ตัวละครจะมีโอกาสเลือกบัฟ หรือสกิลในการอัปเกรดให้เก่งกาจขึ้น รวมไปถึงยังมีโอกาสปลดล็อกเพื่อนร่วมทีมใหม่ ๆ เพื่อเลือกเข้าไปช่วยเราเล่นในด่านต่อ ๆ ไปด้วย แต่จำไว้ให้ดี หากเราเล่นแพ้ ไม่ว่าจะอยู่ด่านไหนก็ตาม เราจะตื่นขึ้น แล้วต้องกลับไปเริ่มใหม่ บรรดาเพื่อนร่วมทีม สกิลแอ็กทีฟ/แพสซีฟต่าง ๆ ก็จะหายไปด้วย ต้องมาเริ่มสะสมใหม่เลย ยกเว้นสเตตัสติดตัวบางอย่าง เช่น HP และระยะการเดิน ที่จะยังคงอยู่ และนี่คือสาเหตุที่ทำให้เกมนี้ท้าทายไม่ใช่น้อย
วิธีเล่นก็ไม่ยากนัก โดยด่านต่อสู้จะมีลักษณะแบบ Isometric Diorama (ฉากสามมิติแบบไอโซเมตริก) ที่ผู้เล่นสามารถหมุนหามุม ดูรายละเอียดได้อย่างอิสระ ตัวละครของเรากับเป้าหมาย ที่อาจเป็นวัตถุ หรือศัตรู จะอยู่ตามจุดต่าง ๆ ในฉาก จะนั้นเราต้องสลับกันทำแอ็กชันแบบเกม Turn-Based เริ่มจากเราก่อน เราสามารถเลือกเดินในระยะที่ตัวละครสามารถเดินได้ จะเดินหามุมหลบการโจมตี หรือเดินไปหยิบลูกบอล (ที่จะสุ่มวางอยู่ในฉาก) ก็ได้เช่นกัน จากนั้นสามารถขว้างบอลที่เก็บมาได้โดยการกดค้างแล้วลากไปด้านหลัง (แบบดีดหนังยาง) เพื่อเล็งและปล่อยเพื่อขว้าง ง่าย ๆ แบบนี้เลย และเราสามารถใช้ฉากให้เป็นประโยชน์ เช่น สามารถหลบหลังกำแพง หรือขว้างบอลไปกระทบให้เด้งถูกศัตรูก็ได้ และหากบอลถูกศัตรูแล้วเด้งกลับมาหาเรา บอลก็จะกลับมาอยู่ในมืดเราอีกครั้ง ไม่ต้องเสียเวลาเดินไปเก็บในเทิร์นต่อไปด้วย
ซึ่งตัวละครทั้งเรา และศัตรูจะมีหลอดเลือดเป็นจำนวนชีวิตอยู่ หากเราขว้างโดน 1 ครั้ง ศัตรูจะเสียหลอดเลือดครั้งละ 1 หลอด (หรือ 1 ขีด) เช่นเดียวกับเรา ถ้าเราถูกขว้างบอลใส่ เลือดของเราก็จะลดเช่นกัน และเลือดของฝ่ายไหนหมดก่อน ฝ่ายนั้นก็แพ้ หากเราชนะ จะได้ไปด่านต่อไป หากเราแพ้ ต้องไปเริ่มเล่นใหม่ตั้งแต่ต้น กติกาคร่าว ๆ ประมาณนี้
บัฟต่าง ๆ และเพื่อนร่วมทีม
อย่างที่กล่าวไปแล้ว เกมนี้เมื่อเอาชนะได้ในแต่ละด่าน ผู้เล่นจะมีโอกาสปลดล็อกทั้งสกิลแอ็กทีฟและสกิลแพสซีฟที่จะมีประโยชน์กับตัวละครในสถานการณ์ต่าง ๆ โดยเราต้องเลือกใช้สิ่งที่คิดว่าจะมีประโยชน์กับการเล่นของเราในด่านต่อ ๆ ไปมากที่สุด
ถัดมาคือเพื่อนร่วมทีม ในการสู้แต่ละด่าน เราจะมีโอกาสพบศัตรูที่อาจเป็นได้ทั้งใครก็ไม่รู้ที่เราไม่รู้จัก กับอาจเป็นเพื่อนหรือคนรู้จักของเราที่เคยมีเรื่องราว มีอดีตร่วมกันมา จะสามารถสังเกตได้จากการที่มีบทสนทนาขึ้นมาโต้ตอบกับศัตรูคนนั้น ๆ ซึ่งเนื้อหาที่เกิดขึ้นระหว่างทาง จะช่วยให้เราเข้าใจปัญหาของความสัมพันธ์และรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวละครต่าง ๆ รวมไปถึงตัว Desta มากขึ้น และหากเราเล่นด่านนั้นชนะศัตรู เราก็มีโอกาสได้รับตัวละครเพื่อนที่เจอในด่านมาเป็นเพื่อนร่วมทีมของเราเพื่อให้เราเลือกเอาไปช่วยเล่นในด่านต่อ ๆ ไปด้วยนะ
ภาพเสียงกินใจ ตามสไตล์เกม Netflix
ตัวเกมมีงานภาพที่ค่อนข้างมีเอกลักลักษณ์ การใช้อาร์ตเวิร์กที่คุมโทนสีเล่นกับความรู้สึกและประสบการณ์ของผู้เล่น มีเสียงพากย์ตัวละครที่ได้มาตรฐาน เสียงประกอบเข้ากันอย่างลงตัว สอดคล้องไปกับไดนามิกของเนื้อเรื่องและตัวเกมเพลย์ได้ดีมาก ๆ เกมนี้จึงเป็นอีกเกมคุณภาพที่มาในแนวการเล่นค่อนข้างแคชวล แต่เนื้อหาอัดแน่นหนักหน่วง นับว่าเป็นหนึ่งในเกมที่องค์ประกอบทุกอย่างทำออกมาได้ค่อนข้างสมบูรณ์เลยทีเดียว
สรุปแล้ว
เป็นเกมที่มีการเล่นค่อนข้างแคชวล เล่นง่ายเล่นเพลินแต่ก็ท้าทาย งานภาพและเสียงทำออกมาได้ดีลงตัว การออกแบบฉากในแต่ละด่านต่อสู้ดูเรียบง่าย แต่ส่งเสริมการเล่นได้สนุก เนื้อเรื่องกินใจ เน้นปัญหาจิตใจและความสัมพันธ์
จุดสังเกต เพราะเป็นเกมที่หากเล่นแพ้ ต้องเริ่มใหม่หมด แรก ๆ อาจยังสนุกที่จะเริ่มใหม่ซ้ำ แต่พอต้องเริ่มใหม่หลายรอบเข้าอาจกลายเป็นความหงุดหงิด เหนื่อยหน่ายเกินกว่าที่จะรู้สึกสนุกท้าทาย
ดาวน์โหลด
ภาพโดย : millet
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส