Our score
8.1[รีวิวเกม] “Little Witch Nobeta” นี่มันดาร์กโซลเวอร์ชันสาวน้อยเวทมนตร์ชัดๆ!!
จุดเด่น
- เกมเพลย์สนุก เหมาะกับผู้เล่นที่ชอบความท้าทาย
- ฉากบอสไฟต์ทำออกมาได้ดี
- ถือว่าเป็นการเปิดประสบการณ์เล่นเกม Soul แบบใหม่ ๆ ที่สนุกใช้ได้
จุดสังเกต
- แปลไทยยังทำออกมาได้ไม่ดีเท่าที่ควรนัก
- นี่ไม่ใช่เกมง่าย แต่ก็ไม่ได้ยากจนเกินไป
สำหรับใครที่ชอบเล่นเกมตระกูล Soul แล้วอยากเปลี่ยนอารมณ์จากผู้มัวหมองมาเป็นสาวน้อยน่ารักถือคทาร่ายเวทสไตล์อนิเมะญี่ปุ่นกันบ้าง ขอแนะเกมนี้เลย Little Witch Nobeta เกมอินดี้ภาพน่ารัก แต่อย่าให้ความน่ารักของตัวเกมมันมาหลอกตาคุณ เพราะเกมเพลย์ของเกมนี้ชวนหัวร้อนระดับนึงเลย ถือว่าเป็นอีก 1 เกมอินดี้ราคาไม่แรงแต่คอนเทนต์คุณภาพคับแก้ว คุ้มค่าเกินราคาที่ต้องจ่ายซื้อมาเล่นแน่นอน แถมตัวเกมยังรองรับภาษาไทยอย่างเต็มรูปแบบอีกด้วย
[Little Witch Nobeta] Official Trailer V1
Little Witch Nobeta คือเกมแนว Soul-like ที่ผสมผสานกับความเป็นเกม Metroidvania อยู่พอประมาณ โดยในเกมเราจะได้รับบทเป็นแม่มดตัวน้อยนามว่า โนเบต้า ที่จำไม่ได้ว่าตัวเองเป็นใครและต้องออกไปผจญภัยเพื่อหาคำตอบกับสหายสี่ขาเจ้าแมวดำตัวน้อย โดยเราจะมีอาวุธเป็นคทาเวทมนตร์พร้อมกับคาถาต่าง ๆ ที่ใช้ในการต่อสู้และออกสำรวจแมปต่าง ๆ ที่เต็มไปด้วยอันตรายที่คุณคาดไม่ถึง
อย่าให้งานภาพที่ดูน่ารักหลอกตาคุณ นี่ไม่ใช่เกมง่าย
อันดับแรกขอเตือนก่อนเลยว่านี่ไม่ใช่เกมที่เล่นง่าย เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นเกมแนว Soul-Like แล้วนั้นตัวเกมไม่มีการปราณีผู้เล่นแน่นอน แม้ระดับความยากอาจจะไม่ได้โหดหินเท่ากับเกมของค่าย Fromsoftware แต่สิ่งที่คุณจะได้เจอในเกมนี้คือแทบจะไม่ต่างกัน มอนสุดโหดที่คุณจะต้องเรียนรู้จังหวะในการไฟต์ บอสประจำพื้นที่ที่สามารถตบคุณตายได้ด้วยการโจมตีไม่กี่ที กับดักและทางแยกให้สำรวจมากมายเต็มไปหมด การเวียนว่ายตายเกิดซ้ำแล้วซ้ำแล้วเพื่อขัดเกลาให้คุณเป็นจอมเวทที่แข็งแกร่งขึ้น ซึ่งถ้าคุณไม่เคยผ่านเกมแนวนี้มาก่อนตอนเล่นก็อาจจะมีหัวร้อนจนปาจอยทิ้งได้เลย
การต่อสู้ด้วยเวทมนตร์
จำหรับระบบ combat ของเกมนี้เราจะมีอาวุธที่สามารถใช้ได้เพียงแค่อย่างเดียวเท่านั้นนั่นก็คือคทาเวทมนตร์ ทำให้รูปแบบการเล่นส่วนใหญ่จะเป็นศึกระยะไกลเป็นหลัก โดยเราจะสามารถโจมตีด้วยเวทหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ไฟ สายฟ้า น้ำแข็ง และเวทอาร์เคน โดยเราสามารถสลับสับเปลี่ยนสายเวทเล่นได้ตลอดเวลา ทั้งยังเวทแต่ละรูปแบบก็จะมีสกิลพิเศษให้ใช้งานที่เหมาะสมกับสถานการณ์ที่แตกต่างกันออกไปตามความถนัดของผู้เล่นแต่ละคน รวมถึงใช้ในการแก้ปริศนาบางอย่างด้วย แต่ทว่าตัวละครเราก็จะมีมานาที่ค่อนข้างจำกัด ทุกครั้งไม่ว่าเราจะใช้เวทอะไรออกไปก็แล้วแต่จะเสียมานาเสมอ และวิธีที่เราจะสามารถรีเจนมานากลับมาได้จะมีเพียง 3 วิธีเท่านั้นนั่นก็คือ ใช้ไอเทม รอเวลามานาจะค่อย ๆ ฟื้นฟูเอง และอย่างสุดท้ายคือเอาคทาไปฟาดใส่ศัตรูมันดื้อ ๆ เลยครับผม
ระบบการอธิษฐานและอัปเลเวล
โดยในเกมนี้ตัวเกมจะไม่มีระบบเซฟอัตโนมัติให้กับผู้เล่น แต่จะมีรูปปั้นสำหรับอธิษฐานให้ระหว่างทางที่จะเป็นทั้งจุดเกิดเวลาคุณพลาดท่าตาย และยังเป็นจุดที่คุณสามารถนำค่าเงินในเกมมาใช้อัปพลังได้ด้วย นอกจากนี้หากคุณมากดอธิษฐานปุ๊ปค่ามานาและเลือดทั้งหมดที่คุณเสียไปจะกลับมาเต็มอีกครั้ง แต่ทว่าศัตรูที่คุณเคยฆ่ามาทั้งหมดก็จะฟื้นคืนชีพกลับมาด้วยเช่นกัน คนที่เคยผ่านเกม Soul มาน่าจะคุ้นเคยกับระบบนี้กันเป็นอย่างดี
บอสไฟต์ ไฮไลต์ของเกม
แน่นอนว่าเมื่อพูดถึงเกมแนวนี้สิ่งที่ขาดไปไม่ได้เลยนั่นก็คือฉากบอสไฟต์ ที่เกมนี้ก็ถือว่าทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งจำนวนบอสที่มีให้เราสู้ในเกมที่สามารถเจอกันได้แบบถี่ ๆ รูปแบบการต่อสู้ที่อาศัยสกิลเพลย์แตกต่างกันออกไปในแต่ละไฟต์ ดีไซน์บอสดูดีมีภาพจำติดตามหลังเล่นจบหลายต่อหลายตัว ผมถือว่าตรงจุดนี้สอบผ่านฉลุยไปเลย
แมปไม่กว้างมากแต่ก็มีทางแยกมากมายให้สำรวจ
สำหรับการเดินเรื่องของเกมนี้จะไม่ได้เปิดกว้างมาก ออกจะเป็นเส้นตรงซะด้วยซ้ำ แต่ระหว่างการเดินทางผู้เล่นก็จะได้พบเจอกับทางแยกมากมายให้ได้แวะไปสำรวจตามล่าหาไอเทมต่าง ๆ ตามแบบฉบับเกม Metroidvania และอาจจะมีการใช้เวทต่าง ๆ ที่ตัวละครเราสามารถใช้ได้แก้ Puzzle เพื่อสำรวจทางใหม่ ๆ ด้วย ซึ่งเอาเข้าจริง ๆ แมปของเกมนี้ก็ไม่ได้กว้างมาก แต่สำหรับผมคิดว่าอาจจะเพราะดีไซน์ฉากมันค่อนข้างจะดูเหมือน ๆ กันไปหมดทั้งทางแยกทางหลักและยิ่งบวกกับบางพื้นที่ที่มืด ๆ ด้วย ทำให้ตลอดเวลาการเล่นผมค่อนข้างจะหลง ๆ ลืม ๆ ทางบ่อยพอสมควร ประมาณว่าไม่ค่อยมีจุดให้สังเกตสักเท่าไหร่ว่าทางไหนเราสำรวจไปแล้วบ้าง
จุดสังเกต
จุดแรกที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยนั่นก็คือซับไตเติ้ลภาษาไทยในเกมถือว่าแปลออกมาได้ยังไม่ดีเท่าที่ควร ไม่รู้ว่าบทต่าง ๆ มันเป็นแบบนี้อยู่แล้วหรือแปลไม่ดี แต่บทพูดภายในเกมมันดูไม่เหมือนมนุษย์คุยกันสักเท่าไหร่ มันเหมือนภาษาเขียนมากกว่าภาษาพูดที่เวลาอ่านแล้วรู้สึกไม่ค่อยเข้าใจหรือมันดูพูดจาห้วน ๆ แบบแปลก ๆ รวมไปถึงเกมนี้แปลสระตกไปเยอะมาก ทำให้แอบมีเสียอรรถรสพอสมควรเมื่อถึงฉากเนื้อเรื่อง
และอีกจุดนึงก็คือแอนิเมชันของตัวละครที่ยังมีความรู้สึกหน่วง ๆ กว่าจะโดดกว่าจะยืน หรือเวลาโดนโจมตีแล้วตัวละครเราจะมีแอนิเมชันติดสโล ซึ่งเอาจริงมันน่าจะเป็นจังหวะที่ผู้พัฒนาตั้งใจใส่เข้ามาเพื่อให้ผู้เล่นต้องศึกษากับแอนิเมชันเหล่านี้ให้ชินมือด้วย อืม… ผมไม่ชอบแหะ มันรู้สึกแปลก ๆ กว่าจะปรับตัวได้คือเล่นนานมาก (ฮา)
สรุป
สำหรับผมโดยรวมคิดว่าเกมราคาหลักร้อยได้คอนเทนต์ขนาดนี้มาเล่นถือว่าความคุ้มค่ามาเต็มมาก ๆ ถึงในรีวิวผมจะย้ำบ่อย ๆ ว่าเกมนี้เป็นเกมยากแต่เอาเข้าจริงถ้าเทียบกับเกมตระกูล Soul อื่น ๆ ถือว่าเกมนี้เล่นง่ายกว่าเยอะ (อาจจะเพราะเกมนี้เน้นแอ็กชันระยะไกลด้วยแหละ) ทำให้นี่อาจจะเหมาะกับการเป็นก้าวแรกของคนที่ไม่เคยเล่นเกมแนวนี้มาก่อน หรือต่อให้คุณคือเทพแห่งเกม Soul เล่นแล้วยังยากไม่ถึงใจเกมนี้ยังสามารถปรับระดับความยากได้อีกด้วย บวกกับใครที่ชื่นชอบเกมภาพสไตล์อนิเมะแบบดาร์กแฟนตาซีคือห้ามพลาดเลย ขอแค่ลองเปิดใจเล่นดู แล้วคุณจะรัก น้อนโนเบต้า เหมือนผม (ฮา)
สำหรับคนที่สนใจสามารถซื้อมาเล่นได้ผ่าน Steam