Our score
7.0The Rumble Fish 2
จุดเด่น
- ระบบการต่อสู้โดดเด่นยังไม่เชย
- ราคาเกมไม่แพง
จุดสังเกต
- กราฟิกไม่ได้ปรับเปลี่ยนเป็น HD
- ตัวละครธรรมดาไม่โดดเด่น
ในยุคนี้อาจจะมีซีรีส์เกมต่อสู้หลงเหลือไม่มาก และส่วนใหญ่จะเป็นเกมฟอร์มยักษ์ที่มีมายาวนาน แต่ก็มีบางซีรีส์ที่ไม่ได้ไปต่อด้วยหลากหลายเหตุผล ไม่ว่าจะเป็นต้นฉบับไม่ได้รับความนิยม หรือค่ายเกมถูกปิดหรือยุบรวม และดูเหมือนว่า The Rumble Fish 2 จะอยู่ในหมวดยุบรวมค่าย
เพราะต้นกำเนิดของ The Rumble Fish หนึ่งในซีรีส์เกมต่อสู้ที่ภาคแรกวางขายในปี 2003 และออกภาค 2 ในปี 2004 (ในญี่ปุ่น) ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง แต่หลังจากจากต้นสังกัด Sammy ได้รวมกับ Sega แล้วดูเหมือนว่ามันจะกลายเป็นเกมที่ถูกลืมไปพร้อมกับยุคเกมอาเขตที่ได้รับความนิยมลดลงทำให้มันไม่ได้ไปต่อ แต่ล่าสุดมีการขุดเอา The Rumble Fish 2 มาขายใหม่แบบไม่ได้ปรับอะไรเลยออกบน PS4, PS5, Nintendo Switch และ Xbox One, Xbox Series X/S รวมทั้งออกบน PC ด้วย
เรื่องราวในเกมจะเกิดในช่วงศตวรรษที่ 21 โลกได้เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ทำลายล้างและคร่าชีวิตผู้คนไปมากมาย โดยเฉพาะดินแดนในฝั่งตะวันออก ทำให้ PROBE-NEXUS ได้เริ่มโครงการฟื้นฟูดินแดนฝั่งตะวันออกที่พังทลายขึ้นมาใหม่ แต่ในดินแดนที่สร้างขึ้นมาใหม่มีการจัดแข่งขันใต้ดินที่เรียกว่า Fight for Survival หรือเรียกย่อ ๆ ว่า F.F.S. ซึ่งรวบรวมนักสู้จากสลัมของเมืองเข้าแข่งขัน ทำให้มันเป็นฉากหลังในเกมทำให้ตัวละครมีความเป็น Cyber Punk ในแบบญี่ปุ่น
กราฟิกยกของเดิมมาทั้งหมด
สิ่งที่เป็นทั้งข้อเสีย และข้อดีไปพร้อมกันคือภาพในเกมที่ใน The Rumble Fish 2 ยกของเดิมมาทั้งหมดแบบไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไรเลย ที่นำเสนอในแบบ 2 มิติที่มีรายละเอียดดีตามยุคสมัย การเคลื่อนไหวดูดีกว่าเกมยุค 90S โดยเฉพาะแขนและขาที่ขยับได้เป็นธรรมชาติกว่าเกมในยุคนั้น ข้อดีคือมันคือภาพคลาสสิกต้นฉบับที่แฟน ๆ คิดถึง แต่สำหรับแฟนยุคใหม่มันดูเชยมาก แต่อย่างน้อยมันมาพร้อมกับสัดส่วนหน้าจอแบบ 16:9 ที่เข้ากับทีวียุคใหม่มันไม่ได้ดูเชยจนเกินไป
อย่างไรก็ตามข้อเสียคือผู้สร้างลืมปรับความละเอียดให้เข้ากับหน้าจอยุคใหม่ ทำให้มันไม่ได้มาแบบ HD แต่ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร เหมือนเล่นเกมย้อนยุค แถมมันเป็นแนวต่อสู้ยุคเก่าที่เชื่อว่าแฟน ๆ ทำใจตั้งแต่ก่อนซื้อแล้ว ส่วนเพลงประกอบในเกมอาจจะเป็นข้อด้อย เพราะนั่งเล่นทั้งแต่ต้นจนจบไม่มีเพลงติดหูเท่าที่ควร ซึ่งเป็นข้อเสียสำหรับเกมแนวต่อสู้เพราะมันควรจะมีเพลงที่โดดเด่นกว่านี้
เกมเพลย์ไฟติ้ง 2 มิติแบบเดิม ๆ
อย่างที่รู้กันว่า The Rumble Fish 2 มาแนวเกมต่อสู้ 2 มิติมุมมองด้านข้าง ที่ตัวละครจะต้องต่อสู้กันหลัก ๆ มันมีความคล้ายกับ Guilty Gear อยู่บ้างแต่จะไม่ดุเดือดเท่า การเล่นจะเน้นการกดปุ่มกดผสานกับปุ่มทิศทางเพื่อปล่อยพลัง และยังมีการใช้การกดตามจังหวะเพื่อปล่อยคอมโบ และเอามายำรวมกันได้ด้วยแต่มันก็ไม่ได้แปลกแตกต่างจากเกมต่อสู้อื่นนัก
ตัวละครในเกมจะคล้ายกับเกมต่อสู้ทั่วไป ที่มีทั้งตัวเล็กแต่มีความเร็วและเน้นท่าต่อเนื่อง หรือตัวใหญ่ยักษ์ที่ทรงพลังแต่เคลื่อนที่ได้ช้ากว่า นอกจากนี้ยังมาพร้อมพวกที่ต้องใช้เทคนิค แต่งานออกแบบดูไม่โดดเด่นเท่าที่ควร บางตัวละครเหมือนตัวประกอบฉากใน Street Fighter ทำให้ผู้เล่นไม่ได้ผูกพันกับตัวละครไหนเลยเหมือนกับเกมอื่น
ระบบท่าไม้ตายที่ลงตัว
แต่ความโดดเด่นจนทำให้ต้องหามาเล่นคือระบบการปล่อยท่าไม้ตายพิเศษที่มีมาให้ใช้หลายรูปแบบคือ Offense ที่นอกจากจะมีการโจมตีแบบปรกติยัง Jolt Attack ที่เป็นท่าไม้ตายที่ไม่สามารถป้องกันได้แต่จะเสียค่าเกจพลังหมดทำให้ไม่สามารถใช้ต่อเนื่องได้ การปล่อยท่าอาจจะไม่โดดเด่นเพราะส่วนใหญ่จะกดปุ่มคล้าย ๆ กันหมดแต่ก็ถือเป็นข้อดีเพราะผู้เล่นจะเรียนรู้ได้รวดเร็วไม่ต้องมานั่งจำอะไรเยอะ
ส่วนอีกรูปแบบคือเกจพลัง Defense ตามชื่อที่จะเป็นการป้องกัน และยังมีท่าพิเศษ ที่เรียกว่า Defensive Arts มาให้ใช้งาน แม้อาจจะไม่แรงเท่าแต่ก็สามารถทำให้เราได้เปรียบในการต่อสู้ได้ และยังเสริมด้วยท่าผสมผสานทั้ง 2 รูปแบบเข้าด้วยกันที่ใช้ได้เมื่อเกจพลัง Offense และ Defense เต็มทั้งคู่ โดยรวมถือว่าเป็นระบบที่ดูแปลกและหากมองว่าในเป็นเกมที่ออกมาหลายปีแล้วถือว่าโดดเด่นพอตัว
The Rumble Fish 2 อาจจะไม่ใช่เกมต่อสู้ที่ดีที่สุด แต่มันก็มีความสนุกที่แตกต่างจากเกมในยุคนี้พอสมควร แม้จะไม่ได้โดดเด่นทั้งเกมเพลย์รวมทั้งตัวละคร แถมผู้สร้างยังไม่ลงทุนปรับกราฟิกใหม่ทำให้มันดูเชยไปและถูกมองข้ามได้ง่าย ๆ แต่หากชอบแนวต่อสู้มันก็พอจะมีความสนุกของเกมในอดีต แถมราคาขายที่ไม่แพงนักจะลองหามาติดเครื่องก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส