การสร้างเกมทุกวันนี้นอกจากภาพสวย ๆ แล้ว งานออกแบบสุดแนวยังเป็นจุดเด่นที่สามารถทำให้มันแตกต่างและโดดเด่นจนเป็นกระแสได้ ทำให้ค่ายอินดี้พยายามเอาความแปลกใหม่ในการทำกราฟิกมานำเสนอ และหนึ่งในนั้นคือเกม Trek to Yomi แอ็กชันซามูไรที่มาในรูปแบบเกมขาวดำ

เกม Trek to Yomi ได้ออกวางขายในช่วงกลางปี 2022 บน PS4, PS5, Xbox One, Xbox Series X/S และ PC ล่าสุดเพิ่งจะออกบน Nintendo Switch ทำให้อยากลองเอามาเล่นและแนะนำให้แฟน ๆ คอนโซลของปู่นินได้เล่นกันด้วย เพราะด้วยรูปแบบที่น่าสนใจและกราฟิกแหวกแนวน่าจะถูกใจแฟนเกมปู่นินด้วยเช่นกัน

เรื่องราวในเกมจะเกิดในยุคซามูไรที่เต็มไปด้วยสงครามกลางเมืองในประเทศญี่ปุ่น เกมจะเล่าเรื่องตั้งแต่ตัวเอกนาม Hiroki ยังเป็นเด็กที่กำลังฝึกฝนเป็นซามูไรกับอาจารย์ แต่แล้วกองทัพศัตรูได้บุกเข้ามาแล้วทำลายล้างทุกสิ่ง รวมทั้งฆ่าอาจารย์ของตัวเอกไปทำให้เขาสาบานว่าจะกลับมาล้างเค้น แม้ว่าเนื้อเรื่องจะดูเชยแต่การทำเสนอดูแปลกแหวกแนวเพราะเป็นภาพขาวดำทั้งหมด

กราฟิกสุดแนวและดูดี

อย่างที่บอกไปว่าจุดเด่นของเกม Trek to Yomi ที่เห็นตั้งแต่เปิดตัวคือภาพสุดแปลกแหวกแนว เพราะจะนำเสนอภาพขาวดำที่เน้นแสงเงาดูผ่าน ๆ เหมือนภาพวาดคลาสสิกที่ดูแปลกตา มีการใส่คัตซีนที่ดูดี เพราะว่ามันใช้ Unreal ในการสร้างทั้งหมด อย่างไรก็ตามหากมองลงลึกในรายละเอียดอาจจะดูธรรมดา เทียบไม่ได้เลยกับเกมฟอร์มยักษ์ทั่วไป ก็ต้องเข้าใจว่ามันคือเกมจากค่ายเล็ก ๆ แค่นี้ถือว่าดูดีมากแล้ว

เพลงประกอบเป็นอีกจุดที่น่าสนใจ เพราะนอกจากจะลงทุนใส่เสียงพากย์เข้ามาในหลายส่วนของเกมแล้ว ในส่วนของดนตรีในเกมทำออกมาได้เข้ากับแนวทาง มีความเป็นญี่ปุ่นในยุคโบราณที่เน้นความเรียบง่ายมีการใช้เครื่องดนตรีโบราณผสมผสานเสียงบรรยากาศผสมยำรวมได้ลงตัว และมันเข้ากับกราฟิกได้อย่างดี แม้อาจจะไม่ได้มีเพลงติดหูมากนัก

เกมเพลย์แอ็กชันผสมผสาน

เกมเพลย์ในตอนแรกหลายคนอาจจะคิดว่ามันเป็น 2 มิติมุมมองด้านข้าง แต่พอได้เล่นจริง ๆ มันคือการผสมผสานหลายมุมกล้องเข้าไป เพราะบางส่วนเราจะเดินในฉากได้หลายทิศทางจนเหมือนเป็นมุมมองแบบ 2.5D แต่ในบางฉากก็จะเดินได้เกือบทั้งฉากจนคล้ายกับเกม Resident Evil ภาคเก่าสมัย PS1 เหมือนกัน แต่โดยรวมมันคือแอ็กชันที่เรียบง่ายเข้าใจง่ายเพราะมุมกล้องมันถูกล็อกตายตัวเหมือนเกมในอดีต

ส่วนระบบต่อสู้จะมาในรูปแบบที่เรียบง่ายใช้แค่ไม่กี่ปุ่มหลัก ๆ คือ โจมตีเบา, โจมตีหนัก ที่ยังแบ่งออกเป็นฟันตรง หรือใช้ดาบแทง ที่ต้องใช้ร่วมกับปุ่มทิศทางด้วย และสามารถสานต่อเป็นคอมโบได้อย่างง่ายดาย แต่มีค่าพลังความอึดกำหนดทำให้ใช้ต่อเนื่องไม่ได้ นอกจากนี้ยังมีอาวุธโจมตีระยะไกลอย่างดาวกระจายมาให้ใช้แต่ก็จำกัดมาก โดยรวมเป็นการต่อสู้ที่เรียบง่ายแต่เล่นได้สนุกแม้ว่าอาจจะไม่ได้สดใหม่และท่าไม้ก็ดูธรรมดาไปหน่อย

ระบบต่อสู้หลบหลีกและสวนกลับ

Trek to Yomi ไม่ได้เป็นเกมแอ็กชันฟันแหลก เพราะเกมเน้นความสมจริงในส่วนของฉากต่อสู้มากกว่า ทำให้การโจมตีต้องกะจังหวะเพื่อฟันไม่เช่นนั้นจะโดนสวนกลับได้ และยังต้องหลบหลีกเช่นการกลิ้งตัวหลบหลีก หรือกดปุ่มเพื่อหันกลับไปอีกด้านแบบรวดเร็วไว้ต่อสู้ได้หลายตัวพร้อมกัน แต่การหลบจะใช้ต่อเนื่องไม่ได้เช่นกันเพราะมีค่าพลังความอึดกำหนดเหมือนกับการโจมตี

แม้ว่าจะดูเป็นเกมที่ไม่ได้มีรายละเอียดมากนัก แต่มันก็ใส่เอาระบบอัปเกรดท่าไม้ตาย และค่าพลังของตัวละคร เช่นเพิ่มจำนวนอาวุธลับเช่นเพิ่มจำนวนดาวกระจาย รวมทั้งยังมีจุด Save ไว้เติมพลังเป็นระยะ น่าเสียดายที่เกมสั้นไปเล่นไม่กี่ชั่วโมงก็จบ และมันไม่ได้สนุกตลอดทั้งการเล่นเพราะช่วงท้าย ๆ ของเกมค่อนข้างเรียบไปหน่อย อย่างไรก็ตามมันก็มีข้อดีเพราะระหว่างเล่นจะมีทางเลือกที่ส่งผลให้มีฉากจบหลายแบบ ดังนั้นสามารถกลับไปเล่นซ้ำได้หลายรอบ

Trek to Yomi ถือเป็นอีกแนะนำให้แฟนปู่นินได้ลอง หากคุณชอบแนวแอ็กชันคลาสสิกแบบเกมในอดีตที่เคยเล่นตอนเด็ก แถมยังมีภาพงานออกแบบที่ดูแปลกตา น่าเสียดายที่เกมสั้นไปหน่อยและไม่ได้ใส่ความซับซ้อนหรือลูกเล่นเข้าไปมากนัก ทำให้มันยังไม่สุดเพราะเกมขาดความหลากหลายในแบบแอ็กชันที่แฟนเกมยุคนี้ชอบกัน แต่หากมองข้ามจุดนี้ไปก็ยังพอคุ้มค่าที่จะหามาเล่น

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส