[รีวิวเกม] ตำนานเม่นสายฟ้า “โซนิค” กลับมาแล้วในเกม Sonic Boom: Fire & Ice

Our score

7.2

Sonic Boom: Fire & Ice

จุดเด่น

1. ระบบไฟและน้ำแข็งที่ลงตัว
2. เกมเพลย์ 2D ที่สนุก

จุดสังเกต

1. ไม่มีอะไรสดใหม่
2. กราฟิกดูเชยไปหน่อย
3. เพลงประกอบที่เรียบเกินไป

• กราฟิก

  7.0

• เกมเพลย์

  7.0

• ความแปลกใหม่

  7.0

• ความคุ้มค่า

  7.5

• ภาพรวม

  7.5

Sonic ถือเป็นอีกหนึ่งตัวละครเก่าแก่ของวงการเกม โดยมันเป็นตัวมาสคอตของค่าย SEGA ที่ถูกสร้างขึ้นให้เป็นคู่แข่งกับลุงหนวด Mario แต่หลังจากค่าย SEGA เลิกทำเครื่องเกมทำให้ Sonic ไปอยู่บนทุกเครื่องเกมโดยเฉพาะคู่แข่งในอดีตอย่าง Nintendo ทำให้ตอนนี้ Sonic แทบจะกลายเป็นเพื่อนรักกับลุงหนวดไปแล้ว

และภาคล่าสุดอย่าง Sonic Boom: Fire & Ice ที่เป็นหนึ่งในซีรีส์ Sonic Boom ที่ก่อนหน้านี้เคยมีเกมออกบน WiiU และ 3DS มาแล้ว รวมทั้งยังมีการ์ตูนฉายทางทีวีมาให้ชม แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ทั้ง 2 เวอร์ชั่นที่ค่าย  SEGA หมายมั่นว่ามันจะมาคืนชีพให้ Sonic กลับมาดังอีกรอบกลับทำออกมาได้ไม่ค่อยดี ทั้งการ์ตูนและเกมไม่ค่อยประสบความสำเร็จนัก

แต่ดูเหมือน SEGA จะไม่ยอมแพ้ได้เข็น Sonic Boom: Fire & Ice ที่สร้างโดยทีมงานใหม่ออกมาให้เล่นโดยจะยังออกบน 3DS เหมือนเดิมทำให้กราฟิกในเกมอาจคาดหวังอะไรไม่ได้มาก แต่ก็ดูดีการออกแบบดูเหมือนเกมบน PC สมัยยุค 90 ซึ่งก็ไม่รู้ตรงส่วนนี้ทีมงานตั้งใจให้มันดูเชยหรือเปล่า แต่ที่น่าเศร้าคือเพลงประกอบที่ทำออกมาได้ต่ำกว่ามาตรฐานไม่มีธีมดังๆในอดีตมาให้เห็น ยังดีที่มีเสียงพากย์และมี CG Movie งามๆมาให้ชมตลอดเกม

ส่วนเกมเพลย์ที่ย้อนยุคไปไกลกลายเป็นแอ็คชั่น 2D สมัยอยู่บน MegaDrive 16Bit ที่ยังคงได้รับความนิยม จนมีคนเคยกล่าวว่าเกม Sonic ที่แท้จริงต้องมาแนวสองมิติเท่านั้น ระบบพื้นฐานของเกมยังคงต้องวิ่งไปในฉากด้วยความเร็วสูง ที่มีการออกแบบฉากตามสไตล์ ที่การวิ่งไปทางเส้นทาง พร้อมกับอุปสรรคและศัตรู ที่ทำให้ทุกอย่างเหมือนกับภาคก่อนแบบไม่มีความแตกต่างนัก ซึ่งหากมองว่ามันคือความคลาสสิกก็ถือว่ายังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง แต่มองในอีกมุมมันก็แทบไม่มีอะไรใหม่ในการออกแบบด่าน

แต่อย่าเพิ่งคิดว่ามันจะดูเชยเพราะลูกเล่นของภาคนี้คือพลัง ไฟและน้ำแข็งตามชื่อของเกม ที่ทำให้ Sonic และเพื่อนๆสามารถใช้ความร้อนของเปลวไฟเพื่อละลายน้ำแข็ง และใช้พลังน้ำแข็งเพื่อสร้างทางไปต่อได้ อันเป็นจุดขายที่เป็นจุดเด่นของภาค ซึ่งเมื่อนำมันมาผสมผสานกับรูปแบบแอ็คชั่น 2D แล้วถือว่าสนุกแบบพอไปได้เพราะอย่างน้อยๆก็สร้างความแตกต่างกับภาคที่ออกมาก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะตอนที่วิ่งด้วยความเร็วสูงแล้วต้องสลับเปลี่ยนทั้งไฟ และน้ำแข็ง

และนอกจากพลัง น้ำแข็งและไฟแล้ว ในการเล่นเราจะเลือกเปลี่ยนตัวละครได้มากถึง 5 ตัวและจะมีพลังที่แตกต่างกันอย่างเม่นน้อย Sonic ที่มีความเร็วและพลังพุ่งตัว , Tails ทีใช้หางบินได้และมีปืนแสง, Knuckles จอมพลังที่ขุดดินได้ ,Sticks ผู้ใช้บูมเมอแรง, Amy สาวน้อยที่มีใช้ค้อนเป็นอาวุธ โดยเราต้องสลับเปลี่ยนตัวออกเล่นเพื่อแก้ปริศนาในฉาก และบางด่านต้องใช้ตัวละครให้ถูกถึงจะเล่นผ่านได้ และดูเหมือนคราวนี้ทีมงานจะทำการบ้านออกมาดีเล่นเพราะโดยรวมเกมสนุกและลงตัวกว่า Sonic ที่ออกมาก่อนหน้านี้

แม้ว่าเกม 2D แต่ทีมงานเหมือนอยากให้แฟนๆได้สัมผัสความเร็วในแบบ 3D ด้วยเลยจับเอาฉากที่เราต้องวิ่งไปในเส้นทางสามมิติที่เราทำได้ทั้งหลบหลีก กระโดดห้อยโหน และยังมีการใช้พลังไฟและน้ำแข็งเพื่อเปิดทางไปต่อเหมือนเกมหลักเช่นเดียวกัน และยังมีฉากแบบเกมยานยิงที่เราได้บังคับเรือล่องไปในทะเล , มีฉากเรือดำน้ำ และยังเสริมด้วยฉากวิ่งแข่งแบบ 2D และบอสที่ลังการงานสร้างเพราะมันโผล่มาแบบ 2 หน้าจอของเครื่อง 3DS

เอาเข้าจริงๆ Sonic Boom: Fire & Ice อาจไม่ใช่เกมซีรีส์ เม่นน้อยที่สนุกที่สุด แต่ถือว่าทำออกมาได้ดีกว่าที่คาดหวังกันไว้มากดีกว่าซีรีส์ SonicBoom ก่อนหน้านี้ทั้งหมด ข้อเสียอย่างเดียวคือมันไม่ได้มีความแปลกใหม่มากมายเท่าที่ควร เล่นไปนานๆจะรู้สึกว่ามันซ้ำซากไปหน่อย แต่สำหรับผู้ที่เกิดและเติบโตมากับเกมในยุค 90 มันถือว่ามีความดีงามของเกมในอดีตที่ยังคงอยู่มาจนถึงปัจจุบันได้

ขอบคุณร้านเกม Nadz Project ดิจิตอล เกตเวย์ ชั้น 2

Play video