[รีวิวเกม] Honkai: Star Rail เกม RPG สุดตึงที่หลายคนรอคอย

Our score

8.9

[รีวิวเกม] Honkai: Star Rail เกม RPG สุดตึงที่หลายคนรอคอย

จุดเด่น

1. ภาพสวยมาก ออกแบบตัวละครดีงาม เพลงประกอบเพราะ
2. เนื้อเรื่องเข้มข้น น่าติดตาม
3. ระบบต่อสู้ไม่ยากไม่ง่าย ใคร ๆ ก็เล่นได้
4. แมปมีอะไรให้สำรวจเยอะ ระบบเควสต์และโหมดการเล่นเยอะ
5. แปลภาษาไทยได้ดีทีเดียว

จุดสังเกต

1. บทสนทนาและเนื้อเรื่องค่อนข้างเยอะและ Skip ไม่ได้
2. การต่อสู้แบบ Turn-Based ที่ทำให้คอเกมแอ็กชันขัดใจ และยังทำออกมาได้เพียงกลาง ๆ ไม่สุด
3. กาชาเกลือใช่ย่อย (ความเห็นส่วนตัวมาก ๆ)

Honkai: Star Rail เกม Turn-Based RPG คุณภาพคับ จาก HoYoverse

จุด ๆ นี้คงไม่เล่นไม่ได้แล้ว กับเกม Honkai: Star Rail เกมมือถือแนว Turn-Based RPG จาก HoYoverse ที่มีชื่อเล่นให้เรียกอย่างน่ารักว่าเกม ‘รางดาว’ ด้วยเนื้อเรื่องที่เข้มข้น การออกแบบตัวละครดีเยี่ยมที่เป็นจุดแข็งของค่ายนี้มาโดยตลอด บวกกับงานภาพตระการตา จึงทำให้เกมนี้ถูกพูดถึงในวงกว้าง ไม่ว่าจะหันหน้ามองทางไหนใคร ๆ ก็เล่น ทางเราจึงไม่รอช้า ก็โหลดมาลองเล่นกับเขาด้วย

เนื้อเรื่องเข้มข้น คาดหวังได้เหมือนเดิม

สำหรับเนื้อเรื่อง แบบไม่สปอยล์ เกมจะคุมธีมแนวผจญภัยท่องอวกาศ มีความ sci-fi fantasy ต่างจาก Genshin Impact ที่เป็นแฟนตาซีย้อนยุคจ๋า ๆ โดยเราจะได้รับบทตัวละครหลักที่สามารถเลือกเพศได้ระหว่างผู้ชายกับผู้หญิง (เหมือน Genshin Impact) ซึ่งตัวเรานั้นมีความทรงจำที่ขาดหาย และร่างกายที่มาพร้อมกับพลังของอัญมณีหรือเมล็ดพันธุ์วิเศษ Stellaron เรื่องราวจะเริ่มต้นที่เราได้เดินทางไปกับรถด่วนท่องดวงดาวที่ชื่อว่า Astral Express เพื่อค้นหาความจริงเกี่ยวกับพลังแห่งอัญมณีที่ทำให้ใครต่อใครต้องการพลังจากมัน

ระหว่างการออกเดินทางไปกับขบวนรถไฟท่องอวกาศนี้ เราจะพบกับตัวละครน่าสนใจมากมายอย่าง March 7th และ Dan Heng ที่จะร่วมผจญภัย ฝ่าอันตรายและต่อสู้ไปด้วยกัน ทุกตัวละครมีเรื่องราว พื้นเพและปูมหลัง มีระบบปฏิสัมพันธ์แบบข้อความแชทที่ทำให้เราได้รู้จักตัวตนและนิสัยของตัวละครต่าง ๆ ในเกมมากขึ้นนอกเหนือจากการเล่นเนื้อเรื่อง การเล่าเรื่องที่มีตัวเอกเป็นจุดศูนย์กลางมากขึ้นเมื่อเทียบกับ Genshin Impact ทำให้ผู้เล่นสามารถดื่มด่ำกับเนื้อหาได้ดีทีเดียว

ภาพสวยสมความคาดหวัง คาแรกเตอร์สมมงค่ายใหญ่

มาถึงจุดแข็งของเกมค่ายนี้กันบ้าง กับงานภาพที่ต้องยอมรับว่าทำออกมาได้ดีสมความคาดหวังตามหัวข้อเลย ลายเส้น อาร์ตเวิร์ก ฉาก องค์ประกอบฉาก ออกแบบได้ดี UI (User Interface) ค่อนข้างได้มาตรฐาน คุ้นหน้าคุ้นตา คุ้นเคยสำหรับคนเล่นเกมค่ายนี้อยู่แล้ว เข้าใจไม่ยาก

การออกแบบตัวละคร ลายเส้นเป็นเอกลักษณ์และดึงดูดผู้เล่นได้พอสมควร ทุกตัวละครมีเสน่ห์ในตัวเอง รูปลักษณ์ คอสตูม ที่ยังรักษาความแฟนตาซีเอาไว้แม้ธีมหลักจะเป็นแนว ๆ อวกาศ เอาง่าย ๆ คือผู้หญิงสวย ผู้ชายหล่อ ชุดปัง ตามมาตรฐานตามความคาดหวังของแฟน ๆ ทุกคน

ถัดมาคือในส่วนของเอฟเฟกต์สกิล โมชันการเคลื่อนไหวต่าง ๆ ส่วนตัวคิดว่ามันไม่ได้ว๊าวขึ้นกว่าเกมก่อน ๆ หน้า แต่ด้วยความที่เป็นแนว Turn-Based ทำให้เราได้เห็นเอฟเฟกต์สกิลแบบชัด ๆ เน้น ๆ มากขึ้น ซึ่งมันก็ดีกันคนละแบบ เมื่อเทียบกับเกมเพลย์แนวแอ็กชัน ตรงนี้อาจจะแล้วแต่ชอบ โดยรวมภาพไหลลื่นดี และ Cut Scene ต่าง ๆ รวมไปถึงอนิเมชันปล่อยสกิลท่าไม้ตายก็ดีเช่นกัน ต้องยอมรับว่าส่วนนี้หาข้อติไม่ได้เท่าไร วัดตามความคาดหวังสำหรับเกมบนมือถือเกมหนึ่ง

เกมเพลย์แบบ Turn-Based RPG ที่ทำให้เสียงแตก

ความจริงในส่วนของเกมเพลย์และการต่อสู้ ไม่ค่อยอยากรีวิวฟันธงอะไรนัก เพราะมันเป็นเรื่องของรสนิยมการเล่นเกมล้วน ๆ เนื่องจากผู้เล่นเกม ก็มีทั้งที่ชอบเกมแนว Action RPG และมีที่ชอบ Turn-Based RPG ซึ่งสองแนวนี้การเล่นต่างกัน ไดนามิกต่างกันเลย

การเข้าต่อสู้ในเกมนี้ เข้าใจไม่ยาก คือระหว่างสำรวจ หรือเดินเควสต์ไปตามแมป จะมีโอกาสเจอศัตรูเดินอยู่ เราสามารถเข้าไปโจมตีได้เลย โดยสังเกตธาตุจุดอ่อนเหนือศีรษะของศัตรู (เกมนี้มีระบบธาตุ สามารถเสิร์ชหาไกด์ได้) หากโจมตีเปิดด้วยตัวละครธาตุดังกล่าว เมื่อตัดเข้าฉากต่อสู้ ศัตรูก็จะแพ้ทางธาตุนั้น และการโจมตีของธาตุนั้น ๆ ก็จะทำดาเมจได้สูงนั่นเอง

ในมุมมองของคนที่ชอบการต่อสู้แบบแอ็กชัน เกม Turn-Based จะทำให้ขัดใจนิดหน่อย (หรือไม่หน่อย) เพราะทำให้กว่าจะสู้ศัตรูเสร็จแต่ละเวฟค่อนข้างช้า ไหนจากเลือกเป้าหมาย เลือกประเภทการโจมตี ไหนจะกดสกิล หากศัตรูหรือตัวละครในทีมมีบัฟตีสวน มีสกิล CC อัตโนมัติอะไร ก็จะผลัดกันทำแอ็กชันยืดเยื้อกันไปอีก มันเลยจะไม่ทันใจเท่าไร แต่ตัวเกมมีระบบ speed และ auto attack มาให้ ก็ช่วยให้สะดวกขึ้นได้ประมาณหนึ่งเลยล่ะ

ต่อมาในมุมมองของคนที่ชอบเกม Turn-Based (อย่างผู้เขียนเอง) ส่วนตัวรู้สึกว่ายังไม่มีอะไรประทับใจกับการต่อสู้ของเกมนี้เท่าไร ง่าย ๆ คือไม่ได้มีอะไรว๊าว แม้จะมีระบบจุดอ่อน การคอมโบใด ๆ แต่ก็แอบขาดเสน่ห์ของเกมแนวนี้ตรงมีแอ็กชันให้เลือกกระทำไม่หลากหลาย ไม่หวือหวา ลูกเล่นจัดว่าน้อยทีเดียวเมื่อเทียบกับเกม Turn-Based แบบจ๋า ๆ จริง ๆ ให้เดาดู ก็เข้าใจว่าผู้พัฒนาคงตั้งใจทำระบบต่อสู้ให้ออกมากลาง ๆ ไม่สุดโต่งมากนัก เพื่อรักษาผู้เล่นฝั่งที่ไม่คุ้นชิน แต่ก็อาจจะทำให้คอเกม Turn-Based จริง ๆ ผิดหวังหน่อย ๆ ในด้านเกมเพลย์นี้จึงไปไม่ค่อยสุด และไม่ใช่จุดเด่นของเกมเท่าไรตามความเห็นของผู้เขียน

แมปมีอะไรให้สำรวจ ให้รื้อ ให้ค้นเยอะ

เกมนี้ยังไม่ทิ้งลาย Open World ที่มีแมปให้เราเดินสำรวจอิสระ (แต่จะเปิดเป็นโซน ๆ) ในแมปเราจะเจอจุดฮีล และพวกหีบ หรือสิ่งของให้ไปเปิด ไปทำลายเพื่อดรอปไอเทมต่าง ๆ ดังนั้น เกมนี้จึงไม่เหมาะกับคนที่ไม่ค่อยว่างอยู่หน้าจอเอาเสียเลย หนึ่งเลยคือต้องเดินเควสต์เอง สองคือ สายตาต้องกว้างขวาง ไม่งั้นจะพลาดไอเทมหรือข้าวของที่อยู่ตามแมปไปอย่างน่าเสียดาย แต่ในขณะเดียวกัน ก็จะถูกใจสายฟาร์ม สายรื้อแมปด้วย ประเภทที่เควสต์ไม่เดิน ชอบเพลินฟาร์มของ รับรองว่าคุณมาถูกเกมแล้ว

ถึงอย่างไร แมปต่าง ๆ ก็ไม่ใช่จะเข้าถึงได้อิสระ ยังต้องยึดโยงกับการเดินเควสต์เนื้อเรื่อง หรือเควสต์หลักอยู่ เอาง่าย ๆ ก็คือจะดองเควสต์ไม่ได้นะ ยังไงก็ต้องทำ หากเป็นสายเนื้อเรื่องจะชอบ แต่ถ้าชอบ Skip จะติดปัญหาหน่อย เพราะเกมนี้จะกึ่ง ๆ บังคับให้คุณรับรู้เนื้อหาและบทสนทนาไปพร้อม ๆ กับตัวละคร ไม่มีทางลัดใด ๆ ถ้าอยากรีบ ๆ เล่น จะขัดใจพอสมควรเลย แต่ถ้าไม่รีบ ก็ยาวไป

การอัปเกรดตัวละครยังคงมีความหลากหลาย น่าสนใจ ตัวแจกฟรีก็เก่ง

การจัดปาร์ตี้ในเกมนี้จะสามารถพาตัวละครไปกับปาร์ตี้ได้สูงสุด 4 ตัวละคร ส่วนการพัฒนาตัวละครของเกมนี้ก็จะมีความหลากหลายตามสไตล์เกม RPG อื่น ๆ ค่าสเตตัสที่นอกจากจะมีค่าพลังชีวิต ค่าพลังโจมตี และค่าพลังป้องกัน ยังมีค่าความเร็วเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งค่านี้จะมีผลต่อลำดับการโจมตีหรือทำแอ็กชันของตัวละครเมื่อเริ่มเทิร์น (ตามสไตล์เกม Turn-Based)

การอัปเกรดอื่น ๆ นอกจากการอัปเลเวล ก็เหมือน ๆ เกมอื่น ๆ คือการอัปเลเวล ใส่อาวุธ รวมไปถึงการใส่การ์ด หรือสมุด หรือระบบ Light Cones แล้วแต่จะเรียก ตรงนี้จะช่วยเพิ่มค่าสถานะพิเศษ หรือพาสซีฟสกิลต่าง ๆ ให้แก่ตัวละคร โดย 1 ตัวละคร ติดตั้งได้ 1 ชิ้น เราสามารถเลือกติดตั้งตามความเหมาะสมและการใช้งาน

ระบบอื่น ๆ ให้ทำอีกเยอะแยะ ส่วนกาชาคือแล้วแต่ดวง

แม้แค่ทำเควสต์เนื้อเรื่องหลักก็จัดว่าแน่นแล้ว ตัวเกมก็ยังมีระบบอื่น ๆ มาให้เราเล่น จะได้ไม่จำเจเกินไป เผื่อเดินเควสต์จนเบื่อ เหนื่อย ทีมเริ่มสู้ไม่ไหว ก็มาเล่นโหมดเสริมต่าง ๆ ที่จะช่วยให้เราอัปเกรดตัวละครและปาร์ตี้ของเราให้เก่ง ๆ ยิ่ง ๆ ขึ้นไปได้ ซึ่งเอาง่าย ๆ ก็คือดันเจียนฟาร์มของพัฒนาตัวละคร และพวกดันเจียนบอสให้ลงไปสู้นั่นเอง

และที่ไม่พูดไม่ได้คือเรื่องของกาชาปอง เกมค่ายนี้เป็นเกมกาชาที่มีตัวละครเก่ง ๆ สวย ๆ เท่ ๆ มายั่วอกยั่วใจให้เงินในกระเป๋าตังค์สั่นคลอนพอควร แน่นอนว่าแต่ละคนมีตัวละครอวยไม่เหมือนกัน ดังนั้นใครอยากเป็นสายฟรี เล่นตัวละครที่เกมแจกให้ฟรีก็ได้นะ ตัวละครค่อนข้างเก่งเลย แต่ถ้าใครปักเมนเอาไว้แล้ว ต้องขอบอกว่าเอาใจช่วยแล้วกัน เพราะผู้เขียนก็ดวงเกลือมากจนไตทะลุผุพัง ถ้ามีเวลา ก็รีโรลหาตัวที่ชอบกันไว้ก่อนได้ แต่ถ้าไม่ซีเรียส สามารถเล่นได้เลย เพราะตัวแจกก็ใช้เล่นได้ แถมเก่งด้วยนะ

สรุปแล้ว

เป็นเกมที่ทำออกมาได้สมความคาดหวัง เนื้อเรื่องดี ภาพสวย เพลงประกอบเพราะมาก ระบบเกมที่ต้องการครบถ้วน มีกิมมิกเล็ก ๆ น้อย ๆ สอดแทรกอยู่ตลอด การแปลภาษาเท่าที่เล่นมาทำได้ดีมาก มีความกลมกลืน บทสนทนาลื่น ๆ ไม่แข็งหรือขัดใจอะไรเลย ระบบต่อสู้เข้าใจไม่ยาก

จุดสังเกต เนื้อเรื่องที่แน่น บทสนทนาที่ยาวอาจทำให้ผู้เล่นที่ไม่ได้มีเวลากับหน้าจอเยอะ ๆ ไม่สะดวก เพราะ Skip ไม่ได้ การต่อสู้แบบ Turn-Based ยังทำออกมากลาง ๆ สนุกไม่สุด และกาชาปองเกลือมาก ห้าดาวออกยากจังจ้า! (อันนี้ส่วนตัวล้วน ๆ)

ดาวน์โหลด

Android

iOS

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส