[รีวิวเกม] The Legend of Zelda: Tears of the Kingdom หนึ่งในเกมยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาล
Our score
9.8

The Legend of Zelda: Tears of the Kingdom

จุดเด่น

  1. รูปแบบการเล่นแบบ Openworld ที่สนุกเหมือนเดิม
  2. พลังพิเศษใหม่ที่สร้างสรรค์สิ่งของได้มากมาย
  3. ฉากในเกมออกแบบมาดีมาก มีอิสระในการเล่น

จุดสังเกต

  1. ไม่ใช่เกมใหม่แบบ 100%

หากคุณคาดหวังอะไรมาก ๆ มักจะผิดหวังคำคมนี้ใช้ได้มาตลอด แต่บางครั้งมันก็มีข้อยกเว้นกับการมาของภาคต่อของเกมในตำนานอย่าง Zelda: Breath of the Wild ที่วางขายในปี 2017 ที่ในตอนนั้นมันได้รับเสียงตอบรับอย่างถล่มทลายทำลายสถิติยอดขาย และได้รับเสียงวิจารณ์ในแง่บวกและได้รางวัลเกมแห่งปีจากหลายสำนัก

ทำให้การมาของภาคต่อ The Legend of Zelda: Tears of the Kingdom แบกความคาดหวังสูงมากเนื่องจากต้นฉบับทำได้ดี และยังพัฒนามาอย่างนาวนาน ทำให้มีหลายคนกังวลว่าจะผิดหวังเพราะคาดหวังไว้สูงเกินไป อย่างไรก็ตามจากกระแสทั่วโลกที่เทคะแนนในแง่บวกทำให้ต้องรีบหามาลองและรีวิวให้อ่านกัน และในรีวิวนี้จะไม่มีการสปอยล์เนื้อเรื่องดังนั้นสบายใจเลื่อนลงไปอ่านได้

อย่างไรก็ตามคำถามแรกสำหรับแฟนเกมที่ยังไม่เคยเล่น Breath of the Wild คือจำเป็นต้องเล่นภาคต้นก่อนหรือไม่ ก็ขอบอกเลยว่าควรจะเล่นเพราะมันมีเนื้อเรื่องต่อกันเพราะหากเล่น Tears of the Kingdom ก็จะรู้เรื่องราวของภาคก่อนจะทำให้เมื่อกลับไปเล่นภายหลังจะไม่อินกับเนื้อเรื่อง แต่หากไม่มีเวลาก็ไม่ต้องเล่นก็ได้ เพราะแม้เรื่องราวจะต่อกันแต่เกมเพลย์จะเริ่มต้นใหม่หมดไม่สามารถเอาพลังหรือไอเทมจากภาคแรกมาใช้ได้

กราฟิกเหมือนเดิมเพิ่มเติมนิดหน่อย

แม้ว่าจะเป็นภาคใหม่และห่างจากภาคแรกถึง 6 ปี แต่กราฟิกใน Tears of the Kingdom ก็ไม่ได้อัปเกรดเพิ่มอะไรเข้าไปมากเท่าที่ควร ทุกอย่างในอยู่ในรูปแบบเดิมเพราะมันเป็นภาคต่อกัน แต่ก็ไม่ได้เลวร้ายเพราะมันมาแนวการ์ตูนแบบเซลเฉดที่ดูดีงาม โลกในเกมแม้จะไม่ได้เต็มไปด้วยรายละเอียดที่สมจริงแต่ก็กว้างอย่างไม่น่าเชื่อก็พอจะยอมรับกราฟิกระดับนี้ได้

และหากมองให้ดีก็มีความละเอียดที่รับได้เฟรมเรตอยู่ในระดับไม่เลวร้าย โดยรวมแล้วทำได้ดีเหมือนเดิมใครอยากเห็น Zelda ที่มีโลกกว้างและภาพสวยกว่านี้ก็ต้องรอภาคต่อไปบนคอนโซลรุ่นใหม่ของปู่นินก็แล้วกัน ส่วนเพลงประกอบเป็นสิ่งที่ต้องชมแม้ว่าจะมีการใส่เพลงจาก Breath of the Wild เข้ามาด้วย แต่ก็มีการแต่งเพลงใหม่เสริมเข้าไป ส่วนเสียงพากย์ก็ยังคงมีแม้จะมีเฉพาะส่วนสำคัญเช่นคัตซีนแต่ก็เสริมให้การเล่าเรื่องดูดี แต่ Link ก็ยังคงไม่มีเสียงพากย์เหมือนเดิม

เกมเพลย์ Openworld ของแท้ที่สนุกเหมือนเดิม

รูปแบบการเล่นถ้าจะอธิบายสั้น ๆ ก็คือแอ็กชัน Openworld แบบเดียวกับ Breath of the Wild ที่มีดินแดนสุดกว้างใหญ่ให้สำรวจและผู้สร้างก็ให้อิสระที่ไปได้แทบจะทุกที่จริง ๆ ถือว่าเป็นเรื่องน่าทึ่งมากเมื่อเทียบกับสเปกของคอนโซลของ Nintendo มาในภาคนี้ก็เหมือนเดิม แต่ดูเหมือนว่าปู่นินจะฟังเสียงบ่นที่ช่วงแรกผู้เล่นไม่รู้ว่าต้องทำอะไรโดยการเพิ่มสิ่งใหม่ที่เหมือนเป็นโหมดสอน

โดยในช่วงแรกเกมจะปล่อยให้ Link อยู่บนเมืองลอยฟ้าที่เหมือนกับเป็นโหมดฝึกสอนให้เราค่อย ๆ เรียนรู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง ที่ฉากยังถูกจำกัดแต่เมื่อผ่านช่วงแรกแล้วเราจะร่อนลงสู่พื้นดินที่เกมเพลย์จะเหมือนกับภาคแรกที่ผู้เล่นต้องออกค้นหาเจ้าหญิง Zelda ทั่วดินแดนที่กว้างสุดลูกหูลูกตา แต่ผู้เล่นจะนอกเรื่องด้วยการทำภารกิจย่อยหรือฟาร์มของได้ตามใจ แต่ยังต้องกลับไปบนท้องฟ้าและยังมีโลกใต้ดินให้สำรวจด้วย ที่น่าทึ่งมากคือเราสามารถกระโดดจากฟ้าร่อนลงมายังโลกใต้ดินได้ทันทีไม่มีการโหลด

ปรับให้ลงตัวเข้าใจง่ายขึ้น

สิ่งที่ทำให้ภาคนี้ลงตัวกว่าเดิมคือระบบนำทางเพราะหลังจากลงสู่โลกด้านล่างแล้วจะมีจุดที่บอกให้ทำภารกิจที่ชัดเจนกว่าเดิม มีการบอกว่าต้องทำอะไรที่ไหนทำให้เดาทางไปไม่ยากแล้ว แม้ว่าภารกิจในเกมจะไม่ได้บอกแบบตรง ๆ แบบเกมยุคใหม่ผู้เล่นยังต้องอ่านคำใบ้ในเมนูที่เข้าใจง่ายมีการบอกอย่างละเอียดแต่ก็ต้องอ่านทำให้อาจจะยังไม่เหมาะกับผู้เล่นชาวไทยที่ขี้เกียจอ่านภาษาอังกฤษ แต่ถือว่าทำให้เกมเล่นได้ลื่นกว่าเดิมเยอะแล้ว

ส่วนแอ็กชันในเกมจะเหมือนเดิมที่ Link ต้องใช้อาวุธเครื่องป้องกันเพื่อต่อสู้กับศัตรู และอาวุธและดาบยังถูกกำหนดด้วยค่าพลังเหมือนเดิมซึ่งทำให้มันแตกและพังได้หากใช้ไประยะเวลาหนึ่ง นอกจากนี้ตัวละคร Link จะมีค่าพลังความอึดคอยกำหนดการเคลื่อนไหวเช่นการวิ่งเร็ว หรือปีนป่ายไปบนที่สูง, ว่ายน้ำ, รวมทั้งใช้เครื่องร่อนด้วย ที่มันยังคงอยู่เหมือนเดิม ทำให้ผู้เล่นต้องเก็บสะสมเพิ่มพลังความอึดเพราะจำเป็นต้องใช้ทำกิจกรรมตลอดการเล่น รวมทั้งพลังชีวิตด้วย

มีของใหม่ที่สร้างสรรค์ได้ตามใจผู้เล่น

อีกส่วนที่เป็นของใหม่คือพลังพิเศษของ Link ที่ลงทุนสร้างมาใหม่หมดแถมแต่ละอย่างยังโดดเด่นมาก โดยมีทั้ง Fuse ที่เอาไว้ใช้รวมสิ่งของเช่นเอาดาบมารวมกับไอเทมธาตุไฟจะได้ดาบไฟ หรือเอาไม้มารวมกับเขาสัตว์ปลายแหลมจะได้หอก พลัง Fuse เหมือนเป็นการเอามากลบจุดอ่อนที่อาวุธพังได้ง่าย เพราะเราสามารถสร้างใหม่และผสมผสานเพิ่มธาตุที่ต้องการเพื่อให้โจมตีแรงขึ้นได้ตลอด

ต่อด้วย Ultrahand พลังที่เอาไว้หยิบยกสิ่งของและยังเอามารวมร่างกันได้ เพื่อเอาไปสร้างเป็นยานพาหนะไว้เดินทางไปต่อ หรือสร้างสะพานและมีอิสระให้เราสร้างได้มากมาย แถมยังมีไอเทมที่เรียกว่า Zonai Devices ที่เหมือนเครื่องยนต์ที่ใช้พลังแบตเตอรี่ เมื่อเอามารวมกันจะสร้างสิ่งแปลก ๆ ได้มากมายและเกมเปิดอิสระให้สร้างสรรค์ได้ตามใจแบบไร้ขีดจำกัดสิ่งของขนาดใหญ่ยักษ์ก็สร้างได้

นอกจากนี้ยังมีพลัง Autobuild ที่เอาไว้สร้างสิ่งของที่ซับซ้อนขึ้นเช่นรถถังหรือหุ่นยนต์ขนาดใหญ่ไว้ต่อสู้กับศัตรูได้ เชื่อว่าหลังจากเกมวางขายจะมีการสร้างอะไรแปลก ๆ หลุดโลกออกมาโชว์แน่ถือว่าเป็นพลังที่เป็นจุดขายหลักของภาคนี้เลย ต่อด้วยกับพลัง Ascend ที่เมื่อ Link ใช้จะพุ่งทะยานทะลุกำแพงไปด้านบนได้ที่เอาไว้ใช้เดินทางด้วยความเร็ว ปิดท้ายกับพลัง Recall ที่เอาไว้ย้อนเวลา Link สามารถใช้เพื่อย้อนเวลาสิ่งของในฉากเช่นปรับกลไกของพื้นเลื่อนเพื่อเปิดทางไปต่อได้

ดันเจี้ยนกลับมาใช้แบบเดิมที่สนุกกว่าเดิม

ดันเจี้ยนหลักในเกมจะเรียกว่า Temples แปลว่ามันกลับมาใช้แบบเดิมไม่ได้เป็น Divine Beasts แล้ว ตัวดันเจี้ยนอาจจะไม่ได้ใหญ่มาก แต่กว่าจะเดินทางไปถึงมายาวมากเพราะผู้สร้างใส่อุปสรรคมากมายตามธีมของฉากเช่น Wind Temples ที่ลอยอยู่บนฟ้า Link ต้องหาทางค่อย ๆ ปีนขึ้นไป ทำให้หากเอามารวมกันทั้งหมดแล้วต้องใช้เวลาเล่นยาวนานและถือว่าไม่แพ้สัตว์จักรกลยักษ์ Divine Beasts เลย

แต่ความดีงามคือรูปแบบการเล่นที่เปิดอิสระให้ผู้เล่นคิดวิธีผ่านได้เอง ซึ่งมีมาตั้งแต่ภาค Breath of the Wild แล้วทำให้ฉากเดียวกันแต่จะสามารถคิดวิธีผ่านได้หลายแบบมาก แถมภาคนี้ยังใส่ระบบสร้างสิ่งของได้เองเข้าไปอีกทำให้เชื่อว่านอกจากเนื้อเรื่องหลักแล้ว ผู้เล่นจะสนุกกับการค้นหาสิ่งที่ซ่อนอยู่ในเกมได้หลายร้อยชั่วโมงกันเลย ส่วนของเดิมอย่างดันเจี้ยนย่อยที่เรียกว่า Shrine ที่ยังคงมีอยู่และเมื่อผ่านจะได้พลังมาอัปเกรดตัวละคร นอกจากนี้มันยังเป็นจุดวาร์ปด้วยถือว่าผสมผสานได้ลงตัว

The Legend of Zelda: Tears of the Kingdom ยังคงสานต่อความยอดเยี่ยมของ Breath of the Wild ได้อย่างไม่มีที่ติ แถมยังอัปเกรดเพิ่มเติมสิ่งใหม่เข้าไปเช่นระบบการสร้างสิ่งของหรือยานพาหนะ อีกทั้งยังแก้ไขข้อเสียของภาคก่อนเพิ่มระบบนำทางที่ทำให้เราทำเนื้อเรื่องได้ง่ายขึ้นเข้าไป ใครชอบ Breath of the Wild ก็ไม่ควรพลาดที่จะสานต่อ ส่วนใครที่ไม่เคยเล่นมาก่อนก็หามาเล่นได้เพราะภาคนี้ปรับให้ลงตัวเข้าถึงได้ง่ายขึ้นแล้ว

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส