Our score
9.2Rise of the Tomb Raider
จุดเด่น
- กราฟิกดูดีมาก
- โหมดพิเศษที่แถมมา
- รองรับ Playstation VR
จุดสังเกต
- ไม่ต่างจากเวอร์ชั่น XboxOne เท่าไร
-
กราฟิก
9.5
-
เกมเพลย์
9.0
-
ความแปลกใหม่
8.7
-
ความคุ้มค่า
9.5
-
ภาพรวม
9.5
ในที่สุดก็ถือเวลาแฟน Sony จะได้เวลาล่าสมบัติกับสาวน้อย ลาร่า ครอฟท์ ในเกม Rise of the Tomb Raider หลังจากปล่อยให้แฟน ไมโครซอฟท์ ได้เล่นก่อนเกือบ 1 ปี แต่อย่างไรก็ตามการกลับมาครั้งนี้ไม่ธรรมดาเพราะทางค่ายเกม ได้เพิ่มเติมสิ่งใหม่ๆเข้ามาให้เพียบ
โดยก่อนอื่นต้องพูดถึงกราฟิกอย่างแรกที่ปรกติแล้วใน Rise of the Tomb Raider เวอร์ชั่น XboxOne ก็ถือว่าทำออกมาได้ดีและอัพเกรดขึ้นกว่าเดิมทั้งงานออกแบบฉากและพื้นผิว ซึ่งในเวอร์ชั่น PS4 หากเทียบกับ XboxOne ก็แทบจะไม่เห็นความแตกต่างมากนัก เพราะก็ดูดีทั้งคู่ คงต้องไปหาความต่างบน PS4 Pro ที่ตอนนี้ยังไม่ออกวางขาย อย่างไรก็ตามมันก็ถือว่าเป็นการยกระดับกราฟิกการเล่าเรื่อง ที่มีทั้งโลกกว้างๆที่เต็มไปด้วยสัตว์ร้าย หรือฉากโบราณสถานที่ดูลึกลับที่มีทั้งฉากภูเขาหิมะที่จำลองออกมาได้สมจริงจนคนเล่นรู้สึกหนาว ผ่านการเล่าเรื่องย้อนไปมาและมีการหักมุมของเรื่องราวทำให้เหมือนได้ชมภาพยนตร์ล่าสมบัติชั้นดี และแทบไม่มีการโหลดให้เห็น
รูปแบบการเล่นยังคงเป็นเกมแอ็คชั่นล่าสมบัติที่นำเสนอด้วยมุมมองบุคคลที่ 3 มีการปรับมุมกล้องเมื่อเล็งยิง ทำให้ทุกอย่างดูเข้าใจง่าย และยังมีการเสริมด้วยระบบลอบสังหารแบบเกมสายลับที่ผู้เล่นสามารถเลือกได้ว่าจะลุยเดียวหรือย่องเงียบ อย่างไรก็ตามบางส่วนในเกมก็ต้องสวมบทแรมโบ้จัดการให้เรียบทั้งฉาก อีกทั้งเกมแทบไม่มีจุดโหลดทำให้เล่นได้ลื่นไหลไปเรื่อยๆได้อย่างไม่มีเบื่อ ระบบปืนอาวุธยังคงเป็นความโดดเด่นที่แต่เดิมซีรีส์ Tomb Raider ไม่ได้เน้นตรงนี้ แต่หลังจากรีบูทใหม่ มีการปรับปรุงให้ออกมาดูดีมาก รวมทั้งลีลาแอ็คชั่นของสาวลาร่า ที่แม้แต่เกมยิงแท้ๆยังอาย
นอกจากส่วนของแอ็คชั่นจะลงตัวแล้ว ยังมีโลกกว้างๆแม้มันจะไม่ใช่แนว OpenWorld แท้ๆแต่ก็ถือว่าเก็บรายละเอียดปลีกย่อยได้ครบไม่ว่าเราจะนอกเรื่องไปสำรวจหาสมบัติ หรือทำเควสปลีกย่อยที่ซ่อนอยู่ในฉากที่กว้างใหญ่ หรือจะรีบเล่นให้จบก็ทำได้อย่างอิสระ และยังเสริมด้วยระบบอัพเกรดตัวละครเช่นการใช้อาวุธที่ต้องค้นหาอุปกรณ์มาอัพปืน หรือธนู และสกิลของสาวลาร่าที่มีให้อัพผ่านระบบที่เรียบง่าย และส่วนนี้ทำให้มันเหนือกว่าเกมยิงล่าสมบัติหลายเกมที่ไม่ใช่เล่นผ่านแล้วผ่านเลย มันมีระบบที่หลากหลายและกลับมาเล่นได้อีกหลายรอบโดยที่ไม่เบื่อ
และไม่ใช่แค่ฉากแอ็คชั่น การแก้ปริศนาถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของเกมเพราะหลังจากได้แอ็คชั่นกันมายังมีการเบรคด้วยการค้นหาสำรวจเพื่อเปิดทางไปต่อ และมีความซับซ้อนในระดับหนึ่งแม้จะไม่ได้เทียบเท่ากับ Zelda หรือ Uncharted แต่ก็เป็นส่วนที่ผู้เล่นต้องหยุดคิดและพิจารณาว่าต้องทำอย่างไรถึงจะผ่านไปได้ แถมผู้เล่นต้องใช้อาวุธอย่างเช่นธนูร่วมด้วยเช่นการนำธนูมาผสมกับเชือกให้กลายเป็นการสร้างเส้นทางเพื่อไปต่อ แต่ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะหาทางไปไม่เจอเพราะมีการบอกตลอดว่าต้องไปบริเวณไหนพร้อมทั้งยังมีโหมดสำรวจที่กดแล้วจะรู้ทันที่ว่าต้องสำรวจตรงไหนบ้าง
ของแถมที่ยัดใส่เข้าเพื่อเอาใจแฟนเกม Sony ที่มีเฉพาะ PS4 อย่างการรองรับ Playstation VR ในโหมดพิเศษ(ยังไม่ได้ทดลองในตอนนี้) และกราฟิกระดับ 4K บน PS4 Pro (ที่ยังไม่วางขาย) ยังเสริมด้วยโหมดเนื้อเรื่องเสริมนาม Blood ties ที่เป็นการท่องไปในบ้านที่มีอดีตของสาวลาร่า ที่เน้นการสำรวจแก้ปริศนา และยังมี Lara’s Nightmare ต้องเผชิญกับเหล่าซอมบี้ที่เหมือนกับเกมยิงยอดนิยมที่ต้องมีโหมด ซอมบี้ และเนื่องด้วยเกมปรับให้ระบบการเล็งยิงยอดเยี่ยมอยู่แล้ว ทำให้โหมดนี้น่าเล่นเพิ่มขึ้นไปอีกหลายเท่า บอกได้เลยว่าสนุกมาก
ที่ถือเป็นโหมดแถมที่สนุกพอตัวอีกทั้งยังเล่นได้ค่อนข้างนานเมื่อเทียบว่ามันเป็นแค่ส่วนเสริม และส่วนนี้ยังเป็นตัว DLC บน XboxOne และ PC ด้วย และปิดท้ายกับสกินย้อนยุคของตัวละครหลักที่ย้อนไปไกลสมัย Tomb Raider 3 ที่โพลิกอนยังคงเห็นเป็นเหลี่ยมๆอยู่แต่ก็ไม่ได้ย้อนไปไกลถึงขนาดภาคแรก
เกม Rise of the Tomb Raider: 20 Year Celebration ฉบับฉลองครบรอบ 20 ปีบน PS4 ถือว่าเป็นการกลับมาที่สมศักดิ์ศรีมาก นอกจากตัวเกมหลักที่ถือว่าทำได้ดีมากอยู่แล้ว ยังมาพร้อมกับโหมดพิเศษที่ช่วยเสริมความคุ้มค่าให้เกมเข้าไปอีก ใครที่เคยเล่นบน Xbox หรือ PC แล้วจะลองกลับมาไล่ล่าสมบัติอีกครั้งก็ยังถือว่าคุ้มค่า เพราะโหมด พิเศษ ทั้งหมดมีให้โหลดเป็น DLC บน XboxOne และ PC ด้วย สรุปโดยรวมมันเป็นอีกหนึ่งเกมยอดเยี่ยมแห่งปี 2016 ที่ไม่ควรปล่อยให้หลุดมือไป
ขอบคุณร้านเกม Nadz Project ดิจิตอล เกตเวย์ ชั้น 2