Our score
8.0[รีวิวเกม]Final Fantasy XVI: การตื่นของมนต์อสูรในตำนาน ภาคนี้จะรอดหรือจะร่วง?
Final Fantasy XVI
Final Fantasy แฟรนไชส์เกม RPG ระดับตำนานของยุค 80 เป็นการกลับมาในภาค Final Fantasy XVI ที่มีระบบการต่อสู้สุดมันส์และอลังการที่ไม่เคยมีภาคไหนทำมาก่อน รวมทั้งการเล่าเรื่องที่มีความเป็นผู้ใหญ่ จนถูกจัดในอยู่ในเรท M ทีมาในธีมยุคยุโรปกลาง
จุดเด่น
- กราฟิกการต่อสู้ที่มีความอลังการ
- การเล่าเนื้อเรื่องที่ระทึกแหวกไม่ใช่แนวเดิม
- ตัวเกมมีระบบกดดูที่มาที่ไปของตัวละครระหว่างดูคัตซีน
- เอื้ออำนวยต่อผู้เล่นใหม่และผู้เล่นเก่า
จุดสังเกต
- กราฟิกเฟรมเรทตกเป็นช่วง ๆ
- ฉากในเกมมึดเกินไป
- บังคับตัวละครอื่นไม่ได้ และไม่มีความฉลาดในการช่วยเหลือเท่าที่ควร
-
เนื้อเรื่อง
8.0
-
กราฟิก
7.5
-
ความคุ้มค่า
7.5
เชื่อว่าในเดือนมิถุนายนปี 2023 นี้มีเหล่าคอยเกมไม่น้อยเลยที่กำลังตั้งตารอคอยแฟรนไชส์เกม RPG ระดับตำนานของยุค 80 อย่าง Final Fantasy ที่ตอนนี้ภาคล่าสุดก็มาถึงภาคที่ 16 เป็นที่เรียบร้อย
แน่นอนว่าภาคแรกที่ออกมาผู้เขียนยังไม่เกิด แต่ความดังของเกมแฟรนไชส์นี้ กลับไม่เคยแผ่วจนถึงปัจจุบันเลยค่ะ และทุกครั้งเมื่อเหล่าผู้พัฒนาเกมออกภาคใหม่ ผู้เล่นจะได้เห็นการพัฒนาของเทคโนโลยีแนวทางการสร้างเกม กราฟิก การออกแบบตัวละคร เพลงที่เพราะติดหู มีความว้าวทุกครั้งที่มีการวางจำหน่าย มีการพูดคุยถกเถียงกันแทบทุกภาคเวลาที่เกมออก
อีกทั้งเกม Final Fantasy ยังได้รับฉายา ที่ใคร ๆ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นเกม RPG ที่ภาพสวยระดับโลกอีกด้วย แต่ดูเหมือนว่าภาค XVI (16) นี้ ฉายาภาพสวย อาจต้องเปลี่ยนเป็น ฉายาแอคชั่นสู้ฟัด ซะแล้วล่ะค่ะงานนี้
สำหรับภาคล่าสุดของ Final Fantasy แฟนคลับทั้งรุ่นเก่ารุ่นใหม่ ตั้งตารอคอยมานานหลายปี ตั้งแต่มีข่าวว่าจะมีการทำภาคใหม่ออกมา และมีความคาดหวังที่แตกต่างกันออกไป ตามอายุตามภาคที่ตัวเองชื่นชอบ
ภาคนี้จะมีความแตกต่างจากภาคที่เป็นยุคทองของ Final Fantasy อย่างภาค VII (7) การเล่าเรื่องคนละแนว คนละยุคเลยค่ะ ใครที่ชื่นชอบภาค VII มีความคาดหวังให้ภาคนี้เน้นเป็นไซ-ไฟ คงจะต้องมีน้ำตาคลอเบ้าเป็นที่แน่นอนค่ะ หรือผู้ที่เคยเล่นในภาคอื่น หรือภาคที่มีคนชื่นชอบมาก ๆ อย่างภาค IV (4) ภาค X (10) ภาค XII (12) ภาค XV (15) ก็ต้องทำใจสักนิด เพราะภาคนี้เนื้อเรื่องถูกจัดให้ติดเรท M กันเลยทีเดียว
โครงเรื่อง ภาคนี้จะเป็นการเล่าเรื่องที่มีทั้ง การทำร้ายร่างกายและจิตใจ มีฉากอีโรติกที่มีความเป็นผู้ใหญ่ จนติดเรทซึ่งแตกต่างจากภาคก่อน ๆ ที่เน้นวัยรุ่น เน้นเด็กกำลังโต มีความรักกุ๊กกิ๊กน่ารัก สู้เพื่อเพื่อนรัก ซึ่งภาคนี้แหวกทุกกฎอย่างสิ้นเชิง
โดยผู้พัฒนาที่เข้ามาเป็นผู้อำนวยการสร้าง คือ ผู้กำกับจาก FFXIV (Final Fantasy 14) อย่างคุณ Naoki Yoshida (นาโอกิ โยชิดะ) ที่ก่อนภาค 16 นี้สร้างก็มีกระแสเป็นที่พูดถึงกันว่า ภาค Final Fantasy XVI (16) จะออกมาเป็นแบบไหนจะไหวหรือเปล่า เพราะตัวภาค 14 เป็นเกมออนไลน์
แต่สำหรับผู้ที่เคยเล่นภาค FFXIV ก็จะทราบกันดีว่า เวลานี้ค่าย Square Enix เกมภาค FFXIV คือเดอะแบกของค่าย ส่วนทางโยชิดะก็ออกมาให้สัมภาษณ์สยบข้อสงสัยว่า ก่อนที่ทีมผู้พัฒนาจะมาทำ FFXIV เหล่าคนในทีมก็เคยทำเกม Single Player มาก่อน (ประมาณว่าไม่ต้องห่วงหรอกนะจ๊ะแฟน ๆ พวกเราทำได้จ้า)
ยาวไปขอเลือกอ่าน
จนกระทั่งตัวเกมออกมา เมื่อผู้เขียนได้ลองเล่น ก็ยังมีความรู้สึกได้รับกลิ่นอายของภาค FFXIV ติดออกมานิดหน่อยค่ะ แต่พอเล่นไปสักพักจะรู้เลยว่า คนละภาคคนละเกม ถึงขั้นมีคำถามในหัวว่านี่มัน Final Fantasy จริงหรือนี่ ถ้าไม่มีตัว Moogle ไม่มี Chocobo ไม่มีมนต์อสูร Eikon ไม่มีพลังคริสตัล ใส่เข้ามาคงไม่ใช่แน่ ๆ
เนื้อเรื่อง
ตัดภาพรวมของเนื้อเรื่องแบบไม่สปอย คือ เรามีนามว่า Clive Rossville เป็นตัวเอกเพศชาย เราเล่นได้แค่ตัวละครนี้ทั้งเกม
เนื้อเรื่องจะเล่าช่วงเวลาของเราเป็น 3 ช่วง ได้แก่ ช่วงหนุ่ม ช่วงเด็กละอ่อน และช่วงพร้อมออกบ้านออกเรือน แต่ละช่วงเราจะผจญเผชิญภัยพร้อมกับแก้ปัญหา ตามล่าหาความจริง และต้องยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นแบบช็อก ๆ ออกต่อสู้เพื่ออุดมคติของตัวเองที่ตั้งไว้
เนื่องจากบ้านเมืองตอนนี้กำลังถึงจุดอวสาน ชาวเมืองผู้เป็นมนุษย์ธรรมดาต้องใช้พลังงานจาก Mother Crystal แต่พลังของคริสตัลเหมือนเป็นคำสาป ทำให้พื้นที่โดยรอบไร้ชีวิตและกำลังเป็นภัยกับเหล่าผู้ใช้เวทย์โดยกำเนิด
จึงเกิดสงครามและใช้เหล่าผู้ที่มีพลังโดมิแนนท์ เป็นผู้ที่สามารถแปลงร่างเป็นมนต์อสูรร่างยักษ์ได้ แต่ละเมืองจะมีเพียง 1 คนต่อ 1 ธาตุ ใช้คนเหล่านั้นมาต่อสู้กัน
แต่การปฏิบัติภายในแต่ละเมืองต่อเหล่าผู้ที่เป็น โดมิแนนท์ หรือร่างแฝงมนต์อสูรไม่เหมือนกัน ทำให้แต่ละคนจึงมีคาแรคเตอร์และปมภายในจิตใจ ที่แตกต่างกัน รวมถึงตัวเอกของเราด้วยเช่นกันค่ะ
อย่างที่กล่าวข้างต้นว่า พลังของคริสตัลก็เป็นภัยกับผู้ที่มีพลังมาแต่กำเนิด คนที่ไม่ได้เป็นร่างแฝงใช้พลังธาตุต่าง ๆ ได้ 1 คนต่อ 1 พลัง แต่คนเหล่านี้กลับกลายเป็นว่า แต่ละเมืองมองคนพวกนี้เป็นคนที่ไร้ค่า
เป็นคนที่น่ารังเกียจของสังคม ใช้งานคนเหล่านี้เป็นทาสแรงงาน เป็นของเล่น จึงไม่พ้นพระเอกและผองเพื่อน AI ของเราที่ต้องเข้าไปกอบกู้และปลดแอกเหล่าทาสทั้งหลายนั่นเอง
ตัวเรื่องได้ตัดการเป็น Open World ออกไป เป็นการเล่าเรื่องแบบฉุดกระชากลากถู ดึงเราไปตามแผนที่ตรงโน้นตรงนี้แทน แต่ก็มีช่วงพักเนื้อเรื่องเบา ๆ ให้เราได้เล่นแอบเดินดูข้างทางได้ แม้ว่าข้างทางจะมีแค่ป่ากับซากปรักหักพัง บ่งบอกความเป็น Dark Fantasy ชาวเมืองที่ซุบซิบเรื่องอดอยากปากแห้ง เป็นเรื่องที่ได้ยินก็รู้สึกสลด ๆ และตัวเกมไม่มีมินิแมพให้นะคะ กดเปิดแผนที่เปิดเอาเอง
ภาคนี้ภายในโครงเรื่อง จะเน้นเป็นธีม Dark Fantasy อยู่ในยุคยุโรปกลาง มีการทำซับแปลภาษาถึง 14 ภาษา มีการลงเสียงพากย์ถึง 6 ภาษา แน่นอนว่า ไม่มีประเทศไทย
ทั้งเกมเป็นคำศัพท์ที่ไม่คุ้นตา ซึ่งทางฝั่งผู้พัฒนาได้ปรับให้ตัวเกม ใช้ภาษาคำพูดให้เข้ากับยุคสมัยในช่วงยุโรปกลางนั่นเองค่ะ แม้แต่การออกแบบการทักทายตัวละครก็ทำตามยุคสมัยนั้นด้วย เน้นความสมจริงเป็นอย่างมาก
จนผู้ที่ไม่ใช่เจ้าของภาษาอย่างผู้เขียนมึนหัว แต่คนที่เก่งภาษาต้องชื่นชอบแน่นอน (แต่ข้ามิปราถนาจักอ่านคำศัพท์เยี่ยงนี้) แต่ทางผู้พัฒนาก็แก้ปัญหาด้วยการใส่คำแนะนำตัวละคร แนะนำสถานที่ ระหว่างคัตซีนให้เราได้เข้าใจที่มาที่ไป สามารถกดหยุดอ่านได้ตลอดเวลา ตรงส่วนนี้ คือ ดีมาก ไม่มีเกมไหนทำมาก่อน
เกมเพลย์
ต่อมาที่ระบบการเล่น ด้วยความที่ทางทีมผู้อำนวยการสร้างอย่าง นาโอกิ โยชิดะ ไม่ได้มีความถนัดทางด้านระบบต่อสู้ การคุมระบบ Action มากนัก
จึงจับมือร่วมกับคุณ Ryota Suzuki (เรียวตะ สุซึกิ) ผู้ออกแบบระบบต่อสู้จากเกม Devil May Cry 5 มาช่วย ทำให้การต่อสู้เกม Final Fantasy XVI ที่ขนาดกดจนเมื่อยมือ หนังติดคาจอยคอนโทรลเลอร์ก็ยังสู้แบบไม่จบไม่สิ้น ใครสายแอคชั่นวิ่งสู้ฟัด ฟาดไม่ยั้งต้องลองเกมนี้จริง ๆ ค่ะ
ระบบการต่อสู้ภาคนี้ ไม่ได้มีระบบ Turn Base ไม่มีระบบ Command Battle ที่เป็นการผสมผสานกันระหว่าง Turn Base และ Real Time Action ตัวเกมออกแบบให้ Real Time Action ล้วน ๆ สู้กันให้ตายไปข้าง สู้รอบหนึ่งนิ้วล็อค 1 ชั่วโมง สู้ไม่ทันเวลา ยาหมดก็ตายวนไปเริ่มใหม่วนไปค่ะ
ไม่ใช่ว่าเราจะกดปุ่มเดียวเคี้ยวเพลิน กดอยู่ที่เดียวออกทุกกระบวนท่าไม่ใช่นะคะ ต้องหาจังหวะหลบสกิลจากศรัตรูด้วย ตัวเอกของเราสามารถใช้ได้ทุกท่าทุกสกิล มีการอัปเกรด Ability และรื้อเปลี่ยนได้ทุกเมื่อ ผู้เล่นอย่างเราสามารถจัดสกิลเองได้ตามความถนัดและความชื่นชอบ เราชอบธาตุไหนก็เล่นธาตุนั้นได้
มีธาตุหลักให้เราติดตัวเปลี่ยนไปมาได้ถึง 3 ธาตุ รวมที่เราจะใช้ได้ทั้งหมดมี 6 ธาตุด้วยกัน โดยเมื่อเราเล่นตามเนื้อเรื่อง มันก็จะมีการปลดล็อกธาตุนั้น ๆ แต่ก็ไม่มีระบบจับคู่การแพ้ธาตุในภาคนี้อยู่ดีค่ะ
อยากใช้ธาตุไหนสู้สามารถเลือกได้เลย การต่อสู้ในแต่ละครั้งจะกินเวลาไปนานไม่ต่ำกว่า 10 นาที เพราะมีหลายสเตท เจอมินิบอส เจอสู้กับคนกันเอง เจอสู้กับร่างยักษ์ สู้กับ Eikon ทั้งฟูลไซต์และครึ่งมนุษย์ มาหมด
มีระบบตีอาวุธ ซื้อเครื่องประดับเพิ่มความแรง ยาที่มีความจำกัดจะต้องไปซื้อในร้านค้า แต่ก็มีให้เก็บข้างทางได้เรื่อย ๆ
ภาคนี้ไม่มีระบบ Job เพื่อน AI ของเราเลยวิ่งเป็นเครื่องประดับมนุษย์ มีชวนคุยบ้างไม่ให้เราเหงา ตีช่วยบ้างพอเป็นพิธี มีแค่น้องหมาที่ช่วยฮีลเราได้ แต่ระดับการฮีลรักษาของน้องช่างน้อยนิดมาก
เวลาสู้หากตายระหว่างสเตทนั้น ๆ ทางผู้พัฒนาก็ยังใจดีลดเลือดให้ครึ่งหนึ่ง โดยที่เราไม่ต้องมานั่งเริ่มใหม่ ความยากง่ายช่วงแรกมีให้เราเลือก 2 อย่างคือ Story Focus จะมีเครื่องประดับพิเศษให้เรา และ Action Focus จะไม่มีเครื่องประดับพิเศษให้ แต่เราก็สามารถหามาใช้ได้เช่นกันค่ะ เมื่อเราเล่นจบไป 1 รอบถึงจะมีการปลดล็อค High Score Attack เริ่มเล่นในส่วนที่โหดขึ้น มีเควสรองที่เรากลับไปเล่นให้ครบได้ค่ะ
ผู้เขียนก็ยังกล้ากล่าวได้ค่ะว่า การต่อสู้เขาทำมาดี เลอค่ามาก ไม่แพ้เนื้อเรื่องจริง ๆ สู้จนอิ่ม สัตว์มนต์อสูรแปลงร่างตัวยักษ์มาสู้กัน มันไม่มีภาคไหนทำมาก่อน แต่จะถูกใจสายผู้เล่นรุ่นเก๋าหรือไม่ คงต้องลองซื้อมาเล่นเท่านั้นเลยค่ะ
ตัวเนื้อเรื่องก็จี๊ดเจ็บหัวใจ มันต่างจากภาคก่อนหลายขุมเลยค่ะ อยากให้ลองเปิดใจดู แม้บางครั้งผู้เขียนเองก็รู้สึกกระตุกจิตกระชากใจเรื่องเพื่อนร่วมทางของเรา อยากให้ช่วยเราได้มากกว่านี้ก็ตาม
กราฟิก
ว่าด้วยเรื่อง กราฟิก ด้วยความเป็น Dark Fantasy กราฟิกภาคนี้ก็เลย Dark ไปตาม ๆ กัน ฉากมันมืด มืด เกินไป คุณ Hiroshi Minagawa (ฮิโรชิ มินะกะวะ) ผู้ออกแบบงาน Art คงต้องการให้เราได้สัมผัสความเป็นจุดสูญสิ้นของแสง
บรรยากาศภายในเกมชวนอึดอัด ขึ้นปราสาท ไต่กำแพงเก่าชื้น ถ้าเกมส่งกลิ่นได้คงได้กลิ่นตะไคร่น้ำ กับกลิ่นเหม็นเขียวของหญ้าที่ขึ้นตามกำแพง แต่เวลาเจอฉากต่อสู้ ต้องร้องอุทาน พ่อคุณเอ๊ย! อลังการงานสร้าง แสงสี สกิลสวยเกินฝัน เปลี่ยนความรู้สึกแทบไม่ทัน
แต่ก็มีจุดสังเกตของภาคนี้ คือ ตัวเกมมีให้ผู้เล่นได้เลือกว่าต้องการเล่นเป็นโหมดไหน ระหว่าง โหมดกราฟิก หรือ โหมดเฟรมเรท ผู้เขียนได้ลองเล่นเป็นกราฟิกค่ะ
เฟรมเรทที่ได้ คือ 30 fps ผลออกมาภาพสวยแต่ไม่ระดับสุด มีเฟรมเรทตกบ้างเป็นบางช่วง หากพูดอย่างตรงไปตรงมา ฉากภายในเกมส่วนใหญ่มันมืด มีน้อยมากที่จะได้เข้าป่า ที่โล่ง แต่ป่าก็เป็นฉากตอนพระอาทิตย์กำลังขึ้น บางฉากก็กำลังตกดิน ไปทะเลทรายมันก็มีแต่ทรายแถมแดดจ้าเลย
ถ้าจะบอกเปิดโหมดกราฟิก 30 fps ตอนสู้ เชื่อว่าหลายคนก็อยากสู้แบบลื่นไหล 60 fps ดีกว่า ขณะนั้นเรากำลังโฟกัสกับการต่อสู้ โฟกัสจะใช้สกิลอะไรต่อไป ไม่ได้มานั่งโฟกัสความสวยงามระหว่างต่อสู้อยู่ดี แต่เปิดโหมดกราฟิกตอนสู้บอส สวยอลังการจริงให้ 10/10 ไม่หักเลยค่ะ แต่บางครั้งแม้จะเปิดโหมดเฟรมเรทให้รันได้ 60 ภาพต่อวิ เพื่อความลื่นไหลนุ่มสายตา ก็แอบมีเฟรมตกอย่างต่อเนื่องอยู่ดี
เป็นไปได้อยากให้ตัวเกมเฟรมเรทออกมาดีกว่านี้ สำหรับผู้เขียนมองว่า การออกแบบฉากภาคนี้มืดมนตามเนื้อเรื่องก็ดีแล้ว แต่พอเล่นไปนาน ๆ มันรู้สึกว่า ลงดันเจียนเดินวนในปราสาทอีกแล้วหรอ ตอนมืดอีกแล้วหรอ พระอาทิตย์ตกดินอีกแล้วหรอ
แต่รายละเอียดตัวรอยผ้า ผมปลิวทำออกได้พลิ้วไหว แต่การขยับหน้าขยับตามันยังไม่ถึงขั้น การขยับปากตรงหมดยกเว้น เวลาแสดงสีหน้า แสดงอารมณ์ มันยังไม่ได้แต่ก็ดูไม่แย่นะคะ เพียงแค่รู้สึกว่ามันอาจทำได้ดีมากกว่านี้ได้ คิดว่าถ้าตัวเกมได้ลงใน PC ทางทีมคงแก้เรื่องนี้ กราฟิกเฟรมเรทน่าจะดีขึ้นกว่านี้ค่ะ
ไม่ควรปล่อย FFXVI หลุดมือ
สรุปโดยรวมสำหรับผู้เขียนมองว่า มันอาจผิดคาดของคอเกมบางคนไปบ้าง ฉากมืดเกือบทั้งเกม ไม่สามารถบังคับตัวละครเพื่อนเราได้ ถ้าเทียบกับภาคก่อนอย่างภาค VII Remake แม้บังคับเพื่อนไม่ได้ก็ไม่มีระบบท่าประสานกับเพื่อน ถ้าเทียบกับภาค FFXV
มีเฟรมเรทตกบ้าง ไม่ได้ Open World แต่ก็แอบนอกลู่นอกทางได้ตามเควสรอง แต่ยอมรับค่ะว่า ภาคนี้สนุก มีทั้งข้อดีข้อเสียหากเมื่อเทียบกับภาคก่อนหน้าอย่างเห็นได้ชัด ภาคนี้กราฟิกอาจจะไม่สวยสุดหยุดทุกสายตา เพลงไม่ติดหูเหมือนภาคก่อนเท่าที่ควร ชื่อตัวละครอาจไม่เด่นไม่แหวกแนว
กลับกันเนื้อเรื่องทำออกมาได้มีมิติของตัวละครมากขึ้น มีตัวช่วยให้ผู้เล่นได้เล่นอย่างไม่สะดุด รู้ที่มาที่ไปของเหล่าตัวละครยุทธศาสตร์ทางการเมือง มีอธิบายไว้ชัดเจนอยากรู้อะไรได้รู้หมด การต่อสู้เอาใจคนรุ่นใหม่ Action จัดเต็ม
ความอลังของระบบต่อสู้ภาคนี้ เชื่อว่าไม่มีเกมไหนสู้ได้เลยค่ะ UI การต่อสู้ของแต่ลำตัวดูดีมาก ยังมีเควสรองรับหลังเล่นจบ มีให้ผู้เล่นได้เล่นต่อแบบคุ้มค่า สมราคาเล่นได้แบบยาว ๆ แต่ภาคนี้หากชอบก็จะชอบเลย ถ้าไม่ชอบก็จะไม่ชอบไปเลยค่ะ
สำหรับภาคนี้ ทางผู้พัฒนาเขาต้องการให้เกมยังคงอยู่ต่อไปเรื่อย ๆ ทางทีมงานได้หาผลสำรวจมาจากประสบการณ์ การทำเกมออนไลน์ FFXIV ตลอดระยะเวลาเหยียบเลยทศวรรษ จึงคิดว่าการที่ให้เนื้อเรื่องมีความโตขึ้น การต่อสู้ที่เป็น Real Time Action รวมทั้งการพยายามหาแนวทาง การออกแบบที่มันแตกต่างจากภาคก่อน ๆ เพื่อรักษาให้มี เกม Final Fantasy ภาคต่อไป ให้คนรุ่นใหม่ได้เล่นนั้นเองค่ะ
ใครที่อยากลองเกมน้ำดีมีคุณภาพ ทางผู้เขียนก็ยังแนะนำให้ซื้อเกม Final Fantasy XVI มาเก็บไว้เล่นค่ะ เพราะภาคนี้ตัวเนื้อเรื่องแตกต่างจากภาคอื่นเป็นอย่างมาก มีความซีเรียสเป็นอย่างสูง เป็นภาคแรกที่ติดเรท M
เป็นภาคแรกที่เอาเหล่ามนต์อสูรร่างยักษ์ Eikon มาแปลร่างสู้กันแบบไม่ต้องอันเชิญ เป็นภาคแรกที่มีการต่อสู้แบบ Real time Action เป็นภาคแรกที่จัดหนักจัดเต็มกับการออกแบบทั้งระบบและดีไซน์ กราฟิกในการต่อสู้ได้อลังการกว่าภาคที่ผ่านมามาก ฉะนั้น ต้องมีและต้องลองเล่นตัวเต็มให้ได้ค่ะ อาจเป็นเกม Final Fantasy ที่ทำให้เราหัวร้อนเป็นภาคแรกก็ได้นะคะ