Our score
8.5Convergence: A League of Legends Story
จุดเด่น
- รูปแบบการเล่นเน้นสำรวจฉากที่สนุก
- มีระบบย้อนเวลาที่ใช้งานได้จริง
จุดสังเกต
- ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่ไปกว่าเกม Metroidvania เกมอื่น
- เพลงประกอบเรียบไปหน่อย
หนึ่งในซีรีส์เกมแนว MOBA ที่ประสบความสำเร็จต้องมีชื่อของ League of Legends หรือที่เรียกย่อ ๆ ว่า LOL ที่ยังมีผู้เล่นอยู่อย่างต่อเนื่อง และผู้สร้างได้ทำภาคแยกย่อยออกมาเป็นเกมหลากหลายประเภทไม่ว่าจะเป็น RPG หรือแอ็กชัน เพื่อขยายจักรวาล LOL ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น
และล่าสุดกับการเปิดตัว Convergence: A League of Legends Story ที่มาในรูปแบบแอ็กชัน 2 มิติมุมมองด้านข้างที่เอารูปแบบการสำรวจฉากเพื่อแก้ปริศนาด้วยการอัปเกรดค่าพลัง หรือความสามารถของตัวละครหรือที่เรียกว่า Metroidvania มาเป็นแนวทางหลัก บวกกับแนวทางการออกแบบพร้อมกับโลกใน LOL ยิ่งทำให้น่าสนใจ โดยเกมวางขายบน PS5, PS4, Nintendo Switch, Xboxone, Xbox Series X และ S รวมทั้ง PC ด้วย
ส่วนเนื้อเรื่องในภาคนี้จะเกิดขึ้นในเมือง Zaun และจะได้บังคับ Ekko นักประดิษฐ์หนุ่มที่ได้สร้างเครื่องมือที่สามารถย้อนเวลาได้ โดยเขาต้องร่วมมือกับเพื่อน ๆ ในเมืองเพื่อปกป้องเมืองจากตัวร้ายที่น่ากลัวซึ่งตัวเขาไม่สามารถไว้ใจใครได้ ซึ่งตัวเกมจะค่อย ๆ เล่าเรื่องราวและเผยความลับออกมาที่ละส่วน ซึ่งเนื้อเรื่องจะมีการหักมุมทำให้มันน่าติดตามไปตลอดการเล่น
กราฟิกแบบการ์ตูนสุดแนว
งานออกแบบภาพในเกมมาแนวการ์ตูนสีสันฉูดฉาด เหมือนกับว่าเราได้อ่าน Comics ไปตลอดการเล่นแม้จะไม่ได้มีรายละเอียดอะไรมากนักและก็ไม่ได้ฉีกจากเกมแนวเดียวกัน มันก็ถือว่าดูดีพอประมาณมีความลื่นไหลอยู่ในระดับน่าพอใจ ซึ่งก็เข้ากับเกมเพลย์ที่เน้นความรวดเร็วในการเล่นสูง รวมทั้งมีความเป็น LOL ที่แฟน ๆ คุ้นเคยด้วย
ที่ต้องชมคือการใส่แอนิเมชันการเคลื่อนไหวที่ดูดี นอกจากนี้ยังคงทุนใส่คัตซีนที่เป็นการ์ตูนมาให้ชมตลอดการเล่น และยังมีการใส่เสียงพากย์เข้ามาในจุดที่สำคัญด้วย ทำให้มันแม้มันเป็นเพียงภาคแยกก็ยังคงดูดีไม่แพ้ภาคหลัก เสียดายเล็กน้อยที่เพลงประกอบทำได้เรียบไปหน่อยไม่มีอะไรที่ติดหูนัก ดนตรีในเกมเน้นเพื่อการประกอบบรรยากาศในการเล่นมากกว่าแต่โดยรวมก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร
เกมเพลย์เน้นสำรวจ
เกม Convergence: A League of Legends Story มาแนว Metroidvania ที่เรียบง่ายแม้ว่าผู้เล่นจะไม่เคยเล่น LOL ก็เข้าใจได้ในทันที เพราะพื้นฐานแล้วมันคือแอ็กชัน 2 มิติที่ผู้เล่นต้องกระโดดไปตามพื้นผิว รวมทั้งใช้อาวุธหลักที่เป็นดาบต่อสู้กับศัตรู และยังมีการกลิ้งตัวเพื่อหลบหลีกด้วย ซึ่งส่วนนี้แม้จะไม่ได้แตกต่างจากเกมอื่นแต่ก็ทำได้ลื่นไหลเราสามารถโจมตีต่อเนื่องทำคอมโบได้ง่ายดาย
นอกจากนี้ที่โดดเด่นคือศัตรูที่ใส่เข้ามาหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นพวกโจมตีระยะประชิด ที่ไม่ได้มายืนนิ่ง ๆ ให้เราอัดเล่นมันมีลูกเล่นมากมายและโจมตีเราได้ต่อเนื่อง แถมบางตัวยังมาพร้อมโล่เพื่อป้องกันการโจมตีของเรา และยังมีศัตรูที่ใช้ปืนยิงระยะไกลที่มาหลายแบบมาก บางตัวใช้ระเบิดทำให้เรารับมือได้ยาก
ทำให้ตัวเกมไม่ง่ายนักมีหลายจุดที่ศัตรูออกมากันครบทุกประเภทส่งผลให้ผู้เล่นรับมือได้ลำบาก เรียกว่าต้องงัดทุกอย่างที่มีมาทั้งท่าพิเศษหรือการหลบหลีกตลอดทำให้ผู้เล่นหัวร้อนได้ง่าย ๆ แน่นอนว่าบอสก็จัดเต็มที่ต้องค้นหาจุดอ่อนและใช้ท่าไม้ตายให้ถูกจุดถึงจะผ่านไปได้ ซึ่งความท้าท้ายถือเป็นข้อดีเพราะเกมคงไม่สนุกหากมันง่ายเกินไป อย่างไรก็ตามมันก็ไม่ได้ยากจนปวดหัวเพราะมีไอเทมเติมพลังให้ใช้ตลอด
ท่าพิเศษเยอะ ใช้ทั้งต่อสู้และแก้ปริศนา
จุดเด่นของเกมคือระบบย้อนเวลาที่เป็นพลังหลักในการเล่นที่เรียกว่า Rewind ที่จะย้อนเวลาไปได้แม้จะไม่กี่วินาที แต่ก็ทำให้เรารอดจากความตายได้แต่จะใช้ได้จำกัด นอกจากนี้ยังมีไอเทมที่ใช้ปาใส่กลไกเพื่อเปิดประตูไปต่อและยังใช้โจมตีศัตรูมาให้ใช้งานด้วย แต่ยังไม่หมดแค่นี้เกมมีระบบที่หน่วงเวลาได้หลายรูปแบบโดยมันจะค่อย ๆ ปลดล็อกออกมาตลอดการเล่น
แน่นอนว่าท่าพิเศษเหล่านี้เอาไว้ใช้เพื่อเปิดทางไปต่อได้ ซึ่งมีทั้งแบบตรง ๆ เช่นเอาไว้เปิดประตูที่ล็อกอยู่ หรือที่เป็นความสามารถพิเศษในการห้อยโหนไปตามสายไฟ และยังมีการใช้พลังย้อนเวลาร่วมด้วยถือว่าซับซ้อนพอตัว แม้จะไม่ค่อยแตกต่างจากเกมแนว Metroidvania ทั่วไป แต่ก็ต้องชมในความหลากหลายของท่าพิเศษรวมทั้งฉากที่ออกแบบมาดี ผู้เล่นต้องเดินกลับไปกลับมาเพื่อสำรวจกันอย่างจัดเต็ม
นิยามง่าย ๆ ของ Convergence: A League of Legends Story ก็คือแอ็กชันแนว Metroidvania ที่มีฉากหลังอยู่ในโลกของ LOL ซึ่งหลายคนอาจจะคิดว่าหากไม่เคยเล่นซีรีส์นี้มาก่อนก็อาจจะไม่สนุก แต่พอได้สัมผัสมันถือว่ามีดีพอตัว นอกจากแอ็กชันจะรวดเร็วแล้วยังมีท่าไม้ตายเทพ ๆ รวมทั้งระบบย้อนเวลาให้ใช้งานด้วย ใครชอบแนวแอ็กชันเน้นสำรวจฉากไม่ควรพลาด
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส