[มินิ รีวิว] Playstation VR อุปกรณ์ VR แห่งอนาคตที่ไม่เหมาะกับคนเวียนหัวง่าย

Our score

7.7

Playstation VR

จุดเด่น

1. ราคาถูกมาก
2. ใช้จอยเดิมของ PS4 ได้
3. เกมรองรับเพียบ

จุดสังเกต

1. กราฟิกหยาบมาก
2. เล่นนานๆอาจเวียนหัว
3. ตอนเล่นเราจะมองรอบตัวไม่เห็นต้องระวัง

• การแสดงผล

  6.5

• การบังคับ

  8.0

• ความแปลกใหม่

  8.5

• ความคุ้มค่า

  7.5

• ภาพรวม

  8.0

หลังจาก Sony ประสบความสำเร็จแบบถล่มทลายกับ PS4 ทำให้กลายมาเป็นเบอร์ 1 ของวงการเกมอีกครั้ง และทางค่ายก็ยังไม่หยุดคิดอะไรใหม่ๆ ได้ออก Playstation VR อุปกรณ์ แว่น VR ที่ทำออกมาตามกระแสเพราะในอนาคตไม่ว่าค่ายไหนก็เตรียมออกอุปกรณ์ออกมารองรับเกมและคอนเทนท์ ที่จะตามออกมาอีกเพียบ

และล่าสุดการกับมาของ Playstation VR ทางทีมงานได้รับเชิญไปทดลองเล่นกันแบบเต็มๆซึ่งแม้ตัวเกมที่ให้ลองมีแต่แผ่นเดโม แต่ก็เหมือนเป็นการเปิดโลกของผู้เล่นให้เข้าไปมีประสบการณ์ Virtual reality กันแบบจัดเต็มเลยขอมาทำ มินิรีวิว ให้ลองอ่านกัน ซึ่งอย่างแรกที่ต้องขอชม Sony คือราคาขายของ Playstation VR ที่ถูกกว่าชาวบ้านมาก โดยมีราคาขายเพียง  18,900 บาท มาพร้อมกับ PS Camera (ไม่มีจอย PS Move) ในขณะที่ oculus ราคาประมาณ 20,000 บาท (ไม่แถมจอยเกม) กับ HTC Vive ขายราคา 27,000 บาท (แต่มาพร้อมกับจอย VR)

และคำถามแรกว่า Playstation VR ใช้อะไรบังคับ ตอบได้เลยว่าใช้จอย PS4 ปรกติที่มีมาให้เป็นเบื้องต้น แต่จะไม่สามารถเล่นบางเกมได้ ถ้าจะดีต้องมีจอย PS Move หรือจอยจับการเคลื่อนไหวคล้ายกับ WiiMote ของปู่นิน มาเล่นด้วย ถ้าไม่มีก็ต้องลงทุนซื้อกันหน่อย อย่างไรก็ตามการตั้งค่าถือว่าทำได้ง่ายดาย และต้องใช้ร่วมกับกล้อง PS Camera เพือจับการเคลื่อนไหวของผู้เล่น

อย่างไรก็ตามเมื่อเริ่มเข้าเกมก็มีสิ่งที่ทำให้ผิดหวังอย่างมากคือกราฟิกในเกมที่นอกจากความละเอียดของภาพจะหยาบเกินทน เพราะเห็นพิกเซลกันเป็นเม็ดๆกันเลย แถมกราฟิกของเกมก็ดูย้อนยุคไปไกลบางเกมเหมือนหลุดออกมาจากสมัย PS2 ก็ต้องเข้าใจว่าการแสดงผลแบบ VR ด้วยเกมคอนโซลอาจจะทำได้ดีที่สุดแค่นี้ และด้วยราคาที่ถูกกว่าคู่แข่งทำให้ได้แค่นี้ก็ถือว่าดีแล้ว แต่ใครคาดหวังเรื่องกราฟิกก็คงบอกเลยว่าต้องผิดหวังแน่นอน ตรงข้ามกับระบบเสียงที่แม้หูฟังที่มีมาให้จะดูธรรมดาแต่ก็สร้างประสบการณ์สมจริงให้กับการเล่นเกมแบบ VR ให้มีมิติของเสียงที่หลากหลาย

หลังจากสวมใส่ซึ่งก็ทำอย่างง่ายดายมาก แม้ว่าวัสดุการประกอบจะดูไม่ใช่ของแพงผิดวิสัยของ Sony อยู่แต่ก็ถือว่ามีความคงทน สวมใส่ง่ายถอดได้ง่าย สามารถปรับแต่งระดับได้เพื่อเข้ากับขนาดหัวของทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่ตัวอ้วน(เหมือนผู้เขียน) หรือเด็กที่อายุ 12 ปีขึ้นไป เรียกว่าไม่ต้องกังวลว่าจะหลวมหรือคับเกินไป แถมการสแกนเข้าเกมไม่มีอะไรยากเย็น แต่ก่อนเริ่มเกมแนะนำว่าหากภาพไม่ชัดก็ต้องปรับให้ชัดก่อนไม่เช่นนั้นก็จะเล่นได้ลำบาก

เริ่มเล่นเกมที่โดดเด่นและควรเรียกว่าเกมไม่ใช่ให้ลองชมภาพคือ Eve Valkyrie เกมยิงยานอวกาศที่หลายคนอาจเคยได้เล่นแล้วซึ่งสัมผัสแรกก็ต้องขอชมเชยในการสร้างโลกเหมือนจริงและเรานรับบทเป็นพลปืนใหญ่ที่ต้องกำจัดศัตรู บอกได้เลยว่าในตอนแรกผู้เขียนเองก็คิดว่ามันเป็นหนึ่งในไอเดียในการทำเป็นเกมยิงที่ดีและเล่นง่ายเพราะในเดโมเราไม่ได้บังคับตัวละคร เพียงแค่เปลี่ยนมุมมองการเล่นเท่านั้น

อีกเกมที่โดดเด่นและต้องใช้จอย PS Move เล่นคือ Mortal Blitz เกมยิงที่บังคับเดินไม่ได้ และใช้จอย Move แทนมือทั้ง 2 ข้างของผู้เล่นที่สามารถเปลี่ยนได้ทั้งจะจับปืน หรือใช้พลังในการเคลื่อนที่สิ่งของ แม้ว่าจะเดินไม่ได้แต่เราก็ต้องบังคับให้ตัวละครเคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้เมื่อกำจัดศัตรูหมดฉาก และการที่เป็นโลกของ VR ทำให้เราต้องมองศัตรูให้ครบทุกทิศทางเพราะบางครั้งมันก็โผล่มาข้างๆผู้เล่นซึ่งเราก็ต้องหันหัวไปทางทิศทางนั้นแล้วเล็งยิงด้วยจอย และการใช้พลังเพื่อยกของทำให้เกมสนุกเพราะได้ใช้มือในการขว้างปาสิ่งของที่สมจริง เหมือนเราได้ใช้มือจริงๆแม้จะบังคับนิ้วมือไม่ได้ก็ตามที

ต่อด้วยเกม Headmaster vr เกมทีทำให้เราเหมือนเข้าไปเป็นนักเตะด้วยการจำลองการโหม่งบอลที่ตัวเกมมีการจับการเคลื่อนไหวของหัวผู้เล่นได้สมจริงกว่าเกมบอลที่อยู่บน WiiFit มากมายแต่เล่นได้ไม่นานก็เบื่อเพราะโดยรวมมันเหมือน มินิเกม แต่ที่ทำให้ผู้เขียนเกือบอาเจียนออกมาคือ RIGS เกมที่เราจะได้ขี่หุ่นยนต์ออกไปไล่ยิงกันในลานประลอง โดยเป้าหมายคือการนำตัวละครไปลอดวงกลมที่อยู่กลางฉาก ผู้เล่นต้องขี่หุ่นไล่ยิงกันเพื่อไม่ให้คู่แข่งไปถึงเป้าหมายก่อน แต่การที่มันเป็นเกมมุมมองบุคคลที่ 1 ที่เราสามารถบังคับมุมกล้องได้ 100% แบบเกมยิงทั่วไปทำให้ผู้เล่นหากยังไม่ชินจะเกิดอาการเวียนหัวอย่างมากจนอาจทนเล่นต่อไปไม่ได้ เช่นเดียวกับ เดโมเกม Driveclub ที่ทำให้เหมือนเราหลุดเข้าไปเป็นคนขับรถจริงๆแม้จะใช้จอยเล่น แต่เมื่อเล่นไปนานๆก็เวียนหัวเช่นกัน อย่างไรก็ตามก็ต้องขึ้นอยู่กับระบบร่างกายของแต่ละคน หากคุณเป็นคนเมารถเมาเรือง่ายๆก็อาจมีปัญหาตอนเล่น Playstation VR

ทำให้เป็นที่มาของข้อเสียหลักๆของ Playstation VR  คือหากเกมนั้นๆต้องมีการเคลื่อนไหวมุมกล้องหลายทิศทางคล้ายกับเกมมุมมองบุคคลที่ 1 ที่เราบังคับตัวละครให้เดิน , กระโดดหรือแม้แต่บินได้ ผู้เล่นจะอาจจะเกิดอาการวิงเวียนศีรษะ ซึ่งบางคนอาจเป็นมากน้อยไม่เท่ากัน ซึ่งคาดว่าเล่นไปสักพักก็จะชิน แต่หากคุณเป็นคนที่เวียนหัวง่ายรับประกันได้เลยว่าอาจจะเล่นบางเกมไม่ได้นานแน่ๆ

โดยรวมขอสรุปง่ายๆว่า Playstation VR เป็นอุปกรณ์เสริมที่ควรมีหากคุณอยากสัมผัสของใหม่และประสบการณ์ที่เหมือนเข้าไปอยู่ในโลกของเกมจริงๆบอกได้เลยว่าคุ้มค่ามากเพราะมันคืออุปกรณ์ Virtual reality ที่ราคาถูกและคุ้มค่ามากที่สุดในตอนนี้ และด้วยชื่อของ Sony การันตีได้เลยว่าต้องมีเกมออกมารองรับมากมายหลายร้อยเกมจนเล่นไม่ทันแน่ แต่หากคุณเป็นคนเมาอะไรง่ายๆก็อยากให้ไปลองเล่นก่อนไม่งั้นอาจจะทนเล่นบางเกมได้ไม่นาน

ขอบคุณร้านเกม Nadz Project ดิจิตอล เกตเวย์ ชั้น 2

Play video