Our score
7.5Etrian Odyssey Origins Collection
จุดเด่น
- เกมเพลย์เข้าใจง่าย และปรับกราฟิกใหม่
- ปรับระบบเมนูให้เข้ากับการเล่นบนทีวีแล้ว
จุดสังเกต
- เกมเพลย์เชยไปหน่อย
- กราฟิกปรับไม่มากพอ
หนึ่งในแนวเกมที่ได้รับความนิยมแบบเงียบ ๆ และถูกสร้างภาคต่อมาตลอดคือ RPG แนวตะลุยดันเจี้ยนด้วยมุมมองบุคคลที่ 1 และซีรีส์ที่ขายดีมาตลอดคือ Etrian Odyssey จากค่ายผู้สร้างเกม Persona อย่าง Atlus เชื่อว่าต้องเคยมีคนได้ยินมาบ้างเพราะมันก็โด่งดังพอตัว
โดยซีรีส์ Etrian Odyssey วางขายครั้งแรกบน Nintendo DS ในปี 2007 ถือว่าทำออกมาได้แปลกใหม่และเข้ากับเครื่องเกมเพราะมีการแสดงผลการเล่น 2 หน้าจอพร้อมกัน ทำให้ผู้เล่นสามารถเห็นแผนที่พร้อมกับการสำรวจฉากได้ และด้วยความสำเร็จทำให้มีการสร้างภาค 2 ในปี 2008 และ ภาค 3 วางขายในปี 2010
หลังจากไตรภาคแรกขายดีทำให้ค่ายออกภาคใหม่มาตลอด และล่าสุดเพิ่งจะมีการเปิดตัว Etrian Odyssey Origins Collection เกม RPG ตะลุยดันเจี้ยนฉบับรวมฮิตเอา 3 ภาคแรกที่วางขายบน Nintendo DS มาปรับกราฟิกให้มีความคมชัดแบบ HD ในรูปแบบรีมาสเตอร์เท่านั้นไม่ได้ทำใหม่หมด รวมทั้งเกมเพลย์ยังคงเหมือนเดิม โดยเกมจะวางขายบน Nintendo Switch และ PC
กราฟิกเหมือนเดิมแต่ปรับเป็น HD
อย่างที่บอกไปว่ามันมาในรูปแบบรีมาสเตอร์ของเกมที่อายุมากกว่า 15 ปีแถมยังออกบนคอนโซลแบบพกพาอย่าง DS ทำให้กราฟิกของต้นฉบับมันดูเชยไปมากเมื่อเทียบกับมาตรฐานในยุคนี้ แต่ผู้สร้างทำออกมาได้ดีในระดับหนึ่งไม่ได้ดูดีมาก แต่ก็ปรับเข้ากับการเล่นบนหน้าจอทีวีได้ลงตัว อาจเป็นเพราะว่าต้นฉบับเน้นกราฟิกแบบการ์ตูนภาพนิ่ง 2 มิติในบางส่วนทำให้มันปรับให้คมชัดและดูดีได้ไม่ยาก
แต่ในส่วนของฉากที่เป็น 3 มิติเช่นในการตะลุยดันเจี้ยนแม้จะมีการปรับให้เป็น HD แล้วก็ยังถือว่าดูธรรมดาไป แต่ก็พอจะทำใจยอมรับได้ อย่างไรก็ตามเพลงประกอบในเกมยังดูเรียบ ๆ เหมือนเดิมและก็ยังคงไม่มีการใส่เสียงพากย์เข้าไปเหมือนเดิมถือว่าน่าเสียดายเพราะน่าจะมีการเสริมเข้ามา
รูปแบบการเล่น RPG เดิม ๆ ที่เข้าใจง่าย
เชื่อว่าหากคุณไม่เคยเล่นซีรีส์ Etrian Odyssey มาก่อนอาจจะคิดว่ามันเป็น RPG ที่ดูยุ่งยาก แต่ความจริงแล้วรูปแบบการเล่นเข้าใจง่ายมาก ๆ เพราะมาในรูปแบบ RPG เทิร์นเบสใส่คำสั่ง ที่มีการตัดเข้าฉากต่อสู้แบบเกมยุค 80S-90S ใช้กันมาตลอด แม้ทุกวันนี้อาจจะดูเชยไปแต่ด้วยความลื่นไหลในการเล่นก็ทำให้มือใหม่สามารถเข้าใจได้ในทันที
จุดเด่นของซีรีส์คือการนำเสนอด้วยมุมมองบุคคลที่ 1 ในส่วนของดันเจี้ยนแถมการเดินในฉากจะแบ่งเป็นช่อง ๆ เหมือนถูกจำกัดในการเคลื่อนไหวฟังดูเชย แต่มองว่ามันเป็นความคลาสสิกของ RPG ยุคเก่าถือว่าทำได้ดี แถมยังบังคับได้ง่ายไม่เวียนหัวเหมือนเกม FPS ทั่วไปด้วย ทำให้ใครก็เล่นได้แม้ว่าจะขาดความสดใหม่ก็ตาม ส่วนฉากในเมืองจะเป็นการเดินเรื่องด้วยการเลือกคำสั่งในเมนูแล้วตัวละครจะเดินทางไปสถานที่ในเมือง ส่วนตัวละครจะเป็นการ์ตูนภาพนิ่ง
ต่อเนื่องกับฉากต่อสู้ในเกมจะเป็นมุมมองบุคคลที่ 1 คล้ายกับซีรีส์ Dragon Quest ที่เป็นการเล่นแบบ RPG ที่ต้องใส่คำสั่งแล้วตัวละครจะผลัดกันโจมตี โดยจะมีทั้งการโจมตีแบบปรกติและใช้ท่าไม้ตายพิเศษเพื่อต่อสู้กับศัตรูรวมทั้งใช้ยาเติมพลังด้วย แม้ไม่ได้แปลกใหม่และดูเชยแต่เนื่องจากความรวดเร็วในการเล่นทำให้มันยังเล่นได้แบบไม่ดูเชยจนเกินไป
สำหรับการมาแบบรวมฮิตที่รวมเอาภาค Etrian Odyssey 1, 2 และ 3 โดยรวมเกมเพลย์ไม่ได้แตกต่างกันเลย จะต่างกันแค่ตัวละครในเกมที่เราเลือกมาใช้งานได้ และภาค 2, 3 จะมีอาชีพใหม่ที่ไม่มีในภาคแรกเสริมเข้ามา รวมทั้งฉากจะมีความซับซ้อนขึ้นด้วย แต่ความสนุกถือว่าเท่าเทียมกันเพราะซีรีส์นี้ไม่ค่อยอัปเกรดระบบการเล่น
ปรับเข้ากับเครื่องเกมยุคใหม่ได้ลงตัว
เนื่องจากต้นฉบับของเกม Etrian Odyssey ออกบนเครื่องเกมพกพา 2 หน้าจออย่าง Nintendo DS ทำให้ต้นฉบับใช้ลูกเล่น 2 หน้าจอรวมทั้งใช้ระบบสัมผัสด้วย ทำให้เมื่อมาเกิดใหม่บนโฮมคอนโซลทำให้ต้องปรับเปลี่ยนแน่นอน โดยเฉพาะในฉากตะลุยดันเจี้ยนเพราะต้นฉบับใช้หน้าจอสัมผัสจอง DS เพื่อแสดงผลแผนที่
เมื่อมาอยู่บนจอทีวีมีการปรับระบบเมนูให้มาอยู่ในหน้าจอเดียว ฉากหลักในเกมจะอยู่บนจอพร้อมกับแผนที่ ทำให้ยิ่งดูง่ายกว่าเดิมแถมยังปรับขนาดของหน้าจอส่วนของแผนที่ได้ แต่หากผู้เล่นไม่ชอบก็สามารถเลือกเฉพาะฉากเดินในดันเจี้ยนก็ได้ และข่าวดีคือบน Nintendo Switch ใช้จอสัมผัสเล่นได้ในโหมดพกพาได้ และยังเพิ่มโหมดง่ายสุด ๆ เข้าไปให้เล่น แต่ไม่อยากแนะนำให้เลือกเพราะจะขาดความท้าทายไป
การมาของ Etrian Odyssey Origins Collection เป็นการรวมฮิตเกมแนว RPG ตะลุยดันเจี้ยนสุดคลาสสิกที่แม้ว่าจะเป็นเพียงการปรับกราฟิกเท่านั้นไม่ได้สร้างใหม่ทั้งหมด แต่ต้นฉบับถือว่าทำได้ดีเอามาเล่นใหม่ยังคงสนุก อย่างไรก็ตามหากคุณไม่ได้ชอบแนวนี้มันอาจจะดูเชยไปหน่อยเมื่อเอามาเล่นในยุคนี้
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส