[รีวิวเกม] Pikmin 1+2 เปิดตำนานเกม RTS สุดน่ารักจาก Nintendo
Our score
8.0

Pikmin 1+2

จุดเด่น

  1. เกมเพลย์แนว RTS ที่สนุก ตัวละครก็น่ารัก
  2. ราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับคุณภาพ

จุดสังเกต

  1. กราฟิกแทบไม่ได้ปรับอะไรมากนัก

Pikmin ถือเป็นหนึ่งในซีรีส์เกมจาก Nintendo ที่ฮิตแบบเงียบ ๆ เรียกว่าหากไม่ใช่แฟนปู่นินอาจจะไม่รู้จักเลยด้วยซ้ำ แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีการเปิดตัว Pikmin Bloom เกมบนสมาร์ตโฟนที่สร้างโดย Niantic Labs ผู้สร้าง Pokemon GO แต่ก็ไม่ค่อยได้รับความยมเท่าที่ควร ทำให้การมาของ Pikmin 1+2 บน Nintendo Switch ดูเงียบ ๆ ไปหน่อย

แต่การกลับมาของภาคหลักอย่าง Pikmin 4 ทำให้ภาค 1+2 น่าสนใจมากขึ้น เพราะเชื่อว่ามีแฟน ๆ ที่ไม่เคยเล่นมาก่อนอยากลองไปหาภาคเก่ามาเล่นก่อนที่จะได้สัมผัสภาคใหม่ โดยเกม Pikmin 1 และ 2 ออกบน Nintendo Switch ที่มีทั้งแบบแยกขายและขายรวม 2 ภาคในราคาไม่แพงด้วย

สำหรับคนที่ไม่เคยเล่นมาก่อน Pikmin มันคือเกมแนว Real-time strategy (RTS) ผสมกับการแก้ปริศนาแบบพัซเซิล ที่ไม่เน้นความรุนแรงแบบที่เกมแนว RTS ทั่วไปใช้กันเพราะ Nintendo คิดให้แตกต่างด้วยการใส่ความน่ารักและมีแรงบันดาลใจมาจากการที่ผู้สร้างอย่าง ชิเงรุ มิยาโมโตะ (Shigeru Miyamoto) ได้เห็นมดในสวนหลังบ้านของเขากำลังขนใบไม้ ทำให้เขาเกิดไอเดียในการสร้าง Pikmin ขึ้นมา

ในเกมเราจะได้รับบทเป็น Captain Olimar มนุษย์ต่างดาวที่เป็นพนักงานขนส่งสินค้าที่ยานของเขาเกิดอุบัติเหตุชนกับเคราะน้อย และยานได้ตกลงบนดาวเคราะห์ที่ไม่มีในแผนที่และผู้เล่นต้องหาทางซ่อมยาน แต่หลังจากสำรวจ Olimar พบว่าดาวดวงนี้เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตตัวจิ๋วอย่าง Pikmin ที่ตัวเอกสามารถเรียกไปใช้งานได้ และเราจะได้สำรวจดาวเพื่อค้นหาสิ่งของและหาทางกลับบ้าน

กราฟิกปรับเล็กน้อย

ในตอนแรกคิดว่าการมาของ Pikmin 1+2 บน Switch ปู่นินจะลงทุนปรับกราฟิกใหม่ แต่พอได้สัมผัสมันคือการหยิบเอากราฟิกต้นฉบับบน Gamecube มาพอร์ตลง Switch แบบปรับภาพให้คมชัดขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้เข้ากับทีวียุคใหม่ซึ่งก็ไม่ใช่ของแปลกใหม่อะไรแล้ว แต่เมื่อมองราคาขายที่ไม่ได้แพงนักแถมหากซื้อ 2 เกมพร้อมกันเป็นชุดก็ยิ่งถูกก็พอจะรับได้อยู่

แต่หากมองข้ามไปมันก็พอจะรับได้เพราะว่ามันคือการเอากลับมาขายใหม่ไม่ได้เป็นการรีเมก อีกส่วนที่น่าประทับใจไม่เปลี่ยนคือเพลงประกอบที่มาแนวน่ารักตามแนวทางเกมของ Nintendo อาจจะไม่ได้มีเพลงธีมติดหูเหมือนซีรีส์อื่นและก็ไม่ได้มีเสียงพากย์มา แต่ดนตรีประกอบก็มาแนวเสริมสร้างบรรยากาศเพื่อให้การเล่นสนุกขึ้น

เกมเพลย์ตะลุยโลกจิ๋วที่สนุกไม่เปลี่ยน

จุดเด่นของ Pikmin คือการนำรูปแบบเกมเพลย์แนว Real-time strategy (RTS) มาสร้างสรรค์เป็นความน่ารักไม่มีความรุนแรงแบบที่ค่ายอื่นนิยมเอา RTS ไปใช้ในเกมสงคราม และยังผสมผสานเป็นเกมแนวสำรวจแก้ปริศนาโดยผู้เล่นจะได้สั่งการให้ตัว Pikmin ออกไปสำรวจฉากและค้นหาสิ่งของแล้วยกกลับมาเก็บที่ยานอวกาศ ในฉากที่แม้จะเป็น 3 มิติที่ปรับเปลี่ยนมุมกล้องได้แต่จะมีมุมมองที่อยู่ด้านบนส่วนใหญ่เพื่อให้เห็นตัว Pikmin ชัดเจน

ผู้เล่นจะสามารถสั่งการตัว Pikmin ได้ 2 รูปแบบคือให้มันเดินตามเรามา และอีกแบบคือจับมันปาไปเพื่อให้มันไปหยิบของที่ตกหล่นอยู่ หรือปาไปโจมตีศัตรูได้ด้วยแต่เราก็ต้องคำนึงถึงจำนวนตัว Pikmin ที่เรามีด้วยเพราะมันจะถูกกำหนดด้วยขนาดสิ่งของเพราะชิ้นที่ขนาดเล็กใช้ตัวเดียวก็ยกไหว แต่บางชิ้นใหญ่ก็ต้องใช้หลายตัว โดยจะมีตัวเลขบอกว่าต้องใช้ Pikmin กี่ตัวทำให้เข้าใจได้ไม่ยาก

สนุกกับการต่อสู้และตัว Pikmin ที่หลากหลาย

เช่นเดียวกับการต่อสู้กับศัตรูหรือบอสที่ผู้เล่นต้องคิดคำนวนให้ดีเพราะหากมีจำนวนตัวไม่พอก็อาจจะโดนกินจนหมดได้ และตัว Pikmin ไม่ได้มีเพียงแค่ประเภทเดียวยังมีหลายรูปแบบมาให้เลือกใช้งานด้วย และแต่ละตัวจะมีความสามารถแตกต่างกัน เช่นตัวที่แรกสีแดงที่กันไฟได้ หรือตัวสีเหลือที่ป้องกันไฟฟ้าได้ และยังมีอีกหลากหลายตัวเช่นในภาค 2 จะเพิ่ม Pikmin สีม่วงที่มีพลังมากกว่าตัวปรกติ 10 เท่า ผู้เล่นต้องเลือกใช้ให้ถูกประเภทเพราะหากใช้งานผิดก็อาจจะตายยกทีมได้

ฉากในเกมจะแบ่งเป็นวันที่มีเวลาจำกัดเพราะว่าเราจะเล่นได้เฉพาะเวลากลางวันเท่านั้น เมื่ออาทิตย์ตกดินเราก็ต้องรีบกลับเข้ายาน ทำให้เราต้องวางแผนให้ดีว่าจะสำรวจจุดไหน หรือจะใช้งาน Pikmin แบบแยกทีมกันเพื่อค้นหาไอเทมที่ซ่อนอยู่หรือต่อสู้กับศัตรู ส่วนใน Pikmin ภาค 2 จะมีการเล่นแบบ Co-op เพราะจะมีตัวละครมาให้เล่นอีก 1 ตัวคือ Louie แถมยังรองรับการเล่นกับเพื่อนแบบแบ่งหน้าจอด้วย ทำให้มีความหลากหลายขึ้น

เสียดายเล็กน้อยที่การกลับมาของ Pikmin 1+2 เกมแนว RTS สุดน่ารัก ทางปู่นินไม่ได้เปลี่ยนแปลงกราฟิกให้ดูดีขึ้นตามสมัยนิยม เพราะแค่ปรับความคมชัดขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น ทำให้มันเป็นแค่การรวมฮิตของเก่าที่วางขายมาเกิน 20 ปีใหม่อีกรอบเท่านั้น แต่ความสนุกของต้นฉบับก็ยังคงอยู่ไม่ได้ลดลงแถมยังพกพาไปเล่นนอกบ้านได้ด้วยใครอยากลองก่อนเล่น Pikmin 4 ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส