![[รีวิวเกม] Atelier Marie Remake: The Alchemist of Salburg เกมปรุงยาฉบับรีเมก](https://www.beartai.com/wp-content/uploads/2023/07/Atelier-Marie-Remake-The-Alchemist-of-Salburg-780x410.jpg)
Our score
8.5Atelier Marie Remake: The Alchemist of Salburg
จุดเด่น
- กราฟิกปรับให้สวยงามตามยุคสมัย
- เกมเพลย์คลาสสิกที่ยังสนุกและลื่นไหล
จุดสังเกต
- รูปแบบการเล่นเชยไปหน่อยสำหรับแฟนเกมรุ่นใหม่
ไม่แปลกที่จะเห็นการรีเมกหรือรีมาสเตอร์เกม RPG เก่าโดยเฉพาะเกมจากญี่ปุ่น เพราะในยุค 90S มีตำนาน RPG อยู่มากมายที่เชื่อว่าแฟน ๆ อยากกลับไปเล่นอีกครั้งในรูปแบบการสร้างกราฟิกใหม่ ทำให้ผู้สร้างทยอยขุดเอาของเก่ากลับมาขายใหม่ต่อเนื่อง ซึ่งก็มีบางเกมที่ทำออกมาได้ดีพอ ๆ กับต้นฉบับ แต่บางเกมก็เหมือนทำมาตามกระแสเท่านั้น

ล่าสุดกับการมาของ Atelier Marie Remake: The Alchemist of Salburg เกมแนว RPG ในคลาสสิกที่สร้างตำนานบน PlayStation 1 และยังออกบน PC รวมทั้ง Sega Saturn นอกจากนี้มันยังเคยถูกเอามาขายใหม่แบบรวมฮิตบน PS2 มาแล้วครั้งหนึ่ง และภาคนี้ถือเป็นภาคแรกในซีรีส์เกมปรุงยาในตำนานที่หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อ และการกลับมาแบบรีเมกใหม่ครั้งนี้ออกบน Nintendo Switch, PS4, PS5 และ PC ด้วย

เรื่องราวใน Atelier Marie Remake: The Alchemist of Salburg จะเหมือนกับต้นฉบับที่เราจะได้รับบทเป็นสาวน้อย Marie ที่เป็นนักเรียนในโรงเรียนสอนการเล่นแร่แปรธาตุชื่อดังในเมือง Salburg แต่เนื่องจากเธอเป็นคนที่ซุ่มซ่ามทำให้เกิดปัญหาจนเกิดเป็นความวุ่นวาย จนทำให้เธออาจจะเรียนไม่จบเป็นที่มาของการออกผจญภัยเพื่อทำภารกิจสุดท้ายเพื่อจบการศึกษาภายในเวลาที่กำหนด

กราฟิกปรับใหญ่จนเหมือนเกมใหม่
อาจจะไม่ใช่ของแปลกที่การรีเมกจะมีการปรับกราฟิกในเกมใหม่หมด แต่ในการมาของ Atelier Marie Remake ครั้งนี้ส่วนตัวแล้วชอบมาก เพราะมันเป็นการสร้างภาพใหม่ทั้งหมดแต่ยังคงไม่ทิ้งแนวทางเดิม เหมือนนำของเก่ามาสร้างในโลกใบใหม่ กราฟิกมีความสวยงามระดับดีแม้จะมองว่ามันเป็นเกมที่ออกวางขายปี 2023 และถึงจะเล่นบน Nintendo Switch ก็ยังมีความสวยงามใกล้เคียงกับเวอร์ชันอื่น

ถือว่าผู้สร้างทำการบ้านมาได้ดี เพราะภาพระดับนี้สามารถเข้าถึงแฟนเกมรุ่นใหม่ที่ไม่เคยเล่นซีรีส์ปรุงยามาก่อนให้สนุกไปกับมันได้โดยไม่รู้สึกว่าเชย และแฟนเก่าก็ยังคงชอบเพราะมันมีกลิ่นอายความคลาสสิกอยู่ ส่วนเพลงประกอบมีการสร้างใหม่โดยอ้างอิงของเดิม นอกจากนี้ความดีงามคือมีการใส่เสียงพากย์เข้ามาและข่าวดีคือมันมาพร้อมเสียงพากย์ภาษาญี่ปุ่นด้วย

เกมเพลย์ RPG ที่เข้าใจง่าย
สำหรับคนที่ไม่เคยเล่นมาก่อนก็อธิบายสั้น ๆ ว่า Atelier Marie ฉบับรีเมกเป็นเกมที่เข้าใจง่าย แม้ว่าระบบอาจจะซับซ้อนในบางจุดแต่ก็มีระบบสอนแบบจับมือทำ โดยหลัก ๆ แล้วมันคือ RPG ที่เน้นการเดินสำรวจฉากทำเนื้อเรื่อง รวมทั้งค้นหาวัตถุดิบมาปรุงยา หรือสร้างสิ่งของใหม่ตามภารกิจที่เกมกำหนด ฉากหลัก ๆ จะอยู่ในเมือง Salburg ที่มีอะไรให้ทำมากมาย

และข่าวดีคือหากเราไม่อยากเดินสำรวจก็กดเลือกฉากที่เราต้องการไปบนแผนที่ได้เลย ถือว่าสะดวกและเข้ากับยุคสมัยเพราะคนในยุคนี้ไม่ชอบรออะไรนาน ๆ และในส่วนของเมืองจะมีทั้งการพูดคุยกับตัวละคร NPC เพื่อทำเนื้อเรื่องเช่นการรับภารกิจหรือเรียนรู้ในการผสมยาใหม่ ๆ จากชาวเมืองรวมทั้งการสานสัมพันธ์กับตัวละครในเมืองด้วย

ส่วนระบบการอัปเกรดตัวละครจะเหมือนกับ RPG ทั่วไปที่เข้าใจง่ายเช่นการใส่อาวุธหรือชุดเกราะ ใครเคยเล่นเกมแนวนี้มาก่อนก็เข้าใจได้ทันที และส่วนที่สำคัญที่สุดคือระบบการปรุงยาหรือผสมสิ่งของ ที่นอกจากจะมีระบบเมนูที่เข้าใจง่ายและมีภาพประกอบให้ได้ทำตาม ยังมาพร้อมกับคำใบ้ที่บอกตลอดว่าต้องทำอะไรทำให้มือใหม่ก็สามารถเล่นได้ และแฟนเกมที่เคยเล่นแล้วก็สามารถกดข้ามคำแนะนำได้เช่นกัน

สำรวจโลกกว้างหาของปรุงยาสร้างของ
ฉากหลักนอกจากเมืองยังมีโลกกว้างที่จะไม่มีฉากเดินบนแผนที่ เพราะว่าตัวเกมใช้ระบบ World Map ที่มีสถานที่ให้เลือกบนแผนที่เลย และเมื่อกดเข้าไปแล้วจะเป็นฉากแบบ RPG ที่มีมุมมองด้านบนเหมือนกับฉากในเมือง ที่ผู้เล่นต้องออกค้นหาวัตถุดิบมาผสมของใหม่ แต่จะเก็บได้จำกัดดังนั้นผู้เล่นต้องวางแผนให้ดีก่อนจะออกหาวัตถุดิบ

ความซับซ้อนของฉากอาจจะไม่มากเท่ากับเกมยุคใหม่ แต่ก็มีไอเทมซ่อนอยู่เพียบแถมยังมีภูมิประเทศที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นป่าทึบหรือดันเจี้ยนที่ดูลึกลับ และมีมอนสเตอร์โหด ๆ รอเราอยู่เพียบ ซึ่งผู้เล่นจะเห็นตัวบนฉากเลยไม่ได้เจอแบบสุ่ม นอกจากนี้เกมมีระบบเวลาที่เมื่อทำกิจกรรมเสร็จจะเปลี่ยนวันเช่นการเข้าดันเจี้ยนแล้วออกมาจะเป็นการขึ้นวันใหม่ ดังนั้นผู้เล่นต้องวางแผนการเล่นให้ดีก่อนจะออกนอกเมือง

ส่วนระบบต่อสู้จะใช้แบบ RPG เทิร์นเบสใส่คำสั่งแล้วตัวละครจะโจมตีส่วนนี้อาจจะไม่โดดเด่นนัก เพราะว่ามันไม่ได้แตกต่างหรือแปลกใหม่ แต่มันเป็นแนวทางของเกมรีเมกที่ไม่ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการเล่น แต่ความดีงามคือความลื่นไหลในการเล่นอยู่ในระดับสูงมากเพราะการโหลดเข้าฉากต่อสู้ทำได้เร็วมากทำให้เล่นได้อย่างลื่นไหล แถมมีระบบต่อสู้แบบอัตโนมัติมาให้ใช้งานด้วย

การกลับมาอีกครั้งของ Atelier Marie Remake: The Alchemist of Salburg เกมแนว RPG สุดคลาสสิกของยุค 90S ที่ปรับกราฟิกใหม่หมด ถือว่าน่าหยิบมาเล่นหากคุณเคยเล่นต้นฉบับมาก่อน เพราะมันมีความสนุกเดิม ๆ เพิ่มเติมคือภาพงาม ๆ และความลื่นไหลในการเล่น และต่อให้ไม่ใช่แฟนเกมก็น่าเล่นเช่นกันเพราะมันปรับให้มีความรวดเร็วเข้ากับยุคสมัยมากขึ้นแล้ว
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส