[รีวิวเกม] Blasphemous 2 เกมแนว Metroidvania ที่เน้นเรื่องความโหด

Our score

8.8

Blasphemous 2

จุดเด่น

เกมเพลย์มีความท้าทาย สนุกตามแนวทาง Metroidvania
กราฟิกสุดแนว มีงานออกแบบที่แปลกและโดดเด่น

จุดสังเกต

เกมสั้นไปหน่อย

แม้ว่าการมาของเกมแนว Metroidvania แบบ 2 มิติ อาจจะไม่ใช่ของแปลกในยุคนี้ เพราะมีการสร้างวางขายแทบจะทุกเดือน เพราะเป็นรูปแบบการสร้างที่ใช้ทุนไม่มากเน้นใช้ไอเดียในการสร้างฉากและบอสสุดโหด ทำให้ค่ายเกมอินดี้นิยมนำไปสร้างมาตลอด และหนึ่งในเกมที่เรียกเสียงฮือฮาเมื่อปี 2019 คือ Blasphemous ที่นอกจากเกมเพลย์จะสนุกยังมีงานออกแบบที่แปลกตา

หลังจากสร้างความสนุกไปกับ Blasphemous ภาคแรก พร้อมกับประสบความสำเร็จสามารถทำยอดขายจนมีภาคต่อออกมาได้ โดย Blasphemous 2 ที่ยังคงมาในแนวทาง Metroidvania และออกวางขายบน PS5, Xbox Series X และ Xbox Series S, Nintendo Switch รวมทั้งบน PC ด้วย แต่เสียดายไม่ออกบน PS4 ด้วยคาดว่าอาจจะมีการสร้างให้ภายหลัง

ส่วนเรื่องราวใน Blasphemous 2 จะสานต่อจากตอนจบของ Wounds of Eventide ที่เป็น DLC ของภาคแรก ที่เริ่มขึ้นหลังจากเสียงหัวใจของ Heart in the Sky ที่ได้กลับมาเต้นอีกครั้ง ที่บอกถึงการกลับมาของเด็กแห่งปาฏิหาริย์คนใหม่ ทำให้ Penitent One ต้องออกเดินทางอีกครั้ง พร้อมกับการต่อสู้กับปีศาจที่กระหายเลือดที่กำลังคุกคามดินแดน Cvstodia

กราฟิกแบบพิกเซลที่มีงานออกแบบขั้นเทพ

กราฟิกในภาค 2 ยังคงเหมือนกับภาคแรกที่มาในรูปแบบพิกเซลยุค 16Bit แต่มีรายละเอียดที่ดีกว่าเกมในยุค 90S เพราะมีการเคลื่อนไหวที่สมจริงเกินกว่าเกมยุคเก่าจะทำได้ รวมทั้งงานออกแบบที่ดูแปลกตาและชวนหลอนไปพร้อมกันซึ่งเป็นจุดเด่นมาตั้งแต่ภาคแรก แถมยังคงทุนใส่คัตซีนเป็นการ์ตูนเข้ามาแทรกตลอดการเล่น ทำให้โดยรวมมันดูไม่เชยเลย

แต่มันก็ไม่เหมาะกับเด็กเล่นนักเพราะมันมีภาพความรุนแรงอยู่แม้จะไม่มากเพราะกราฟิกมาแนวการ์ตูน ส่วนระบบเสียงและเพลงประกอบถือว่าทำได้ดีมาก โดยมันไม่ได้ใช้แนวทางย้อนยุคเหมือนกับภาพมีการใช้ซาวด์สมัยใหม่และมีการแต่งเพลงที่อลังการงานสร้างในฉากแอ็กชัน และเล่นกับความเงียบในฉากที่เน้นสำรวจ และข้อดีสุด ๆ คือมีการลงทุนใส่เสียงพากย์เข้ามาตลอดเกม

รูปแบบการเล่นเน้นสำรวจ

หลัก ๆ แล้ว Blasphemous 2 เกมแนว Metroidvania ที่นำเสนอด้วยมุมมองแบบ 2 มิติที่เดินตามรอยรุ่นพี่อย่าง Castlevania หรือ Metroid ทำให้เราจะได้เดินหน้าสำรวจฉากและต่อสู้กับศัตรู และหาทางแก้ปริศนาเพื่อเปิดทางไปต่อผ่านการเก็บไอเทม หรือการอัปเกรดตัวละครแบบเดิม ๆ ที่แฟนเกมคุ้นเคย ซึ่งหากคุณเคยเล่นแนวนี้มาก่อนแล้วก็จะไม่ต้องเรียนรู้อะไรมากเพราะมันก็เหมือนกันทุกเกม

โดยผู้เล่นจะค่อย ๆ อัปเกรดความสามารถตัวละครที่เริ่มต้นเราจะเลือกอาวุธหลักได้ 3 ชนิดก่อน และจะค่อย ๆ ปลดล็อกท่าไม้ตายพิเศษรวมทั้งสกิลใหม่ ๆ เช่นการกระโดด 2 จังหวะ, เกาะกำแพง หรือการพุ่งตัวกลางอากาศ ซึ่งก็ไม่มีอะไรแปลกใหม่แต่ก็ทำออกมาได้ดีลื่นไหลพอตัว และยังมาพร้อมกับฉากที่ออกแบบมาเพื่อให้ใช้สกิลที่ได้มาแล้วเราจะเปิดทางไปต่อได้ แม้จะไม่มีอะไรแตกต่างแต่ต้องชมว่าทีมงานออกแบบฉากมาได้ดีมาก

ความโหดใส่มาแบบจัดเต็ม

อีกจุดเด่นของ Blasphemous คือความยากระดับสูงจนหลายคนอาจนิยามว่ามันคือ Dark Souls เวอร์ชัน 2 มิติ โดยเฉพาะงานออกแบบบอสที่นอกจากรูปร่างหน้าตาจะแปลกแหวกแนวแล้ว ยังมาพร้อมกับความโหดระดับที่ว่าบอสตัวแรกก็อัดเราตายภายในพริบตา เรียกว่าจัดเต็มแบบไม่เกรงใจมือใหม่เกมแนว 2D กันเลย และยังมาพร้อมกับขนาดที่แตกต่างบางตัวใหญ่ยักษ์ที่ทรงพลังแต่มีจุดอ่อนให้โจมตีได้ง่าย หรือตัวเล็กพอ ๆ กับตัวเอกแต่ก็มีความเร็วและใช้ท่าไม้ตายเทพ ๆ ที่รับมือได้ลำบาก

ศัตรูแม้จะมีการเคลื่อนไหวที่เป็นระบบซ้ำไปซ้ำมาเหมือนกับเกมยุคเก่า แต่ก็จัดเต็มมีทั้งใช้ท่าไม้ตายสุดโหดทำให้เราตายได้และยังมาพร้อมอาวุธสุดโหดด้วย อย่างไรก็ตามความยากระดับนี้อาจจะทำให้เป็นทั้งข้อดีและข้อเสียได้ เพราะมันทำให้แฟน ๆ ที่ไม่ถนัดเกมแนวนี้หัวร้อนจนเลิกเล่นไปก่อนได้ แต่ข้อดีคือมันเป็นความท้าทายที่ทำให้เราสนุกได้ด้วย ซึ่งเป็นรูปแบบที่เกมในยุคนี้นิยมเอาไปใช้กัน

ฉากในเกมมีความซับซ้อนตามมาตรฐานเกม Metroidvania ทั่วไประบบแผนที่ก็ใช้แบบเดียวกับ Castlevania ทำให้เข้าใจง่ายไม่หลงทาง และยังมาพร้อมกับจุดวาร์ปที่มีอยู่ตามฉากทำให้เราเดินทางได้อย่างรวดเร็ว และมีจุด Save เป็นระยะซึ่งถือเป็นข้อดีเพราะหากพลาดตายก็จะเริ่มใหม่ไม่ไกลจนเกินไป และยังมาพร้อมกับฉากจบหลายแบบทำให้เรากลับมาเล่นได้หลายรอบด้วย ทำให้พอจะกลบข้อเสียที่ตัวเกมสั้นไปหน่อยได้

สำหรับการมาของ Blasphemous 2 เกมแนว Metroidvania ที่มีความโดดเด่นในแง่ของงานออกแบบที่ดูแปลกแหวกแนวและมีเรื่องราวที่เข้มข้น แถมยังมาพร้อมกับความยากแบบสุดโหดด้วย แม้จะไม่ได้ยากจนเกินไปหากจับจังหวะก็จะผ่านไปได้ แต่อาจจะยากเกินไปสำหรับคอเกมรุ่นใหม่ที่ไม่ถนัดเกมแนว 2 มิติ แต่โดยรวมแล้วมันคือหนึ่งในเกมแอ็กชันเน้นสำรวจที่ทำออกมาได้สนุกเกินมาตรฐานใครชอบแนว Metroidvania เป็นอีกเกมที่แนะนำให้เล่น

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส