Our score
7.5WarioWare: Move It!
จุดเด่น
- การเล่นเกมด้วยการเคลื่อนไหวร่างกายด้วย Joy-con ที่สนุก
- มินิเกมสั้น ๆ ที่เมื่อเล่นกับเพื่อนแล้วสนุกมาก
จุดสังเกต
- เมื่อเล่นคนเดียวเกมจะไม่สนุกเท่าเล่นกับเพื่อน
- กราฟิกยังคงดูธรรมดาเหมือนเดิม
‘WarioWare’ เป็นอีกหนึ่งซีรีส์เกมของ Nintendo ที่แม้อาจจะไม่ได้โด่งดังเท่ากับ Mario แต่ก็ยังถูกสร้างออกมาต่อเนื่องไม่ได้ล้มหายตายจากไป แถมพักหลังยังออกถี่ขึ้นด้วยเพราะก่อนหน้านี้เพิ่งจะมีการวางขายภาค ‘WarioWare: Get It Together!’ ไปในปี 2021 บน Switch ผ่านมา 2 ปีมีการออกภาคใหม่แล้ว
ล่าสุดตัวป่วนของค่าย Nintendo กลับมาอีกครั้งในชื่อ ‘WarioWare: Move It!’ และยังคงออกบน Switch เหมือนเดิม อาจเป็นเพราะแนวเกมเหมาะกับการเล่นได้ทั้งครอบครัวและเรียกเสียงฮาได้ อย่างไรก็ตามมันก็มีหนึ่งข้อสังเกตเพราะเนื่องจากมันออกห่างจากภาคก่อนไม่นาน แถมยังออกบนคอนโซลเดิมอาจจะทำให้ความแปลกใหม่อาจจะลดน้อยลงจากภาคที่แล้วหรือเปล่า? อย่างไรก็ตามเชื่อว่าแฟนตัวจริงก็ต้องหามาเล่นกัน
ส่วนเนื้อเรื่องในภาคนี้เขียนมาอย่างเรียบง่ายเหมือนเดิม โดยจะเริ่มจาก Wario โชคดีถูกรางวัลใหญ่ได้ไปเที่ยวบนเกาะเขตร้อนนาม “Caresaway Island” และเนื่องจากได้ตั๋วฟรีมาหลายใบทำให้ Wario ได้ทำการชวนเพื่อน ๆ ไปเที่ยวพร้อมกัน และเมื่อเดินทางถึงเกาะเราจะได้รับไอเทมใหม่ที่หน้าตาเหมือน Joy-con ของ Nintendo Switch เพื่อเอาไปแก้ปริศนาที่ซ่อนอยู่ผ่านมินิเกมสุดป่วนเหมือนเดิม
กราฟิกดูเชยเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน
ภาพในเกมอาจจะดูธรรมดาเพราะมันไม่ใช่จุดขายของซีรีส์นี้มาตั้งแต่ภาคแรกอยู่แล้ว เพราะเกมเพลย์เป็นการนำมินิเกมสั้น ๆ มายำรวมมาให้เล่น รวมทั้งความป่วนและน่ารักของตัวละคร ถูกนำเสนอผ่านกราฟิกแบบ 2 มิติแบน ๆ ในฉากคัตซีนและเกมเพลย์บางส่วน แต่ก็เสริมด้วยฉากแบบ 3 มิติในการเล่นบางด่านแต่กราฟิกโดยรวมก็ดูธรรมดา
ซึ่งกราฟิกมันค่อนข้างเชยมากเหมือนเกมเมื่อ 10 กว่าปีก่อนที่มีความละเอียดสูงกว่าเท่านั้น และมีการใช้กราฟิกแบบพิกเซลในฉากย้อนยุคด้วย ก็ตามที่บอกไปว่ามันเป็นหนึ่งในซีรีส์ที่เน้นสนุกเน้นฮาไม่เน้นความสวยงามของภาพมาตลอด แต่ในส่วนของเสียงประกอบทำได้ดีมีการใส่เพลงธีมที่สนุกสนานเหมือนอยู่ในสวนสนุกเข้ามา และยังลงทุนพากย์เสียงเกือบทั้งเกมด้วย ซึ่งใน ‘WarioWare: Move It!’ มีการเปลี่ยนนักพากย์ Wario เป็นครั้งแรกด้วย และเขาก็ทำหน้าที่ได้ดีเทียบเท่ากับคนเก่าแบบไม่มีที่ให้ติ
เกมเพลย์มินิเกมที่ได้นิยามว่าเป็น “ไมโครเกม”
รูปแบบการเล่นของซีรีส์ ‘Wario Ware’ เป็นที่รู้กันว่ามันมาแนวมินิเกมเน้นความสนุกและไอเดียแปลกใหม่ ที่ผู้สร้างได้นิยามแนวทางของซีรีส์ว่ามาแนว “ไมโครเกม” เพราะว่ามันใช้เวลาเล่นไม่กี่วินาทีเท่านั้น แต่ก็มีบางเกมที่ใช้เวลาเล่นนานกว่านั้นซึ่งส่วนใหญ่เป็นฉากต่อสู้กับบอส และแม้ฉากในเกมจะสั้นแต่ทั้งหมดจะเรียงร้อยรวมกันเป็นด่านยาว ๆ ให้เล่นแบบต่อเนื่อง ซึ่งก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ภาคแรก
ความสนุกของเกมคือรูปแบบการเล่นที่มีเวลาไม่กี่วินาทีในการหาทางผ่าน ซึ่งก็จะเป็นการทำภารกิจตามที่เกมกำหนดเช่นทำท่าทางตามตัวละครในฉาก หรือช่วยตัวละครให้รอดชีวิตเช่นการดับไฟในบ้านที่กำลังถูกไฟไหม้ หรือสิ่งที่แปลก ๆ แบบไร้เหตุผลเช่นการบังคับไม่ให้ตัวละครร้องไห้ โดยทุกเกมจะเสนอแบบไม่เน้นความสมจริงเน้นเอาฮาแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก และเมื่อผ่านก็จะพบกับบอสในฉากที่รูปแบบการเล่นจะเปลี่ยนไปเล็กน้อย เพราะฉากจะมีความซับซ้อนและยาวขึ้นเช่นการบังคับตัวละครให้บินไปบนฉากที่มีความยาวมากกว่าด่านทั่วไป
สนุกด้วยการเคลื่อนไหวร่างกายด้วย Joy-con
ส่วนความโดดเด่นของ ‘WarioWare: Move It!’ คือการควบคุมส่วนใหญ่จะใช้ระบบจับการเคลื่อนไหวของ Joy-con ของ Nintendo Switch เพื่อควบคุมตัวละครให้เคลื่อนไหวตามผู้เล่น แม้จะไม่ได้สดใหม่เพราะมีมาตั้งแต่ภาคบน Wii แล้ว แต่มันก็ยังคงเป็นรูปแบบที่ทำให้ผู้เล่นสนุกไปกับเกมได้อยู่ อีกทั้งมันยังคงมีควาแปลกใหม่อยู่บ้างเพราะ Joy-con มี 2 ชิ้นแยกกัน ทำให้การบังคับผู้เล่นสามารถถือไว้ในมือ 2 ข้างพร้อมกันได้ และต้องทำท่าทางตามเช่นท่าพื้นฐานอย่างการจับดาบซามูไรแล้วเล่นไปตามที่เกมกำหนด
นอกจากนี้มันยังทำให้เกิดเกมเพลย์ใหม่พร้อมกับการทำท่าทางตามที่ดูตลก เช่นการทำท่าเหมือนนกที่กำลังก้มตัวจิกกินอาหาร ที่ผู้เล่นต้องจับ Joy-con วางใว้ใกล้ ๆ ปากส่วนอีกอันต้องจับมือวางไว้ใกล้กับบั้นท้าย ส่วนท่าอื่นก็มีความคล้ายกับการออกกำลังกายที่โดยรวมแล้วเล่นคนเดียวอาจจะดูธรรมดา แต่หากเอาเกมนี้ไปเล่นกับเพื่อน ๆ ในงานปาร์ตี้มันจะกลายเป็นพระเอกของงานได้เลย เพราะทั้งสนุกและเรียกเสียงฮาได้มากมาย
และแน่นอนว่ามันมีโหมดที่เล่นกับเพื่อนได้พร้อมกันและยังเล่นได้ 2-4 คนด้วย นอกจากนี้การเล่นยังใช้ Joy-con ข้างเดียวแยกเล่นได้โดยมีการสร้างมินิเกมใหม่มาให้เล่นในส่วนนี้โดยเฉพาะด้วย และยังมีโหมดเสริมที่ผู้เล่นสามารถเลือกเล่นไมโครเกมที่เราเล่นผ่านมาแล้วได้ รวมทั้งยังมาพร้อมการปลดล็อกฉากลับที่เป็นมินิเกมสนุก ๆ ที่ซ่อนอยู่ในเกาะหรรษาด้วย
อย่างไรก็ตามข้อเสียหลัก ๆ ยังคงมีเหมือนเดิมคือหากคุณไม่ใช่แฟนซีรีส์นี้อาจจะไม่ได้อินไปกับการเล่นที่ดูแปลก ๆ เพราะบางไมโครเกมที่เรียงร้อยมาให้เล่นไม่ค่อยสนุกเท่าที่ควร และยิ่งหากเอาไปเล่นคนเดียวเหงา ๆ ในห้องก็คงไม่เหมาะเพราะเมื่อจบเกมโหมดหลักแล้วจะไม่มีแรงจูงใจให้เล่นต่อ
การกลับมาอีกครั้งของไมโครเกมในตำนานใน ‘WarioWare: Move It!’ ถือว่ามีความสนุกเหมือนเดิม แถมเพิ่มเติมด้วยการเล่นผ่าน Joy-con ที่ทำให้ผู้เล่นได้เคลื่อนไหวร่างกายแม้จะไม่ถึงกับเป็นเกมออกกำลังกายแต่ก็ทำให้เราได้ขยับตัวมากกว่าเกมอื่นแล้ว แต่มันยังคงเป็นเกมเฉพาะกลุ่มที่เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบความสนุกเฮฮาของ Wario อย่างไรก็ตามข้อดีที่สุดคือมันเป็นเกมที่เหมาะมากที่จะเอาไปเล่นในงานปาร์ตี้กับเพื่อน ๆ รับประกันว่ามันจะเรียกเสียงฮาได้แน่นอน
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส